Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2549
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
10 พฤษภาคม 2549
 
All Blogs
 
เที่ยวญี่ปุ่นวันที่ 4 : Yukarigaoka --> Nippori --> Tokyo --> Kamakura

วันเสาร์ที่ 15 เมษายน 2549

วันนี้เป็นวันแรกของการท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่พวกเราต้องเดินทางกันเอง โชคดีที่เรามีเพื่อนๆ อยู่ที่ญี่ปุ่นกันก็เลยจะมีไกด์จำเป็น 2 วัน คือ วันเสาร์ที่ 15 และอาทิตย์ที่ 16 สำหรับวันนี้เราวางแผนว่าจะไปที่เมือง Kamakura กัน แต่ว่าต้องไปเจอเพื่อนก่อนนะที่สถานีโตเกียว เมื่อคืนปรึกษาพี่ไกด์เรื่องแผนการเดินทางแล้วโดนขู่นิดหน่อยว่าเป็นสถานีที่ใหญ่มาก จะหาเพื่อนเจอเหรอ เราบอกว่านัดแล้วที่ Yaesu Central Entrance ยิ่งโดนข่มขู่ต่อว่าหายาก ไม่เป็นไร สู้ๆ ทาเคชิ

เช้านี้ก็ทานข้าวเช้าก่อนที่โรงแรม Wishton Hotel Yakari ก็พยายามทานข้าวให้มากๆ เพราะเราไม่รู้ว่าเราจะหาเพื่อนเจอไหม จะได้ทานข้าวกลางวันไหม (ล้อเล่นนะ) เอาเข้าจริง เราก็ไม่กล้าทานมากหรอก เพราะกลัวปวดท้องมากกว่า แล้วก็เครียดๆ กับการที่จะต้องผจญภัยกับรถไฟญี่ปุ่นนะ เห็นแผนที่แล้วปวดขมับเพราะมันยิ่งกว่าใยแมงมุมซะอีก แถมต้องลากๆ กระเป๋าเปลี่ยนขบวนรถไฟอีกด้วย จะไหวกันไหมเนี่ย.........โชคดีที่เมื่อคืนพี่ไกด์สอนเรื่องการซื้อตั๋วรถไฟทำให้เช้านี้ก็เลยเหมือนว่าพวกเราจะคล่องๆ เหอๆ เหมือนมีกำลังใจแบบเต็มเปี่ยม เพราะ มีพี่แมว พี่จั๊ก แล้วก็ทรายมาส่งที่สถานี พวกพี่ๆ เค้าจะกลับไปพร้อมทัวร์วันนี้...........แงๆๆ หรือสู้ๆๆ ดีนะ







สถานีรถไฟที่โรงแรมเราอยู่ใกล้ๆ ชื่อว่า Yukarigaoka เป็นของบริษัท Keisei หรือ Keisei Line ไม่ได้เป็นของบริษัท JR ทำให้เราใช้แผนที่ของ JR ที่พิมพ์ออกมาจากเว็บไม่ได้ แต่โชคดีที่ front office ที่โรงแรมน่ารักมาก ถ่ายเอกสารแผนที่รถไฟของ Keisei line มาให้พวกเรา ทำให้เราสะดวกมากขึ้น จาก Yukarigaoka พวกเรามองหารถไฟที่หัวสถานีเขียนว่า Ueno ไม่อย่างนั้นมันจะวิ่งไปอีกทางนึง เล็งๆ กันจนได้ขึ้น โชคดีที่รถไฟว่างๆ ก็เลยลากกระเป๋ากันได้สบายๆ นั่งมองทางไปเรื่อยๆ นับสถานีไปประมาณ 30 สถานี หรือเกือบชั่วโมงกว่าๆ พวกเราต้องลงที่ Nippori เพื่อที่จะเปลี่ยนขบวนรถไฟจาก Keisei line ไป JR line แล้วมุ่งหน้าต่อไปที่ Tokyo Station จุดหมายปลายทางของเรา

ที่ Nippori คนก็เยอะพอประมาณ พวกเรามองหาป้ายขบวนรถไฟ แล้วก็ลากๆ กระเป๋าไป เหอๆ ไม่ยากอย่างที่คิด เพราะเราสามารถหาขบวนรถไฟเจอ แต่รถไฟเริ่มมีคนแน่นพอตัว ทำให้ยืนไม่ค่อยถนัด เอ้า ฮุย เล ฮุย นับๆ ไปอีก 3 สถานี Ueno --> Akihabara --> Kanda --> Tokyo เย้ๆๆ ถึงแล้ว คนเยอะมากๆ เลย ที่สถานี Tokyo เรื่องเปลี่ยนสถานี เปลี่ยนรถไฟ เราไม่หลงกัน มาหลงในสถานีนี่แหละ หาป้าย Yaesu Central Exit ไม่เจอ ป้ำๆ เป๋อๆ ไปถาม Information center เลยหาทางออกเจอ เย้ๆ เจอเพื่อนเรา Yuko รอที่สถานี เฮ้ๆๆรอดแล้วเรา ดีใจจนยิ้มแก้มแทบจะปริ (แก้มเดิมก็กลมๆ อยู่แล้ว)

จากนั้นก็ลากๆ กระเป๋าไปต่อ ออกกันที่ Yaesu North Exitเพราะต้องไปเก็บของที่โรงแรมที่เราจองกันก่อนที่ Yaesu Terminal Hotel หลังจากจัดการภารกิจที่โรงแรมเสร็จแล้ว ก็เตรียมตัวไปเมือง Kamakura โดยไปเจอเพื่อนอีกที่สถานี Tokyo คราวนี้มี Hiromi , Andana , Grace เพิ่มมาอีก 3 สมาชิก ทำให้ Kamukura Tour ของเรามีสมาชิกทัวร์ทั้งหมด 6 หน่อ ลุยๆๆ ........ว่าแล้ว Yuko ก็ไปซื้อตั๋วรถไฟให้ ช่วงนี้ขอไม่ใช้สมอง เพราะใช้มาทั้งเช้าแล้ว ให้เพื่อนเราจัดการให้หมด เราก็แค่เดินตามๆๆๆ ต้อยๆๆๆ

ใช้เวลาประมาณ 50 นาทีจากสถานี Tokyo ก็มาถึงสถานี Kamakura แล้วหละ หลังจากออกจากสถานีก็เดินตามทางเดินไปเรื่อยๆ เป็นสองข้างทางที่ประดับด้วยโคมกระดาษ ดูแล้วได้บรรยากาศโบราณไปอีกแบบ ตอนนี้เริ่มหิวแล้วหละ ก็เลยให้เพื่อนพาไปทานข้าวก่อน แต่ไม่ได้ทานข้าว เพราะไปทานโซบะน้ำกัน เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นมากๆ เราก็สั่งแบบธรรมดา โซบะน้ำเทมปุระ ชามละ 1,800 yen หรือประมาณ 600 บาท ขอบอกว่าแพงมากๆ แต่อย่างว่าขอลองกินโซบะน้ำซะหน่อย เพราะอยู่กะทัวร์ก็ไม่ได้กินเลย อาหารแบบนี้นะ

เมื่อท้องอิ่มก็ได้เวลาลุย ๆ ต่อ ก็เดินไปที่ Tsurugaoka Hachimangu Shrine เป็นวัดโบราณๆ เดินดูบรรยากาศรอบๆ ของวัดญี่ปุ่น เราไม่รู้จะเรียกว่าวัดใช่ไหม หรือเป็นศาลเจ้าก็ไม่รู้ เพราะเค้าเรียกว่า Shrine นะ หลังจากเดินดูบรรยากาศรอบๆ แล้วเราก็ไปเดินต่อที่ Komachi Shopping Street เป็นเหมือนแหล่ง shopping มีของขายเยอะมากๆๆ ทั้งของแพง ของถูกปะปนกันไป เราก็แวะร้านนู้นร้านนี้ตามประสา กว่าจะหลุดออกมา ก็ซื้อของที่ระลึกไปได้ประมาณนึงหละ

จากนั้นต่อรถไฟไปอีก 1 สถานี เพื่อไป Hase Station เพราะเราจะไปวัด Engakuji เป็นวัดร่มรื่น เรียบๆ สงบๆ ตามสไตล์เซ็น มีระฆังใบใหญ่ หรือ Ogane แล้วก็มีจุดชมวิวบนเขาที่มีที่พักให้เราดื่มด่ำจิบชาญี่ปุ่นกัน เรากิน Japanese Tea แบบธรรมดาแต่รสชาติไม่ธรรมดา เพราะมันอร่อยดี ไม่เหมือนกับชาที่เมืองไทยเลย มีขนมชิ้นเล็กรสหวานๆ กินแล้วเข้ากับชาขมๆ แต่กลมกล่อมดีอ่ะ พี่ที่ไปด้วยดื่ม Maccha หรือ Powdered Green Tea แอบชิมแล้วรสชาติเหมือนกินหญ้าบดๆ เลยหละ เหอๆ

จากนั้นก็นั่งรถไฟไปอีก 1 สถานี ไปที่ Enoden Rai Station เพื่อไปวัด Kotokuin ที่มี The Great Buddha Of Kamakura ออกจากสถานีก็ค่อยๆ เดินไปตามทาง ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีก็ถึงวัด ได้เห็น The Great Buddha แล้วองค์ใหญ่มากๆ แต่เป็นแบบเรียบๆ ตามเคย ไม่เหมือนพระพุทธรูปเมืองไทยที่ส่วนมากจะเป็นพระพุทธรูปทองคำ







เรานับถือคนญี่ปุ่นนะ เพราะเราสังเกตแล้ว ทุกๆ วัดหรือทุกๆ สถานที่ท่องเที่ยวจะมีการขายของ OTOP ที่เป็นของพิเศษของสถานที่นั้นๆ เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นขนมประเภทแป้งห่อถั่ว หรือ ถั่วห่อแป้ง , Kitty ในทุกรูปแบบ หรือ ที่ห้อยต่างๆ เลยไม่แปลกใจเลยที่เราเห็นคนญี่ปุ่นห้อยที่ห้อยมือถือเยอะมาก เพราะมีขายกันเยอะมากนี่เอง อืมมม เราเห็นเค้าขายขนมรูปพระ The Great Buddha ด้วย ไม่กล้าซื้อ ไม่กล้าทานเลยหละ แต่แอบถ่ายรูปมาให้ดูนะ







เที่ยวตามสถานที่สำคัญๆ ใน Kamukura เกือบหมด เวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็วนะ เผลอแปบๆ ก็เย็นแล้วหละ เลยต้องกลับ Tokyo กัน ตอนรอรถไฟ อากาศหนาวมากๆ ลมแรงๆๆ ทำให้เรายืนแบบหนาวๆ แงๆๆ ทำมือกลมๆ แล้วก็ยังไม่หายหนาว รถไฟมา ดีใจกันสุดๆ เพราะจะได้อุ่นนิดหน่อย เข้ามาโตเกียวแล้วเพื่อนพาพวกเราไป Shinjuku แล้วเปลี่ยนขบวนรถไฟไปต่อที่สถานี Shimo-Kitazawa เพราะจะไปทานอาหารเย็นกันที่นั่น ขนาดเข้ามาในเมือง อากาศก็ยังหนาวมากๆ อยู่ บรือส์..........มือกลมๆๆๆ

คราวนี้เป็นอาหารสไตล์กระทะร้อนนะ เพราะเป็น Okonomiyaki หรือพิซซ่าญี่ปุ่นกระทะร้อน เราไม่เคยเห็นขายในเมืองไทยนะ ได้บรรยากาศไปอีกแบบ เค้าทำพิซซ่าตามหน้าต่างๆ ที่สั่งไปแล้วห่อกระดาษฟอยล์มาทำให้อุ่นในกระทะร้อนที่โต๊ะของพวกเราต่อ มีหน้าแปลกๆ หลายหน้ามาก ไม่ว่าจะเป็นหน้าถั่วนัตโตะ หน้าโซบะ หน้าผักเขียวๆ หน้า cheese เอาเป็นว่าอิ่มแปล้ ถ่ายรูปมาดูให้ไม่ทันเลยหละ เพราะพออาหารมา มือก็ลุยๆ จ้วงกันแล้วหละ เหอๆ

คืนนี้เป็นคืนแรกที่นอนในโตเกียวนะ ห้องบรรยากาศโอเค ไม่ใหญ่ ไม่เล็ก เรานอนห้องแบบ Double Bed + Extra Bed กันนะ ขอนอนก่อน เพราะเหนื่อยกันเหลือเกิน พรุ่งนีต้องตื่นแต่เช้าเพราะมีนัดไป Nikko Tour รสบัสออกตอน 8.20 ที่แถวๆ สถานีโตเกียวนะ


Create Date : 10 พฤษภาคม 2549
Last Update : 11 พฤษภาคม 2549 0:30:12 น. 10 comments
Counter : 889 Pageviews.

 
arigato gozaimasu

อยากไปญี่ปุ่นอีกจัง ชอบๆๆๆ

konbanwa


โดย: ตี๋น้อยคับ IP: 202.125.217.67 วันที่: 11 พฤษภาคม 2549 เวลา:2:05:19 น.  

 
อ่านแล้วดพลินดีครับ


โดย: ริเริ่ม IP: 161.246.1.33 วันที่: 11 พฤษภาคม 2549 เวลา:2:33:57 น.  

 
แอบมาอ่านที่บล็อคคุณหลังจอก่อน ...
อิจฉาจังที่ได้ไปเที่ยวญี่ปุ่น ภาพสวยมากครับ
แล้วจะมาอ่านอีกนะครับ


โดย: จิรัติการ (karinas ) วันที่: 11 พฤษภาคม 2549 เวลา:7:51:27 น.  

 
ติดตามอ่านตอนต่อไปอยู่นะ ...หนุกจัง...อ่านแล้วอยากไปมั้งจัง


โดย: หมวยหลง IP: 202.183.197.9 วันที่: 11 พฤษภาคม 2549 เวลา:11:01:54 น.  

 
เฮ้อ.. มือกลมๆ เราก็มือแบนๆกางแทนพัดอยู่เนี่ย ร้อน kot kot แต่ตอนนี้ก็อยู่กรุงเทพใช่ป่ะ มาร่วมร้อนด้วยกัน haha

จริงๆแทนว่านั่งรถไฟในญี่ปุ่นไม่ยากเลยอ่ะ แค่ดูเส้นทางให้ถูกเป็นพอ ตอนอยู่ญี่ปุ่นเคยนั่งรถไฟไป Kamakura ครั้งเดียว (นอกนั้นขับรถไป) สถานีที่ Kamakura มันชนบทดีเน้อ แต่แทนก็ชอบไปอ่ะ ไปแล้วก็ดีอยู่ในโตเกียวบางทีก็เบื่อๆเลยขับรถไปหาอะไรสงบๆที่ Kamakura ก็ดีไปอีกแบบ

รออ่านต่อน๊า..


โดย: Deliver วันที่: 11 พฤษภาคม 2549 เวลา:14:27:22 น.  

 
อยากอ่านตอนต่อไปเร็วๆๆ จัง
เมือไรน่ะ จะได้ไปเที่ยวกะมารูโกะ


โดย: Cheng-Cheng IP: 58.136.202.48 วันที่: 11 พฤษภาคม 2549 เวลา:16:03:28 น.  

 
It's cool, you went to each city in each day.
Shizuoka -> Tokyo -> Chiba -> Kamakura -> Nikko -> What's next?

At Engaku-ji, how did you feel when climbs up on those stairs to get onto the hill? Haha I was so tired, it's high.

I think you missed out some temples and also Kamakura beach.


โดย: MOMO วันที่: 13 พฤษภาคม 2549 เวลา:2:53:12 น.  

 
เล่าได้ละเอียดดีจังเลยค่ะ


โดย: อรัญมาภา วันที่: 24 พฤษภาคม 2549 เวลา:9:12:40 น.  

 
อยากไปบ้างจัง


โดย: coffeemate IP: 203.144.130.176 วันที่: 6 ธันวาคม 2550 เวลา:21:46:34 น.  

 
ไปเที่ยวญี่ปุ่นสนุกมากๆเลยเพราะเคยไปมาแล้ว


โดย: ครูเกีย IP: 58.9.57.208 วันที่: 6 มีนาคม 2551 เวลา:20:04:23 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หลังจอ
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ผ่านมาเพื่อผ่านไป โลกยังกว้างทางยังไกล ครั้งหนึ่งใช่ไหมที่เรารู้จักกัน
Friends' blogs
[Add หลังจอ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.