|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
วช. ชู "กระชายดำ" ทำยา-อาหารเสริม เอกชนรับต่อยอดสู่อุตสาหกรรม
(จากซ้าย) นายสุวิทย์ งามภูพันธ์, ศ.ดร.สุทธิพร จิตต์มิตรภาพ เลขาธิการ วช. และรศ.ดร.บังอร ศรีพานิชกุล ร่วมในพิธีลงนามในข้อตกลงการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตผลิตภัณฑ์และกรรมวิธีการผลิตสารสกัดหยาบกระชายดำที่มีปริมาณฟลาโวนอยด์สูงให้แก่บริษัท บางกอกแล็ป แอนด์ คอสเมติค จำกัด เมื่อวันที่ 5 ก.ค. 53
เภสัชฯ มข. พัฒนาเทคนิคสกัดสารสำคัญในกระชายดำพร้อมศึกษาฤทธิ์ทางยา พบสรรพคุณเพียบ ทั้งฆ่าเชื้อแบคทีเรียในกระเพาะอาหาร ยับยั้งเซลล์มะเร็ง ฤทธิ์ต้านการอักเสบ ลดเครียด บำรุงสมองและความจำ เอกชนขอใช้สิทธิ์ผลิตระดับอุตสาหกรรม ทำยาบำรุงผู้สูงอายุ หวังยกระดับสมุนไพรไทยสู่สากล รศ.ดร.บังอร ศรีพานิชกุล นักวิจัยจากศูนย์วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์สุขภาพจากสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) เปิดเผยว่า กระชายดำเป็นพืชสมุนไพร ที่มีการปลูกกันมากในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ตามความเชื่อดั้งเดิมของชาวเขาเผ่าม้งถือว่ากระชายดำเป็นสมุนไพรประจำเผ่าที่มีคุณสมบัติเป็นยาอายุวัฒนะ แก้ปวดเมื่อย เหนื่อยหอบ บำรุงหัวใจ บำรุงกำลัง รวมทั้งกระชายดำยังช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ ซึ่งเป็นฤทธิ์ของกระชายดำที่ได้รับความสนใจจากประชาชนอย่างมาก ทำให้มีการนิยมบริโภคกระชายดำมากขึ้นโดยนำมาทำเป็นผลิตภัณฑ์หลายรูปแบบ ส่งผลให้กระชายดำมีราคาสูงขึ้นถึงกิโลกรัมละ 800-1,000 บาท เมื่อหลายปีก่อน แต่ปัจจุบันมีราคาเพียงไม่10-30 บาทต่อกิโลกรัม "เป็นที่ทราบกันดีว่า กระชายดำมีสรรพคุณทางยาหลายอย่าง โดยเฉพาะฤทธิ์ต้านการอักเสบ แต่ยังไม่มีข้อมูลทางวิชาการที่แน่ชัด จึงได้วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ยาและอาหารเสริมจากสารสกัดกระชายดำ และศึกษาการออกฤทธิ์เพื่อยืนยันสรรพคุณที่มีการอ้างถึง และก็พบว่าให้ผลตรงกันกับที่กล่าวอ้าง" รศ.ดร.บังอร กล่าว ทั้งนี้ ในการทดลอง นักวิจัยเลือกใช้เหง้ากระชายดำที่ปลูกใน จ.เลย และควบคุมคุณภาพผลิตภัณฑ์โดยวิธีควบคุมปริมาณสารสำคัญที่สกัดได้ คือ สารฟลาโวนอยด์ประเภท เมทอกซีฟลาโวน (methoxyflavones) จำนวน 11 ตัว จากการศึกษาในแล็บและในสัตว์ทดลอง นักวิจัยพบว่าสารสกัดกระชายดำมีฤทธิ์ต้านการอักเสบโดยยับยั้งเอนไซม์คอกซ์-2 (COX-2) และสามารถลดอาการบวมและอักเสบในหนูทดลองได้เมื่อทำเป็นผลิตภัณฑ์ในรูปแบบเจลทาผิวหนัง ซึ่งให้ผลดีเทียบเท่ายามาตรฐานกลุ่มเอ็นเซดส์ (NSAIDS) และสเตียรอยด์ (Steroid) สารสกัดจากกระชายดำยังมีฤทธิ์ช่วยเพิ่มการไหลของเลือดในสมองหนู ช่วยเพิ่มการเรียนรู้และความจำได้ในหนูที่มีภาวะเครียด ป้องกันการตายของเซลล์ประสาทที่ถูกเหนี่ยวนำจากภาวะสมองขาดเลือด และช่วยกระตุ้นพฤติกรรมทางเพศของหนูและการสืบพันธุ์ของสาหร่ายเซลล์เดียวได้เทียบเท่ากับยากระตุ้นสมรรถภาพทางเพศกลุ่มซิลเดนาฟิล (Sildenafil) ซึ่งได้มีการศึกษาทางคลินิกในกลุ่มผู้สูงอายุและอาสาสมัครเพศชายแล้วพบว่าให้ผลสอดคล้องกัน นอกจากนั้นยังพบว่า กระชายดำมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ในช่องปากและทางเดินอาหาร ยับยั้งเซลล์มะเร็งลำไส้ใหญ่และมะเร็งตับจากการทดลองในระดับเซลล์ และพบฤทธิ์ช่วยลดน้ำตาลและไขมันในเลือดจนเกือบเท่าปกติเมื่อทดสอบในสัตว์ทดลอง และขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างทดสอบระดับคลินิกในอาสาสมัครที่มีไขมันในเลือดสูง "การนำพืชสมุนไพรมาพัฒนาเป็นยา ต้องทดสอบความปลอดภัยก่อนเป็นอันดับแรก จากการศึกษาพิษวิทยาโดยให้หนูทดลองกินสารสกัดกระชายดำต่อเนื่องทุกวันเป็นเวลา 6 เดือน ไม่พบว่ามีความผิดปกติใดๆ ต่ออวัยวะสำคัญ และมีความปลอดภัยในระดับที่ยอมรับได้ แต่ถ้าเป็นในคน จะไม่แนะนำให้กินต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน และยังต้องศึกษาเพิ่มเติมถึงความปลอดภัยในระยะยาวเกินกว่านั้น" รศ.ดร.บังอร กล่าวต่อทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTVผู้จัดการออนไลน์ และสื่อมวลชน ทั้งนี้ นักวิจัยได้รับทุนสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ในการศึกษาและพัฒนาผลิตภัณฑ์สุขภาพและการทดสอบฤทธิ์ทางคลินิกของสารสกัดกระชายดำมาตั้งแต่ปี 2547 จนถึงปัจจุบัน และล่าสุดได้ถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตผลิตภัณฑ์และกรรมวิธีการผลิตสารสกัดหยาบกระชายดำที่มีปริมาณฟลาโวนอยด์สูงให้แก่บริษัท บางกอกแล็ป แอนด์ คอสเมติค จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยาและเวชสำอาง นายสุวิทย์ งามภูพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอกแล็ป แอนด์ คอสเมติค จำกัด เปิดเผยว่า ปกติการนำสมุนไพรมาทำเป็นผลิตภัณฑ์ยา จะมีปัญหาในเรื่องปริมาณสารออกฤทธิ์ไม่คงที่ แต่บางกอกแล็ปเป็นบริษัทแรกๆ ที่สามารถพัฒนายาจากสมุนไพรจนได้รับการยอมรับในระดับสากล และใช้กันอย่างแพร่หลายในโรงพยาบาลทั่วไปคือ เจลพริกลดอาการปวดอักเสบ "เราสนใจที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ยาจากกระชายดำมานานแล้ว เมื่อได้รับการถ่ายเทคโนโลยีการสกัดกระชายดำจาก วช. ในครั้งนี้ จึงมองว่าจะพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ยาสำหรับผู้สูงอายุก่อน เพราะสารสกัดกระชายดำมีฤทธิ์โดดเด่นในด้านการลดปวดอักเสบ ช่วยบำรุงสมอง เพิ่มความจำ และเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ โดยหลังจากได้ผลิตภัณฑ์ออกมาแล้วจะทำการทดสอบในระดับคลินิกร่วมกับแพทย์ให้มีข้อมูลทางวิชาการสนับสนุนเพิ่มเติม" นายสุวิทย์ กล่าว ทั้งนี้ นายสุวิทย์ยังเปิดเผยว่า บริษัทพร้อมนำผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดทันที่ที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และในอนาคตจะขยายสู่ผลิตภัณฑ์รูปแบบอื่น รวมทั้งต่อยอดสู่การคัดเลือกสายพันธุ์และควบคุมคุณภาพตั้งแต่การเพาะปลูกกระชายดำ.
เหง้ากระชายดำ วัตถุดิบสำคัญที่นำมาสกัดสารสำคัญเพื่อใช้ประโยชน์ทางยาและบำรุงสุขภาพ
สารสกัดกระชายดำในรูปแผ่นฟิล์มสำหรับฆ่าเชื้อในปาก (ซ้ายสุด), ในรูปแคปซูลสำหรับรับประทาน (กลาง) และรูปแบบผงสำหรับชงดื่ม (ขวาสุด)
ที่มา ผู้จัดการออนไลน์
Create Date : 09 กรกฎาคม 2553 |
|
0 comments |
Last Update : 9 กรกฎาคม 2553 12:17:28 น. |
Counter : 787 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 108 คน [?]
|
แหล่งรวบรวมความรู้ โปรแกรม เพลง หนัง เกมส์ วิทยาศาสตร์ ดูละคร เรื่องย่อ ภาพยนตร์ การเงิน และอื่นๆ อีกมากมาย สุดท้ายขอกำลังใจให้มีแรงอัพเดทตลอดๆ ครับ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยียนกันครับ
|
|
|
|
|
|
|
|