space
space
space
<<
มิถุนายน 2560
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
space
space
16 มิถุนายน 2560
space
space
space

แนะวิธีซื้อคอนโดฯ เงินเดือน-เงินดาวน์ สำคัญสุด วางแผนการเงินไม่เป็นหนี้ยันแก่


แนะวิธีซื้อคอนโดฯ เงินเดือน-เงินดาวน์ สำคัญสุดวางแผนการเงินไม่เป็นหนี้ยันแก่


สังคมไทยในปัจจุบันมีไม่น้อย เมื่อทำงานได้สักพักเริ่มเก็บเงินได้สักก้อนก็เริ่มจะมองหาซื้อบ้านหรือคอนโดมิเนียมสักห้องไว้อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง หรือบางคนที่มีบ้านอยู่แล้วกับครอบครัวแต่อยากมีทรัพย์สินเป็นของตัวเองไว้ลงทุนสร้างรายได้ในระยะยาวแต่ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อนั้นเราจะต้องเช็กความพร้อมของตัวเองก่อนเป็นอันดับแรกว่าพร้อมแค่ไหนถึงจะไม่สร้างหนี้ให้กับตัวเราเองในระยะยาวไปอีก 20-30 ปีข้างหน้าวันนี้ CMC Group มีวิธีวางแผนการเงินเพื่อไม่ให้เป็นหนี้สำหรับซื้อบ้านหรือคอนโดมิเนียม มาฝากครับ

    1. เช็กความพร้อมทางการเงินเริ่มจากที่ดูรายได้ต่อเดือนอยู่ที่เท่าไหร่ แล้วคูณด้วย 50 เท่าจะออกมาเป็นราคาบ้านหรือคอนโดมิเนียมที่เราพอจะมีกำลังซื้อได้ เช่น คนมีรายได้ 15,000บาท/เดือน จะซื้อบ้านราคาไม่เกิน 700,000-800,000 บาท รายได้ 20,000 บาท/เดือนจะซื้อบ้านหรือคอนโดมิเนียมได้ราคาต้องไม่เกิน 1 ล้านบาทเป็นต้น

จากนั้นมาคำนวณกำลังความสามารถในการผ่อนต่อเดือนเพราะอาจจะมีบางคนที่ยังมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อยู่ เช่น บัตรเครดิต ค่างวด ผ่อนรถเป็นต้น ซึ่งค่าผ่อนคอนโดมิเนียม ต่องวด จะต้องอยู่ที่ 1 ใน 3ของรายได้แต่ละเดือน อาทิ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาทผ่อน 30 ปี จะมีภาระผ่อนเดือนละ 6,000-7,000 บาท ราคา 2 ล้านบาท จะอยู่ที่เดือนละ 12,000-14,000บาท ราคา 3 ล้านบาท อยู่ที่เดือนละ 18,000-21,000บาท เป็นต้น

    2. เงินดาวน์ที่จะต้องผ่อนชำระกับโครงการก่อนที่จะขอยื่นกู้กับธนาคาร ต้องมีอย่างน้อย 10-15%ของราคาบ้าน เท่ากับว่าตัวเราเองจะต้องมีเงินออมไว้ก้อนหนึ่งด้วยอย่างน้อย 10-15% หรือจะมีมากกว่านี้ก็ได้ ยิ่งมากก็จะยิ่งดีเนื่องจากบางธนาคาร อาจจะปล่อยวงเงินกู้ให้ไม่เต็ม 100% ตามที่เราขอกู้ไปอาจจะให้แค่ 80-90% ของราคาบ้าน

ดังนั้น "เงินออม"ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับคนที่คิดจะซื้อห้องชุดเพราะจะต้องใช้เงินที่เราเก็บมาทุกเดือนผ่อนดาวน์กับโครงการ ซึ่งหากไม่มีติดตัวเลยเท่ากับว่าเราจะต้องแบกรับภาระดอกเบี้ยหนักอึ้งมากในช่วง 1-3 ปีแรก ค่างวดต่อเดือนที่เราผ่อนชำระจะเป็นค่าดอกเบี้ยมากกว่าเงินต้นประมาณ 70-80% ส่วนเงินต้นจะถูกตัดอยู่ที่20-30% เท่านั้น กว่าจะเริ่มเบาตัวตั้งแต่ปีที่ 4 ปีที่ 5 เป็นต้นไป

    3. เทคนิกพิเศษสำหรับคนที่อยากจะเร่งปลดหนี้ให้หมดเร็ว ๆเพราะมีบางคนกว่าจะตกลงปลงใจซื้อบ้านสักหลัง อายุล่วงเข้าไป 30 ปีปลาย ๆ หรือ 40 ปีต้นๆ แล้ว ถ้าผ่อน 30 ปี กว่าจะหมดหนี้อายุก็ปาเข้าไป 60-70 ปีถ้าไม่อยากแบกรับภาระหนี้ไปจนแก่ในช่วงระหว่างทางนี้ ถ้าตัวเองมีศักยภาพและความสามารถสูงข้อแนะนำก็คือจะต้องมีเงินสักก้อนไว้โปะค่างวดด้วย เพื่อให้เงินต้นลดลงเร็ว ๆจะทำให้ภาระดอกเบี้ยแต่ละเดือนหายไปด้วย

    4. ระยะเวลาการผ่อน จะเป็นระยะเวลา 10 ปี15 ปี 20 ปี หรือ 30 ปีดีนั้น หากเป็นมนุษย์เงินเดือนรายได้เฉลี่ยต่อเดือนยังไม่มากแถมเงินออมมีอยู่น้อยนิดให้ขอกู้ธนาคาร 30 ปีไว้ดีที่สุด เพราะการขอกู้ระยะยาวเมื่อคำนวณเป็นค่างวดต่อเดือนที่เราจะชำระแล้วทำให้มีภาระหนี้ต่อเดือนสามารถนำเงินก้อนไปชำระได้ เพื่อลดต้นลดดอกแต่ส่วนใหญ่หลายธนาคารจะไม่ให้ปิดหนี้ทั้งหมดภายใน 3 ปีแรก

ฉะนั้นในช่วงแรกนี้โปะเงินต้นได้จะยิ่งดีเพราะดอกเบี้ยจะสูงมาก ยกตัวอย่างเช่นกู้ซื้อคอนโดฯ 1 ล้านบาทมีภาระค่างวดเดือนละประมาณ 6,500 บาทให้จ่ายค่างวดเพิ่มขึ้นเป็นเดือนละ 8 พันบาทไปตลอดก็จะสามารถผ่อนคอนโดฯ หมดได้ภายใน 20 ปีส่วนใครไม่โปะเงินงวดเลยจนครบ 30 ปี เบ็ดเสร็จจะต้องจ่ายดอกเบี้ยให้ธนาคารเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย60-70% หรืออีก 6-7 แสนบาท

ทราบอย่างนี้แล้วจะช้าอยู่ใย รีบจับจองคอนโดมิเนียมดีๆ สักห้องสองห้องกันเถอะครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก: //www.cmc.co.th/CMC2017/news.php?id=898




Create Date : 16 มิถุนายน 2560
Last Update : 16 มิถุนายน 2560 11:02:21 น. 0 comments
Counter : 444 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
space

สมาชิกหมายเลข 3760211
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 3760211's blog to your web]
space
space
space
space
space