Dr.Danai @ DNT Consultants
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2551
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
19 สิงหาคม 2551
 
All Blogs
 

Case Study: Amway (Thailand)

การเรียนการสอนในระดับบัณฑิตศึกษา โดยเฉพาะ MBA ในวิชาการบริหารกลยุทธ หรือ การจัดการกลยุทธ ซึ่งในโลกของความเป็นจริงจะมีความแตกแต่งจากชั้นเรียนเป็นอย่างมาก

การที่จะทำให้ นศ.MBA ได้เรียนรู้และสร้างคุณค่าทางปัญญาจากผู้สอนที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่สูงถือเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ แต่การลงมือปฏิบัติในสภาพจริงของธุรกิจโดยการศึกษา และวิเคราะห์ หรือ ดูงาน ก็มีส่วนสำคัญเช่นเดียวกัน

สำหรับ การวิเคราะห์ธุรกิจ จาก Case Study ของ นศ.ในอันดับต่อมา ครับ ลองรับฟังและรับชม
(สามารถให้ความเห็นได้อย่างอิสระ)

ดร.ดนัย เทียนพุฒ
Dr.Danai Thieanphut
Managing Director
DNTConsultants

-------------------------------------------------------------------------

กรณีศึกษา : บริษัทแอมเวย์(ประเทศไทย) จำกัด

โดย จันจิรา กาแพร่

**************************************

Vision
แอมเวย์... เพื่อคุณ เพื่อชีวิตที่มีคุณค่า

Mission
1. เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้คน
2. ส่งเสริมให้ประชาชนมีรายได้จากการประกอบกิจการ
3. สร้างรากฐานอันมั่นคงให้กับสังคม
4. ส่งเสริมผลิตภัณท์ออกสุ่ตลาด
5. เพื่อเสริมสร้างความเป็นผู้นำทางธุรกิจในระดับโลก

เป้าหมาย
1. ส่งเสริมให้ประชาชนมีงานทำนอกเหนือจากงานประจำ
2. ขจัดปัญหาการว่างงานของประชากรไทยอย่างสำเร็จ
3. พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชากรให้ดีขึ้น
4. พัฒนาและสร้างชื่อเสียง

ปณิธาน
เรามอบโอกาสแห่งความสำเร็จตามเป้าหมายของชีวิตให้แก่ผู้คน ด้วยแผนธุรกิจของแอมเวย์ ด้วยการเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจร่วมกันระหว่างนักธุรกิจแอมเวย์ พนักงาน และครอบครัวสองผู้สถาปนา โดยการสนับสนุนด้วยสินค้าคุณภาพดีที่สุดพร้อมการให้บริการอันเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ

ปณิธาน
เรามอบโอกาสแห่งความสำเร็จตามเป้าหมายของชีวิตให้แก่ผู้คน ด้วยแผนธุรกิจของแอมเวย์ ด้วยการเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจร่วมกันระหว่างนักธุรกิจแอมเวย์ พนักงาน และครอบครัวสองผู้สถาปนา โดยการสนับสนุนด้วยสินค้าคุณภาพดีที่สุดพร้อมการให้บริการอันเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ


กว่าจะเป็นแอมเวย์
บริษัท แอมเวย์ ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2502 (ค.ศ. 1959) จากผู้ก่อตั้งสองคน คือ ริช เดอโวส และ เจย์ แวน แอนเดล ซึ่งได้เริ่มทำธุรกิจด้านอาหารเสริมกับทางนิวทรีไลท์ ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2492 (ค.ศ. 1958) ก่อนที่จะตั้งบริษัทแอมเวย์ขึ้นมา ในห้องใต้ดินที่บ้านของเขาทั้งสอง ณ เมืองเอด้า มลรัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา พวกเขาได้ผลิตผลิตภัณฑ์ของแอมเวย์ชิ้นแรกคือ น้ำยาทำความสะอาดอเนกประสงค์ ด้วยความพิเศษของสูตรย่อยสลาย ทางชีวภาพ ไม่ก่อให้เกิดปัญหามลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมเปิดโลกแห่งโอกาสทางธุรกิจให้แก่ผู้คนทั่วไปแม้ว่าแอมเวย์ได้เติบโต และขยายสาขาทั่วโลก แต่ขณะเดียวกันก็มีปัญหาข้อขัดแย้งมากมาย เช่นปัญหาเรื่องธุรกิจขายตรงมีความคล้ายคลึงกับธุรกิจแบบพีระมิด
ของแอมเวย์ในแต่เดิมเป็นลักษณะที่ตัวอักษร "Amway" อยู่ใต้ลายเส้นวงกลมของลูกโลก ภายใต้กรอบสี่เหลี่ยม ส่วนโลโก้ใหม่ ถูกนำมาใช้ตั้งแต่เมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2545 โดยเริ่มจากสหรัฐอเมริกาเป็นที่แรก ส่วนประเทศไทยได้เริ่มใช้โลโก้ใหม่ในเดือนธันวาคมในปีเดียวกัน [2]
แอมเวย์ประเทศไทย
แอมเวย์ประเทศไทยได้ถือกำเนิดเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2530 สำนักงานใหญ่แห่งแรกตั้งอยู่บนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร ด้วยพื้นที่ 700 ตารางเมตร มีพนักงาน 10 คน โดยช่วงแรกมีผลิตภัณฑ์แอมเวย์เข้าสู่ตลาดเมืองไทยเพียง 7 ชนิด แต่ด้วยความเติบโตขององค์กร ในปี พ.ศ. 2535 แอมเวย์จึงได้ย้ายสำนักงานใหญ่มายังถนนรามคำแหง และขยายพื้นที่สำนักงานและพื้นที่ให้บริการรวมกว่า 9,440 ตารางเมตร [3] และผลิตภัณฑ์ในปัจจุบันมากกว่า 400 รายการ
ประเทศไทยเป็นประเทศที่ก่อตั้งบริษัทเป็นประเทศอันดับที่ 19 และเป็นประเทศอันดับที่ 5 ในทวีปเอเชีย ซึ่งรองมาจาก ฮ่องกง มาเลเซีย ญี่ปุ่น และไต้หวัน [4]
ผลิตภัณฑ์ในประเทศไทย
ในแต่ละประเทศมีผลิตภัณฑ์ที่ต่างกันออกไป แต่ถ้าเป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเดียวกันจะมียี่ห้อเดียวกัน ยกเว้นบางประเทศที่ไม่สามารถจดลิขสิทธิ์ได้ โดยแบ่งออกเป็นกลุ่มได้ดังนี้
ผลิตภัณฑ์สำหรับสุขภาพ เช่น อาหารเสริม เครื่องกรองน้ำ เครื่องกรองอากาศ ฯลฯ
ผลิตภัณฑ์สำหรับเรือนร่าง เช่น เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ดูแลเรือนผม ดูแลช่องปาก บำรุงผิวหน้า ฯลฯ
ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ในบ้าน เช่น ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดบ้าน เสื้อผ้า ชุดภาชนะประกอบอาหาร ฯลฯ
กิจกรรมเพื่อสังคมในประเทศไทย

แอมเวย์ประเทศไทยได้มีการทำกิจกรรมเพื่อสังคมในประเทศไทยหลายกิจกรรม เช่น
การบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ประสับภัยพิบัติสึนามิ
จัดตั้งมูลนิธิแอมเวย์เพื่อสังคมไทย ซึ่งมีกิจกรรมต่างๆ มากมายให้แก่เยาวชน
ได้ร่วมสนับสนุนโครงการ "พันธบัตรเงินฝากช่วยชาติ" กับธนาคารออมสิน จำนวน 1,000,000 เหรียญสหรัฐ ในขณะที่ประเทศไทยประสบวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจในปี พ.ศ. 2540-2541
นำผลิตภัณฑ์ในประเทศมาจำหน่ายเช่น ข้าวสารหอมมะลิ 100% จากกลุ่มสหกรณ์การเกษตรไทย กาแฟคั่วบดอาราบิก้า 100% กาแฟสำเร็จรูปชนิดเกล็ด ผลไม้อบแห้ง ชาเขียว และน้ำผลไม้กระป๋องดอยคำ เป็นต้น
ได้มีการให้ทุนการศึกษาแก่นักเรียนที่ไร้โอกาส โดยให้ทุนเรียนฟรีจนจบปริญญาตรี
แบรนด์เอ็นดอร์สเซอร์ในประเทศไทย
แอมเวย์ประเทศไทยได้มีการเปิดตัวแบรนด์เอ็นดอร์สเซอร์เมื่อ เดือน พฤศจิกายน 2549 โดยได้มีดาราทั้ง 5 คนมา ได้แก่ คุณกวาง กมลชนกและนุติ เขมมะโยธิน ซึ่งเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของเครื่องกรองอากาศ/ คุณเกรซ มหาดำรงกุลเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของเครื่องสำอางค์ /คุณพอล ภัทรพล ศิลปาจารย์เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของอาหารเสริม /อู๋-ธนากร โปษยานนท์ เป็นผู้ดำเนินรายการเกี่ยวกับแอมเวย์ ซึ่งการคัดเลือกนั้น ต้องมาจากคนที่เป็นที่รู้จักและใช้สินค้าแอมเวย์จริง
อ้างอิง
↑ เกียรติรางวัลทั่วโลก
↑ logo ใหม่. นิตยสารผู้จัดการ. ฉบับเดือนมกราคม 2546

ทศวรรษที่ 1950 รากฐานอันมั่นคง
ริช เดอโวส และ เจย์ แวน แอนเดล เริ่มธุรกิจของพวกเขาในทศวรรษที่ 1950 โดยเริ่มจากการทำตลาดขายตรงให้กับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนิวทริไลท์ และสิ่งที่เขาทั้งสองค้นพบและยังคงความเป็นจริงจวบจนปัจจุบันก็คือ “ ผู้คน ” และ “ ความสัมพันธ์ระหว่างผู้คน ” ยังคงเป็นหัวใจหลักของความสำเร็จไม่ว่าจะเป็นธุรกิจประเภทใดๆต่อมาปี 1959 ในห้องใต้ดินที่บ้านของเขาทั้งสอง ณ เมืองเอด้า รัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา พวกเขาได้ผลิตสินค้า ของแอมเวย์ชิ้นแรก ซึ่งในปัจจุบันเรียกว่า L.O.C หรือน้ำยาทำความสะอาดอเนกประสงค์ ด้วยความพิเศษของสูตรย่อยสลาย ทางชีวภาพ ไม่ก่อให้เกิดปัญหามลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม จึงทำให้เป็นเป็นสินค้าที่ประสบความสำเร็จทันที และยังถือเป็นการเปิดโลก แห่งโอกาสทางธุรกิจให้แก่ผู้คนทั่วไปอย่างกว้างขวาง
ทศวรรษที่ 1960 ปีแรกเริ่มธุรกิจ

แอมเวย์มียอดขายต่อปีสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเพิ่มขึ้นมากกว่า 500,000 เหรียญสหรัฐเป็นครั้งแรก จากนั้นบริษัทได้ขยาย พื้นที่และย้ายที่ทำการไปยังจุดที่สะดวกมากขึ้น และเริ่มพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ รวมถึง ผงซักฟอก SA 8 ซึ่งออกวางตลาดเมื่อ ปี 1961
ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเหล่านี้กลายเป็นสินค้าหลัก สร้างรายได้ให้กับนักธุรกิจแอมเวย์ และนำไปสู่การเติบโตอย่างมหัศจรรย์ของบริษัท ภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่ปีบริษัทมีพนักงานเพิ่มขึ้นมากกว่า 700 คน มีกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่พิเศษกว่า 200 ชนิด และมีนักธุรกิจแอมเวย์มากกว่า 100,000 รหัส ในปี 1963 รถที่มีชื่อเสียง
“Showcase Bus” ได้เริ่มตระเวนไปยังเมืองต่างๆของสหรัฐอเมริกา เพื่อส่งมอบโอกาสทางธุรกิจแก่ผู้คน และด้วยวิธีการนี้ผลิตภัณฑ์แอมเวย์และโอกาสทางธุรกิจที่พิเศษไม่เหมือนใครจึงถูกส่งมอบให้ผู้คนทั่วทุกพื้นที่ ในทศวรรษนี้ ความสำเร็จขององค์กรนักธุรกิจแอมเวย์ได้รับการยอมรับ และกลายเป็นต้นแบบของรางวัลและแผนการตลาดซึ่งต่อมาได้พัฒนาใช้อย่างต่อเนื่องในตลาดทั่วโลก
ของแอมเวย์ ท่ามกลางความสำเร็จและความก้าวหน้านี้ ช่วงกลางของทศวรรษได้เกิดเหตุการณ์ร้ายขึ้น เมื่อโรงงานผลิตกระป๋องสเปรย์ของแอมเวย์ถูกไฟไหม้จนราบคาบในปี 1969
ทศวรรษที่ 1970 เวลาแห่งการเติบโต

หลังจากเหตุการณ์ไฟไหม้ เจย์ แวน แอนเดล ให้คำมั่นว่า จะก่อสร้างโรงงานผลิตกระป๋องขึ้นมาใหม่และจะกอบกู้ธุรกิจกลับคืนมา โรงงานที่พังพินาศได้ถูกสร้างขึ้นมาใหม่และยอดขายยิ่งเติบโตมากขึ้นถึง 100 ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อปลายทศวรรษนี้ รถบรรทุกของแอมเวย์ต้องเดินทางมากกว่า 5.23 ล้านกิโลเมตร เพื่อจัดส่งสินค้าให้กับนักธุรกิจแอมเวย์นับล้านคน ในขณะเดียวกันบริษัทก็ขยายกิจการออกไปยังต่างประเทศ โดยเปิดตลาดใหม่ถึง 8 ประเทศใน 3 ทวีป
สำหรับจุดกำเนิดของธุรกิจแอมเวย์ เมืองเอด้า รัฐมิชิแกน แอมเวย์เติบโตอย่างรวดเร็วและเพื่อให้ทันกับการขยายตัวทางธุรกิจ โรงงานผลิตสินค้าได้ขยายไปยาวไกลมากกว่าหนึ่งไมล์ จนเป็นโรงงานที่มีแหล่งผลิตพลังงานของตัวเอง มีโรงงานบำบัดน้ำเสียพร้อมโรงงานรีไซเคิล มีรถรับส่งพนักงาน และแผนกหน่วยงานดับเพลิง
ทศวรรษที่ 1980 ทศวรรษแห่งพันล้านเหรียญดอลล่าร์
นับเป็นครั้งแรกที่แอมเวย์มียอดขายมากกว่าหนึ่งพันล้านเหรียญสหรัฐ แอมเวย์จึงได้ขยายสำนักงานใหญ่ในเมืองเอด้า รัฐมิชิแกน และได้สร้างโรงงานผลิตเครื่องสำอางแห่งใหม่ที่ซึ่งผลิตภัณฑ์อาร์ทิสทรีได้รับการพัฒนาวิจัยและผลิตขึ้น แอมเวย์เป็นผู้บุกเบิกคิดค้นผลิตภัณฑ์กลุ่มใหม่ ๆ และประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก อาทิ เครื่องกรองน้ำแอมเวย์ ปัจจุบันพัฒนาเป็น เครื่องกรองน้ำอีสปริง ( eSpring) ซึ่งยังคงครองส่วนแบ่งการตลาดลำดับต้นๆ ในปัจจุบัน ขณะเดียวกัน ผลตอบแทนสำหรับนักธุรกิจแอมเวย์ก็ได้รับการพัฒนาตามไปด้วย โดยมอบรางวัลให้มากยิ่งขึ้น คุ้มค่ากับความพยายามสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจของพวกเขา
แอมเวย์ตระหนักเรื่องความสำคัญของสิ่งแวดล้อม และได้รับการประกาศเกียรติคุณเป็น “ ผู้นำองค์กรธุรกิจด้านสิ่งแวดล้อมและเป็นผู้สนับสนุนการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อม ” และชนะได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ

ทศวรรษที่ 1990 สืบสานโดยรุ่นต่อไป
จากการเดินตามรอยเท้าของพ่อ สตีฟ แวน แอนเดล และดิ๊ค เดอโวส ได้รับช่วงต่อจาก เจย์ และริช ในฐานะประธานกรรมการและประธานบริษัท แอมเวย์ คอร์ปอเรชั่น ในขณะเดียวกันผู้นำรุ่นใหม่ๆก็เกิดขึ้นในหมู่ครอบครัวของนักธุรกิจแอมเวย์ และสร้างความสำเร็จอย่างต่อเนื่องต่อจากพ่อแม่ของตนเช่นเดียวกันพร้อมๆไปกับยอดขายที่ขยายตัวถึง 5 พันล้านเหรียญสหรัฐณ รัฐแคลิฟอร์เนีย การวิจัยของนิวทริไลท์ในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างการลดน้ำหนักและสุขภาพ เริ่มเผยแพร่สู่สาธารณชน ในชื่อของ ศูนย์วิจัยและพัฒนาเรห์นเบอร์ก( Rehnborg Center of Nutrition and Wellness ) และต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น สถาบันสุขภาพนิวทริไลท์ ( Nutrilite Health Institute )
แอมเวย์ในภูมิภาคเอเชียมีบทบาทมากยิ่งขึ้น เมื่อปี 1995 แอมเวย์ประเทศญี่ปุ่นได้เป็นผู้สนับสนุนกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว "นากาโน วินเทอร์ โอลิมปิก เกมส์" ( Nagano Winter Olympic Games ) ในขณะที่ทั่วโลก ทั้งบริษัทแอมเวย์ ในระดับภูมิภาคและระดับประเทศยังคงให้การสนับสนุนองค์กรนักธุรกิจแอมเวย์ ด้วยการสร้างวิธีดำเนินธุรกิจผ่านเครือข่าย อินเทอร์เน็ต ( e-commerce site ) เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจของแอมเวย์ไปสู่โลกไซเบอร์เสปซ Cyberspace ) นี่คืออีกช่วงทศวรรษอันน่าจดจำเมื่อฉลองครบรอบ 40 ปีของแอมเวย์ในปี 1999

ทศวรรษที่ 2000 ก้าวสู่ขอบฟ้าใหม่

ในปี 2000 แอมเวย์เตรียมพร้อมก้าวสู่ศตวรรษใหม่กับยุคสมัยที่น่าตื่นเต้น เกือบ 50 ปี หลังจากแอมเวย์ก่อตั้งขึ้น ครอบครัวเดอโวส และแวน แอนเดล ได้ปรับโครงสร้างใหม่ขององค์กรเพื่อไปให้ถึงความท้าทายแห่งศตวรรษใหม่ โดยก่อตั้ง อัลติคอร์ อิงค์ ขึ้นเป็นบริษัทแม่ ประกอบด้วยบริษัทลูก ได้แก่ แอมเวย์ คอร์ปอเรชั่น บริษัทขายตรงด้วยระบบการตลาดหลายชั้น (MLM) ควิกซ์สตาร์ อิงค์ ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ในอเมริกาเหนือ และ แอ็คเซส บิสเนซ กรุ๊ป แอลแอลซี ดำเนินการผลิตและจัดส่งสินค้าคุณภาพให้กับบริษัทสาขาของอัลติคอร์และบริษัทอื่น ๆ ทั่วโลก

อัลติคอร์ บริหารงานโดย สตีฟ แวน แอนเดล ( ประธานกรรมการ) และดั๊ก เดอโวส ( ประธานบริษัท) ร่วมไปกับสำนักงานคณะผู้บริหาร ทำให้แต่ละบริษัทลูก โดยเฉพาะแอมเวย์สามารถใช้จุดแข็งของตนเองในการบริหารธุรกิจอย่างต่อเนื่อง แอมเวย์ยังคงเป็นบริษัทผู้นำในระบบการตลาดขายตรงหลายชั้นหลักการพื้นฐานคืออิสรภาพ ครอบครัว ความหวัง และรางวัล ยังคงเป็นความจริงจนถึงปัจจุบัน เหมือนอย่างที่เคยเริ่มต้นมาในอดีต
ปัจจุบันแอมเวย์ประเทศไทยมีสาขาในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศทั้งสิ้น กว่า 40 แห่ง โดยเปิดให้บริการในรูปของร้านสะดวกซื้อแอมเวย์ ช็อป และแอมเวย์ มินิ ช็อป

บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด มีสำนักงานใหญ่และคลังสินค้าส่วนกลาง
ตั้งอยู่เลขที่ 52/183 ถนนรามคำแหง หัวหมาก บางกะปิ กรุงเทพฯ 10240
Amway Call Center โทร 0-2351-8000

ปณิธานของแอมเวย์ที่มีต่อสิ่งแวดล้อมของแอมเวย์

แอมเวย์เชื่อว่า การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเป็นความรับผิดชอบของทุกคนไม่ว่าจะเป็นหน่วยงาน
หรือบุคคลใด นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งธุรกิจในปี 2502แอมเวย์ได้สร้างและดำรงรักษาชื่อเสียง
จนเป็นที่ยอมรับว่าเป็นบริษัทที่มีจิตสำนึกต่อการอนุรักษ์ห่วงใยต่อสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด
เพื่อสิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรม
ผลิตภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพสารเซอร์แฟ็คแตนท์หรือสารลดแรงตึงผิวที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดของแอมเวย์ทุกชนิดล้วนมีคุณสมบัติที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพโดยจะแตกตัวอย่างรวดเร็วและไม่ก่อให้เกิดปัญหาฟองอากาศที่มากเกินควรในแหล่งน้ำ เช่น ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด อเนกประสงค์ แอล.โอ.ซี. ผงซักฟอก เอสเอ 8 ผลิตภัณฑ์ล้างจานดิชดรอปส์ ผลิตภัณฑ์ล้างรถ คาร์ วอช เป็นต้น
- ผลิตภัณฑ์สูตรเข้มข้น ผลิตภัณฑ์แอมเวย์ส่วนใหญ่มีสูตรผสมเข้มข้น ประหยัด ใช้สะดวก และเป็นผลดีต่อสภาพแวดล้อมเพราะช่วยลดปริมาณการซื้อให้น้อยครั้งกว่าปกติ ช่วยลดปริมาณขยะโดยผลิตภัณฑ์แอมเวย์มีบรรจุภัณฑ์ที่ก่อให้เกิดขยะน้อยกว่าถึง 50-70%ปลอดจากสารคลอโรฟลูโอโรคาร์บอน
ผลิตภัณฑ์สเปรย์ทุกชนิดที่แอมเวย์ผลิตขึ้นมิได้มีส่วนผสมของสารคลอโอโรคาร์บอน ซึ่งเป็นตัวการทำลายชั้นโอโซนในบรรยากาศของโลก ผู้ใช้จึงมั่นใจได้ว่ามิได้เป็นส่วนหนึ่งของผู้ทำลายชั้นโอโซนของโลกให้หมดไปแต่อย่างใด
- นำพลาสติกกลับมาแปรรูปใช้ใหม่
ขยะพลาสติกเป็นอันตรายคุกคามสิ่งแวดล้อมโลก เพราะทำให้เกิดขยะมหาศาลทับถมกันนานนับปีโรงงานผลิตของแอมเวย์ได้นำบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ใช้แล้วกลับมาแปรรูปผลิตใช้ใหม่ จึงทำให้ปริมาณขยะพลาสติกลดน้อยลงและยังช่วยประหยัดทรัพยากรซึ่งนำมาทำพลาสติก
- เลิกใช้สัตว์เป็นตัวอย่างทดลอง
แอมเวย์ได้ยกเลิกการทดลองผลิตภัณฑ์กับสัตว์เพื่อประเมินผลความปลอดภัยต่อมนุษย์ อันเป็นส่วนหนึ่งของโครงการส่งเสริมสวัสดิภาพสัตว์มานานกว่าทศวรรษแล้วโดยยังคงยึดถือความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ต่อผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ
- ปลอดภัยต่อระบบน้ำทิ้งและน้ำเสียผลิตภัณฑ์ในครัวเรือนของแอมเวย์เมื่อทำให้เจือจางตาคำแนะนำบนฉลากจะปลอดภัยต่อระบบระบายน้ำทิ้งและน้ำเสียที่เกิดขึ้นภายหลังการใช้ โดยอาจนำมาใช้รดน้ำต้นไม้และพืชผักสวนครัวได้ด้วย จึงไม่มีผลเสียหายต่อระบบนิเวศน์ เช่น ผลิตภัณฑ์ล้างจานดิช ดรอปส์ ผงซักฟอก เอสเอ 8 เป็นต้น

การวิเคราะห์ทัศนภาพ(Scenario Analysis)
วิเคราะห์สถานการณ์ภายนอกองค์กร
1. การเมือง
ในด้านสาการณ์ทางด้านการเมืองนี้ ยังไม่มีอะไรที่แน่นอนและตายตัว ซึ่งสังเกตได้จากสถานการณ์ทางภาคใต้ซึ่งยังไม่สงบ ซึ่งทำให้กระทบกับการลงทุนของประเทศต่างๆที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศน้อยลง
ดังนั้นจึงขอสรุปสถานการณ์ทางการเมืองว่ายังไม่ยังเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอนและยังไม่สามารถแก้ไขได้หมด จึงต้องติดตามสถานการณ์ทางการเมืองต่อไป ยังไม่สามารถสรุปได้

2. เศรษฐกิจ
ในปี พศ. 2548 ภาวะเศรษฐกิจในประเทศยังชะลอตัว รวมทั้งยังกระทบกับธุรกิจขายตรงของแอมเวย์อีกด้วย แอมเวย์ยังดำเนินธุรกิจไปเรื่อยๆจนมาถึงปัจจุบันก็ยังคงมีสภาวะการตลาดที่ดีอยู่ ก็ไม่มีปัญหาที่กระทบมากมาย

3. สังคม-และวัฒนธรรม
ธุรกิจของแอมเวย์จะเป็นธุรกิจที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ ประชากรส่วนใหญ่ก็รู้จักแอมเวย์ดีพอสมควร ดังนันผลิตภัณท์ที่แอมเวย์ผลิตจึงต้องคำนึงถึงมาตรฐานและคุณภาพอยู่เสมอ
แอมเวย์ ประเทสไทย จึงได้มีการจัดทำกิจกรรมเพื่อสังคมในประเทศไทยหลายกิจกรรม เช่น
1. การบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ประสบภัยพิบัติกับสึนามิ
2. จัดตั้งมูลนิธิแอมเวย์เพื่อสังคมไทย วึ่งมีกิจกรรมต่างๆมากมายให้แก่เยาวชน
3. ได้ร่วมสนับสนุนโครงการ พันธบัตรเงินฝากช่วยชาติ กับธนาคารออมสิน จำนวน 1000000 เหรียญสหรัฐ ในขณะที่ประเทศไทยประสบวิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจในปี พศ 2540-2541
4. นำผิตภัณท์ในประเทศมาจำหน่าย เช่น ข้าวสารหอมมะลิ 100% จากกลุ่มสหกรณ์การเกษตรไทย กาแฟ คั่วบดอาราบิก้า 100%
5. ได้มีการให้ทุนการศึกษาแก่นักเรียนที่ไร้โอกาส โดยให้ทุนเรียนฟรีจนกว่าจะจบปริญญาตรี

5. เทคโนโลยี
.ในปัจจุบันเทคโนโยยีมีความสำคัญกับธุรกิจมาก เทคโนโลยีที่พูดถึงนี้ ขอรวมทั้ง ในด้านสารสนเทศ อินเตอร์เน็ต ระบบข้อมูล รวมทั้ง ระบบการผลิต มีความสำคัญด้าได้รับทราบข้อมูลข่าวสารต่าง รวมทั้งเรื่องของการผลิตจะต้องมีเครื่องมือเครื่องใช้ที่ทันสมัยเพื่อความสะดวกและรวดเร็ว ผลิตภัณท์ที่ออกมาจึงจะได้คุณภาพดีเยี่ยม


วิเคราะห์สถานการณ์ภายในองค์กร
1. อุปสงค์ของตลาด (Market Demand)
ความต้องสินค้าของประชาชนยังมีอยู่เรื่อยๆ ตามการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจ ซึ่งจากข้อมูลของการสรุปทุกๆปีก็พบว่าประชากรยังนิยมใช้ผลิตภัณท์ของแอมเวย์อยู่อย่างแพร่หลาย แต่ทั้งนี้ถึงแม้ว่าจะมีผลิตภัณท์ตัวใหม่มาทดแทนอยุ่บ้างแต่ประชากรยังคงภักดีต่อแอมเวย์อยู่จำนวนมาก ซึ่งความต้องการซื้อของประชากรยังยืดหยุ่มตามกาลเวลา

2. คุณภาพ
จากการวิเคราะห์พบว่าผลิตภัณท์ของแอมเวย์มีคุณภาพมาโดยเสมอ เนื่องจากแอมเวย์มีการผลิตที่มีคุณภาพและใช้วัสดุในการผลิตที่มีคุณภาพจึงส่งผลให้ผลิตภัณท์ที่ออกมามีคุณภาพมาโดยตลอด

3. รายได้
จากการสำรวจพบว่าแอมเวย์มีเครือข่ายทั่วโลกทั้งในประเทศไทยและอเมริกา ส่วนรายได้ของแอมเวย์ไม่สามารถหาข้อมูลได้แน่ชัด

4. กฎระเบียบทางอุตสาหกรรม
- ด้านสิ่งแวดล้อม ระเบียบโรงงานอุตสาหกรรมว่าด้วยการจัดทำรายงานผลวิเคราะห์ปริมาณมลพิษ

บทสรุปของผู้จัดทำ

จากการศึกษาของผู้จัดทำพบว่ามีอยู่แนวคิดหนึ่งที่เป็นหลักการพื้นฐานสำคัญของผู้สถาปนา คือ ริช เดอ โวสและเจย์แวนแอนเดล สร้างธุรกิจแอมเวย์ขึ้นจากหลักการของ อิสรภาพครอบครัว ความหวัง รางวัล ซึ่งทั้งสองท่านและครอบครัว ต่างเชื่อมั่นว่าเป็นองค์ประกอบของรากฐานที่มั่นคงสำหรับชีวิตที่มีความหมาย





 

Create Date : 19 สิงหาคม 2551
0 comments
Last Update : 24 สิงหาคม 2551 23:15:17 น.
Counter : 5993 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


dnt
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 41 คน [?]




ที่ปรึกษาธุรกิจชั้นนำด้านจัดการกลยุทธ
( ผู้นำและริเริ่มการจัดทำ Balanced
Scorecard & KPIs)
การบริหาร HR ที่เน้นความสามารถ
(Competency Based Approach)
การพัฒนา HRD-KM และ
การจัดการสมัยใหม่
*************************
Friends' blogs
[Add dnt's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.