|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
ปฏิจจสมุปบาทแต่ละอาการเป็นปฏิจจสมุปปันนธรรม
ปฏิจจสมุปบาทแต่ละอาการเป็นปฏิจจสมุปปันนธรรม
..........ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! : เราจักแสดง ปฏิจจสมุปปันนธรรม แก่พวกเธอทั้งหลาย. พวกเธอทั้งหลาย จงฟังซึ่งธรรมนั้น, จงทำในใจให้สำเร็จประโยชน์, เราจักกล่าวบัดนี้.
ครั้นภิกษุทั้งหลายเหล่านั้น ทูลสนองรับพระพุทธดำรัสแล้ว, พระผู้มีพระภาคเจ้า ได้ตรัสถ้อยคำเหล่านี้ว่า:-
..........ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย! ก็ปฏิจจสมุปปันนธรรมทั้งหลาย เป็นอย่างไรเล่า?
..........(๑) ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย! ชรามรณะ เป็นของไม่เที่ยง อันปัจจัยปรุงแต่งแล้ว อาศัยกันและกันเกิดขึ้นแล้ว มีความสิ้นไปเป็นธรรมดา มีความเสื่อมไปเป็นธรรมดามีความจางคลายไปเป็นธรรมดา มีความดับลงเป็นธรรมดา.
..........(๒) ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย! ชาติ เป็นของไม่เที่ยง อันปัจจัยปรุงแต่งแล้วอาศัยกันและกันเกิดขึ้นแล้ว มีความสิ้นไปเป็นธรรมดา มีความเสื่อมไปเป็นธรรมดามีความจางคลายไปเป็นธรรมดา มีความดับลงเป็นธรรมดา.
..........(๓) ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย! ภพ เป็นของไม่เที่ยง อันปัจจัยปรุงแต่งแล้วอาศัยกันและกันเกิดขึ้นแล้ว มีความสิ้นไปเป็นธรรมดา มีความเสื่อมไปเป็นธรรมดามีความจางคลายไปเป็นธรรมดา มีความดับลงเป็นธรรมดา.
..........(๔) ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย! อุปาทาน เป็นของไม่เที่ยง อันปัจจัยปรุงแต่งแล้ว อาศัยกันและกันเกิดขึ้นแล้ว มีความสิ้นไปเป็นธรรมดา มีความเสื่อมไปเป็นธรรมดามีความจางคลายไปเป็นธรรมดา มีความดับลงเป็นธรรมดา.
..........(๕) ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย! ตัณหา เป็นของไม่เที่ยง อันปัจจัยปรุงแต่งแล้วอาศัยกันและกันเกิดขึ้นแล้ว มีความสิ้นไปเป็นธรรมดา มีความเสื่อมไปเป็นธรรมดามีความจางคลายไปเป็นธรรมดา มีความดับลงเป็นธรรมดา.
..........(๖) ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย! เวทนา เป็นของไม่เที่ยง อันปัจจัยปรุงแต่งแล้วอาศัยกันและกันเกิดขึ้นแล้ว มีความสิ้นไปเป็นธรรมดา มีความเสื่อมไปเป็นธรรมดามีความจางคลายไปเป็นธรรมดา มีความดับลงเป็นธรรมดา.
..........(๗) ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย! ผัสสะ เป็นของไม่เที่ยง อันปัจจัยปรุงแต่งแล้วอาศัยกันและกันเกิดขึ้นแล้ว มีความสิ้นไปเป็นธรรมดา มีความเสื่อมไปเป็นธรรมดามีความจางคลายไปเป็นธรรมดา มีความดับลงเป็นธรรมดา.
..........(๘) ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย! สฬายตนะ เป็นของไม่เที่ยง อันปัจจัยปรุงแต่งแล้ว อาศัยกันและกันเกิดขึ้นแล้ว มีความสิ้นไปเป็นธรรมดา มีความเสื่อมไปเป็นธรรมดามีความจางคลายไปเป็นธรรมดา มีความดับลงเป็นธรรมดา.
..........(๙) ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย! นามรูป เป็นของไม่เที่ยง อันปัจจัยปรุงแต่งแล้ว อาศัยกันและกันเกิดขึ้นแล้ว มีความสิ้นไปเป็นธรรมดา มีความเสื่อมไปเป็นธรรมดามีความจางคลายไปเป็นธรรมดา มีความดับลงเป็นธรรมดา.
..........(๑๐) ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย! วิญญาณ เป็นของไม่เที่ยง อันปัจจัยปรุงแต่งแล้ว อาศัยกันและกันเกิดขึ้นแล้ว มีความสิ้นไปเป็นธรรมดา มีความเสื่อมไปเป็นธรรมดามีความจางคลายไปเป็นธรรมดา มีความดับลงเป็นธรรมดา.
..........(๑๑) ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย! สังขารทั้งหลาย เป็นของไม่เที่ยง อันปัจจัยปรุงแต่งแล้ว อาศัยกันและกันเกิดขึ้นแล้ว มีความสิ้นไปเป็นธรรมดา มีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา มีความจางคลายไปเป็นธรรมดา มีความดับลงเป็นธรรมดา.
..........(๑๒) ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย! อวิชชา เป็นของไม่เที่ยง อันปัจจัยปรุงแต่งแล้ว อาศัยกันและกันเกิดขึ้นแล้ว มีความสิ้นไปเป็นธรรมดา มีความเสื่อมไปเป็นธรรมดามีความจางคลายไปเป็นธรรมดา มีความดับลงเป็นธรรมดา.
..........ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! : เหล่านี้ เรียกว่า ปฏิจจสมุปปันนธรรม ทั้งหลาย
Create Date : 16 มิถุนายน 2553 |
Last Update : 16 มิถุนายน 2553 18:40:55 น. |
|
6 comments
|
Counter : 376 Pageviews. |
|
|
|
โดย: shada วันที่: 17 มิถุนายน 2553 เวลา:18:04:58 น. |
|
|
|
โดย: พรหมญาณี วันที่: 18 มิถุนายน 2553 เวลา:12:47:54 น. |
|
|
|
โดย: พรหมญาณี วันที่: 21 มิถุนายน 2553 เวลา:15:32:07 น. |
|
|
|
โดย: พธู วันที่: 22 มิถุนายน 2553 เวลา:21:32:12 น. |
|
|
|
โดย: พรหมญาณี วันที่: 23 มิถุนายน 2553 เวลา:15:28:31 น. |
|
|
|
โดย: พรหมญาณี วันที่: 24 มิถุนายน 2553 เวลา:14:07:00 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
เรียนธรรมะตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าในพระไตรปิฏก
//www.samyaek.com/
กัลยาณมิตรที่ดีที่สุดคือ พระพุทธเจ้า