Group Blog
 
<<
มกราคม 2550
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
19 มกราคม 2550
 
All Blogs
 
when a year passed...



ปี 2550 เดินทางมาถึงพร้อมกับเสียงระเบิดที่ก้องดังอยู่ในหัวใจของคนไทยทุกคน
มันเป็นเสียงที่ทำให้โมงยามแห่งความอบอุ่นก่อนสิ้นปีกลับหนาวยะเยือกและเหว่ว้าขึ้นมาทันที
ฉันนั่งดูข่าวหลังจากเคาน์ดาวน์กับครอบครัวแล้วได้แต่ถามตัวเอง...
โลกที่ปราศจากสงครามและความเห็นแก่ตัวไม่มีอยู่จริงใช่ไหม ???

++++++++++++++++




อาจจะช้าไปหน่อย แต่ฉันก็ยังไม่ลืมประเพณีส่วนตัวที่ต้องมานั่งนึกทบทวนทุกสิ้นปีว่าในรอบ 365 วันที่ผ่านมาได้ทำอะไรไปบ้าง พอหลับตานึกภาพดูแล้วก็พบว่า....โอ้วววว...ปี 2549 คงเป็นปีที่ฉันไม่กล้าลืม...

ปีที่ได้เดินทางไปสบตากับฟ้ากว้างในหลายมุม +++
มีนาคม ++ ยกขโยงชาวคณะลีลาทัวร์ไปปลงสังขารที่ชายหาดหัวหิน
พฤษภาคม +++ ชาวคณะลีลานั่งสปีดโบ๊ทนรกไปลั๊นลาที่ อ่าวง่ามโข่ เกาะกูด
+++ หนีออกจากบ้านยามฟ้าสางไปให้ธรรมชาติบรรเทาความร้าวรานที่บ้านพลอยประทาน จ.กาญจนบุรี
มิถุนายน ++ ติดสอยห้อยตามน้าสาวไปสำรวจเกาะลันตาในช่วง low season
++ หนีงานไปพักหัวใจที่เชียงใหม่ 2 สัปดาห์
สิงหาคม +++ บินออกนอกประเทศครั้งแรกไปร่วมงานเทศกาลดนตรี WOMAD ที่สิงคโปร์
ตุลาคม +++ พาน้าสาวไปพักผ่อนที่หัวหิน เมืองเล็กๆ ที่ยังคงน่ารัก และเต็มไปด้วยอาหารอร่อย
พฤศจิกายน ++ เอาตัวไปให้สายลมหนาวโอบกอดที่เชียงใหม่ แล้วเลยไปบอกปายว่า ‘คิดถึง’
ธันวาคม +++ จู่ๆ เจ้านายก็ใจดีพาพนักงานไปทำไอติมอืมม...มิล์คที่ฟาร์มโชคชัย
++ 5 สาวรวมพลังกันสร้างความโกลาหลที่โรงแรม 5 ดาว จ.กระบี่

ปีที่ได้ลงมือนวดแป้งทำเบเกอรี +++
ใฝ่ฝันมานานแล้วว่าอยากเป็นผู้หญิงสวยที่ทำขนมอร่อย ในที่สุดฉันก็เริ่มลงมือนวดฝันให้เป็นก้อนด้วยการลงคอร์สเรียนทำขนมที่สวนดุสิต เรียนแค่ 2 วันกับขนม 8 อย่าง (ถ้าจำไม่ผิด) คุกกี้ใบเตย ขนมปังลูกเกด เค้กไข่ เค้กเนย (อืมม...จำไม่ได้แล้ว) ถึงมันจะไม่อร่อยเท่าไร แถมหน้าตาไม่ดีอีกต่างหาก แต่ก็ภูมิใจนะที่ได้ลองทำ

ปีที่ได้ร่วมชุมนุมถือธงไตรรงค์กู้ชาติและใส่เสื้อเหลือง +++
อุณหภูมิการเมืองร้อนระอุจนประชาชนต้องจากบ้านมาร้องตะโกน “ออกไป...ออกไป” เคยเห็นแต่ภาพเหตุการณ์ 14 ตุลา 16 กับ 6 ตุลา 19 ไม่นึกเลยว่าเมื่อเวลาเดินหน้ามาถึงบทหนึ่งของประชาธิปไตยฉันจะได้เป็นอีกคนหนึ่งที่ร่วมเดินขบวนขับไล่ ‘ความฉ้อฉล’ ออกไปจากแผ่นดิน จนวันนี้ถึงเราจะไม่ต้องออกไปกู่ร้องหา ‘ความใสสะอาดทางการเมือง’ กันอีก แต่บ้านเมืองก็ยังวุ่นวาย เฮ้อออ...แค่ใส่เสื้อเหลืองเหมือนกันน่ะมันง่าย แต่ให้ทำดีรู้รักสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันมันยากเกินไปใช่ไหม?

ปีที่ได้ฝึกเป็นแม่พิมพ์ของชาติที่ขวัญหทัยเนิสเซอรี +++
หลังจากหาข้อมูลอยู่นานว่าจะไปฝึกภาษาที่ต่างแดนด้วยวิธีไหนดี ฉันก็ตัดสินใจเด็ดเดี่ยวว่าจะเข้าร่วมโครงการ au pair …ฉันจะไปเลี้ยงเด็กที่อเมริกา!!! คิดได้อย่างนั้นก็เลยขึ้นเหนือไปขอฝึกเลี้ยงเด็กกับแม่ของคุณลิงยิ้ม โอ้วววว...เด็กๆ ยั๊วเยี๊ยะเต็มเนิสเซอรีไปหมด ต้องตื่นแต่เช้ามาทำอาหาร ป้อนข้าว ป้อนนม จับอาบน้ำ เล่านิทาน เล่นเกม กว่าจะส่งเด็กกลับบ้านหมดก็เย็นย่ำ โอยยย...เหนื่อยมากๆ ไปอยู่ที่โน่นไม่รู้จะเหนื่อยกว่านี้หรือเปล่า แต่ถึงยังไงก็ไม่ถอยหรอก หุหุ

ปีที่เริ่มต้นเรียนภาษาอังกฤษอย่างจริงจัง
+++
พอมุ่งมั่นที่จะไปอยู่อเมริกาสิ่งที่ต้องเร่งพัฒนาอย่างด่วนก็คือ ภาษา แล้วก็โชคดีจังที่ฉันได้พบกับ Graham คุณครูสอนภาษาอังกฤษชาวออสซี่ที่ทำให้ฉันรักภาษาอังกฤษมากขึ้น (กว่าที่เคยรัก) อยากให้คุณครูสอนภาษาอังกฤษทุกคนใจดี มีความคิดสร้างสรรค์ และเข้าใจนักเรียนแบบนี้จังเลย เด็กไทยจะได้ติด F วิชาอิงค์น้อยลง แถมยังเก็บค่าสอนถูกมากมาก ชั่วโมงละ 50 บาทเอง เสียดายที่ตอนนี้ Graham ติดเรียนป.โทเลยไม่มีเวลาสอน ว้า...

ปีที่ได้จับพวงมาลัยรถยนต์
+++
สิ่งสำคัญในการเป็น au pair อีกอย่างหนึ่งคือ ใบขับขี่ โอ้ววว...ฉันเลยต้องไปกรมการขนส่งทางบกเพื่อเรียนขับรถอย่างเร่งรัด 10 ชั่วโมงทั้งที่ไม่เคยคิดจะทำเรื่องยากๆ อย่างนี้เลย ได้ลองจับพวงมาลัยแล้วรู้สึกว่า ฉันไม่ได้เกิดมาเพื่อจะเป็นคนขับรถเก่งเลยให้ตายเหอะ ขนาดเกียร์ออร์โต้ยังเงอะงะ ถึงตอนนี้มีใบขับขี่แล้ว แต่ก็ยังขับรถออกถนนไม่ได้ กลุ้มใจง่ะ เฮ้อออ...

ปีที่ฉันไม่อยากมีลมหายใจ
+++
เพิ่งค้นพบด้วยตัวเองว่าเวลาที่หัวใจอ่อนแอ ความคิด ความฝัน ความมุ่งมั่น และความสามารถในการใช้ชีวิตของคนเราก็มักจะอ่อนไหวตามไปด้วย มันเป็นช่วงเวลาที่ย่ำแย่ที่สุดในชีวิตตั้งแต่ฉันเกิดมาเลยล่ะ กับการที่ต้องตื่นขึ้นมาพบกับความล่องลอยเคว้งคว้งและเจ็บปวดจนไม่อยากจะมีลมหายใจอีกต่อไปแล้วโชคดีที่ระบบรวนๆ ของฉันยังพอซ่อมแซมให้กลับมาเหมือนเดิมได้ ขอบคุณฟ้าที่ยังใจดีและขอโทษนะทุกคนที่ฉันงี่เง่าเอาแต่น้อยใจ และหมกหมุ่นอยู่กับความรู้สึกของตัวเองจนทำร้ายความรู้สึกของคนอื่น

ปีที่เขียนหนังสือไปร้องไห้ไป
แต่ในที่สุดบนแผงหนังสือก็มีพ็อกเก็ตบุ๊คชื่อ ‘ผู้ชายร้อยประเทศ’
+++การได้สัมผัสกับอาชีพ Ghost Writer เป็นครั้งแรกช่างเป็นความทรงจำอันเลวร้ายของฉัน ก็คุณสรรเสริญแกเล่นขนวิดีโอท่องเที่ยวมากองไว้แล้วหนีไปต่างแดน ทิ้งให้ฉันน้ำตานองกับกำหนดส่งที่ต้องเร่งให้ทันงานสัปดาห์หนังสือ พอกลับมาก็ยังต้องปวดหัวกับการจะเอาโน่นจะเปลี่ยนนี่ ขนาดในคืนวันปฏิวัติฉันก็ยังต้องนั่งทำงานยันเช้าท่ามกลางรถถังและกระบอกปืน เฮ้ออ...แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้ฉันภูมิใจที่ไม่วิ่งหนีอะไรไปง่ายๆ

ปีที่พ่อมีรถยนต์คันแรกและแม่มีเครื่องซักผ้าเครื่องใหม่ +++
หลังจากซ้อนมอเตอร์ไซค์ไปไหนต่อไหนกันมาตั้งแต่เล็กจนโต ปลายปีที่แล้วพ่อฉันถอย DMAX สี่ประตูสีเขียวเข้มมาหัดขับ ถึงแม้มันจะเป็นรถที่เคยเป็นของคนอื่นมาก่อน และไม่ใช่รถโฟล์กในฝันของฉัน แต่ฉันก็แอบยิ้มทุกครั้งที่กลับไปเห็นมัน เช่นเดียวกับที่เห็นเครื่องซักผ้าของแม่ ซึ่งฉันเป็นคนจ่ายเงินซื้อให้ ก็ตั้งแต่เรียนจบและทำงานมา 2 ปี ยังไม่เคยให้เงินหรือให้อะไรแม่เป็นชิ้นเป็นอันอย่างนี้เลยนี่นา ฉันเลยแอบตั้งชื่อเจ้าเครื่องซักผ้าเครื่องนี้ว่า ‘รุ่นลูกกตัญญู’

ปีที่ฉันได้สัมผัสกับฤดูหนาวที่อบอุ่นที่สุดในชีวิต +++
ปีนี้ลมหนาวพัดแรงกว่าทุกปี แต่ฉันกลับอบอุ่นกว่าทุกที่ปีที่ผ่านมาในชีวิต คงเพราะอ้อมกอดของใครบางคนช่างอุ่นหวาน ถึงแม้หมีขี้แยจะยังคงเสียน้ำตา และไม่รู้ว่าวันข้างหน้าฤดูหนาวจะยังอบอุ่นเหมือนเดิมไหม แต่ฉันก็รักคืนวันที่เราถ่ายเทอุณหภูมิแห่งความสุขให้กันและกัน และถึงวินาทีนี้
ฉันก็แค่อยากขอบคุณเธอเท่านั้น...ที่เกิดมาให้ฉันรัก
+++++++


Create Date : 19 มกราคม 2550
Last Update : 19 มกราคม 2550 18:10:04 น. 15 comments
Counter : 722 Pageviews.

 


โดย: แมวเฟือน IP: 202.142.193.15 วันที่: 19 มกราคม 2550 เวลา:18:16:05 น.  

 
ข้างบนแปลว่า ซาบซึ้งจนไม่สามารถกลั่นออกมาเป็นถ้อยคำได้

hahaha



โดย: แมวเฟือน IP: 202.142.193.15 วันที่: 19 มกราคม 2550 เวลา:18:20:05 น.  

 
อ่านแล้วรู้สึกอิ่มใจจัง


โดย: naonok IP: 202.142.193.15 วันที่: 19 มกราคม 2550 เวลา:18:24:41 น.  

 
ส่วนชั้น
ชั้นรู้สึกว่าชั้นแก่ขึ้น แก่ขึ้น แก่ขึ้นทุกทีทุกที

โดยที่ทุกอย่างเหมือนเดิม
ยกเว้นอายุ




โดย: นาง ณ ไต้หวัน IP: 203.156.84.26 วันที่: 19 มกราคม 2550 เวลา:18:26:45 น.  

 
อืมม บวกลบคูณหารแล้ว ก็ถือว่าเป็นปีที่คุ้มค่านะ กับเวลา 365 วันที่หมดไป

สำหรับพี่แล้ว ปีที่ผ่านมา พี่เรียกมันว่า "ปีแห่งการลี้ภัย"
ไม่ว่าจะเรื่องงาน เรื่องในใจ มันมีภัยเข้ามาคุกคามตลอดเวลา เหมือนปลวกที่คอยกัดกินบ้านเรา (เกลียดมัน)
ในบ้านมีปลวกงาน ในออฟฟิศก็มีปลวกทหาร ในใจเรามีพญาปลวก (เกลียดมันอีกที) หนีแม่งซะเลยดีกว่า 55



โดย: เฮียโก่ย IP: 58.8.108.20 วันที่: 19 มกราคม 2550 เวลา:18:36:22 น.  

 
2549 ปีแห่งปาร์ตี้
ทั้ง
ปาร์ตี้คนโสด
ปาร์ตี้คนไม่โสด
ปาร์ตี้เลี้ยงส่ง
ปาร์ตี้เลี้ยงต้อนรับ
ปาร์ตี้วันเกิด
ปาร์ตี้คิดถึงคนไกล
ปาร์ตี้วันเหงา เหงา
ปาร์ตี๊แสนเศร้า
ทุกปาร์ตี้ มีเรื่องเล่า...


โดย: tooktook IP: 202.142.193.15 วันที่: 22 มกราคม 2550 เวลา:0:50:44 น.  

 
ดีใจด้วยนะคะ เก็บวันเวลาที่ดีไว้ในไดอารี่เล่มหนึ่ง ที่มีชื่อว่า 2006
ปล. นึกถึงเราบ้างป่าว อิ อ


โดย: อิ่ม IP: 202.142.193.15 วันที่: 22 มกราคม 2550 เวลา:17:18:21 น.  

 


โดย: iam IP: 222.123.28.194 วันที่: 22 มกราคม 2550 เวลา:22:25:24 น.  

 
เป็นอีกปีที่น่าจดจำเช่นกัน

เป็นปีที่ฉันวิ่งตาม และวิ่งหนีอะไรสักอย่าง
พอเหนื่อย
ก็เลยหยุด

พอหยุด ถึงรู้ว่าวิ่งมาไม่ได้ไกลเลย

ตอนนี้ ไม่วิ่ง ไม่หนี
นอนหลับอย่างเดียวดีกว่า 555


โดย: iammonkey IP: 222.123.28.194 วันที่: 22 มกราคม 2550 เวลา:22:34:18 น.  

 
2549 ปีแห่งธรรมะ


โดย: ยูจิ IP: 202.142.193.15 วันที่: 22 มกราคม 2550 เวลา:23:04:42 น.  

 
ปีกาจู้


โดย: ปีกาจู้ IP: 58.8.106.121 วันที่: 25 มกราคม 2550 เวลา:13:29:07 น.  

 
ขนมอร่อยนะหมอนนุ่น จำได้ว่าฉันกินไปเยอะเลยล่ะ
หมอนนุ่นขับรถได้นะ แต่ต้องใจเย็นอีกนิด มีสมาธิอีกหน่อย เท่าที่ฉันเห็นแกขับก็โอเคเลย
เกาะกูด สนุกมาก ง่ามโข่ งามโขจริงๆ
ปีที่แล้วมีเรื่องดีและร้ายปนกัน
แต่ข่าวดีที่สุดคือเรายังมีชีวิตอยู่เผชิญกับปีนี้ต่อไป
**ล่วงเลย แล้วผ่าน**
**ยาวนาน กับปีใหม่**
**มีชีวิต ก้าวต่อไป**
**รอสิ่งใหม่ ก้าวเข้ามา**



โดย: โก้ ณ รางน้ำ IP: 202.142.193.15 วันที่: 25 มกราคม 2550 เวลา:14:30:17 น.  

 
พ่อนกตัวหนึ่งเกาะที่กิ่งไม้ตรงข้ามหน้าต่างห้องเล็กๆ ในบ้านสีฟ้า ทุกวันที่ฉันมองนกตัวนั้น ฉันรู้สึกว่านกได้เติบโตขึ้นทุกวัน ปีกคู่นั้นแข็งแรงขึ้น ขนพองปัดป้องละอองน้ำ ยามฝนตก ความหวังของมันคือการสร้างรังให้เสร็จเพื่อลูกตัวน้อยๆ ดังนั้นทุกวันของพ่อนก จึงเป็นช่วงเวลาที่เดินไปพร้อมกับคำว่าเติบโต รอไม่ได้แม้สักวินาทีเดียว ปีกคู่นั้นจึงแข็งแรงขึ้นทุกวัน แต่ปีกของมนุษย์อย่างฉันสิ มันกลับอ่อนแรงลงไป ฉันเฝ้าหาสาเหตุทุกวัน บนที่นอนเล็กๆในห้องสีฟ้า จนวันที่ฉันจากห้องนอนนั้นมา ฉันจึงเข้าใจว่า
ฉันมีเวลาเท่าพ่อนกตัวนั้น ฉันสามารถแข็งแรงมากกว่าพ่อนกตัวนั้นมากนัก แต่ฉันมีความพยายามน้อยกว่าพ่อนกตัวนั้นมากนก ฉันคงไม่มีโอกาสเห็นพ่อนกตัวนั้นสยายปีกอันแข็งแรงนั้นอีก แต่ฉันเชื่อว่าต่อไปฉันต้องแข็งแรงเฉกเช่นนกน้อยตัวนั้น
สักวัน ฉันจะมีกล้ามเป็นของตัวเอง
ป.ล.ยกกี่โลดีพี่ตี๋ อยากมีกล้ามงะ 555


โดย: โก้ ณ รางน้ำ IP: 202.142.193.15 วันที่: 25 มกราคม 2550 เวลา:15:04:52 น.  

 
เราได้ยินเสียง John Lennon ประกอบช่วงต้นของไดอารี่เธอ

และก็รู้สึกดีใจที่เมื่ออ่านแล้ว เราเห็นว่า
ทุกเรื่องที่อยู่ในหน้าทบทวนปี 2549 ของเธอ
ไม่ใช่เรื่องที่เราเพิ่งเคยได้ยินเป็นครั้งแรก
(และบางเรื่องในนั้น เราเคยได้ยินมาแล้วหลายรอบเลยด้วย)

สวัสดีปีใหม่ 2550 นะเธอ
ปีหน้าอาจได้ช่วยกันเค้นสมองคิด SMS สวัสดีปีใหม่ร่วมกันอีก


โดย: หลังเที่ยงคืน IP: 203.144.227.146 วันที่: 27 มกราคม 2550 เวลา:0:12:59 น.  

 
ฮัลโหลหมอนนุ่น

Happy ๆ กันน่ะ ปีนี้


โดย: I will see U in the next life. วันที่: 30 มกราคม 2550 เวลา:19:19:38 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

monnoon
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add monnoon's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.