Bloggang.com : หลังจอ : วันที่ 1 ไปญี่ปุ่นกัน..Ueno.. Ameyoko...Shibuya

วันที่ 1 ไปญี่ปุ่นกัน..Ueno.. Ameyoko...Shibuya

กะจะไม่ up blog Japan รอบนี้แล้วหละ เพราะว่ากลับมาแล้วงานเยอะบวกกับไม่สบายไปสองอาทิตย์ แต่เพื่อนๆ บอกว่าให้ up ได้แล้ว เราก็เลยต้องมาเขียนเล่าเรื่องราวย้อนหลังหน่อย หวังว่าคงจะสนุกสนานกันนะ

23 ตุลาคม 2007

วันนี้เป็นวันแรกของการเดินทาง พวกเราเดินทางด้วยสายการบิน North West เป็นสายการบินที่ไป San Francisco แต่ไปแวะพักเครื่องที่ Tokyo เราก็เลยสามารถเลือกสายการบินนี้ไปญี่ปุ่นได้ โดยพวกเราเลือกช่วงที่มีโปรโมชั่นราคาถูกกัน แต่ต้องเดินทางก่อน 31 ตุลาคมกัน

เวลาเครื่องออกคือประมาณ 7.00 แต่พวกเราต้องไปสนามบินกันแต่เช้า เพราะต้องไปทำเรื่อง check-in + Security check ยิ่งสายการบินที่ไป USA แล้วหละก็ฝ่าจะผ่านด่านตรวจไปได้ก็ประมาณ 7 รอบได้ ทั้ง scan กระเป๋า ตรวจของเหลว ถอดรองเท้าตรวจอีก แฮ่กๆ จนฝรั่งข้างหน้าเราต้องถามเจ้าหน้าที่เลยว่า Any more security check? เราก็ขำๆ แต่อย่างว่าอ่ะนะ safety first

หลังจากได้ที่นั่ง เราก็เตรียมตัวนอนเลย ก๊ากๆ เพราะว่าเราเน้นนอนอย่างเดียว (ความสามารถส่วนตัวในการนอนได้ทุกพาหนะการเดินทาง แม้กระทั่งเดิน) การเดินทางรอบนี้ใช้เวลาบินประมาณ 5 ชั่วโมง เรานอนไปก็ 4 ชั่วโมงแล้วหละ อีก 1 ชั่วโมงที่เหลือก็กิน แล้วก็มาเล่นเกมบนเครื่องหน่อย กดๆ ปุ่มเลือกดูหนังหรือเล่นเกมจากหน้าจอหน้าเก้าอี้ของเรา แต่ก็ทำให้เราเพลิดเพลินได้แปบเดียว เพราะเราขอนอนก่อน คร่อกๆ

อาหารมาเสริฟ์แล้ว หน้าตาน่าทานไหม อย่างที่บอกหละ เรามีแต่กินกะนอน ตื่นมาก็กิน อิ่มเสร็จก็นอน

แปบๆ ประมาณเวลา 12.00 TH time หรือเวลาญี่ปุ่น 14.00 (เร็วกว่าไทย 2 ชั่วโมง) เราก็มาถึงสนามบิน Narita แล้ว รู้สึกดีใจมากๆ ที่รอบนี้ตอน landing หูเราไม่อื้อเลย กัปตันเก่งมากๆ เพื่อนทรายบอกว่าเพราะเค้าลดระดับไม่เร็ว ทำให้เราไม่รู้สึกหูอื้อ เย้ๆๆๆ มีความสุขจังเลย เพราะไม่งั้นเราจะทรมานมากๆ กับการหูมีเสียงดังเปรี๊ยะๆ ตอนเครื่องลงจอด แถมคนอื่นๆ แปบๆ หายหูอื้อ แต่เราอื้อไปทั้งวัน

เครื่องจอดเสร็จ พวกเราก็ต้องทำเรื่อง Immigration ตรวจเข้าเมือง ซึ่งก็ผ่านได้ฉลุยอย่างไม่มีปัญหา จากนั้นก็มีการตรวจกระเป๋านิดๆ หน่อย เพราะเค้าจะสุ่มตรวจกระเป๋าด้วย แล้วก็เจอกล่องของขวัญของเราซึ่งเราจะเอาไปให้เพื่อนที่ญี่ปุ่น เค้าก็ถามโนะๆ เนะๆ พอจับใจความว่าเค้าถามว่านี่คืออะไร เราก็ตอบ keyword ไปว่าเป็น Tomodachi no Purezento แปลว่าของขวัญของเพื่อน เจ้าหน้าที่ก็โอเค (อืมมม ภาษาเราใช้ได้นิดหน่อย เหอๆ) ถ้าถามมากกว่านี้คงแบะๆ แทน เหะๆ

ออกมาข้างนอกก็เอ๋อๆ นิด ๆ พยายามมองหาป้าย Keisei เพราะเราจะต้องไปซื้อตั๋ว Keisei Line ไป Ueno กัน ราคาตั๋วตามที่ค้นหาข้อมูลมาก็ 1,000 Yen ก็ไปโนะๆ เนะๆ กันต่อ ในที่สุดได้ตั๋วมาสองใบ เหอๆ

"หน้าตา Counter Keisei"

จากนั้นก็ลากๆๆ กระเป๋าไปที่รถไฟกัน ได้รอบ 14.39 ก็น่าจะไปถึง Ueno ประมาณ 16.00 นะ

พวกเราต้องทำเวลากันหน่อย เพราะว่าอยากไปเที่ยวตอนเย็นๆ แถวที่พักละแวก Ueno จากนั้นต้องไปที่ Shibuya ตรงรูปปั้นหมา Hachiko เพราะว่าเรานัดเพื่อนที่ชื่อ Yuko ไว้ตอนสองทุ่มตรง (ได้ยินมาว่าคนญีปุ่นตรงเวลามากๆ เราเป็นคนไทยต้องตรงต่อเวลาเช่นกัน ว่าแต่จะหลงไหมหว่า)

มาถึงสถานี Ueno ก็ประมาณ 4 โมง เลยขอแอบถ่ายรูปกันกะป้ายสถานี Ueno หน่อย

หลังจากนั่งๆ นอนๆ ในรถ Keisei แปบๆ ก็มาถึง Ueno Station กันแล้วหละ มองหาป้ายทางไป Subway Ginza Exit เพราะว่าจากแผนที่ของโรงแรมที่เราจะไปพักบอกว่าเดินประมาณ 5 นาที และจากทางนี้น่าจะใกล้สุด และในที่สุด พวกเราก็หลงกันจนได้ เหอๆ แต่แล้วเพื่อนทรายเราก็ไปถามทางคนแถวนั้น ในที่สุดพวกเราก็มาถึงโรงแรมของเรา New Izu Hotel แฮ่กๆ โดยคืนแรกของเราจะนอนแบบ Western Style ก่อน

"หน้าตาแผนที่ ที่เรามีในมือ จะหาทางกันเจอไหม"

เก็บข้าวเก็บของเสร็จก็รีบๆ แจ้นไปเดินเล่นแถวที่พักโดยที่มีเป้าหมายคือ Ameyoko Street + Takeya Building (ตึกม่วง) ข้อมูลที่มีในมือก็คือ แผนที่อย่างเดียว ที่เหลือก็คือลุย พวกเราค่อยๆ เดินกันไป ทั้งดูวิวและชอปปิ้ง ตั้งใจว่าวันหลังๆ จะมาเดินกันที่ Ameyako ใหม่ เพราะวันนี้พวกเราเดินแบบผ่านๆ เนื่องจากกลัวว่าจะไปตามนัดไม่ทัน (แต่แอบเห็นร้านซูชิหมุนๆ ราคาเริ่มต้น 105 Yen เล็งๆ ไว้วันหลังจะมาลอง) จากนั้นก็ได้ของกันเต็มไม้เต็มมือมาจาก Takeya Building ถือของกันพะรุงพะรังเลย แล้วก็นั่ง subway จากสถานี Naka-Okachimachi ไป Shibuya กันต่อ (ต้องขอบคุณ website //www.hyperdia.com/cgi-english/hyperWeb.cgi?JP_MODE=0 ที่เราหาข้อมูลเรื่องรถไฟมาก่อน ทำให้เรามีตัวช่วยในมืออย่างดี)

จากนั้นก็ต้องรีบๆ ไป Hachiko @ Shibuya เพราะอย่างที่บอกก็คือ เรานัดเพื่อนเอาไว้ ประมาณทุ่มกว่าๆ ก็มาถึง Hachiko อย่างทุลักทุเล เพราะว่าหาทางออกไป Hachiko ไม่เจอ ไปถามทางคน พวกเราก็ออกเสียง Hachiko ไม่ถูกหลักภาษาญี่ปุ่นอีก ฮาจิโคะ ฮาฉิโคะ ฮาจิโกะ ออกแบบไหน เค้าก็งง เพื่อนทรายเลยต้องบอกว่า วังวัง (เสียงหมาของญี่ปุ่น) ส่วนเราก็ต้องบอกว่า อินุ (คำศัพท์หมาในภาษาญี่ปุ่น) คนบอกทางเลยอ้อ…….บอกทางพวกเราได้เลย เหอๆ อากาศเริ่มเย็นๆ แล้วหละ เพราะว่าคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ใส่เสื้อกันหนาว ผ้าพันคอกันหมดแล้ว ส่วนเราก็ยังไม่หนาวมาก เพราะแค่ jacket บางๆ ก็โอเค

"ค่ำคืนความวุ่นวายที่ Shibuya"

จากนั้นก็เจอ Yuko กัน โดยที่ Yuko พาพวกเราเดินๆ ไปทานอาหารกันที่ตึกนึง (จำชื่อตึกไม่ได้) จำได้แต่ชื่อร้านว่า Gonpachi เป็นเหมือนอาหารตามสั่งแบบญี่ปุ่น อาหารที่โดดเด่นของร้านคือแนว Grill หรือแนวย่างๆ นั่นเอง แต่เรากินกันหลายอย่างมาก เพื่อนทรายชอบไข่ หน้าตาธรรมดาแต่รสชาติอร่อยดี

"หน้าตาไข่ แต่มันมืดไปหน่อย เพราะร้านไฟสลัวมากๆ"

ส่วนเราประทับใจกับน้ำชาส้มมากๆ เพราะกลิ่นส้มออกมาอร่อยมากๆ Yuko ก็บอกชื่อชนิดส้มมานะ แต่เราจำไม่ได้ แย่จัง

จากนั้นก็แยกย้ายกันกลับที่พัก พวกเรากลับที่พักแถว Ueno ส่วน Yuko ก็กลับบ้าน สรุปว่าวันแรกของพวกเราก็สนุกสนานกันดี พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าไปลุย Hakone กันต่อ