Bloggang.com : หลังจอ : ซิน จ่าว Hanoi # 1 -- > วัดวันเมียว (วิหารวรรณกรรม) , โบสถ์เซนต์โจเซฟ , ย่าน 36 Streets

ซิน จ่าว Hanoi # 1 -- > วัดวันเมียว (วิหารวรรณกรรม) , โบสถ์เซนต์โจเซฟ , ย่าน 36 Streets

วันศุกร์ 18 มกราคม 2551

ช่วงนี้เหมือนเราไปเที่ยวถี่ แต่จริงๆ เราก็ไม่ค่อยได้ไปเที่ยวหรอกนะ เราแค่มา update blog ช้าเท่านั้นเอง

รอบนี้เราไปฮานอยมานะ จองตั๋วโปรโมชั่น Air Asia 1 บาทตั้งแต่เมษาปีที่แล้ว จากเดิมมีสมาชิกทั้งหมด 5 คน จองกันนานไป วันเดินทางจริงเลยเหลือแค่ 3 สหาย หรือ 3 ทหารเสือนะ ก่อนไปก็หาข้อมูลๆๆๆ ไปเยอะมากๆ เพราะมีคนเตือนเรื่องฮานอยเยอะเหมือนกัน แล้วก็เพื่อนทรายก็ช่วยๆ หาข้อมูลโรงแรมให้ แฮ่กๆ

ออกเดินทางกันแต่เช้ามาถึง airport สุวรรณภูมิ 7 โมงกว่าๆ ประมาณว่ากลัวรถติดอ่ะ เพราะเครื่องออก 10.25 น. และเครื่องก็ออกตรงเวลาเป๊ะ ไม่มีการ delay ดีจัง เหมือน trip นี้จะราบรื่นนะ

มาถึงสนามบิน Noi Bai @ Hanoi ด้วยความปลอดภัย พวกเราก็ไปแลกเงินกันก่อน โดยเอาเงินดอลล่าร์มาแลกเป็นเงินดองกัน ร่ำรวยกันเป็นแถวๆ เพราะมีเงินดองกันเป็นแสน ( เงินไทยก็พันกว่าบาทเอง)

ทริปนี้เราจองที่พักที่โรงแรม Hanoi Pacific Hotel แล้วก็นัดให้รถมารับที่สนามบิน Noi Bai ด้วย จากนั้นมาหาคนรับเรา ปรากฏว่าโรงแรมไม่มารับ เลยมึนๆ หน่อย แต่โชคดีเจอเคาน์เตอร์ของเครือ pacific เลยปรี่ไปถามและให้เค้าโทรไปที่โรงแรมให้ สรุปคือเรานั่ง Taxi ไปที่โรงแรมและโรงแรมจะจ่ายค่า Taxi ขาไปให้ ............แฮ่กๆ ค่อยยังชั่ว ถามที่โรงแรมว่าทำไมไม่มารับเรา เค้าบอกว่ายุ่งๆ เลยลืม (จริงไหมหว่า)

ในที่สุดก็ถึงโรงแรม Pacific ตั้งอยู่บนถนน Cua Nam ได้นอนห้อง Deluxe กัน ห้องใหญ่มากๆ มี internet ในห้องด้วย (แต่มาเช็คทีหลัง ใช้ไม่ได้อ่ะ) ดูจากสภาพห้องก็โอเคกันเลยหละ ถึงแม้ไม่ใช่ 5 ดาวก็ตาม มองนาฬิกาก็ประมาณจะบ่ายสามแล้ว เลยเตรียมพร้อมลุยฮานอยกัน

"ห้องสวยไหมๆ"

หลังจาก check-in เสร็จก็เตรียมเที่ยวเลย ถามทางจากพนักงานโรงแรมว่าจะไปวัดวันเมียวหรือวิหารวรรณกรรมยังไง แล้วก็เริ่มลุย โชคดีได้แผนที่ฉบับพกพาที่ช่วยเหลือเราได้มากๆ ก็เลยอุ่นใจ แต่ออกมานอกโรงแรมเนี่ยหนาวกายมากๆ เพราะตอนก่อนมาเราเช็คอุณหภูมิที่ cnn บอกว่าประมาณ 22C (check ก่อนมา 2 อาทิตย์) เอาเข้าจริงน่าจะประมาณ 10 องศานะ เดินออกมานอกโรงแรมเนี่ย บรื๋อ เลย แถมแต่ละคนก็พกกันมาแค่ sweather บางๆ นะ จะรอดกันไหมน้อ

ยังไม่มีอาหารรองท้องมาเลยตั้งแต่เช้า เลยตระเวนๆ หาของร้อนๆ ทานก็เลยมาเจอเฝอข้างทาง ใช้ภาษามือสั่งอาหารกัน ได้เฝอร้อนๆ มาคนละ 1 ชาม คิดเป็นเงินไทยก็ตกชามละประมาณ 25 บาท

"คนขายเฝอ"

ดูวิวข้างทางไปเรื่อยๆ ได้บรรยากาศฮานอยจริงๆ ตึกสีสันจัดจ้านเอย เสียงแตรที่มีเข้ามาไม่หยุดหย่อนเอย คนขายของโดยใช้รถจักรยานบรรทุกของเอย ได้สีสันปนหูชามากๆ

"ดอกไม้สวยๆ จ้า"

เดินไป กางแผนที่ไป ในที่สุดก็ถึงวัดวันเมียว เย้ๆ ค่าตั๋วก็คนละ 5000 ดอง จ่ายเงินเสร็จสรรพก็เริงร่าเข้าไปในวัดกัน

"Counter ขายตั๋ววัดวันเมียว"

"ตั๋ววัดวันเมียว"

วัดวันเมียว หรือที่รู้จักกันในนามของ "วิหารวรรณกรรม" ซึ่งถือกันว่าเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของเวียดนามเลยทีเดียว วัดวันเมียวสร้างมาเกือบพันปีแล้ว สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1070 ซึ่งเป็นยุคของ ราชวงศ์หลี่ โดยพระเจ้าหลี่ ไท ตง โปรดฯ ให้สร้างขึ้น เพื่อเชิดชูคุณธรรม โดยอุทิศให้แก่ขงจื๊อ ปราชญ์ชาวจีน ผู้ยึดมั่นในคุณธรรมความถูกต้อง ในอดีตเคยใช้เป็น ที่สอบคัดเลือกจอหงวน เพื่อเข้ารับราชการ ต่อ มามีการเปิดให้มีการสอบสำหรับบุคคลทั่วไปด้วย โดยสถาปัตยกรรมส่วนใหญ่ของวัดวันเมียวจะคล้ายๆ แบบจีน

"หน้าวัดวันเมียว"

"ทางเข้าวัดวันเมียว"

หลังจากผ่านเข้าประตูทางเข้าวัดแล้ว เป็นที่ตั้งของตึกดาวลูกไก่ ซึ่งเป็นแหล่งที่เหล่านักอักษรศาสตร์ใช้ท่องบทกวี เมื่อผ่านประตูแห่งความสำเร็จ (เชื่อกันว่าอธิษฐานสิ่งใดที่ดีงามจะได้สิ่งนั้น)

"ประตูแดงๆ ในวัดวันเมียว"

จากนั้นก็จะพบกับลานโล่งล้อมรอบสระน้ำใหญ่ที่มีชื่อว่า สระแสงงาม เวลาแสงจากดวงอาทิตย์สาดส่องที่ผิวน้ำจะสะท้อนเข้าสู่ประตูใหญ่ เชื่อว่าจะทำให้เกิดความเจริญรุ่งเรือง

"สระแสงงาม"

ลานโล่งบริเวณนี้เป็นที่ตั้งของแผ่นหินจารึกชื่อของ จอหงวน ที่ผ่านการสอบหลักสูตร 3 ปี ซึ่งแต่ละแผ่นตั้งอยู่บนหินรูปเต่า ที่มีจำนวนถึง 82 แผ่น จากที่เคยมีอยู่เดิมถึง 117 แผ่น โดยเริ่มมีการบันทึกไว้ตั้งแต่ปี ค.ศ.1442-1779 ผู้คนนิยมลูบที่หัวเต่า โดยเชื่อกันว่าจะทำให้ประสบความสำเร็จในการศึกษาเล่าเรียน

"เต่าจ้าเต่า"

"ป้ายจอหงวน"

ที่นี่เราไม่เร่งรีบกัน เพราะเรามาตามใจฉัน เลยเดินกันสบายๆ อ่านข้อมูลจากเอกสารที่พิมพ์มาจากเมืองไทย + แอบเดินตามไกด์ ฟังๆ ที่เค้าบรรยาย เอิ๊กๆ

"ลานกว้างๆ"

"โฉมหน้าสามสหายหน้าลานกว้างๆ"

ดื่มด่ำกับวัดวันเมียวแล้ว ก็กางๆ แผนที่กันต่อ จุดหมายต่อไปคือย่าน Old Quarter แล้วก็จะไปเดินแถวๆ ถนน 36 สาย แต่เราแอบมีแผนว่าเราจะต้องเดินผ่าน โบสถ์เซนต์โจเซฟ (St Joseph Cathedral) กันด้วย โชคดีอากาศหนาว ทำให้เดินแล้วไม่เหนื่อยกัน เพราะประมาณการคร่าวๆ จากระยะทางที่เดินก็น่าจะเกิน 10 Km กันนะ

"โบสถ์สวยๆ"

เย้ๆ มาถึง โบสถ์เซนต์โจเซฟแล้ว เสียดาย โบสถ์ปิดและก็มีแต่มอเตอร์ไซค์เต็มหน้าลานไปหมด ทำให้พวกเราไม่สะดวกในการถ่ายรูป ทั้งควันรถมอเตอร์ไซค์และควันบุหรี่จากคนที่มาจอดมอเตอร์ไซค์ทำให้เราต้องรีบซิ่งออกมาจากแถวโบสถ์

จากนั้นพวกเราก็เดินเที่ยวต่อแถวถนน 36 สาย เดินทะลุถนนไปหลายสายมากๆ เดินไปเดินมา ก็หาของกินไปพลางๆ ส่วนของที่ขาย พวกเราดูแล้วเฉยๆ เพราะเหมือนเดินตามสำเพ็งซะมากกว่า ก็เลยไม่ค่อยตื่นตาตื่นใจนัก มีแอบเดินไปตลาดดงซวนด้วย เราไปถึงประมาณหกโมงเอง ปรากฏว่าตลาดปิดแล้ว เลยไม่รู้เลยว่าข้างในขายอะไร ไม่รู้จะขายเหมือนที่ตลาดเว้ไหม

"ถนนที่ขายตุ๊กตาเยอะ ย่าน 36 street"

แล้วพวกเราก็มาได้ dinner รอบเย็นเป็นข้าวใส่ไข่ ราดน้ำเค็มๆ บอกไม่ถูกเหมือนกันว่ามันคืออะไร

"ร้านอาหารเย็น ยองๆ เหลาจ้า"

"หน้าตาอาหารเย็น"

จากนั้นก็ค่อยๆ เดินกลับโรงแรม คราวนี้เริ่มเดินกันคล่องแล้วหละ วันต่อๆ ไป คงเดินกันมัน ถ้าขาไม่พังกันก่อน เหอๆ (เราว่าขาเราไม่พังหรอก เพราะเราอดทน แต่หูเราจะพังมากกว่า เพราะที่นี่แตรดังตลอดเวลา