Bloggang.com : ดา ดา : ย่าดาที่เกาหลี ตอนที่ 1

ย่าดาที่เกาหลี ตอนที่ 1

ไปมาเมื่อตอน สงกรานต์ที่ผ่านมา ได้หยุดหลายวันแต่ดันไม่มีตั๋วซะงั้น จึงจำเป็นต้อง

เลื่อนเป็นไปแลท และกลับไวเอา สรูปแล้วเบ็ดเสร็จได้เวลาเที่ยวจริงๆแค่ 3 วัน

เท่านั้น อีกสองวันเป็นเวลาสำหรับเดินทางไปกลับ เอาหน่ะดีกว่าไม่ได้ไปไหน มีวัน

หยุดทั้งที

----

จากกรุงเทพฯลัดฟ้ามาถึงสนามบินท่าอากาศยานนานาชาติอินชอน Incheon

International Airport สาธารณรัฐเกาหลีใต้ จากนั้นก็เรียก

รถแทกซี่ไปยัง Eastgate Tower Hotel ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

ในภาพเป็นภายนอกสนามบิน

ผ่านหลังคาเป็นโคมโค้งๆ

สถาปัตยกรรมสมัยใหม่ สวยดี

อำลาหลังคาทรงทันสมัยกับดวงอาทิตย์ยามเช้าไว้เบื้องหลัง

วิวยามเช้าระหว่างทาง

ชมวิวสองข้างทาง ระหว่างนั่งแท๊กซี่ งีบหลับไปพักหนึ่งช่วงใกล้ๆถึง

ตื่นมาเก็บบรรยากาศต่อ คนขับบอกใกล้ถึงแล้ว ตรงข้างตึกมีรูปคน

แขนขยับขึ้นลงลักษณะเหมือนกำลังทำงานอยู่ ไม่ทราบว่าเป็นตึกอะไร

ถึงแล้ว Eastgate Tower Hotel ตั้งใจว่าจะเช็คอินแล้วจะนอนเอาแรง

ซักงีบ นั่งเครื่องมาแทบไม่ได้นอนเลย

ย่านนี้ คึกคักทีเดียวมีแหล่งช๊อปปิ้ง ใกล้ๆโรงแรม แต่จุดมุ่งหมายย่าไม่ได้มาช๊อปปิ้งจ๊ะ

ฉะนั้นเรื่องเครื่องสำอางค์ขอผ่าน

แต่เนื่องจากเรามาถึงเช้าเกินไป จึงยังเช็คอินไม่ได้ ต้องรอประมาณ 11.20น

ถึงจะเช็คอินได้ เอายังไงดีง่วงก็ง่วงอยากนอนเป็นที่สุด จึงฝากของไว้ทางโรงแรม

แล้วก็จับแท๊กซีไปหาน้องติ๊ก ไปงีบที่นั่นสักพัก ได้เวลาแล้วค่อยมาเช็คอิน

ระหว่างทางผ่านตึกรามบ้านช่อง ที่เห็นนต้นไม้ข้างทางมีแต่ต้นและกิ่งก้าน นึกในใจ

"แล้วย่าจะได้ถ่ายดอกไม้ไหมนี่"

ตึกนี้มีเก้าอี้สีสดๆวางอยู่หน้าอาคาร ดูแปลกตาดี สีอาคารที่เคร่งขรึม มีหมู่เก้าอี้หลากสีสัน

มาทำให้ดูมีชีวิตชีวาขึ้น

หลังจากที่แท๊กซี่วนหา อยู่ตั้งนานสองนาน แท๊กซี่กำลังจะขับเลยจุดหมาย ดีนะลูกสาวย่า

เหลือบเห็นป้ายที่หมาย ไม่งั้นได้วนอยู่แถวนั้นอีกนานเลย ในรถมี GPRS ไว้ไม่เห็น

ได้ช่วยอะไรเล้ย เฮ้อ.......

ในที่สุดก็มาถึงจุดนัดพบจนได้

แล้วพวกเราก็เข้าสู่ sleep mode

ส่วนน้องติ๊กหลังจากพามาที่พัก แล้วก็ไปเรียน เขาจะตามไปที่โรงแรมภายหลัง

ช่วงที่ไปอากาศหนาวอยู่เหมือนกัน ดีที่พื้นห้องนอนมีฮีตเตอร์ซ่อนอยู่ข้างใต้

อุ่นดีจัง

พักผ่อนเรียกพลังคืนมาแล้วได้เวลาเดินทางไปเช็คอิน

ผ่านตึกรูปทรงประหลาดแปลกตาดีเก็บภาพมาฝาก มีป้ายเลนจักรยานด้วย

ที่นี่มีเลนจักรยานเป็นเรื่องเป็นราว ทำให้สะดวกในการปั่นจักรยานไปในสถานที่ไม่ไกลนัก

ตึกรามรายทางเก็บภาพจากบนรถแท๊กซี่ ยังเห็นเป็นต้นไม้ใบโกร๋นๆอยู่

แล้วสามซอมบี้ก็เข้าเช็กอินเวลา11.20นตามเวลาที่เขากำหนดไว้

ระหว่างรอย่าถ่ายเก็บบรรยากาศโดยรอบ ภาพนี้ถ่ายจากcounter ออกไปยังประตูทางเข้า

ที่ล๊อบบี้เต็มไปด้วยสีสัน

ได้เวลาเข้าห้องพักซะที เบอร์ห้อง 2050 ลายwallpaper เก๋ดี

เตียงสำหรับสามคน

เดินผ่านโซนชมวิวมั่นหมายว่าจะมาถ่ายวิวตรงนี้สักวัน

เช้าแล้วออกจากห้องผ่านจุดนี้ขอเก็บวิวมุมสูงกว้างเอาไว้ซะหน่อยสุดซ้ายมือนั่นไง

N tower จุดหมุ่งหมายหนึ่งที่เราจะไปสักวัน

และที่เห็นเป็นทางยาวคือลำคลองที่ทางรัฐบาลเกาหลีพัฒนามาจากคลองน้ำเสียให้กลายเป็นจุดท่องเที่ยว

ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการจัดมหกรรมโคมไฟนานาชาติ เมื่อปีที่แล้ว

ซูมอินเข้ามาหน่อยตึกเรียงรายโอบล้อมด้วยขุนเขา

เรามาถึงข้างล่างกันแล้วน้องติ๊กรออยู่แล้ว กำลังทบทวนว่ามีเวลาใน 3 วันจะไปเที่ยวที่ไหน

ได้บ้าง คงเที่ยวรอบๆได้เท่านั้น ต่างจังหวัดคงไปไม่ได้

พร้อมกันแล้วเอ้า..ลุย ออกเที่ยว แต่เดี๋ยวก่อนคงต้องหาอะไรทานซะก่อน

disco jump ณล้านกว้างใกล้โรงแรม

สะดุดตากับอะไรหนอ ใกล้ๆโรงแรม

ใกล้โรงแรมก็เป็นแหล่งช๊อปปี้งเหมือนกัน ซอกใกล้ๆร้านเครื่องสำอางค์ เป็นร้านขาย บิบิมบับ

มาถึงเกาหลีแล้วไม่ทานอาหารเกาหลีเดี๋ยวจะว่าไม่ถึง

เห็นเป็นซอกเล็กๆ มีบันไดขึ้นไปยังชั้นสอง กลายเป็นที่กว้างขวางขึ้นมา

บรรยากาศภายในร้าน ตกแต่งได้น่ารักดี

ใส่ผ้ากันเปื้อนที่ทางร้านให้มาหน่อยค่ะ

มาแล้วกะทะใหญ่เชียว

บิบิมบับน่าทานค่ะ มีเซอราลี่ ซ๊อสเกาหลี เนื้อไก่ และผักอีกสองสามอย่าง พนักงานเขาจะมาผัดให้เราเป็นระยะๆ พอสุกแล้ว ทานกันหลังจากเนื้อไก่ และผักหมดแล้ว เขาจะเอาข้าวมาเทใส่น้ำซอสที่เหลือ
แล้วก็ผัดให้เข้าเนื้อเข้าน้ำ หม่ำได้อีกแบบพุงกางเหมือนคนท้องซัก 3เดือน 555 ทำให้นึกถึงสุกี้บ้านเรา พอทานเหลือแต่น้ำซุป ก็นำข้าวสวยลงต้มทำเป็นข้าวตุ๋นอร่อยกันต่อได้อีก