Bloggang.com : Gorgeous Girl - สถานที่เที่ยวอื่น ๆ ใน Joburg

สถานที่เที่ยวอื่น ๆ ใน Joburg

เลยขึ้นไปทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองโจฮันเนสเบิร์กยังมีสถานที่ที่นับว่าเป็นการค้นพบประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ นั่นก็คือการค้นพบซากฟอสซิลบรรพบุรุษของเราในปี 1947 ที่ได้รับการขนานนามว่า “Mrs. Ples” ซึ่งมีอายุโดยประมาณถึง 2.5 ล้านปี พื้นที่ที่ค้นพบฟอสซิลนั้นคือ “ถ้ำสเติร์กฟอนเทน” (Sterkfontein Caves) และสถานที่แห่งนี้ถูกเรียกว่า “The Cradle of Humankind” ซึ่งยังได้รับการรับรองเป็นมรดกโลกจากองค์กร UNESCO อีกด้วย

บริเวณสเติร์กฟอนเทนนั้นมีเนื้อที่ถึง 470 ตารางกิโลเมตร ภายในเป็นถ้ำมีความหนาวเย็นมาก อากาศประมาณ 12-16 องศาเซลเซียส ในขณะที่ข้างนอกแดดจ้าและอุณหภูมิอยู่ที่ 27 องศาเลยทีเดียว ข้างใต้ก็ยังมีทะเลสาบที่มีความลึกและเย็นถึงขั้นที่ว่าเคยมีนักประดาน้ำจมน้ำตายมาแล้ว ณ ปัจจุบันนักสำรวจก็ยังทำการสำรวจภายในถ้ำและพื้นที่โดยรอบและยังค้นพบซากฟอสซิลอยู่เป็นประจำอีกนะ

ภายในเป็นถ้ำที่เต็มไปด้วยหินปูนและมืดมิด มีหินงอกหินย้อยเต็มไปหมด .. ตลอดการชมจะมีไกด์คอยนำทางตลอดเวลา เพราะไม่อยากให้พลัดหลงไปที่อื่น ในส่วนของทางที่จัดให้เดินก็ปูพื้นผ้ายางไว้อย่างดี เพราะไม่งั้นนักท่องเที่ยวอาจจะลื่นไถลได้

สถานที่หนึ่งที่ทั้งนักท่องเที่ยวและคนแอฟริกาใต้มักจะไปใช้เวลากับช่วงสุดสัปดาห์กันคือ Gold Reef City ซึ่งเป็นเหมืองทองใกล้เมืองโจฮันเนสเบิร์ก ที่นี่ถูกใช้เป็นเหมืองทองในสมัยโบราณแต่ปัจจุบันถูกสร้างให้เป็นสวนสนุกและพิพิธภัณฑ์จำลองการขุดเจาะเหมือง มีการแสดงการขุดทอง ชมสภาพความเป็นอยู่ของกรรมกรเหมืองในสมัยนั้น ชมการหลอมทองและสายแร่ทองที่ฝังในเนื้อหิน

ในส่วนสวนสนุกก็เต็มไปด้วยเครื่องเล่นใหญ่โตในพื้นที่ที่กว้างใหญ่มาก เครื่องเล่นหลากหลายก็ช่างท้าทายความกล้าของเหล่าวัยรุ่นและวัยไม่รุ่น ถึงแม้ว่าที่นี่จะไม่ใช่เหมืองแร่ทองคำดังเช่นในอดีต แต่ที่นี่ก็เป็นแหล่งทองสมัยใหม่ที่ขุดเงินในกระเป๋านักท่องเที่ยวที่ชอบเสี่ยงโชคได้เป็นอย่างดี เพราะมีคาสิโนขนาดใหญ่พร้อมโรงแรมให้ผู้ที่ชื่นชอบการเสี่ยงได้ใช้เวลาและใช้เงินกันข้ามวันข้ามคืนเลยทีเดียว

ครอบครัวที่โน่นจะมาเที่ยวกันเป็นกลุ่ม ๆ มีทั้งครอบครัว คู่รัก และกลุ่มเพื่อน กว่าจะเล่นแต่ละเครื่องเล่นต้องรอแถวกันค่อนข้างนานเลยทีเดียว

มาถึงแอฟริกาทั้งทีก็ต้องทำกิจกรรมที่ห้ามพลาดคือการท่องป่าแบบซาฟารี แต่เสียดายที่ฮั้วไม่มีเวลามากพอในการไปใช้ชีวิตตั้งแคมป์ในเขตอนุรักษ์เหล่านั้น เขตอนุรักษ์ที่ดัง ๆ ในโซนด้านนี้ก็มีหลายที่ เช่น เขตอนุรักษ์แรดและสิงโต (Rhino and Lion Park) อุทยานแห่งชาติพิลาเนสเบิร์ก (Pilanesberg National Park) อุทยานแห่งชาติครูเกอร์ (Kruger National Park)

การขับรถเที่ยวชมเขตอนุรักษ์หรือ Game Reserves นั้นก็เป็นกิจกรรมที่น่ารื่นรมย์มาก ๆ เพราะที่เหล่านี้มีขนาดพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลนับเป็นร้อย ๆ ตารางกิโลเมตร และไม่มีการกักขังสัตว์ให้อยู่ในกรงหรือการล้อมรั้วเหมือนกับสวนสัตว์ทั่ว ๆ ไป สัตว์ป่าจะถูกปล่อยให้ใช้ชีวิตตามธรรมชาติในทุ่งหญ้าและลำน้ำ เราก็สามารถขับรถเข้าไปโดยอิสระเพื่อสังเกตและชื่นชมสภาพความเป็นอยู่ตามธรรมชาติของสัตว์เหล่านั้น

ช่วงระยะเวลาขับรถไปประมาณสองชั่วโมงจาก Midrand ฮั้วก็เข้าเขตอุทยานแห่งชาติพิลาเนสเบิร์กซึ่งมีอาณาบริเวณถึง 550 ตารางกิโลเมตรและเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่านานาชนิด ที่นี่ตั้งอยู่บนเขตภูเขาไฟที่เคยปะทุเมื่อประมาณ 1,300 ล้านปีมาแล้ว ดังนั้นที่นี่จึงเต็มไปด้วยแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่ค่อนข้างสมบูรณ์เพื่อรองรับสัตว์มากกว่า 6,000 ตัวและนกมากกว่า 300 ชนิด

ตาม Game Reserves มักจะมีสัตว์ใหญ่ทั้งห้าชนิดของแอฟริกา ซึ่งเรียกกันว่า “Big Five” ประกอบไปด้วย สิงโต เสือดาว แรด ช้าง และควายป่า แต่ไม่ใช่แค่นี้เท่านั้นการมาเยือนที่นี่เรายังได้ฝึกความอดทนและการใช้สายตาในการมองหาสัตว์ที่หลบซ่อนอยู่ตามธรรมชาติ หรือเดินเป็นฝูงท่ามกลางทุ่งหญ้าโดยมีภูเขาสวย ๆ เป็นพื้นหลัง เราได้เห็นสัตว์ป่าหลากหลายชนิดใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็น ยีราฟคอยาว เก้ง กวาง ม้าลาย โดยที่ไม่มีกรงมากั้นขวางระหว่างเรากับสัตว์เหล่านั้น .. แอบเสียดายที่ไม่มีเลนส์ซูมจะได้รูปของสัตว์เหล่านี้ชัด ๆ ..

การชิมอาหารท้องถิ่นที่ประกอบไปด้วยเนื้อสัตว์ป่าเหล่านั้นก็ถูกรวมเข้าไว้กับสิ่งที่ต้องทำเมื่อมาเยือนที่แอฟริกาใต้แห่งนี้ ถึงแม้คนแอฟริกาใต้จะชอบกินไก่สักเท่าใดก็ตาม แต่เนื้อสัตว์ป่าเช่น กวาง ม้าลาย ยีราฟ จระเข้ สปริงบอค หรือคูดู ก็เป็นเนื้อที่มักจะนำมาเสิร์ฟไว้ในร้านอาหารสไตล์บุฟเฟท์เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ทดลองชิม นี่ก็เป็นอีกหนึ่งรสชาติของการเปิดโลกเพื่อหาประสบการณ์แปลกใหม่ให้กับชีวิตที่หาไม่ได้ในประเทศไทย..

ฮั้วได้ไปลองเนื้อเหล่านั้นมาแล้ว.. ขอบอกว่าขอกินแค่เนื้อหมู ปลา ไก่ เป็ด ดีกว่า...