ดาวน์โหลดโปรแกรม ดูละครย้อนหลัง อ่านเรื่องราวของความรู้รอบตัว วิทยาศาสตร์ ท่องเที่ยว สุขภาพ อาหาร รถยนต์ต่างๆ ไม่ทิ้งเรื่องราวความบันเทิงและเรื่องส่วนตัวอีกด้วย
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2554
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
14 มิถุนายน 2554
 
All Blogs
 
6 วิธีพิจารณา..เขาคือผู้ชายที่สมควรแต่งงานด้วยหรือไม่ (สำหรับผู้หญิง)

ในช่วงทศวรรษหลังๆ นี้ เรามักจะได้ยินข่าวเตียงหัก รักร้าว ของคู่สมรสคนดังในวงสังคมอยู่บ่อยๆ ทั้งๆ ที่ทุกคนเห็นว่าแต่ละคู่มีความเหมาะสมราวกับกิ่งทองใบหยก และมีความรักอันหวานชื่นปานจะกลืนกินในช่วงก่อนแต่งงาน แถมยังสาบานต่อหน้าพ่อแม่พี่น้องและเพื่อนฝูงที่มาเป็นสักขีพยานในงานวันแต่งว่าพวกเขาจะรักกันชั่วนิรันดร์หรือจนกว่าจะตายจากกันไป

แต่พออยู่กันไปไม่นาน แบบว่า ก้นหม้อ (ข้าว) ไม่ทันดำ ก็เลิกรากันซะแล้ว

ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น ทำไมผู้หญิงคนหนึ่งจึงเลือกสามีผิดได้ง่ายๆ ขนาดนั้น

จากการสำรวจเมื่อเร็วๆ นี้ พบว่าเกือบ 2 ใน 3 ของผู้หญิง มีความกังวลเกี่ยวกับการเลือกสามีผิดตัวและจะลงเอยด้วยการหย่าร้าง แต่บรรดาผู้เชี่ยวชาญบอกว่า ผู้หญิงสามารถปกป้องตนเองจากชะตากรรมดังกล่าวได้ ถ้าคุณประเมินค่าความสัมพันธ์ของคุณกับคนรักก่อนการหมั้นหมายด้วยองค์ประกอบสำคัญบางประการ

“มีหลายวิธีที่จะตัดสินใจได้อย่างแน่นอนว่า ผู้ชายคนนั้นมีค่าควรต่อการแต่งงานด้วยหรือไม่ และเป็นการลดความเสี่ยงที่คุณจะเลือกคู่ครองผิดตัว” ดร.เทอร์รี่ ออร์บุช (Terri Orbuch) ศาสตราจารย์สังคมวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยมิชิแกน กล่าว

“การพิจารณาประเด็นเหล่านี้ จะช่วยให้คุณเข้าใจว่าคุณกับเขามีค่านิยมที่คล้ายคลึงกันหรือไม่ และคุณกำลังจะแต่งงานด้วยเหตุผลอันถูกต้องหรือเปล่า”

ต่อไปนี้คือ 6 สิ่งที่คุณควรทำเพื่อช่วยตัดสินใจว่า เพื่อนชายของคุณคนนั้นคือ ความรักในชีวิตของคุณ หรืออาจเป็นเพียงอดีตสามีในอนาคต

1) อย่าละเลยอดีตของเขา

มีบางบริบทในประวัติชีวิตของเขาหรือไม่ ที่รบกวนจิตใจของคุณ เพราะมันฟังเหมือนไม่ใช่ผู้ชายที่คุณรู้จัก? จากนั้นคุณก็จำเป็นต้องตัดสินใจว่า ความสัมพันธ์ของคุณกับเขาจะตลอดรอดฝั่งหรือไม่ เพราะมันมีแนวโน้มว่าพฤติกรรมเก่าๆ ของเขาจะกลับมาอีก

“การทำนายที่ดีที่สุดเกี่ยวกับพฤติกรรมในอนาคตของเขาก็ด้วยพฤติกรรมในอดีตของเขานี่แหละ” ดร.เทอร์รี่บอก ถ้าประวัติความสัมพันธ์ของเขากับแฟนเก่าๆ มันเลวร้ายและขมขื่นประเภท “ฟันทิ้ง” ไปเรื่อยๆ มันก็ยั่วให้คิดได้หรอกว่า “ฉันคือ ผู้หญิงที่แน่พอจะปราบพยศเขาได้”

แต่คุณจะมั่นใจได้อย่างไรว่า ผู้ชายประเภทนี้จะยอมให้คุณปราบได้ง่ายๆ ดร.เอลิซาเบธ ลอมบาร์โด (Elizabeth Lombardo) นักจิตวิทยาในเว็กซ์ฟอร์ด เพนซิลเวเนีย กล่าวว่า

“เมื่อผู้ชายคนหนึ่งซึ่งชอบสร้างวีรกรรมแย่ๆ แบบนั้นอยู่บ่อยๆ มันก็มีเหตุผลอันน่าเชื่อว่าเขาจะไม่ยอมละพยศง่ายๆ เขาอาจสามารถปฏิบัติตัวดีต่อคุณในช่วงข้าวใหม่ปลามันได้ ซึ่งโดยปกติจะนานประมาณ 18 เดือน แต่หลังจากนั้น ก็มีแนวโน้มว่าเขาจะเริ่มลื่นไหลเข้าสู่วิถี (เห้-ๆ) แบบเดิมๆ อีก”

ไอ้ที่พูดกันว่า “คนเราเปลี่ยนไปได้ ผู้ชายรักครอบครัวหลายคนที่แต่งตัวตามสบาย อย่าง เสื้อยืดกางเกงขาสั้น และอุ้มลูกน้อยไปจ่ายตลาดกับเมียทุกวันหยุดสัปดาห์ ก็เคยเป็นเสเพลบอยมาก่อน” นั้น คุณต้องพิจารณาให้ลึกๆ หน่อยว่า บริบทคึกคะนองในอดีตของเขานั้นมันเป็นเฉพาะแค่ช่วงชีวิตของเขาในเวลานั้น หรือว่ามันเป็นสันดานที่เขาจงใจฝังกลบมันไว้ในเวลานี้

“การจะค้นให้พบ ก็ให้ถามเขาตรงๆ ไปเลยว่า พฤติกรรมอะไรที่เขาพิจารณาว่าเป็นการละเมิดความไว้วางใจ และบอกเขาว่า คุณคาดหวังอะไร” ดร.เทอร์รี่กล่าว

ถ้าเขาทำสิ่งต่างๆ ในอดีตซึ่งไม่เป็นไปตามมาตรฐานการแต่งงานของคุณ ก็ดับเครื่องชนเลย โดยขอให้เขาอธิบายซิว่า ทำไมเขาถึงทำเอี้ยๆ อย่างนั้น ถ้าเหตุผลของเขาสัมพันธ์กับสถานการณ์เฉพาะตอนนั้น ซึ่งเดี๋ยวนี้เขาไม่ได้มีพฤติกรรมอย่างนั้นอีกแล้ว (เช่นเขาเคยเที่ยวเตร่ สำมะเลเทเมามากเกินไป เพราะเขามั่วสุมอยู่กับเพื่อนๆ หนุ่มโสดร่วมรุ่นกลุ่มใหญ่) นั่นก็เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่า มันเป็นเรื่องชั่วแล่น

แต่ถ้าสิ่งเร้าสำหรับพฤติกรรมเลวๆ ในอดีตของเขาสามารถทำให้เขากลับไปเป็นเสเพลบอยได้ง่ายอีกครั้งในทันทีที่คุณแต่งงานกับเขา (เขาเริ่มออกเที่ยวกับเพื่อนฝูงบ่อยๆ โดยอ้างว่า เครียดจากการทำงาน) นั่นก็อาจหมายความว่า พฤติกรรมเห้-ๆ เหล่านั้น เป็นส่วนหนึ่งของคนที่จะเป็นเช่นนั้นตลอดไป (เป็นคนสันดานเลว ว่างั้นเถอะ)

ดังนั้น คุณผู้หญิงที่อยากจะมีคู่ครองถาวรทั้งหลาย โปรดพิจารณาและใคร่ครวญถึงอดีตของว่าที่สามีของคุณให้รอบคอบ อย่าใจเร็วด่วนได้เป็นอันขาด เพียงเพราะเขาหล่อล่ำพูดจาไพเราะ เอาใจสารพัดในเวลานี้ เพราะคุณอาจกำลังเจอกับแมงดาชาติชั่วในอนาคตอันใกล้ หลังแต่งงานก็ได้


2) กำหนดคุณภาพที่คุณต้องการ

คุณคงชื่นชอบที่ผู้ชายของคุณมีหน้าที่การงานดี มีรสนิยมสูง หรือแต่งตัวเนี้ยบ นั่นเป็นเรื่องที่ดี ไม่มีอะไรผิด ตราบใดที่คุณไม่หลงใหลได้ปลื้มกับคุณภาพเหล่านั้นจนมองข้ามข้อเท็จจริงที่ว่า เขายังขาดคุณภาพอื่นๆ ที่สำคัญกว่า

“ฉันบอกบรรดาผู้มารับการปรึกษาของฉัน ให้วาดวงกลมใหญ่วงหนึ่งโดยมีวงกลมเล็กอยู่ภายใน จากนั้นก็ให้พวกเธอเขียนคุณภาพ 4-5 อย่างที่พวกเธอต้องการให้สามีในอนาคตของพวกเธอมีอย่างสมบูรณ์แบบลงในวงกลมเล็ก อย่างเช่น การมีทัศนะร่วมกันเกี่ยวกับศาสนา ครอบครัว หรือการเงิน” ดร.เอลิซาเบธกล่าว

“จากนั้นก็ให้พวกเธอเขียนสิ่งที่มีได้ก็ดี ลงในวงกลมใหญ่ เพื่อที่คุณจะมองหาคู่สมรส ซึ่งมีคุณภาพทั้งหมดในวงกลมเล็กและมี 2-3 อย่างในวงกลมใหญ่ ไม่ใช่เลือกในทางกลับบ้าน คือ ให้ความสำคัญกับสิ่งที่มีในวงใหญ่มากกว่าวงเล็ก”

ขณะที่คุณสำรวจคุณภาพของเขาในวงเล็ก ก็ให้พิจารณาว่ามันมีด้านลบแฝงอยู่หรือไม่ และคุณสามารถควบคุมมันได้หรือเปล่า ตัวอย่างเช่น คุณอาจชื่นชอบที่เขามีอาชีพอันมีเกียรติ อย่าง ทหาร ตำรวจ แต่ถ้างานของเขาต้องมีการเดินทางมากมาย ความสำเร็จในอาชีพของเขาจะชดเชยการอยู่ไม่ติดบ้านหรือเหินห่างจากชีวิตของคุณได้หรือไม่?

ถ้าคุณมีเพื่อนฝูงกลุ่มใหญ่ มันก็อาจไม่เป็นประเด็น แต่ถ้าคุณเป็นคนติดบ้านซึ่งชอบที่จะจบแต่ละวันด้วยการอิงแอบบนโซฟากับพ่อยอดขมองอิ่มของคุณ คุณก็คงไม่มีความสุขกับชีวิตคู่ที่สามีต้องเดินทางห่างบ้านอยู่เสมอ

3) ถอดแว่นอนาคตของคุณออก แล้วมองเขาอย่างที่เป็นอยู่

สมมุติว่าเขาเป็นนักศึกษาปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจ ซึ่งมีแผนการใหญ่ที่จะเป็นเจ้าของบริษัทในอนาคต คุณจะรู้สึกว่าโชคดีไหมที่มีเขาเป็นสามี ถ้าหนี้ก้อนโตจากการกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษาของเขาคือ ผลลัพธ์เพียงอย่างเดียวของปริญญาโทใบนั้น?

“โปรดระลึกไว้ว่า คุณกำลังจะแต่งงานกับผู้ชายที่เขาเป็นอยู่ในเวลานี้ ไม่ใช่ผู้ชายที่เขาอาจเป็นในสักวันหนึ่ง” เจนนิเฟอร์ โกเวน (Jannifer Gauvain) นักบำบัดคู่สมรสผู้เขียนหนังสือ “วิธีไม่แต่งงานกับผู้ชายผิดตัว” กล่าว

“มันดีมากที่คุณปลื้มกับความทะเยอทะยานของเขา เพราะมันจะอยู่กับคุณอย่างยั่งยืน แต่อย่าติดยึดกับอาชีพที่มีศักยภาพบางอย่าง หรือผลลัพธ์ทางการเงินเป็นอันขาด”

คุณจำเป็นต้องยอมรับความเป็นไปได้ที่ว่า คนอื่นๆ ในโลกอาจไม่เชื่อมั่นในความสามารถของเขาอย่างที่คุณเชื่อ

“นี่คือสิ่งสำคัญ เพราะความคับข้องใจในความแตกต่างระหว่างสิ่งที่คุณคาดหวังกับความเป็นจริงที่คุณได้รับคือ หนึ่งในหลายสิ่งที่นำไปสู่ความขมขื่นของชีวิตคู่ในภายหลัง” ดร.เทอร์รี่กล่าว

และถ้าความกังวลเรื่องเงินคือ แรงขับดันให้คุณต้องแสวงหาแหวนแต่งงานสักวงละก็ กรุณาเหยียบเบรกไว้ก่อน เจนนิเฟอร์ โกเวน บอกว่า ความปรารถนาความมั่นคงทางการเงินคือ หนึ่งในเหตุผลหลักๆ ที่ทำให้ผู้หญิงตัดสินใจแต่งงานกับผู้ชายไม่ใช่

“ผู้หญิงหลายคนเล่าให้ฉันฟังว่า พวกเธออยากแต่งงาน เพราะพวกเธอรู้สึกว่าตัวเองกำลังยากลำบากและคิดว่ารายได้ร่วม (กับสามี) จะช่วยได้” เจนนิเฟอร์พูด และดร.เอลิซาเบธเสริมว่า

“แต่ก็ยังมีคู่สามีภรรยาจำนวนมากที่ร่ำรวยแต่ไม่มีความสุข”

4) ระวังพลวัตทางครอบครัวของเขา

การต้องขึ้นอยู่กับว่าเขามีความใกล้ชิดกับครอบครัวของเขาแค่ไหนนั้น มันก็ไม่ใช่แค่เขาหรอกที่คุณแต่งงานด้วย และในขณะที่คุณอาจสามารถเมินเฉยต่อครอบครัวของเขาได้ในเวลานี้ แต่พวกเขาจะเล่นบทใหญ่ในชีวิตของคุณทันทีที่คุณแต่งงาน โปรดจำไว้ว่าคนเหล่านี้จะไม่อยู่กับคุณแค่ในงานวันแต่งเท่านั้น แต่จะเข้ามาวุ่นวายในชีวิตของคุณประมาณครึ่งหนึ่งของวันหยุดในอนาคตของคุณ พวกเขาจะอยู่กับคุณที่โรงพยาบาลเมื่อลูกๆ ของคุณคลอด และเป็นไปได้มากว่าพวกเขาจะอยู่บนโซฟาของคุณสำหรับการเยี่ยมเยือนอันยืดเยื้อ

“คุณกับผู้ชายของคุณไม่จำเป็นต้องรักครอบครัวของกันและกันหรอก แต่พวกคุณจำเป็นต้องอยู่บนพื้นฐานเดียวกันในเรื่องที่ว่าคุณทั้งสองจะรวมพวกเขาไว้ในชีวิตของพวกคุณมากน้อยแค่ไหน” เจนนิเฟอร์บอก

“จงเขม้นมองขนบธรรมเนียมทางครอบครัวของเขาไว้ให้ดี และดูว่าเขากับครอบครัวของเขามีการไปมาหาสู่และติดต่อกันบ่อยแค่ไหน”

ถ้าครอบครัวของคุณมารวมตัวกันเพื่อกินอาหารค่ำทุกคืนวันอาทิตย์ แต่ของเขาแค่มีการร่วมฉลองในวันนักขัตฤกษ์ปีละครั้งสองครั้ง ความแตกต่างอันมากมายเกี่ยวกับความหมายของครอบครัวเช่นนี้ น่าจะเป็นสาเหตุของปัญหาบางอย่าง

นี่ก็ไม่ได้หมายจะให้คุณตัดเขาออกไป แต่คุณจำเป็นต้องพูดคุยกับเขาในเรื่องนี้ และหาทางประนีประนอมกัน “กำหนดความคาดหวังไว้ล่วงหน้า เพื่อที่คุณจะได้เข้าใจว่าคุณกำลังก้าวเข้าไปในอะไร” ดร.เทอร์รี่กล่าว

โปรดระลึกไว้อีกทีว่า คุณกำลังจะแต่งงานกับเขาคนเดียว ไม่ใช่ทั้งครอบครัวของเขา เพราะฉะนั้นถ้าเขายังมีพฤติกรรมแบบลูกแหง่ที่ขาดพ่อแม่พี่น้องไม่ได้เลย ก็ลืมเขาซะ ปล่อยให้เขาดูดนมแม่ต่อไปเถอะ


5. ถ้าไม่มีซู่ซ่า ก็ลืมได้เลย

เมื่อพูดถึงเรื่องของค่านิยมร่วม ก็ต้องไม่ลืมความจริงข้อสำคัญนี้ คือ มันจำเป็นต้องมีความซู่ซ่า

“ในยุคเศรษฐกิจอันไม่แน่นอนเช่นนี้ มันก็ง่ายสำหรับผู้หญิงที่จะบอกตัวเองว่า ความมั่นคงสำคัญกว่าความเสน่หา แต่คุณจำเป็นต้องมีปฏิกิริยาเคมีสำหรับทำให้ความสัมพันธ์มันได้ผล” เจนนิเฟอร์ โกเวน กล่าว

แน่ละ ถ้าคุณทั้งสองอยู่ด้วยกันมาเป็นปีๆ คุณก็ไม่จำเป็นต้องปล้ำฟัดอีกฝ่ายอย่างเร่าร้อนในทันทีที่เข้าประตูบ้าน แต่แรงกระตุ้นที่จะเปลื้องเสื้อผ้าของกันและกันออกนั้น ควรจะเกิดขึ้นเป็นครั้งคราว

“การแต่งงานที่ประสบความสำเร็จ หมายถึง การเป็นอะไรที่มากกว่าเพื่อนสนิท” ดร.เอลิซาเบธ บอก “แม้ว่าเซ็กซ์อันเยี่ยมยอดจะไม่ทำให้ปัญหาต่างๆ หมดไปก็จริงอยู่ แต่มันสามารถเป็นเบาะลดแรงกระแทกในความสัมพันธ์ของคุณทั้งสองในช่วงเวลาอันยากลำบากได้”

เพราะฉะนั้น ถ้าคุณไม่รู้สึกซู่ซ่าทางเซ็กซ์กับผู้ชายของคุณ ก็ลืมเขาได้เลยเช่นกัน


6. ฉีกปฏิทินวันแต่งงานของคุณทิ้งซะ

“ถ้าคุณสะกิดถามผู้หญิงคนหนึ่งว่า คิดจะแต่งงานเมื่ออายุเท่าไร เธอมักจะยอมรับว่ามีตัวเลขอยู่ในใจแล้ว ซึ่งนั่นก็คือ อายุที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเธอ” เจนนิเฟอร์กล่าว ไม่ว่าตัวเลขนั้นจะอยู่บนพื้นฐานของการแข่งกับเวลาในชีวิตของคุณ หรือด้วยเหตุผลอื่นๆ เช่น พี่สาวของคุณแต่งงานเมื่ออายุเท่านั้นเท่านี้ก็ตาม

ความคิดที่จะต้องแต่งงานให้ได้ตามกำหนดเวลาของคุณเช่นนี้แหละที่จะมีอิทธิพลครอบงำคุณตลอดเวลา และทำให้คุณมีความเสี่ยงสูงในการแต่งงานกับผู้ชายผิดตัว ขณะที่กำหนดวันในปฏิทินของคุณใกล้เข้ามาทุกที บางคนถึงขนาดลดสเป็คลงมาเหลือแค่ “ใครก็ได้วะที่เป็นผู้ชาย”

“เมื่อผู้หญิงรู้สึกว่าพวกเธอเลยกำหนดการเป็นเจ้าสาวที่ตั้งไว้แล้ว พวกเธอก็มีแนวโน้มว่าจะลงเอยกับผู้ชายเกือบดี” เจนนิเฟอร์บอก “พวกเธอกลัวการสูญเสียเวลาอันมีค่าไป จึงมักเลือกเอาผู้ชายใกล้มือ ซึ่งตามปกติแล้วพวกเธอจะไม่เลือก”

เพื่อให้แน่ใจว่า ความกลัวเช่นนั้นจะไม่ผลักดันการตัดสินใจของคุณ ก็ให้ถามตัวเองว่า คุณจะยังอยู่กับเขาไหม ถ้าคุณสาวกว่านี้ ถ้าคำตอบของคุณไม่หนักแน่นอย่าง “อยู่แน่นอนค่ะ” ละก็ โปรดระลึกไว้ว่า การอยากแต่งงานของคุณมันก็แค่กลัวว่าจะพลาดนาทีทอง แล้วจะต้องอยู่คานทองนิเวศตามลำพังไปตลอดชีวิต เท่านั้นเอง

ถ้าคุณปรารถนาที่อยากจะมีลูกจนตัวสั่น ก็ให้รู้ไว้ว่า การแต่งงานตามประเพณี แล้วจะทำให้พวกคุณอยู่กินกันจนแก่เฒ่านั้น มันใช้ไม่ได้ในยุคนี้แล้ว และในที่สุดลูกๆ ของคุณนั่นแหละที่น่าสงสารที่สุด เมื่อพ่อ-แม่ ของพวกเขาต้องแยกทางกัน เพราะความใจเร็วด่วนได้ของคุณเองแท้ๆ ที่ทำให้เลือกแต่งงานกับผู้ชายที่ไม่ใช่


*ท้ายแถม สำรวจความกังวลใจของคุณให้ถ่องแท้

คุณจะบอกได้ไงว่า ความกระวนกระวายใจของคุณมันเป็นแค่เรื่องประเดี๋ยวประด๋าว หรือว่าเป็นญาณทัศน์ของคุณที่กำลังพยายามบอกคุณว่าคุณกำลังตัดสินใจผิดพลาด?

จงไตร่ตรองให้ถ่องแท้เมื่อคุณเกิดความกังวลใจขึ้นมา ว่ามันเกิดขึ้นในระหว่างการพูดถึงงานแต่ง หรือในตอนที่คุณกำลังพูดถึงว่าที่เจ้าบ่าวของคุณ

“เมื่อใกล้จะถึงวันวิวาห์ การพูดถึงคู่หมั้นของคุณควรทำให้ใจของคุณสงบและมีความสุข” ดร.เอลิซาเบธ กล่าว “มันเป็นเรื่องธรรมดาที่คุณกังวลเรื่องพิธีสมรส หรืองานเลี้ยงฉลองอันเอิกเกริก ไม่ใช่กังวลเกี่ยวกับตัวเจ้าบ่าวของคุณ”

และอีกอย่าง “คุณไม่ควรถามตัวเอง หรือเพื่อนๆ ของคุณว่า “ฉันจะรู้ได้ไงว่าเขาคือ ผู้ชายที่ใช่หรือเปล่า?”

เพราะมันก็คล้ายๆ กับ orgasm นั่นแหละ ถ้าคุณไม่แน่ใจว่าบรรลุจุดสุดยอดไปแล้วหรือยัง ก็แสดงว่าคุณยังไม่ได้บรรลุหรอก

เธอเสริมว่า “ถ้าหลังจากคิดดูแล้ว คุณก็ยังไม่แน่ใจว่า เขาคือผู้ชายที่ใช่ เขาก็น่าจะไม่ใช่”

ตามกฎของเมอร์ฟี (Murphy's law) เป๊ะ

เพราะฉะนั้น VOTE NO ให้เขาไปเล้ย พี่น้องเอ๊ย!


ที่มา
manager.co.th


Create Date : 14 มิถุนายน 2554
Last Update : 14 มิถุนายน 2554 21:23:38 น. 0 comments
Counter : 13272 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

scimovie
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 108 คน [?]




แหล่งรวบรวมความรู้ โปรแกรม เพลง หนัง เกมส์ วิทยาศาสตร์ ดูละคร เรื่องย่อ ภาพยนตร์ การเงิน และอื่นๆ อีกมากมาย สุดท้ายขอกำลังใจให้มีแรงอัพเดทตลอดๆ ครับ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยียนกันครับ
Friends' blogs
[Add scimovie's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.