|
ต้นปาริฉัตต์ ไม่ใช่ต้นปาริชาติ
บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์นั้นมีต้นไม้สำคัญอยู่ต้นหนึ่ง เป็นต้นไม้ทิพย์ต้นใหญ่ที่มักจะเรียกกันว่า ต้นปาริชาติ แต่ชื่อที่ถูกต้องของต้นไม้นี้ คือ ต้นปาริฉัตต์ วันนี้จะเล่าถึงต้นปาริฉัตต์ต้นนี้ เพราะเป็นตัวกระตุ้นความแค้นให้พวกอสูรยกทัพขึ้นมารบกับเทวดา
ว่ากันว่าต้นปาริฉัตต์เกิดขึ้นเพราะพระอินทร์ในสมัยที่เป็น มฆมาณพ เมื่อสร้างศาลาสาธารณะแล้วได้ปลูกต้นทองหลางไว้ต้นหนึ่ง ใต้ต้นทองหลางวางแผ่นศิลาเอาไว้สำหรับให้คนเดินทางได้นั่งพักเหนื่อย เมื่อมาอุบัติเป็นพระอินทร์จึงได้มีต้นปาริฉัตต์เกิดขึ้นเพราะบุญจากการปลูกต้นทองหลางต้นนั้น และใต้ต้นปาริฉัตต์ก็บังเกิดที่นั่งทิพย์ขนาดใหญ่ เรียกว่า บัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ สำหรับให้พระอินทร์ประทับนั่งพักผ่อน
แต่ข้อความที่ว่ามานี้ขัดกันกับเรื่องที่ว่าก่อนหน้าที่จะมีพระอินทร์องค์นี้ พวกเทวดาเนวาสิกก็เคยรื่นเริงเฉลิมฉลองกันเพราะต้นปาริฉัตต์ออกดอกกันมาแล้วเป็นประจำทุกปี จึงไม่รู้ว่าตกลงต้นปาริฉัตต์นี้มีก่อนหรือหลังพระอินทร์องค์ปัจจุบัน แต่ให้น้ำหนักไปทางว่ามีมาก่อนแล้วมากกว่า เพราะต้นปาริฉัตต์เป็นต้นไม้ประจำกัป จะดำรงคงอยู่คู่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ตลอดไป
ต้นปาริฉัตต์ขึ้นอยู่ในสวนสวรรค์ส่วนพระองค์ของพระอินทร์ชื่อ สวนปุณฑริกะ ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเวชยันต์วิมาน แต่สวนสวรรค์แห่งนี้เทวดาองค์ไหนๆ ก็เข้ามาเที่ยวเล่นได้ตามสบายไม่มีข้อห้ามและไม่เก็บค่าผ่านประตู ต้นปาริฉัตต์มีขนาดใหญ่มาก ลําต้นวัดโดยรอบ ๑๕ โยชน์ สูงจากโคนถึงยอด ๑๐๐ โยชน์ สูงจากโคนถึงคาคบ ๕๐ โยชน์ มีกิ่งทอดออกไป ๔ ทิศ แต่ละกิ่งยาว ๕๐ โยชน์ ต้นปาริฉัตต์ออกดอกปีละครั้ง ดอกจะผลิออกจากทุกกิ่งทุกก้าน จากโคนถึงปลาย และเบ่งบานนานถึง ๕ เดือนทิพย์ คิดเป็นเวลาในโลกมนุษย์เท่ากับ ๑๕,๐๐๐ ปี เมื่อออกดอกจะส่งกลิ่นหอมไปไกลถึง ๑๐๐ โยชน์ เทพบุตรและเทพธิดาหากปรารถนาดอกปาริฉัตต์ก็เพียงแต่ไปยืนรออยู่โคนต้น ดอกปาริฉัตต์จะล่องลอยมาสู่มือเอง หากดอกใดร่วงหล่นโดยไม่มีผู้ปรารถนา ก็จะมีลมหอบดอกนั้นไปไม่ให้ตกลงสู่พื้น ใต้ต้นปาริฉัตต์จึงน่ารื่นรมย์ยิ่งนัก ไม่มีดอกไม้หรือใบไม้ร่วงหล่นอยู่บนพื้นแม้แต่ดอกเดียว ตลอดระยะเวลาที่ดอกปาริฉัตต์เบ่งบานนี้ นับเป็นช่วงเวลาสำเริงสำราญของเหล่าเทพบุตรและเทพธิดาที่ออกมาเฉลิมฉลองกัน มีการฟ้อนรำ มีการเล่นต่างๆ เป็นงานนักษัตรปาริฉัตตกีฬาตลอดช่วงเวลา ๕ เดือน
ต้นปาริฉัตต์ เป็นต้นไม้ประจำดาวดึงส์ และเป็นต้นไม้ประจำกัปด้วย คือ เมื่ออุบัติขึ้นแล้วจะดำรงอยู่จนสิ้นกัป ในจักรวาลนี้มีต้นไม้ประจำกัปทั้งหมด ๗ ต้น คือ
๑. ต้นชมพู หรือต้นหว้า ประจำชมพูทวีป อยู่ในป่าหิมพานต์ ๒. ต้นกทัมโพ หรือต้นกระทุ่ม อยู่ในอปรโคยานทวีป ๓. ต้นกัลปพฤกษ์ อยู่ในอุตตรกุรุทวีป ๔. ต้นสิริสกรุกโข หรือต้นซึก อยู่ในบุพพวิเทหทวีป ๕. ต้นปาริฉัตต์ อยู่ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ๖. ต้นสิมพลี หรือต้นงิ้ว อยู่ในดินแดนครุฑ ๗. ต้นจิตตปาตลี หรือต้นแคฝอย อยู่ในอสูรพิภพ
ตอนนี้รู้แล้วว่าดาวดึงส์อยู่ตรงไหน อสูรพิภพอยู่ตรงไหน แต่ดันมีทวีปทั้งสี่กับดินแดนครุฑโผล่เพิ่มขึ้นมาอีก อย่าเพิ่งงงกันนะครับ ยกยอดไว้เล่าวันหลัง
กลับมาที่ต้นปาริฉัตต์กันต่อว่าทำไมถึงเป็นตัวกระตุ้นให้อสูรรบกับเทวดาได้ เหตุที่จะนำไปสู่สงครามระหว่างอสูรกับเทวดานั้น ก็เกิดจากความคับแค้นใจของพวกอสูรที่โดนพวกพระอินทร์จับเหวี่ยงตกลงมาจากสวรรค์ กลายเป็นเทวดาตกสวรรค์ไปอาศัยอยู่ในอสูรพิภพใต้เขาสิเนรุ ซึ่งในอสูรพิภพนี้ทิพย์สมบัติก็รุ่งเรืองสุขสบายดีไม่น้อยหน้าพวกเทวดาชั้นดาวดึงส์ พวกอสูรจึงพอจะลืมๆ สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ลงไปได้บ้าง
แต่เพราะในอสูรพิภพมีต้นไม้ทิพย์ที่ชื่อจิตตปาตลี รือต้นแคฝอย ที่มีขนาด และรูปร่าง เหมือนต้นปาริฉัตต์ในดาวดึงส์ พอต้นจิตตปาตลีออกดอก พวกอสูรก็จะพลันคิดถึงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์จับจิตจับใจ รำลึกได้ว่าเวลาปาริฉัตต์ออกดอกพวกเราเคยเล่นสนุกสนานกัน คิดได้เท่านั้นก็เกิดความแค้นพระอินทร์ จึงรวมพลกันเตรียมจะขึ้นไปรบกับพระอินทร์เพื่อยึดดาวดึงส์คืน
พวกอสูรรวมพลกันได้นับจำนวนโกฏิ ยกทัพออกจากอสูรพิภพปีนเขาสิเนรุมาศขึ้นสู่ดาวดึงส์ มองไปเหมือนกับตัวปลวกปีนจอมปลวก หมายมั่นปั้นมือว่าจะต้องรบชนะพระอินทร์ให้ได้ แต่ทางฝ่ายพระอินทร์นั้นรู้อยู่ว่าสักวันพวกอสูรต้องยกทัพกลับมารบด้วยแน่ พระองค์จึงมีการเตรียมพร้อมรอรับมืออยู่ เอาไว้มาต่อวันหน้าครับว่าอสูรกับเทวดาใครจะแพ้ใครจะชนะ
Create Date : 11 พฤศจิกายน 2552 |
|
7 comments |
Last Update : 1 ธันวาคม 2552 6:49:29 น. |
Counter : 3635 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: พ่อระนาด 12 พฤศจิกายน 2552 7:02:29 น. |
|
|
|
| |
โดย: Elbereth 8 ธันวาคม 2552 15:40:20 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
นนทบุรี Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]
|
บางครั้ง เธอเข้าใจไหม ว่าทำไม จิตใจต้องเพ้อฝัน ฝันมีสุขร่วมกัน ฝันมีส่วนผูกพัน สิ่งเหล่านั้น ฉันเองเข้าใจ ความหมาย คงคลี่คลายโดยง่ายดาย หากได้ระบาย ออกมาให้เธอฟัง ก็เพราะเธอเป็นต้นเหตุ ก็เพราะเธอนั้นพิเศษ เกินกว่าฉัน จะควบคุมใจ ยามใดเธอมีทุกข์ อยากหยุดโลกกลับไปช่วยเธอ ใจมันคอยเสนอ ไม่เคยคิดห่วงใคร ต่อให้ไกลจะไกลแค่ไหน ก็จะไปยกหัวใจให้ เพียงแต่ตอบรับ หากเธอยอมรับ กับฉัน ว่าเธอนั้น มันก็เป็นเหมือนกัน ส่วนฉันยืนยัน ประกันได้เลยเธอ ไม่ใช่เรื่องหนักใจ มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพียงแค่สามคำ ฉันรักเธอ...
[เพลงจาก http://www.fileden.com]
[ stat since Sep24, 2009 ]
|
|
|
|
|
|
|
ทานข้าวหรือยังค่ะ
รักษาสุขภาพด้วยค่ะ
ดีใจที่เจอคนชอบภาษาอังกฤษ เหมือนกัน