เทคนิคเลือกธนาคาร เพื่อกู้เงินซื้อบ้าน แต่ละธนาคารจะมีข้อเสนอและเงื่อนไขแตกต่างกันไป เรามีไอเดียในการเลือกธนาคารให้ถูกใจก่อนกู้เงินซื้อบ้าน มาฝากค่ะ
1. อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ดูว่าธนาคารมีลักษณะของการคิดอัตราดอกเบี้ยในรูปแบบที่ต้องการหรือไม่ เช่น อัตราดอกเบี้ยคงที่ตลอดระยะเวลากู้ ,อัตราดอกเบี้ยคงที่ระยะสั้นในช่วงแรกจากนั้นเป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัวฯลฯ จากนั้น จึงดูที่อัตราดอกเบี้ยว่า ที่ใดสูงหรือต่ำกว่ากัน 2. เรื่องค่าใช้จ่ายในการกู้ เปรียบเทียบค่าใช้จ่ายที่ทางธนาคารจะเรียกเก็บ เช่นค่าประเมินมูลค่าหลักประกัน,ค่าธรรมเนียมการยื่นกู้,ค่าธรรมเนียมการไถ่ถอนจำนองก่อนกำหนด 3. ธนาคารใดยอมให้กู้และให้กู้ในเงื่อนไขใดบ้าง แต่ละธนาคารมีหลักเกณฑ์ในการพิจารณาคุณสมบัติผู้กู้และปัจจัยอื่น ๆที่ แตกต่างกัน เช่น รายได้ของผู้กู้ ธนาคารจะต้องคำนวนรายได้ต่อปีของผู้กู้และนำมาเปรียบเทียบกับวงเงินที่ขอกู้และพิจารณาว่าผู้กู้มีความสามารถในการผ่อนชำระตามหลักเกณฑ์ของธนาคารหรือ ไม่ ธนาคารอาจใช้มูลค่าบ้านจากราคาประเมิน ไม่ใช่ราคาจริงที่ซื้อขายเป็นหลักเกณฑ์ในการอนุมัติเงินกู้ดังนั้น วงเงินกู้อาจจะไม่เพียงพอกับราคาบ้านที่ซื้อขายจริงนอกจากนี้ ธนาคารจะพิจารณาจากอายุของท่านถ้าอายุมากก็อาจให้ระยะเวลายืมสั้น เป็นต้น ข้อควรระวัง : กว่าที่จะทราบว่าท่านได้รับการอนุมัติให้กู้หรือไม่ คุณต้องทำเรื่องยื่นขอสินเชื่อกับธนาคารไปแล้วในระยะเวลาหนึ่งดังนั้นหากไม่ได้รับการอนุมัติให้กู้หรือได้วงเงินกู้น้อยกว่าที่มีเงิน ดาวน์ คุณอาจไม่สามารถซื้อบ้านที่ต้องการได้และถูกยึดเงินมัดจำหรือเงินจองได้ดังนั้น ในการทำ "สัญญาจะซื้อจะขาย" ควรขอเวลาในการชำระเงินเพื่อซื้อ อย่างน้อย 2 ถึง3 เดือน เพื่อให้มีโอกาสในการยื่นเรื่องกับธนาคารที่สองหรือไม่ก็ควรยื่นเรื่องขอสินเชื่อไว้กับหลายๆ ธนาคารทีเดียวพร้อมกัน แต่ทั้งนี้ ท่านอาจจะเสียค่าธรรมเนียมยื่นกู้หรือค่าประเมินมูลค่าหลักประกันโดยรวมประมาณ 2 ถึง 4 พันบาทต่อธนาคาร แต่ก็มีบางธนาคารซึ่งจะดูเรื่องการอนุมัติเงิน ก่อนว่า ให้หรือไม่ให้และให้เท่าใดแล้วจึงประเมินมูลค่าหลักประกัน คุณจึงไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ก่อนที่จะทราบว่ากู้ได้หรือไม่ ขอบคุณข้อมูลจาก ://www.cmc.co.th/CMC2017/news.php?id=1713
Create Date : 15 มิถุนายน 2560 |
Last Update : 15 มิถุนายน 2560 11:14:04 น. |
|
0 comments
|
Counter : 499 Pageviews. |
|
|