ดาวน์โหลดโปรแกรม ดูละครย้อนหลัง อ่านเรื่องราวของความรู้รอบตัว วิทยาศาสตร์ ท่องเที่ยว สุขภาพ อาหาร รถยนต์ต่างๆ ไม่ทิ้งเรื่องราวความบันเทิงและเรื่องส่วนตัวอีกด้วย
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2552
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
28 ตุลาคม 2552
 
All Blogs
 
ชื่อ : ผักปลัง ....รากใช้แก้รังแค ...โบราณใช้แก้ฝีดาษ

ชื่อ : ผักปลัง


samunprai


ชื่อสามัญ : Malabar spinach, Ceylon spinach

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Basella alba Linn.

วงศ์ : BASELLACEAE

ผักปลังเป็นผักพื้นบ้าน ของไทย ที่พบเห็นอยู่ทั่วไป ตามชนบท ราคาถูกเพราะหาเก็บได้ตามชายป่า หรือถ้าปลูกก็เป็นผัก ที่ไม่ต้องการการดูแลมากนัก แต่คนในเมืองหลวงคงหาได้ไม่มากคนนักที่รู้จักผักปลัง เพราผักปลังมักเป็นที่นิยมกินอยู่ตามต่างจังหวัด แต่ปัจจุบันมีการพูดถึงผักพื้นบ้านมากขึ้น เพราะผักพื้นบ้านมักเป็นผักปลอดสารพิษ ผักปลังจึงหวนกลับมากเป็นขวัญใจของผู้รักวิถีธรรมชาติทั้งหลาย

ถิ่นกำเหนดของผักปลัง
ผักปลัง เป็นพืชผักที่มีกำเนิด อยู่ในเอเชีย และแอฟริกา ชอบความชุ่มชื้นอย่างในฤดูฝน เพราะสังเกตได้จากยอดอ่อนที่แผ่ขยายไปไกลในฤดูนี้ มีสองชนิด คอ ผักปลังสีม่วง และสีเขียวธรรมดา (ผักปลังขาว) ตามตลาดต่างจังหวัดก็มีสีขาวอยู่ทุกแผง ยอดผักปลังในหน้าฝนนั้นอวบอ้วนน่ากิน ขึ้นง่ายในดินแทบทุกสภาพ ปลูกง่ายขยายพันธุ์ด้วยการปักชำ และเพาะเมล็ด ดังนั้นหากพอมีที่ทางจะปลูกไว้รับประทานในบ้านก็ดี จะปล่อยให้เลื้อยพันตามรั้วก็ยังได้

ไม่จำเป็นต้องใช้ยาฆ่าแมลงกับผักปลัง เพราะผักชนิดนี้เป็นผักที่แมลงไม่สู้สนใจจะมาแทะเล็มเอาเสียเลย ดังนั้นไม่ว่าจปลูกเอง หรือซื้อที่เขาขายมากินก็สบายใจได้ส่วนหนึ่งว่า ค่อนข้างจะปลอดจากสารพิษ

ลักษณะทั่วไปของผักปลัง
ในผักปลังนั้นรูปร่างกลม หรือเป็นรูปไข่ เรียงสลับ เถานั้นยาวได้หลายเมตร ใบและเถานั้นอวบน้ำ สามารถแตกกิ่งก้านสาขาได้มาก นอกจากใบและยอดของเถาที่เรานำมาปรุงกินกันก็ยังมีดอกผักปลังที่มีสีขาว หรือแดง ไม่มีก้านดอก ดอกออกเป็นช่อตามซอกใบ กลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นท่อ ตรงปลายแยกเป็นแฉก ผลเมื่อแก่เปลี่ยนเป็นสีดำ

ประโยชน์ของผักปลัง
คุณค่าทางอาหารของผักปลังนั้นมีมากทีเดียว มีวิตามินและเกลือแร่ไม่น้อย โดยเฉพาะมีเบต้า-แคโรทีน ที่ช่วยป้องกันมะเร็ง มีเกลือแร่และฟอสฟอรัส และวิตามินซีในปริมาณสูง

นอกจากรสหวานอร่อยลิ้นกินดีแล้ว ผักปลังของชาวชนบทยังมีสรรพคุณสมุนไพรอยู่ไม่น้อย คือมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อน ๆ ช่วยลดอาการแน่นท้อง ในตำราโบราณกล่าวว่า ต้นหรือเถาใช้กินแก้พิษฝีดาษ ใบใช้บดพอกแผล เป็นยาขับปัสสาวะ ดอกใช้แก้เกลื้อน รากใช้แก้รังแค แก้มือเท้าด่าง น้ำคั้นจากใบแก้ผื่นคัน

น้ำคั้นจากผลใช้แต่งสีอาหารได้สีม่วงสวย . . . ลองกินลองปลูกผักที่เราไม่คุ้นเคยกันดูบ้าง รสชาติแปลกใหม่อาจนำพาความสดชื้นรื่นรมย์มาสู่ชีวิตประจำวันของเราได้ไม่น้อยเลย

ข้อมูลจาก
//www.panyathai.or.th/


Create Date : 28 ตุลาคม 2552
Last Update : 4 พฤศจิกายน 2552 11:07:38 น. 0 comments
Counter : 1674 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

scimovie
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 108 คน [?]




แหล่งรวบรวมความรู้ โปรแกรม เพลง หนัง เกมส์ วิทยาศาสตร์ ดูละคร เรื่องย่อ ภาพยนตร์ การเงิน และอื่นๆ อีกมากมาย สุดท้ายขอกำลังใจให้มีแรงอัพเดทตลอดๆ ครับ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยียนกันครับ
Friends' blogs
[Add scimovie's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.