Case Study: ดรีมทีม (ประเทศไทย)
การเรียนการสอนในระดับบัณฑิตศึกษา โดยเฉพาะ MBA ในวิชาการบริหารกลยุทธ หรือ การจัดการกลยุทธ ซึ่งในโลกของความเป็นจริงจะมีความแตกแต่งจากชั้นเรียนเป็นอย่างมาก การที่จะทำให้ นศ.MBA ได้เรียนรู้และสร้างคุณค่าทางปัญญาจากผู้สอนที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่สูงถือเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ แต่การลงมือปฏิบัติในสภาพจริงของธุรกิจโดยการศึกษา และวิเคราะห์ หรือ ดูงาน ก็มีส่วนสำคัญเช่นเดียวกัน สำหรับ การวิเคราะห์ธุรกิจ จาก Case Study ของ นศ.ในอันดับต่อมา ครับ ลองรับฟังและรับชม (สามารถให้ความเห็นได้อย่างอิสระ) ดร.ดนัย เทียนพุฒ Dr.Danai Thieanphut Managing Director DNTConsultants *************************************************** Case Study : บริษัท ดรีมทีม (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โดยนศ..ภิญโญ ธีระสว่างกูล ธุรกิจดรีมทีม คือ ธุรกิจที่มุ่งมั่นผลประโยชน์อันสูงเด่นให้กับท่านสมาชิก และผู้บริโภค ด้วยการคัดเลือกผลิตภัณฑ์ชั้นนำ คุณภาพเป็นเลิศจากทั่วโลก มาตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้า
บริษัท ดรีมทีม (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2549 ดำเนินธุรกิจแบบเครื่อข่ายที่มั่นคงโปร่งใส เพื่อขับเคลื่อนคุณภาพสินค้าชั้นนำมาตรฐานระดับโลกจากมือสมาชิกสู่ผู้บริโภค โดยตรงเปิดช่องทางแห่งการสร้างรายได้ในอนาคตอันมั่งคงแด่หมู่มวลสมาชิกจากทั่วทุกหนแห่งโดยเท่าเทียมกัน และหัวใจที่สำคัญที่ก่อให้เกิดองค์กรอันเลิศเช่นนี้คือ คณะผู้บริหารที่เปี่ยมไปด้วยประสบการณ์ ความสมารถและวิสัยทัศน์อันกว้างไกล วิสัยทัศน์ (Vision) สร้างทีมในอุดมคติ เพื่อที่จะให้ทีมนี้เป็นทีมที่ใครๆอยากที่จะเข้ามาร่วมงาน
ภารกิจ (Mission) 1. สรรหาสมาชิกเข้าร่วมธุรกิจ 2. แนะนำระบบเครื่องข่ายที่เข้มแข็ง (MLM) 3. แนะนำแผนการตลาดธุรกิจที่ทำง่ายได้ผลตอบแทนเร็ว 4. จัดหาผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด เพื่อตอบสนองผู้บริโภคและกลุ่มสมาชิก 5. สร้างรายได้ และมั่นคงให้กลุ่มสมาชิก 6. ปลูกจิตสำนึกและตอบแทนสังคม 2. การวิเคราะห์ธุรกิจด้วยกรอบแนวคิดพลังทั้ง 5 ของ ไมเคิล อี. พอร์เตอร์(The Five Forces Model) 1. การแข่งขันภายในอุตสาหกรรม (Existing Competitors) ธุรกิจ MLM ในปัจจุบันมีการแข่งขันกันในระดับที่สูงและแต่และธุรกิจจะมีกลุ่มลูกค้าใกล้เคียงกัน ซึ่งทำให้ตลาดส่วนแบ่งมีการแชร์กันออกไป ธุรกิจที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกันจำเป็นต้องหาจุดขายและแผนกลยุทธ์ต่างๆ มาใช้ในการนำเสนอ 2. คู่แข่งขันรายใหม่ (New Entrants) ปัจจุบันธุรกิจระบบเครือข่ายมีผู้ร่วมประกอบการเข้ามาในระบบธุรกิจอยู่ตลอดเวลา และจะมีผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างมาเป็นตัวจุดขาย เพื่อเปิดใจลูกค้าและใช้ในการปิดการขาย ผู้ประกอบธุรกิจที่อยู่ในระบบอยู่แล้วจำเป็นต้องพัฒนาศักภาพและปรับระบบการขาย การตลาดให้มีจุดขายที่ต่างจากคู่แข่งขันอยู่เสมอเพื่อรักษาตลาดและกลุ่มลูกค้าเก่าพร้อมทั้งต้องสรรหากลุ่มลูกค้าใหม่อยู่เสมอ 3. สิ่งทดแทน (Substitutes) เมื่อกล่าวถึงความได้เปรียบด้านผลิตภัณฑ์ทดแทน หรือสินค้าที่คุณสมบัติใกล้เคียงกันก็ยังพอมีบ้าง เพราะสินค้าที่ธุรกิจขายอยู่ ความครอบคลุมยังไม่ครอบคลุมทุกหมวดหมู่ทั้งหมด ซึ่งจุดนี้เองทำให้คู่แข่งจะอาศัยช่องว่างจุดนี้ แทรกแซงผลิตภัณฑ์เข้ามาแข่งขันกันในตลาด และก็แชร์ส่วนแบ่งทางการตลาดไป ดังนั้นธุรกิจต้องสรรหาผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้าต้องการมาตอบสนองกลุ่มเป้าหมาย เพื่อลดโอกาสที่จะถูกคู่แข่งแย่งกลุ่มเป้าหายไป 4. อำนาจต่อรองของคู่ค้า/ผู้จัดส่งปัจจัยผลิต (Supplier Power) สำหรับธุรกิจระบบเครือข่ายของบริษัทจะไม่ประสบปัญหาด้านนี้เนื่องจากบริษัท มีโรงงานการผลิตเป็นของตัวเองและผลิตภัณฑ์บางอย่างน้ำเข้าโดยตรง และมีตลาดสินค้ารองรับ ดังนั้นผลิตภัณฑ์ของบริษัทจึงเป็นผลิตภัณฑ์เฉพาะที่มีเอกลักษณ์พิเศษที่ไม่มีกลุ่มคู่แข่งเลียนแบบได้ และสินค้าบางชนิดจะได้ลิขสิทธ์จำหน่ายแต่เพียงรายเดียวในประเทศ
5. อำนาจต่อรองของผู้ซื้อ(Buyer Power) ธุรกิจระบบเครือขายนั้นอำนาจการต่อรองของผู้ซื้อนั้นมีน้อยมาก เพราะในระบบของธุรกิจนี้ ถ้าผู้ซื้อที่ยังไม่ได้เป็นสมาชิกหรืออยู่ในระบบเครือข่าย อำนาจการต่อรองจะไม่มี แต่หากได้เข้ามาอยู่ในระบบแล้ว การซื้อภายในระบบจะมีส่วนลด และสามารถซื้อสินค้าได้ในราคาสมาชิก ซึ่งถ้าไม่ใช่สมาชิก ไม่ว่าจะซื้อเป็นจำนวนมากหรือมีการรวมกลุ่มเพื่อต่อรองราคา ก็จะไม่มีผลใดๆ
Create Date : 24 สิงหาคม 2551 |
Last Update : 24 สิงหาคม 2551 23:32:54 น. |
|
0 comments
|
Counter : 2274 Pageviews. |
|
|