มิถุนายน 2560

 
 
 
 
1
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog
มิลินทปัญหา - บทที่ ๑๐ อุปมาปัญหา (๒๑. - ๔๐. )


มิลินทปัญหา - บทที่ ๑๐ อุปมาปัญหา (๒๑. - ๔๐. )

๒๑.แผ่นดิน
"แผ่นดินไม่ยินดียินร้ายกับสิ่งดี ๆหรือสิ่งสกปรกที่โยนลงไปใส่ ฉันใด ภิกษุควรมีอารมณ์คงที่ไม่หวั่นไหวไปกับคำสรรเสริญหรือนินทา         กับลาภยศและความเสื่อมลาภเสื่่อมยศ ฉันนั้น"
"แผ่นดินปราศจากเครื่องตกแต่ง แต่อวลด้วยกลิ่นของดิน ฉันใด ภิกษุพึงเป็นผู้ไม่ตกแต่งด้วยของหอม แต่หอมด้วยกลิ่นศีลของตน ฉันนั้น"
"แผ่นดินไม่อ่อนล้าแม้รองรับสรรพสิ่ง ฉันใด ภิกษุก็ไม่พึงอ่อนล้าในการให้โอวาทตักเตือนให้อุตสาหะและอาจหาญ ฉันนั้น"
"แผ่นดินไม่มุ่งร้ายหรือชมชอบสิ่งใดๆ ฉันใด ภิกษุพึงเป็นผู้พ้นจากความมุ่งร้ายและชมชอบ ฉันนั้น"
๒๒.น้ำ
"น้ำมีปรกตินิ่ง ฉันใด ภิกษุพึงเป็นผู้ปราศจากความหลอกลวง พูดบ่น เลียบเคียง และความประพฤติอันไม่งาม และคงสภาวะไม่กระเพื่อมและใสบริสุทธิ์ ฉันนั้น"
"น้ำทรงสภาพเย็นฉ่ำ ฉันใด ภิกษุพึงเป็นผู้เปี่ยมด้วยเมตตาและมีปกติอนุเคราะห์สัตว์ทั้งปวง ฉันนั้น"
"น้ำไม่เคยก่อภัยต่อผู้ใด ฉันใด ภิกษุผู้บำเพ็ญเพียร ไม่พึงทำอะไรที่จะก่อให้เกิดการทะเลาะ หรือวิวาท หรือความโกรธ หรือความไม่พอใจ ฉันนั้น ดังคำตรัสของพระผู้มีพระภาคใน กัณทชาดก
                     "ข้าแต่ท้าวสักกะผู้เป็นใหญ่กว่าภูตทั้งปวง ถ้าจะโปรดประทานพรแก่ข้าพระองค์ ข้าพระองค์ปรารถนาให้ความประพฤติตน อย่าให้มีความโกรธ อย่าให้มีโทสะ อย่าให้มีความโลภ อย่าให้มีความสิเนหา ขอได้โปรดประทานพร ๔ ประการนี้ แก่ข้าพระองค์เถิด"
๒๓.
ไฟ
“ ขอถวายพระพร ธรรมดา ไฟ ย่อมเผ่า หญ้าไม้ กิ่งไม้ ใบไม้ ฉันใด พระโยคาวจรก็ควรเผากิเลสทั้งภายนอกภายในด้วยไฟ คือญาณ ฉันนั้น อันนี้เป็นองค์ที่ ๑ แห่งไฟ"
"ธรรมดาไฟย่อมไม่มีเมตตากรุณาฉันใด พระโยคาวจรก็ไม่มี ควรมีเมตตากรุณา ในกิเลสทั้งปวงฉันนั้น อันนี้เป็นองค์ที่ ๒ แห่งไฟ"
"ธรรมดาไฟย่อมกำจัดความเย็นฉันใด พระโยคาวจรก็ควรทำให้เกิดไฟ คือความเพียรเผากิเลสทั้งปวงฉันนั้น อันนี้เป็นองค์ที่ ๓ แห่งไฟ"
"ธรรมดาไฟย่อมไม่มีความยินดียินร้ายมีแต่ทำให้เกิดความร้อนฉันใด พระโยคาวจรก็ควรมีใจเสมอด้วยไฟ ปราศจากความยินดียินร้ายฉันนั้น อันนี้เป็นองค์ที่ ๔ แห่งไฟ"
"ธรรมดาไฟย่อมกำจัดความมืด ทำให้เกิดความสว่างฉันใด พระโยคาวจรก็ควรกำจัดความมืดคืออวิชชา ทำให้เกิดความสว่าง คือญาณฉันนั้น อันนี้เป็นองค์ที่ ๕ แห่งไฟข้อนี้สมกับพระพุทธโอวาทที่ทรงสอน พระราหุล ว่า 'ดูก่อนราหุล เธอจงอบรมจิตใจให้เสมอกับไฟ เพราะเมื่อเธออบรมจิตใจให้เสมอกับไฟได้แล้ว สิ่งที่ถูกต้องอันเป็นที่พอใจและไม่พอใจ ย่อมไม่ครอบงำจิตใจได้' ดังนี้ขอถวายพระพร"
๒๔.พายุ

“ ขอถวายพระพร ธรรมดา พายุ ย่อมพัดหอบเอากลิ่นดอกไม้ที่บานแล้ว ในแนวป่าให้ฟุ้งไปฉันใด พระโยคาวจรก็ควรยินดีอยู่ในป่า อันมีดอกไม้คือวิมุตติเป็นอารมณ์ฉันนั้นอันนี้เป็นองค์ที่ ๑ แห่งพายุ"
"ธรรมดาพายุ ย่อมพัดหมุนหมู่ไม้ทั้งปวงให้พินาศฉันใด พระโยคาวจรก็ควรพิจารณาสังขารอยู่ในป่า ขยี้กิเลสทั้งหลายให้แหลกราญฉันนั้น อันนี้เป็นองค์ที่ ๒ แห่งพายุ"
"ธรรมดาพายุ ย่อมเที่ยวไปในอากาศฉันใด พระโยคาวจรก็ควรให้ใจเที่ยวไปในโลกุตตรธรรมฉันนั้น อันนั้นเป็นองค์ที่ ๓ แห่งพายุ"
"ธรรมดาพายุ ย่อมได้เสวยกลิ่นหอมฉันใด พระโยคาวจรก็ควรเสวยกลิ่นหอม คือศีลอันประเสริฐของตนฉันนั้น อันนี้เป็นองค์ที่ ๔ แห่งพายุ"
"ธรรมดาพายุย่อมพัดเรื่อยไป ไม่ห่วงใยเสียดายสิ่งใดฉันใด พระโยคาวจรก็ไม่ควรห่วงใยต่อสิ่งทั้งปวงฉันนั้น อันนี้เป็นองค์ที่ ๕ แห่งพายุข้อนี้สมกับพุทธภาษิต ที่องค์สมเด็จธรรมสามิสร์ตรัสไว้ใน สุตตนิบาต ว่า 'ภัยย่อมเกิดจากตัณหา ธุลีย่อมเกิดจากอาลัย ความไม่มีอาลัย ไม่มีตัณหา เป็นความเห็นของมุนี' ดังนี้ ขอถวายพระพร”
๒๕.ภูเขา
“ ขอถวายพระพร ธรรมดา ภูเขา ย่อมไม่หวั่นไหวฉันใด พระโยคาวจรก็ไม่ควรหวั่นไหว ในสิ่งที่น่ายินดียินร้ายฉันนั้น อันนี้เป็นองค์ที่ ๑ แห่งภูเขาข้อนี้สมกับพระพุทธพจน์ว่า 'ภูเขาศิลาแท่งทึบ ย่อมไม่ไหวด้วยลมฉันใด บัณฑิตทั้งหลายก็ไม่ไหวด้วยนินทาสรรเสริญฉันนั้น' ดังนี้"
"ธรรมดาภูเขาย่อมเป็นของแข็ง ไม่ระคนกับสิ่งใดฉันใด พระโยคาวจรก็ควรมีใจเข้มแข็งในสิ่งทั้งปวง ไม่คลุกคลีกับกิเลสใดๆ ฉันนั้น อันนี้เป็นองค์ที่ ๒ แห่งภูเขาข้อนี้สมกับพระพุทธพจน์ว่า 'ผู้ที่ไม่คลุกคลีกับคฤหัสถ์บรรพชิตไม่มีความห่วงใย มีแต่ความมักน้อย เราเรียกว่า พราหมณ์' ดังนี้"
"ธรรมดาภูเขาศิลาย่อมไม่มีพืชพรรณงอกขึ้นได้ฉันใด พระโยคาวจรก็ไม่ควรให้กิเลสงอกขึ้นในใจของตนฉันนั้น อันนี้เป็นองค์ที่ ๓ แห่งภูเขา ข้อนี้สมกับคำของ พระสุภูติเถระ ว่า 'เวลาที่จิตประกอบด้วย ราคะ โทสะ โมหะ เกิดขึ้นแก่เรา เราก็พิจารณาอยู่ผู้เดียว เราไม่มีราคะ โทสะ โมหะ ในสิ่งที่น่าเกิดราคะ โทสะ โมหะ เราสอนตัวเราเองว่าถ้าท่านเกิดราคะ โทสะ โมหะ ก็จงออกไปจากป่า เพราะที่ป่านี้เป็นที่อยู่ของผู้บริสุทธิ์ ผู้ไม่มีมลทิน ผู้มีตบะ ท่านอย่าทำลายที่อันบริสุทธิ์ ท่านจงออกไปจากป่า' ดังนี้"
"ธรรมดาภูเขาย่อมเป็นของสูงฉันใด พระโยคาวจรก็ควรเป็นผู้สูงด้วยญาณฉันนั้น อันนี้เป็นองค์ที่ ๔ แห่งภูเขาข้อนี้สมกับพระพุทธพจน์ว่า 'เมื่อใดบัณฑิตกำจัดความประมาทด้วยความไม่ประมาทได้แล้ว ขึ้นสู่ปราสาทคือปัญญา เมื่อนั้นท่านก็ไม่มีความเศร้าโศกได้เล็งเห็นผู้เศร้าโศก เหมือนกับผู้อยู่บนเขาแลเห็นคนผู้อยู่ข้างล่างฉะนั้น' "
"ธรรมดาภูเขาย่อมไม่ฟูขึ้นยุบลงฉันใด พระโยคาวจรก็ไม่ควรฟูขึ้นและยุบลงฉันนั้น อันนี้เป็นองค์ที่ ๕ แห่งภูเขา ข้อนี้สมกับคำของอุบาสิกาจูฬสุภัททา ว่า 'พระสมณะทั้งหลายของเรา ย่อมไม่ฟูขึ้นยุบลง ด้วยความมีลาภและความไม่มีลาภเหมือนกับคนอื่นๆ' ดังนี้ ขอถวายพระพร ”
๒๖.อากาศ
“ ขอถวายพระพร ธรรมดา อากาศ ไม่มีใครจับถือเอาได้ฉันใด พระโยคาวจรก็ไม่ควรให้กิเลสยึดถือฉันนั้น อันนี้เป็นองค์ ๑ แห่งอากาศ"
ธรรมดาอากาศ ย่อมเป็นที่เที่ยวไปแห่ง ฤาษี ดาบส ภูต สัตว์มีปีก ฉันใด พระโยคาวจรก็ควรให้ใจสัญจรไปในสังขารทั้งหลายว่าเป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ฉันนั้น อันนี้เป็นองค์ที่ ๒ แห่งอากาศ"
"ธรรมดาอากาศ ย่อมเป็นที่เกิดแห่งความสะดุ้งกลัวฉันใด พระโยคาวจรก็ควรทำให้ใจสะดุ้งกลัวต่อการเกิดในภพทั้งปวงฉันนั้น อันนี้เป็นองค์ที่ ๓ แห่งอากาศ"
"ธรรมดาอากาศ ย่อมไม่มีที่สุด ไม่มีประมาณฉันใด พระโยคาวจรก็ควรเป็นผู้มีสีลาจาวัตร ไม่มีที่สิ้นสุด ไม่มีปริมาณฉันนั้น อันนี้เป็นองค์ที่ ๔ แห่งอากาศ"
"ธรรมดาอากาศ ย่อมไม่ติด ไม่ข้อง ไม่ตั้ง ไม่พัวพันอยู่ในสิ่งใดฉันใด พระโยคาวจรก็ไม่ควรข้อง ไม่ควรติด ไม่ควรตั้งอยู่ ไม่ควรผูกพันอยู่ในตระกูล หมู่คณะ ลาภ อาวาส เครื่องกังวล ปัจจัย และกิเลสทั้งปวงฉันนั้น อันนี้เป็นองค์ที่ ๕ แห่งอากาศข้อนี้สมกับที่ทรงสอน พระราหุล ไว้ว่า 'ดูก่อนราหุล อากาศย่อมไม่ตั้งอยู่ในที่ใดได้ฉันใด เธอจงอบรมจิตใจให้เสมอกับอากาศฉันนั้น เพราะเมื่อเธออบรมจิตใจให้เสมอกับอากาศได้แล้ว อารมณ์ที่มากระทบอันเป็นที่พอใจและไม่พอใจ ย่อมไม่ครอบงำจิตใจได้' ดังนี้ ขอถวายพระพร ”
๒๗.ดวงจันทร์
"ดวงจันทร์ข้างขึ้นเจริญขึ้นทุกวัน ฉันใด ภิกษุพึงเจริญยิ่ง ๆขึ้นไปในธรรมทุกวัน ฉันนั้น"
๒๘.พระอาทิตย์
“ ขอถวายพระพร ธรรมดา ดวงอาทิตย์ ย่อมทำพืชทั้งปวงให้เหี่ยวแห้งฉันใด พระโยคาวจรก็ควรทำกิเลสทั้งปวงให้แห้งฉันนั้น อันนี้เป็นองค์ที่ ๑ แห่งดวงอาทิตย์"
"ธรรมดาดวงอาทิตย์ ย่อมกำจัดมืดฉันใด พระโยคาวจรก็ควรกำจัดความมืดทั้งปวง คือราคะ โทสะ โมหะ มานะ ทิฏฐิ กิเลส ทุจริต ฉันนั้น อันนี้เป็นองค์ที่ ๒ แห่งดวงอาทิตย์"
"ธรรมดาดวงอาทิตย์ ย่อมเที่ยวไปเนืองๆ ฉันใด พระโยคาวจรก็ควรกระทำโยนิโสมนสิการเนืองๆ ฉันนั้น อันนี้เป็นองค์ที่ ๓ แห่งดวงอาทิตย์"
"ธรรมดาดวงอาทิตย์ ย่อมมีรัศมีเป็นมาลา (ระเบียบ) ฉันใด พระโยคาวจรก็ควรมีรัศมีคืออารมณ์เป็นมาลาฉันนั้น อันนี้เป็นองค์ที่ ๔ แห่งดวงอาทิตย์"
"ธรรมดาดวงอาทิตย์ ย่อมทำให้หมู่มหาชนร้อนฉันใด พระโยคาวจรก็ควรทำให้โลกนี้กับทั้งเทวโลกร้อนด้วยอาจารคุณ ศีลคุณ ข้อวัตรปฏิบัติ ฌาน วิโมกข์ สมาธิ สมาบัติ อินทรีย์ พละ โพชฌงค์ สติปัฏฐาน สัมมัปปธาน อิทธิบาท อันนี้เป็นองค์ที่ ๕ แห่งดวงอาทิตย์"
"ธรรมดาดวงอาทิตย์ ย่อมกลัวภัย คือราหูฉันใด พระโยคาวจรได้เห็นบุคคลทั้งหลายที่รกรุงรังไปด้วยทุจริต และทุคติ สวมด้วยเครื่องขนานคือทิฏฐิ เดินไปผิดทาง ก็ควรทำให้ใจสลดด้วยความกลัวสังเวช อันนี้เป็นองค์ที่ ๖ แห่งดวงอาทิตย์"
"ธรรมดาดวงอาทิตย์ ย่อมทำให้เห็นของดีของเลวฉันใด พระโยคาวจรก็ควรทำตนให้เห็น โลกิยธรรม โลกุตตรธรรม ด้วยอินทรีย์ พละ โพชฌงค์ สติปัฏฐาน สัมมัปปธาน อิทธิบาท ฉันนั้น อันนี้เป็นองค์ที่ ๗ แห่งดวงอาทิตย์ ข้อนี้สมกับคำของ พระวังคีสเถระ ว่า 'เมื่อดวงอาทิตย์ตั้งขึ้น ย่อมทำให้เห็นสิ่งต่างๆ ทั้งสะอาดไม่สะอาด ดีเลว ฉันใด พระภิกษุผู้ทรงธรรม ก็ทำให้หมู่ชนอันถูกอวิชชาปกปิดไว้ ให้ได้เห็นทางธรรมต่างๆ เหมือนกับดวงอาทิตย์ที่ตั้งขึ้นมาฉันนั้น' ดังนี้ ขอถวายพระพร ”
๒๙.ท้าวสักกะ
“ ขอถวายพระพร ธรรมดา ท้าวสักกะ ย่อมเพียบพร้อมด้วยสุขอย่างเดียวฉันใด พระโยคาวจรก็ควรยินดีในสุข อันเกิดจากวิเวกอย่างเยี่ยมฝ่ายเดียวกันฉันนั้น อันนี้เป็นองค์ที่ ๑ แห่งท้าวสักกะ"
"ธรรมดาท้าวสักกะ ผู้เป็นจอมเทพทั้งหลาย ได้เห็นเทพยเจ้าทั้งหลายแล้วก็ทำให้เกิดความร่าเริงฉันใด พระโยคาวจรก็ควรทำใจให้เกิดความร่าเริงไม่หดหู่ ไม่เกียจคร้านในกุศลธรรมทั้งหลายฉันนั้น อันนี้เป็นองค์ที่ ๒ แห่งท้าวสักกะ"
"ธรรมดาท้าวสักกะ ย่อมไม่เกิดความเบื่อหน่าย ไม่เกิดความรำคาญฉันใด พระโยคาวจรก็ไม่ควรให้เกิดความเบื่อหน่ายในสิ่งที่สงัดฉันนั้น อันนี้เป็นองค์ที่ ๓ แห่งท้าวสักกะ ข้อนี้สมกับคำของ พระสุภูติเถระ ว่า 'ข้าแต่มหาวีรเจ้า นับแต่ข้าพระองค์ได้บรรพชาในศาสนาของพระองค์ ย่อมไม่รู้สึกว่า มีสัญญาสักอย่างเดียว อันเกี่ยวกับกามารมณ์เกิดขึ้นแก่ข้าพระองค์เลย' ดังนี้ ขอถวายพระพร ”
๓๐.พระเจ้าจักรพรรดิ
"พระเจ้าจักรพรรดิ์ทรงยึดเหนี่ยวน้ำใจของประชาชนด้วยสังคหวัตถุ๔(ทาน ปิยวาจา อัตถจริยา และสมานัตตตา ฉันใด ภิกษุพึงสงเคราะห์บริษัท๔ ฉันนั้น"
"พระเจ้าจักรพรรดิ์เสด็จดำเนินไปทั่วแผ่นดินเพื่อตรวจตราสิ่งที่ดีและสิ่งที่ไม่ดีฉันใด ภิกษุพึงตรวจตรา มโนกรรม วจีกรรมและกายกรรมของตนอย่างถี่ถ้วน ฉันนั้น"
๓๑.ปลวก
“ ขอถวายพระพร ธรรมดา ปลวก ย่อมทำหลังคาปิดตัวเองแล้วอาศัยอยู่ฉันใด พระโยคาวจรก็ควรทำหลังคา คือศีลสังวรปิดใจของตนอยู่ฉันนั้น เพราะเมื่อปิดใจของตนด้วยศีลสังวรแล้ว ย่อมล่วงพ้นภัยทั้งปวงได้ อันนี้เป็นองค์ ๑ แห่งปลวก ข้อนี้สมกับคำของ พระอุปเสนเถระ ว่า 'พระโยคีกระทำเครื่องมุงใจ คือศีลสังวรแล้ว ไม่ติดอยู่ในอะไร ย่อมพ้นจากภัยได้' ดังนี้ ขอถวายพระพร"
๓๒.แมว
“ ขอถวายพระพร ธรรมดา แมว เวลาไปที่ถ้ำหรือที่ซอก ที่รู ที่โพรง ที่ระหว่างถ้ำก็ดีก็แสวงหาแต่หนูฉันใด พระโยคาวจรผู้ไปอยู่ที่บ้าน ที่ป่า หรือที่โค่นต้นไม้ ที่แจ้ง ที่ว่าง บ้านเรือน ก็ไม่ควรประมาท ควรแสวงหาโภชนะ คือกายคตาสติ ฉันนั้น อันนี้เป็นองค์ที่ ๑ แห่งแมว"
"ธรรมดาแมว ย่อมแสวงหาอาหารในที่ใกล้ๆ ฉันใด พระโยคาวจรก็ควรพิจารณาขันธ์ ๕ ว่า รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ มีความตั้งขึ้นและเสื่อมไปเป็นธรรมดา ข้อนี้สมกับพระพุทธพจน์ว่า 'ไม่ต้องกล่าวไปให้ไกลแต่นี้นัก ภวัคคพรหม (พรหมชั้นสูงสุด) จักทำอะไรได้ ควรเบื่อหน่ายเฉพาะในกายของตน อันมีอยู่ในปัจจุบันนี้แหละ' ดังนี้ ขอถวายพระพร ”
๓๓.หนู
“ ขอถวายพระพร ธรรมดา หนู ย่อมเที่ยวหาอาหารข้างโน้นข้างนี้ฉันใด พระโยคาวจรเมื่อเที่ยวไปข้างโน้นข้างนี้ ก็ควรแสวงหาโยนิโสมนสิการฉันนั้น อันนี้เป็นองค์ ๑ แห่งหนู ข้อนี้สมกับคำของ พระอุปเสนเถระ ว่า 'ผู้แสวงหาธรรม ผู้เห็นธรรมต่างๆ ผู้ไม่ย่อท้อ ผู้สงบ ย่อมมีสติอยู่ทุกเมื่อ' ดังนี้ ขอถวายพระพร”
๓๔.แมงป่อง
“ ขอถวายพระพร ธรรมดา แมงป่อง ย่อมมีหางเป็นอาวุธ ย่อมชูหางของตนเที่ยวไปฉันใด พระโยคาวจรก็ควรมีญาณเป็นอาวุธ ควรชูญาณฉันนั้น อันนี้เป็นองค์ ๑ แห่งแมงป่อง ข้อนี้สมกับคำของ พระอุปเสนเถระ ว่า 'ภิกษุผู้ถือเอาพระขรรค์ คือญาณ ผู้เห็นธรรมด้วยอาการต่างๆ ย่อมพ้นจากภัยทั้งปวง ภิกษุนั้นย่อมอดทนสิ่งที่ทนได้ยากในโลก' ดังนี้ ขอถวายพระพร ”
๓๕.พังพอน
"พังพอนใช้ยาถอนพิษป้องกันตัวก่อนจะเข้าใกล้งู ฉันใด ภิกษุพึงใช้เมตตาชะโลมจิตก่อนจะเข้าใกล้ชาวโลกผู้มากด้วยความโกรธและมุ่งร้าย การวิวาทและความเป็นปรปักษ์กัน ฉันนั้น"
๓๖.สุนัขจิ้งจอก 
“ ขอถวายพระพร ธรรมดา สุนัขจิ้งจอก ได้โภชนะแล้วย่อมไม่เกลียดชัง ย่อมกินพอความประสงค์ฉันใด พระโยคาจรได้โภชนะแล้ว ก็ไม่ควรเกลียดชัง ไม่ว่าชนิดไหนควรฉันพอให้ร่างกายเป็นไปได้ฉันนั้น อันนี้เป็นองค์ที่ ๑ แห่งสุนัขจิ้งจอก ข้อนี้สมกับคำของ พระมหากัสสปเถระ ว่า 'เวลาเราออกจากเสนาสนะเข้าไปบิณฑบาต ถึงบุรุษโรคเรื้อนที่กำลังกินข้าวอยู่กำเอาคำข้าวด้วยมือเป็นโรคเรื้อนมาใส่บาตรให้เรา เราก็นำไปฉัน ไม่เกลียดชังอย่างไร' ดังนี้"
"ธรรมดาสุนัขจิ้งจอกได้โภชนะแล้ว ย่อมไม่เลือกว่าเลวดีอย่างไรฉันใด พระโยคาวจรได้โภชนะแล้ว ก็ไม่เลือกว่าเลวดี ยินดีตามที่ได้ฉันนั้น อันนี้เป็นองค์ที่ ๒ แห่งสุนัขจิ้งจอก ข้อนี้สมกับคำของ พระอุปเสนเถระ ว่า 'บุคคลควรยินดีแม้ด้วยของเลว ไม่ควรปรารถนาอย่างอื่น ใจของผู้ข้องอยู่ในรสทั้งหลาย ย่อมไม่ยินดีในฌาน ความสันโดษตามมีตามได้ ย่อมทำให้เป็นสมณะบริบูรณ์' ดังนี้ ขอถวายพระพร ”
๓๗.เนื้อในป่า 
“ ขอถวายพระพร ธรรมดา เนื้อในป่า ย่อมเที่ยวไปในป่า ในเวลากลางคืน ในที่แจ้งฉันใด พระโยคาวจรก็ควรอยู่ในป่าในเวลากลางวัน ส่วนในเวลากลางคืนควรอยู่ในที่แจ้งอันนี้เป็นองค์ที่ ๑ แห่งเนื้อในป่า ข้อนี้สมกับพระพุทธพจน์ว่า 'ดูก่อนสารีบุตร เราย่อมอยู่ในที่แจ้งเวลากลางคืนหน้าหนาว ส่วนกลางวันอยู่ในป่า สำหรับเดือนสุดท้ายแห่งฤดูร้อน เวลากลางวันเราอยู่ในที่แจ้ง เวลากลางคืนเราอยู่ในป่า' "
"ธรรมดาเนื้อในป่า ย่อมรู้จักหลบหลีกลูกศรฉันใด พระโยคาวจรก็ควรรู้จักหลบหลีกกิเลสฉันนั้น อันนี้เป็นองค์ที่ ๒ แห่งเนื้อในป่า"
"ธรรมดาเนื้อในป่า ได้เห็นมนุษย์แล้วย่อมวิ่งหนี ด้วยคิดว่าอย่าให้มนุษย์ได้เห็นเราฉันใด พระโยคาวจรได้เห็นพวกทุศีล พวกเกียจคร้าน พวกยินดีในหมู่คณะ ก็ควรหนีไปด้วยคิดว่า อย่าให้พวกนี้ได้เห็นเรา อย่าให้เราได้เห็นพวกนี้ อันนี้เป็นองค์ที่ ๓ แห่งเนื้อในป่า ข้อนี้สมกับคำอัน พระสารีบุตรเถระ กล่าวไว้ว่า 'เรานึกว่าคนมีความต้องการในทางลามก คนเกียจคร้าน คนท้อถอย คนสดับน้อย คนประพฤติไม่ดี คนไม่สงบ อย่าได้พบเห็นเราเลย' ดังนี้ ขอถวายพระพร ”
๓๘.โค
“ ขอถวายพระพร ธรรมดา โค ย่อมไม่ทิ้งคอกของตนฉันใด พระโยคาวจรก็ไม่ควรทิ้งโอกาสของตนฉันนั้น คือไม่ควรทิ้งซึ่งการนึกว่า กายนี้มีการขัดสีอบรมอยู่เป็นนิจมีการแตกกระจัดกระจายไปเป็นธรรมดา อันนี้เป็นองค์ที่ ๑ แห่งโค"
"ธรรมดาโคย่อมถือเอาแอก ย่อมนำแอกไปด้วยความสุขและความทุกข์ฉันใด พระโยคาวจรก็ควรประพฤติพรหมจรรย์ให้บริสุทธิ์บริบูรณ์จนตลอดชีวิต ด้วยการสู้สุขสู้ทุกข์ฉันนั้น อันนี้เป็นองค์ที่ ๒ แห่งโค"
"ธรรมดาโคย่อมเต็มใจดื่มน้ำฉันใด พระโยคาวจรก็ควรเต็มใจฟังคำสั่งสอนของพระอุปัชฌาย์ฉันนั้น อันนี้เป็นองค์ที่ ๓ แห่งโค"
"ธรรมดาโคเมื่อเจ้าของฝึกหัดให้ทำอย่างไรย่อมทำตามทุกอย่างฉันใด พระโยคาวจรก็ควรยินดีรับคำสอนของภิกษุด้วยกัน หรือของอุบาสกชาวบ้านฉันนั้น อันนี้เป็นองค์ที่ ๔ แห่งโค ข้อนี้สมกับคำของ พระสารีบุตรเถระ ว่า 'ถึงผู้บวชในวันนั้นมีอายุเพียง ๗ ขวบสอนเราก็ตาม เราก็ยินดีรับคำสอน เราได้เห็นผู้นั้น ก็ปลูกความพอใจ ความรักอย่างแรงกล้า ยินดีนอบน้อมว่าเป็นอาจารย์แล้วแสดงความเคารพเนืองๆ' ดังนี้ ”
๓๙.สุกร
“ ขอถวายพระพร ธรรมดา สุกร ย่อมชอบนอนแช่น้ำในฤดูร้อนฉันใด พระโยคาวจรก็ควรอบรมเมตตาภาวนาอันเย็นดี ในเวลาจิตเร่าร้อนตื่นเต้นฉันนั้น อันนี้เป็นองค์ที่ ๑ แห่งสุกร"
"ธรรมดาสุกรย่อมขุดดินด้วยจมูกของตน ทำให้เป็นรางน้ำในที่มีน้ำ แล้วนอนแช่อยู่ในรางฉันใด พระโยคาวจรก็ควรพิจารณากายไว้แล้วฝังอารมณ์ให้นอนอยู่ภายในใจฉันนั้น อันนี้เป็นองค์ที่ ๒ แห่งสุกร ข้อนี้สมกับคำของ พระปิณโฑลภารทวาชเถระ ว่า 'ภิกษุผู้เล็งเห็นสภาพแห่งกายแล้ว ควรหลีกออกจากหมู่อยู่แต่ผู้เดียว แล้วนอนอยู่ในภายในอารมณ์' ดังนี้ ขอถวายพระพร ”
๔๐.ช้าง
"ช้างหันทั้งตัวเมือจะมองข้างหลัง ฉันใด ภิกษุพึงหันทั้งตัวเมื่อจะมองข้างหลัง ควบคุมสายตาให้มองตรง ไม่พึงเหลียวทางโน้นที ทางนี้ที ฉันนั้น"
"ช้างย่างเหยียบอย่างระมัดระวัง ฉันใด ภิกษุพึงมีสติและสัมปชัญญะในการย่างก้าว ฉันนั้น"


ที่มา: หนังสือมิลินทปัญหา - กษัตริย์กรีกถาม พระเถระตอบ โดย นวพร เรืองสกุลถอดความเป็นภาษาไทย

หมายเหตุ: เนื่องจากหนังสือมิลินทปัญหานี้อธิบายอุปมาเนื้อหาเป็นบางข้อ ฉะนั้น ข้อ ๒๓-๒๖, ๒๘-๒๙, ๓๑-๓๔, ๓๖-๓๙ข้าพเจ้าจึงคัดลอกมาจากเวป http://tripitaka-online.blogspot.com/2016/05/ml034.html และ //tripitaka-online.blogspot.com/2016/05/ml035.html



Create Date : 16 มิถุนายน 2560
Last Update : 18 มิถุนายน 2560 18:59:35 น.
Counter : 854 Pageviews.

2 comments
  
อรุณสวัสดิ์ครับ.... ดีใจมาก ที่ต่างเป็นลูกศิษย์ พระอาจารย์หลวงพ่อ
วิริยังค์ ด้วยกัน...
โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 17 มิถุนายน 2560 เวลา:5:38:32 น.
  
สวัสดีค่ะ ยินดีเช่นเดียวกันค่ะ คุณไวน์กับสายน้ำ
โดย: Ineverdie วันที่: 17 มิถุนายน 2560 เวลา:13:32:29 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Ineverdie
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



New Comments