โลกนี้ยังน่าอยู่
อยู่ๆ ก็ไม่อัพบล็อกซะเป็นเดือนเลย มันไม่มีอะไรจะเขียน ไม่มีอะไรจะพูด ไม่คิดอะไร ไม่มองอะไร ไม่รู้สึกอะไร ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดจากอะไร ตอนนี้ก็เริ่มเรียนป.โทแล้ว สาขาที่จบมาก็ไม่รู้จะทำอะไรดี แต่ที่เลือกเรียนสาขานี้ ก็เพราะ ไม่รู้สึกว่ามันมีอะไรน่าเรียนทั้งนั้น มีคนบอกว่าเราเป็นพวกปฏิเสธโลก ชีวิตเราคงจะอยู่อย่างมีความสุขลำบาก เพราะตั้งคำถามกับสิ่งที่เราไม่เห็นด้วย เราถามทั้งๆ ที่เราไม่มีอำนาจจะคัดง้าง ระบบที่มันเป็น ชีวิตมนุษย์ที่ต้องจำยอม สังคมที่กดทับ สิ่งแวดล้อมที่เป็นพิษต่อทั้งร่างกายและจิตวิญญาณ ทำไมไม่มีใครลุกขึ้นมาทำอะไร ทำไมทุกคนไม่รู้สึกว่ามันต้องทำอะไรสักอย่าง เพราะมีความคิดอย่างนี้ ทำให้เราเกือบจะเลือกเรียนป.เอกรัฐศาสตร์ (คะแนนถึงพอจะเรียนได้) แต่คงเป็นเรื่องของโชคชะตา เพราะอยู่ๆ ก็เปลี่ยนใจไปเรียนป.โทปรัชญาแทนซะงั้น (ถึงบอกว่าไม่รู้จบมาทำอะไรดี) เราไม่รู้ว่ามันจะทำให้ชีวิตเรามีคำตอบ หรือจะทำให้ชีวิตเรามีแต่คำถามกันแน่ ถามว่าชีวิตต้องการอะไร คงตอบว่าต้องการความสุขที่ทำให้ใจอิ่ม สุขภาพร่างกายที่แข็งแรง แต่ไม่เห็นมีส่วนไหนของกรุงเทพมหานครเลยที่ทำให้ชีวิตเราไปถึงจุดนั้นได้ จะว่าไป เราก็ไม่แน่ใจว่า จะมีที่ไหนในโลกบ้างที่เอื้อให้เรามีชีวิตอย่างที่เราต้องการได้ เคยมีคนพูดเอาไว้ ไม่รู้ว่าพูดให้สวยๆ หรือพุดให้ฉุกคิดกันแน่ว่า ความสุขนั้นอยู่ที่ใจ ใจสุข อยู่ที่ไหนก็สุข มันเป็นไปได้เหรอ ใจสุขล่ะ มันเกิดจากอะไร เรายังไปไม่ถึงจุดนั้น เราไม่เข้าใจ และเราอยากจะเข้าใจ นี่ทำให้เราเลือกเรียนปรัชญา มากกว่าเรียนรัฐศาสตร์ แต่เรียนมาได้สักสามสัปดาห์ เราก็ไม่แน่ใจอีกแล้ว เราจะหาคำตอบเจอจริงๆ หรือ The answer, my friend, is blowin in the wind. The answer is blowin in the wind. เนื้อเพลงเขาบอกไว้อย่างนั้น คำตอบมันอยู่ในสายลม ... อีกแล้ว คำพูดสวยๆ แต่แปลว่าอะไรล่ะ วันๆ มีแต่เรื่องราวชวนซึมกระทือ ทั้งข่าว ทั้งคน ทั้งแต่ละเรื่องในชีวิตประจำวัน หวัด 2009 บอกตรงๆ ว่ากลัวมาก กลัวมันกลายพันธุ์, ไฟใต้ ที่ไม่รู้ว่าใครกันแน่เป็นคนจุด, ข่าวการเมือง ปาหี่ในสภาฯ, และสัตว์ร่วมบ้านกับแพนด้าที่ไม่มีใครสนใจ รถไฟฟ้าคนแน่นขนัด ที่ยืนยันคำพูดของ Hobbes เสียเหลือเกินว่า And the life of man is solitary, poor, brutish, and short. เห็นแก่ตัวกันเหลือเกินหนอมนุษย์ผู้เจริญ อยู่นอกบ้านแล้วเหนื่อย แต่ละตึกช่วยพ่นแอร์ร้อนออกมาจังเลย อากาศก็เป็นพิษ คนขับรถเห็นแก่ตัว คนเดินถนนก็ถูกเอาเปรียบ รัฐบาลพม่าก็เลวชาติชั่ว ความเป็นจริงของเกาหลีเหนือก็สุดจะรู้ อเมริกาก็เผาโลกขนานใหญ่อยู่ทุกวัน ในขณะที่จีนก็ดำเนินรอยตาม เละเทะกันไปหมดแล้ว โลกใบนี้ พูดง่ายๆ กูเบื่อโลกแบบนี้ชิบหาย! ถ้าคำตอบอยู่ในสายลม เราว่า คำตอบนั้นมันบอกว่า โลกนี้ไม่มีหวังกลับไปสวยงามแล้ว แต่... บางทีอาจจะไม่ เพราะหัวใจที่ปิดสนิทย่อมไม่ได้ยินเสียงลม เปิดหัวใจ คลายกุญแจ เผื่อว่ามีบางสิ่งมาจ่อรออยู่ แต่เข้าไม่ได้ ขอบคุณพ่อกับแม่ที่ชวนไปงานบ้านและสวนแฟร์ปีที่แล้ว ที่ทำให้เราเริ่มดูแลต้นไม้นิดๆ หน่อยๆ ขอบคุณพี่ๆ ห้องต้นไม้แห่งพันทิพ สำหรับเมล็ดพันธุ์มากมายที่ส่งมาให้ปลูก ขอบคุณดอกไม้ใบหญ้ามากมายที่ช่วยเติมความหวังให้หัวใจที่เหนื่อยกับเพื่อนมนุษย์ ทุกๆ ครั้งที่ออกมาที่ระเบียง เห็นใบไม้ผลิใบ แต่ดอกไม้เริ่มบาน เห็นเมล็ดเริ่มงอก มันทำให้ชีวิตมีความหวัง ... มีความหวังขึ้นมามากมาย มันไม่สนใจหรอกว่านักการเมืองทำอะไรกัน ไม่สนใจว่าคนดังไปมีเรื่องอะไรบ้าง ไม่สนใจหวัด 2009 ไม่แคร์หมีแพนด้า มันสนใจแต่หน้าที่ของมันต่อโลก หน้าที่ที่จะหยั่งรากลึกลงไปในดิน เพื่อแผ่กิ่งก้านไปบนฟ้า หน้าที่ที่จะผลิดอกออกใบเพื่อดำรงเผ่าพันธุ์ หน้าที่ที่ไม่สามารถมีใครทำแทนได้ หน้าที่ที่ไม่อาจเอาเปรียบใคร หรือถูกเอาเปรียบ หน้าที่ที่จะยืนหยัดเท่าที่ธรรมชาติจะอำนวย หน้าที่ที่จะยอมรับเมื่อถึงคราวโรยรา ด้วยรู้ว่าการโรยราของมันนั้นเป็นเพียงแค่... ...การรวบรวมเพื่อแตกสลาย แยกกระจายเพื่อกลับมาใหม่... มองต้นไม้แล้วก็รู้สึกว่าโลกมีความหวัง ยิ่งบางกระถางที่เราดูแล้วท่าจะไม่รอด เพลี้ยลง มดไต่ ใบไหม้ แมวแทะ แต่สุดท้ายมันก็ผลิใบออกมาใหม่ได้ เดี๋ยวนี้เราออกมานั่งที่ระเบียงบ่อย ออกมามอง ออกมาเพื่อเติมความหวัง เหมือนคนหิวน้ำ แล้วออกมาหาน้ำกิน เติมน้ำให้เต็มแก้ว แล้วกลับไปนั่งทำงานต่อ ธรรมชาติมันเรียบง่าย ไม่ต้องปรุงแต่งอะไร มันก็งดงามอยู่ตามแบบของมัน วิ่งวุ่นมากมายจนเหนื่อย สุดท้าย ก็แต่สิ่งง่ายๆ ในธรรมชาตินี่แหละที่ปลุกปลอบจิตวิญญาณ มันสุขเวลาที่เห็นต้นไม้โดนลมพัดจนส่ายเอน แล้วกลับมาตั้งตรงได้เหมือนเดิม เพราะโลกธรรมชาติคือโลกแห่งความเป็นจริง เลยบอกตัวเองได้ว่า เดี๋ยวเรื่องร้ายมันก็ผ่านไป โลกแห่งความจริงไม่เห็นต้องกังวลอะไรเลย นั่นไงใบไม้ก็ยังอยู่ ดอกไม้ก็ยังบาน แค่นี้ก็ ...อิ่ม... แล้ว อาจจะจริงที่คำตอบอยู่ในสายลม ไม่ได้อยู่ในหนังสือเรียน ไม่ได้อยู่ในรัฐศาสตร์ ไม่ได้อยู่ในปรัชญา แต่อยู่ในสายลม สายลมกับจิตใจ คือ สิ่งเดียวกันหรือเปล่าหนอ อาจใช่ อาจไม่ใช่ ...อาจไม่สำคัญ... จึงนั่งเล่นในสวนครั้งละนานๆ นานๆ ผีเสื้อแสนสวยก็บินว่อน...เต็มต้น บัวดิน...สวยจากดิน ต้นกก จะรอดอุ้งเท้าแมวไหมหนอ ก็แค่ใบไม้ ที่สวยกว่าผู้หญิงบางคนในห้างสรรพสินค้า มาร์กาเร็ต สวยแบบสาวชาวไร่ มอร์นิ่งกลอรี่ สวยเหมือนน้ำใจพี่สเลเต พระจันทร์ นี่ก็น้ำใจพี่สเลเตอีกครั้ง พระจันทร์บานแฉ่ง ข้างหลังของพระจันทร์ มองจากในบ้าน ฤาษีผสม ชำเอง (แหม ภูมิใจซะ...ชำง่ายจะตาย ><) ข้างๆ ฤาษีผสม เอียงคอถ่าย แหงนหน้าถ่าย ถ่ายตรงๆ ขอบคุณน้ำใจจากพี่ nagano สำหรับเมล็ดเสี้ยวดอกขาวที่ส่งมาให้ กรุงเทพเรียกกาหลง แต่เราอยากเรียกเสี้ยวดอกขาวตามคนให้ มีดอกส้มจี๊ดแอบอยู่ด้านหลังใบไม้ใบใหญ่ ดอกหอมเหมือนมะลิเลย ดูสิในสวนมีความจริง มีความสุข มีรอยยิ้ม มีความรัก มีความสวยงามของโลกทั้งโลก
เห็นอะไรบ้างไหม ในกลีบบางจนเกือบใส เห็นอะไรบ้างไหม ในละอองสีเหลืองสด เห็นอะไรบ้างไหม ในลำต้นเอนอ่อน เห็นอะไรบ้างไหม ในเส้นใบสวยบาง เห็นอะไรบ้างไหม ในความเงียบ เห็นอะไรบ้างไหม ในบันทึกรัก... .................แห่งโลก.................
Create Date : 20 มิถุนายน 2552
11 comments
Last Update : 20 มิถุนายน 2552 11:27:10 น.
Counter : 1595 Pageviews.
สวนที่บ้านผม
ไปไกลกว่าครับว่ารกแล้วล่ะครับ 555
มันสุดกู่เสียจนน่าจะเรียกว่า
เป็นการเอาต้นไม้มาวางสุมๆกัน หุหุหุ
ที่น่าแปลกก็คือ
มันก็ยังออกดอกสม่ำเสมอ
แตกกอ แตกใบเมื่อถึงฤดูฝน
ทิ้งใบร่วงเมื่อถึงฤดูหนาว
และรอออกดอกในฤดูร้อน
ผมเลิกดูข่าวแล้ว
เพราะยิ่งดู ยิ่งเศร้า
นานๆดูแค่พอรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบนโลกนี้
แต่ไม่ปักใจเชื่อสักอย่างว่ามันจริง
เวลาเบื่อๆก็คว้ากล้อง
แล้วออกไปมองสิ่งที่ใครๆก็บอกว่า
"ไม่เห็นมีอะไรเลย ถ่ายอะไร ?"
บังเอิยว่ามันมี
และผมก็เห็นซะด้วย