ความดับลงแห่งกองทุกข์ มีได้เพราะการดับไปแห่งความเพลิน
Group Blog
 
 
มิถุนายน 2553
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
24 มิถุนายน 2553
 
All Blogs
 
แม้แสดงเพียงผัสสะให้เกิดเวทนาก็ยังเรียกว่าปฏิจจสมุปบาท




เพียงผัสสะให้เกิดเวทนาก็ยังเรียกว่าปฏิจจสมุปบาท


..........ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! ปุถุชนผู้มิได้สดับแล้ว จะพึงเบื่อหน่ายได้บ้าง พึงคลายกำหนัดได้บ้าง พึงปล่อยวางได้บ้าง ในกายอันเป็นที่ประชุมแห่งมหาภูตทั้งสี่นี้.ข้อนั้นเพราะเหตุใดเล่า?

..........ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! ข้อนั้นเพราะเหตุว่า การก่อขึ้นก็ดีการสลายลงก็ดี การถูกยึดครองก็ดี การทอดทิ้งซากไว้ก็ดี แห่งกายอันเป็นที่ประชุมแห่งมหาภูตทั้งสี่นี้ ย่อมปรากฏอยู่. เพราะเหตุนั้นปุถุชนผู้มิได้สดับแล้ว จึงเบื่อหน่ายได้บ้าง จึงคลายกำหนัดได้บ้าง จึงปล่อยวางได้บ้าง ในกายนั้น.

..........ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! ส่วนสิ่งที่เรียกกันว่า "จิต" ก็ดี ว่า "มโน" ก็ดี ว่า "วิญญาณ" ก็ดี; ปุถุชนผู้มิได้สดับแล้ว ไม่อาจจะเบื่อหน่าย ไม่อาจจะคลายกำหนัด ไม่อาจจะปล่อยวาง ซึ่งสิ่งนั้น.ข้อนั้นเพราะเหตุไรเล่า?

..........ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย! ข้อนั้นเพราะเหตุว่า สิ่งที่เรียกว่า จิตเป็นต้นนี้ เป็นสิ่งที่ปุถุชนผู้มิได้สดับแล้ว ได้ถึงทับแล้วด้วยตัณหา ได้ยึดถือแล้วด้วยทิฏฐิโดยความเป็นตัวตน มาตลอดกาลช้านาน ว่า "นั่นของเรา, นั่นเป็นเรา, นั่นเป็นตัวตนของเรา" ดังนี้ เพราะเหตุนั้น ปุถุชนผู้มิได้สดับแล้ว จึงไม่อาจจะเบื่อหน่ายไม่อาจจะคลายกำหนัด ไม่อาจจะปล่อยวาง ซึ่งที่เรียกว่า จิต เป็นต้นนั้น.

..........ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! ปุถุชนผู้มิได้สดับแล้ว จะพึงเข้าไปยึดถือเอากายอันเป็นที่ประชุมแห่งมหาภูตทั้งสี่นี้ โดยความเป็นตัวตน ยังดีกว่า. แต่จะเข้าไปยึดถือเอาจิต โดยความเป็นตัวตนไม่ดีเลย. ข้อนั้นเพราะเหตุไรเล่า?

..........ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย !ข้อนั้นเพราะเหตุว่า กายอันเป็นที่ประชุมแห่งมหาภูตทั้งสี่นี้ ดำรงอยู่ ปีหนึ่งบ้าง สองปีบ้าง สามปีบ้าง สี่ปีบ้าง ห้าปีบ้าง สิบปีบ้าง ยี่สิบปีบ้าง สามสิบปีบ้าง สี่สิบปีบ้างห้าสิบปีบ้าง ร้อยปีบ้าง เกินกว่าร้อยปีบ้าง ปรากฏอยู่.

..........ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! ส่วนสิ่งทีเรียกกันว่า "จิต" บ้าง ว่า "มโน" บ้าง ว่า "วิญญาณ" บ้างนั้น ดวงอื่นเกิดขึ้นดวงอื่นดับไป ตลอดวันตลอดคืน.

..........ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย! ในเรื่องนี้ อริยสาวกผู้ได้สดับแล้ว ย่อมกระทำไว้ในใจโดยแยบคายเป็นอย่างดี ซึ่งปฏิจจสมุปบาทนั่นเทียว ดังนี้ว่า ด้วยอาการอย่างนี้: เพราะสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี, เพราะความเกิดขึ้นแห่งสิ่งนี้ สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น;เพราะสิ่งนี้ไม่มี สิ่งนี้จึงไม่มี, เพราะความดับไปแห่งสิ่งนี้ สิ่งนี้จึงดับไป.

...........ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เพราะอาศัยผัสสะอันเป็นที่ตั้งแห่งสุขเวทนา จึงเกิดสุขเวทนาขึ้น;เพราะความดับแห่งผัสสะอันเป็นที่ตั้งแห่งสุขเวทนานั้นแหละ, เวทนาใด ที่เกิดเพราะผัสสะนั้น (ในกรณีนี้คือ) สุขเวทนา ที่เกิดขึ้นเพราะอาศัยผัสสะอันเป็นที่ตั้งแห่งสุขเวทนา,เวทนานั้นย่อมดับ ย่อมสงบไป.

...........ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เพราะอาศัยผัสสะอันเป็นที่ตั้งแห่งทุกขเวทนา จึงเกิดทุกขเวทนาขึ้น; เพราะความดับแห่งผัสสะอันเป็นที่ตั้งแห่งทุกขเวทนานั้นแหละ, เวทนาใด ที่เกิดเพราะผัสสะนั้น (ในกรณีนี้คือ) ทุกขเวทนาที่เกิดขึ้นเพราะอาศัยผัสสะอันเป็นที่ตั้งแห่งทุกขเวทนา, เวทนานั้นย่อมดับ ย่อมสงบไป.

..........ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เพราะอาศัยผัสสะอันเป็นที่ตั้งแห่งอทุกขมสุขเวทนา จึงเกิดอทุกขมสุขเวทนาขึ้น; เพราะความดับแห่งผัสสะอันเป็นที่ตั้งแห่งอทุกขมสุขเวทนานั้นแหละ, เวทนาใด ที่เกิดเพราะผัสสะนั้น (ในกรณีนี้คือ) อทุกขมสุขเวทนา ที่เกิดขึ้นเพราะอาศัยผัสสะอันเป็นที่ตั้งแห่งอทุกขมสุขเวทนา, เวทนานั้นย่อมดับ ย่อมสงบไป.

..........ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เปรียบเหมือนเพราะไม้สองอันเสียดสีกันไปมา ไออุ่นย่อมเกิด ความร้อนย่อมบังเกิดโดยยิ่ง. เพราะแยกไม้ทั้งสองอันนั้นแหละออกจากกันเสียไออุ่นใด ที่เกิดเพราะการเสียดสีระหว่างไม้สองอันนั้น ไออุ่นนั้นย่อมดับ ย่อมสงบไป,ข้อนี้ฉันใด;

..........ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! ข้อนี้ก็ฉันนั้น: เพราะอาศัยผัสสะอันเป็นที่ตั้งแห่งสุขเวทนา จึงเกิดสุขเวทนาขึ้น; เพราะความดับแห่งผัสสะอันเป็นที่ตั้งแห่งสุขเวทนานั้นแหละ, เวทนาใด ที่เกิดเพราะผัสสะนั้น (ในกรณีนี้คือ) สุขเวทนา ที่เกิดขึ้นเพราะอาศัยผัสสะอันเป็นที่ตั้งแห่งสุขเวทนา,เวทนานั้นย่อมดับ ย่อมสงบไป.

..........ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เพราะอาศัยผัสสะอันเป็นที่ตั้งแห่งทุกขเวทนา จึงเกิดทุกขเวทนาขึ้น; เพราะความดับแห่งผัสสะอันเป็นที่ตั้งแห่งทุกขเวทนานั้นแหละ, เวทนาใด ที่เกิดเพราะผัสสะนั้น(ในกรณีนี้คือ) ทุกขเวทนา ที่เกิดขึ้นเพราะอาศัยผัสสะอันเป็นที่ตั้งแห่งทุกขเวทนา,เวทนานั้นย่อมดับ ย่อมสงบไป.

..........ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เพราะอาศัยผัสสะอันเป็นที่ตั้งแห่งอทุกขมสุขเวทนา จึงเกิดอทุกขมสุขเวทนาขึ้น; เพราะความดับแห่งผัสสะอันเป็นที่ตั้งแห่งอทุกขมสุขเวทนานั้นแหละ, เวทนาใด ที่เกิดเพราะผัสสะนั้น (ในกรณีนี้คือ)อทุกขมสุขเวทนา ที่เกิดขึ้นเพราะอาศัยผัสสะอันเป็นที่ตั้งแห่งอทุกขมสุขเวทนา, เวทนานั้นย่อมดับ ย่อมสงบไป

..........ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! อริยสาวกผู้ได้สดับแล้ว เห็นอยู่อย่างนี้ ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในผัสสะ, ย่อมเบื่อหน่าย แม้ในเวทนา, ย่อมเบื่อหน่าย แม้ในสัญญา, ย่อมเบื่อหน่าย แม้ในสังขารทั้งหลาย, ย่อมเบื่อหน่าย แม้ในวิญญาณ. เมื่อบื่อหน่าย ย่อมคลายกำหนัด, เพราะคลายความกำหนัด ย่อมหลุดพ้น, เมื่อหลุดพ้นแล้ว ย่อมมีญาณหยั่งรู้ว่าหลุดพ้นแล้ว. อริยสาวกนั้น ย่อมทราบชัดว่า "ชาติสิ้นแล้ว, พรหมจรรย์อันเราอยู่จบแล้ว, กิจที่ควรทำได้ทำเสร็จแล้ว, กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้ มิได้มีอีกต่อไป".ดังนี้ แล.




Create Date : 24 มิถุนายน 2553
Last Update : 24 มิถุนายน 2553 21:44:43 น. 12 comments
Counter : 495 Pageviews.

 
สำนวนโวหารมันสูงส่งเกินไป
ทำให้
เสียเวลาตีความหมาย
และในที่สุด
ก็เลย
ปฏิบัติก็เหมือนไม่ได้ปฏิบัติ

ลองเอาอย่าง สั้นๆ ห้วนๆ ทางลัด shotcut
ซึ่งได้ผลเร็วกว่า ไม่ดีกว่าหรือ?????

"ธรรมะ.........ขี้โ่ม้ 2.0"
//www.pantip.com/tech/coffee/topic/JX2893917/JX2893917.html


โดย: lee sonchot IP: 124.197.91.55 วันที่: 24 มิถุนายน 2553 เวลา:23:57:06 น.  

 
คำพระพุทธเจ้า มีทั้งง่ายและยาก ถ้าจะเปรียบวิชาเลข ก็เหมือนมี บวก ลบ คูณ หาร ตรีโกณฑ์ แคนคูรัส ถ้าคุณไม่เคยเรียนรู้ บวก ลบ คูณ หาร เลย มาเจอ แคนคูรัส คุณ ก็ จะบอกว่า แคนคูรัส มันสูงส่งเกินไป มันยากที่จะเรียนรู้ศึกษา เรื่อง ปฎิจสมุปบาท นี้ก็เช่นกัน เป็นเรื่องที่ยากที่สุด ละเอียดลึกซึ้งที่สุด จนพระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้ว ยังไม่อยากจะสอนใคร เพราะคิดว่า คงหาคนที่เข้าใจได้ยาก แต่ถ้า ศึกษาไปเรื่อยๆๆ มันก็ มีคนที่เข้าใจได้ เหมือนกัน พระพุทธเจ้า ก็เลย สอน

ทีนี้ คุณ lee ถามว่า มีอะไรที่ง่าย ได้ผลเร็วมั๊ย ก็ มีครับ

พระพุทธเจ้าก็ สอน ง่ายๆให้ รู้ลมหายใจ ให้ รู้การเคลื่อนไหวของกาย เมื่อจิตไปคิดถึงสิ่งใดให้ ทิ้งความคิดนั้น ฝึกทิ้งความคิดให้ไว แล้วดึงจิต มารู้ลมหายใจให้อยู่กับปัจจุบัน

หรือ อีกวิธีหนึ่ง ที่พระพุทธเจ้าสอน ก็คือ รู้อะไร ก็ สักแต่ว่ารู้ เห็นอะไร ก็ สักแต่ว่าเห็น นี่ก็ น่าจะเข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อนอะไร ทดลองเอาไปฝึกดูน๊ะครับ


โดย: จูปีเตอร์เทพแห่งดาวพฤหัส วันที่: 25 มิถุนายน 2553 เวลา:12:08:58 น.  

 
อฑฺฒา เจว ทฬิทฺทา จ สพฺเพ มจฺจุปรายนา
ทั้งคนมีทั้งคนจน ล้วนมีความตายเป็นเบื้องหน้า

ขอให้มีความสุขในการดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาท ตลอดไป..นะคะ




โดย: พรหมญาณี วันที่: 25 มิถุนายน 2553 เวลา:12:36:36 น.  

 


ตามมาศึกษาพระธรรมค่ะ




โดย: พธู วันที่: 25 มิถุนายน 2553 เวลา:20:45:58 น.  

 
มีสติและปัญญา แต่ใช้ไม่เป็น ใช้ในทางที่ผิด ชีวิตจะเป็นสุขได้อย่างไร

ขอให้มีความสุขในการดำเนินชีวิตด้วยสติปัญญาอย่างถูกต้อง ตลอดไป..นะคะ




โดย: พรหมญาณี วันที่: 26 มิถุนายน 2553 เวลา:1:12:32 น.  

 
ร้อนกาย ดับได้ด้วยความเย็น...ร้อนใจ ดับได้ด้วยธรรมะ

ขอพระธรรม คุ้มครองให้มีความสุข ตลอดไป..นะคะ




โดย: พรหมญาณี วันที่: 28 มิถุนายน 2553 เวลา:12:48:50 น.  

 
สุกรํ สาธุนา สาธุ สาธุ ปาเปน ทุกฺกรํ
ความดี อันคนดีทำง่าย ความดี อันคนชั่วทำยาก

คิดดี ทำดี เชียร์บอลอย่างมีความสุข...นะคะ




โดย: พรหมญาณี วันที่: 29 มิถุนายน 2553 เวลา:13:52:25 น.  

 
โกโธ สตฺถมลํ โลเก
ความโกรธเป็นดังสนิมศัสตราในโลก

โกรธได้..แต่อย่านาน เพื่อชีวิตที่มีความสุข ตลอดไป..นะคะ




โดย: พรหมญาณี วันที่: 30 มิถุนายน 2553 เวลา:12:58:20 น.  

 
สามคฺคี วุฑฒิ สาธิกา
ความสามัคคี มีแต่ความเจริญ

มีความสุขกับความสามัคคีในการเชียร์บอลอย่างปลอดการพนัน...นะคะ




โดย: พรหมญาณี วันที่: 2 กรกฎาคม 2553 เวลา:10:52:02 น.  

 


สวัสดีค่ะ ลุง




โดย: พธู วันที่: 3 กรกฎาคม 2553 เวลา:15:26:15 น.  

 
บาลีท่านว่า..........ทุลลโภ องฺคสมฺปนฺโน
ฝรั่งบอกว่า...........Nobody perfect !
แปลเป็นไทยว่า....คนที่สมบูรณ์พร้อมทุกอย่าง หาได้ยาก

มึความสุขกับความเป็นจริงในทุกสิ่งรอบกาย ตลอดไป...นะคะ




โดย: พรหมญาณี วันที่: 5 กรกฎาคม 2553 เวลา:13:06:17 น.  

 
ขออนุโมทนาสาธุครับ


โดย: ชาดีครับ (shadee829 ) วันที่: 18 กรกฎาคม 2553 เวลา:13:33:32 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

จูปีเตอร์เทพแห่งดาวพฤหัส
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




ดูกรภิกษุทั้งหลาย : บัดนี้ เราขอเตือนพวกเธอว่า สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา พวกเธอจงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิด ฯ
Friends' blogs
[Add จูปีเตอร์เทพแห่งดาวพฤหัส's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.