มิถุนายน 2560

 
 
 
 
1
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog
มิลินทปัญหา - บทที่ ๔ อายตนะ (ข้อ ๑.-ข้อ ๘.)


มิลินทปัญหา - บทที่ ๔ อายตนะ (ข้อ ๑. - ข้อ ๘.)

     ๑. "อายตนะ ๕ เกิดมาจากกรรมที่ต่างกันหรือจากกรรมเดียวกัน"
         "จากกรรมต่าง ๆ กัน ขอถวายพระพร"
         "อาราธนาพระคุณเจ้าแสดงตัวอย่าง"
         "ถ้าพระองค์หว่านเมล็ดพืช ๕ ชนิดลงไปในไร่ ผลผลิตที่ได้ย่อมมี ๕ ชนิด"
     ๒. "เหตุใดมนุษย์ทุกคนจึงไม่เสมอเหมือนกัน บางคนอายุสั้น บางคนอายุยืน บางคนขี้โรค บางคนสุขภาพดี บางคนขี้ริ้ว บางคนงาม บางคนมีอำนาจ นางคนไร้อำนาจ บางคนจน บางคนรวย บางคนเกิดในตระกูลต่ำ บางคนเกิดในตระกูลสูง บางคนโง่ บางคนฉลาด"
         "เหตุใดต้นไม้ทุกชนิดไม่เหมือนกันเล่า"
         "เพราะว่ามาจาเมล็ดพันธุ์ที่ต่างกัน"
         "ฉันใดฉันนั้น ขอถวายพระพร เพราะว่ากรรมต่างกัน สัตว์ทั้งหลายจึงไม่เสมอเหมือนกัน ดังที่พระผู้มีพระภาคตรัสไว้ว่า 'สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของตน เป็นทายาทแห่งกรรม มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย กรรมย่อมจำแนกสัตว์ให้เลวและประณีตได้"
     ๓. "พระคุณเจ้ากล่าวว่าท่านออกบวชเพื่อทำทุกข์นี้ให้สิ้นไปและทุกข์ใหม่ไม่เกิดขึ้นอีก สิ่งนี้เกิดขึ้นเพราะความเพียรในอดีต หรือที่จะต้องเพียรนับจากปัจจุบันนี้ไป"
          "ความเพียรเวลานี้คือทำกิจที่ยังเหลืออยุ่ ความเพียรในอดีตได้ทำไปแล้วตามที่พึงทำ"
          "อาราธนาพระคุณเจ้าแสดงตัวอย่าง"
         "เมื่อข้าศึกล้อมพระองค์อยู่ เมื่อนั้นพระองค์จึงมีรับสั่งขุดคูคลอง ก่อเชิงหินสร้างหอระวังภัยกับป้อมปราการ และรวบรวมเสบียงอาหารหรือ"
          "ไม่เช่นนั้นอย่างแน่นอน พระคุณเจ้า"
         "ฉันใดก็ฉันนั้น ความเพียรพยายามในปัจจุบันคือทำกิจที่เหลืออยู่ที่พึงทำ ความพยายามในอดีตได้ทำไปแล้วตามที่พึงทำ"
     ๔. "พระคุณเจ้ากล่าวว่า ไฟนรกอาจทำให้ก้อนหินแม้โตขนาดเท่าบ้านย่อยยับไปได้ แต่พระคุณเจ้าก็ได้กล่าวด้วยว่าสัตว์นรกที่อุบัติอยู่ในนรก ถึงแม้จะถูกเผาเป็นเวลาแสน ๆปี ก็ไม่ย่อยยับไป ข้าพเจ้าจะเชือได้อย่างไร"
         "แม้ว่าอาหาร กระดูก และกระทั่งก้อนกรวดที่สัตว์เพศเมียกินเข้าไป ย่อยยับไปในท้อง กระนั้นตัวอ่อนในครรภ์ก็ไม่ได้ย่อยยับไปด้วย ฉันใด ก็ฉันนั้น สัตว์ในนรกไม่ถูกทำลายย่อยยับก็ด้วยอาศัยกรรมของตน"
     ๕. "ท่านกล่าวว่าโลกตั้งอยู่บนน้ำ น้ำตั้งอยู่บนลม ลมตั้งอยู่บนอากาศ ข้อนี้ข้าพเจ้าก็ไม่เชื่อ
         พระเถระได้แสดงให้พระเจ้ามิลินท์เห็นน้ำในหม้อกรองน้ำ ที่แรงดันของลมรองรับไว้ พระเจ้ามิลินท์จึงเชื่อ
     ๖. "นิโรธคือนิพพานหรือ"
         "ถูกต้องแล้ว ขอถวายพระพร ปุถุชนผู้โง่เขลาเพลิดเพลิน ชื่นชม และยึดติดในอายตนะภายในและอายตนะภายนอก ดังนั้นพวกเขาจึงถูกกระแสโลกีย์พัดพาไปและไม่พ้นไปจากความเกิดและความทุกข์ได้ อย่างไรก็ตาม อริยสาวกไม่ชื่นชมในสิ่งเหล่านั้น ตัณหาย่อมดับไป เมื่อตัณหาดับ อุปาทานก็ดับ ภพดับ ชาติ ชรา มรณะ โศก ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส และอุปายาสก็ดับไปด้วย เช่นนี้แหล่ะที่นิโรธ คือนิพพาน"
     ๗. "ใคร ๆก็อาจบรรลุถึงพระนิพพานหรือ"
          "หามิได้ ขอถวายพระพร แต่ใครก็ตามที่ปฏิบัติชอบ รู้ธรรมที่ควรรู้ยิ่ง กำหนดรู้ธรรมที่ควรกำหนดรู้ ละธรรมที่ควรละ เจริญธรรมที่ควรเจริญ และกระทำให้แจ้งซึ่งธรรมที่ควรกระทำให้แจ้ง ย่อมบรรลุถึงพระนิพพาน"
     ๘. "ผู้ที่ไม่ได้พระนิพพาน จะรู้หรือไม่ว่าพระนิพพานเป็นบรมสุข"
         "รู้ได้ ขอถวายพระพร เปรียบเหมือนคนที่ไม่ถูกตัดมือตัดเท้ารู้ถึงความเจ็บปวดทรมานจากเสียงร้องของคนที่ถูกตัดมือตัดเท้า ฉันใด ผู้ที่ยังไม่ได้บรรลุถึงนิพพานก็ย่อมรู้ว่านิพพานเป็นบรมสุขจากการได้ยินคำสรรเสริญของผู้ที่ได้แล้ว ฉันนั้น"


ที่มา: หนังสือมิลินทปัญหา - กษัตริย์กรีกถาม พระเถระตอบ โดย นวพร เรืองสกุลถอดความเป็นภาษาไทย



Create Date : 15 มิถุนายน 2560
Last Update : 15 มิถุนายน 2560 12:15:26 น.
Counter : 588 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Ineverdie
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



New Comments