คนข้างๆ.....
"น้องเป็นคนหลายอารมณ์......." (พี่ชายมักจะบอกเสมอ) จริงหรอ????
"มนุษย์ "เมีย" คือสิ่งมีชีวิตที่คะเนทิศทางของอารมณ์ไม่ได้" (คำนิยามของพี่ชายที่มักจะพูดถึงหนูแดง)
ช่วงเดือนเศษมานี้ ผลไม้ ที่สวนออกทวายบ้าง(ผลไม้ออกทวายแปลว่าผลไม้หลงฤดู) อย่างพี่ชายก็ปลูกเพิ่มเติม ......
วันนี้ตื่นมาตี 3 วันจันทร์ตื่นตี 3 ไม่แปลกเนอะ แต่ได้ยินนะ มีคนเถียง!!!!! ตื่นมาทำไร หยุู๊ดดดดด..........หยุด!!!!!!! ใครคิดว่าฉันจะตื่นมาเล่นผีสารพัดผ้าเอาตอนตี 3 น่ะ หยุดเลย ..... คนแก่ที่บ้านเน้นโรแม๊ง ไม่เน้น ชวนเล่นโรลเลอร์โคสเตอร์บนเตียงหรือจุดใดๆในบ้านทั้งนั้น (อันนี้ต้องเน้น เคยเจอ .....ไปที่ระเบียงมาแล้ว)
ก่อนจะออกอ่าวไปด้วยเรื่องทะลึ่ง กลับมาก่อน หุหุ เสียงในบ้านไม่ได้ดังจนหนูแดงนอนไม่หลับ แต่มือพาดไปอีกฝั่งของเตียง ว่าง......พี่ชายไปไหน เฮ่ย......สามีหายตอนตี 3 ต้องไปหาที่ห้องคนใช้สิแบบนี้ ถ้าเจอนะ เตรียมฆ่าตัวตายได้เลยยัยหนูแดงเอ๊ยยยยย เพราะ......... < < < ที่บ้านมีแต่คนขับรถลูกน้องพี่ชาย 4 คนเป็นผู้ชายหมด!!!!! เอาล่ะสิกรู ......4 คน....????
ก่อนความคิดจะแล่นไปไกล "ฉันต้องลงไปจับให้ได้สินะ"
จริงๆความคิดด้านบนนี่ เรื่องขำๆที่คิดได้เมื่อเดือนกว่าที่แล้ว ตอนนี้หนูแดงชินแล้ว ชินกับการที่พี่ชายจะหายไปดึกๆบ้าง (เริ่มทำใจกับการย่องหาคนขับรถของพี่ชายได้แล้วไง ....... เฮ่ย!!! ไม่ใช่ ) พี่ชายจะให้ลูกน้องเอากล้วย ส้มโชกุน ใบตอง ใบเตย ผักสดที่ตัดไว้ตั้งแต่วันอาทิตย์ ออกมาเพื่อเตรียมส่ง วันอาทิตย์พี่ชายจะให้ลูกน้องสี่คนรวมคนขับรถ เข้าไปในสวนที่อยู่อีกอำเภอหนึ่ง สถานะการณ์ไม่ดี แต่พี่ชายจะบอกเสมอว่า "ถ้าเราไม่ได้ทำร้ายใคร เค้าก็คงไม่ทำอะไร แต่เราก็ไม่ประมาท"
ผักที่พี่ชายเคยปลูกเองในตอนนั้น หวังแค่ยัยภรรยาพร็อบมากแบบหนูแดง จะได้ทานผักปลอดสารพิษจริงๆ อาจจะด้วยป่วยและยัยภรรยาเล่นกินแต่ผักเนื้อไม่ค่อยกินเฉกเช่นวัวควายมาจุติ เลยต้องปลูกผักเองในเนื้อที่ของบ้านที่ซื้อไว้หลังเล็กๆในสวนยาง (จริงๆน่าเรียกกระท่อมมากกว่า เล็กนิดเดียวเหมือนซื้อบ้านแถมสวนยาง) ดีนะที่ยัยภรรยาไม่ชอบทานเนื้อ ไม่งั้นเฮียตรูได้มีล้มวัวล้มควายให้เมียกินด้วยแน่ๆ เพราะตอนนี้ไข่ไก่ที่กินในบ้าน พี่ชายก็ได้จากไก่ที่เลี้ยงไว้ (อื่ม....มโนกันเอานะ สามีทำไร่ นา สวนผสมนั่นล่ะค่ะ)
คนโบราณบอกว่าคนที่ปลูกต้นไม้ออกดอกออกผลดีเรียกว่า "คนมือเย็น" ย้ำนะว่า "มือเย็น" ไม่ใช่ "มือขึ้น" คนละอย่างกัน พี่ชายก็เป็นแบบนั้น แค่ซื้อบ้านตรงนั้น คนละแวกนั้นบอกว่าหนูแดงว่า มะม่วงที่ไม่เคยออกลูกเลย หรือบางปีมีออกบ้างแต่ก็น้อยมาก ตั้งแต่พี่ชายมาซื้อไว้ แข่งกันออกดอกออกลูกทุกต้นเลย แต่หนูแดงว่าเป็นเพราะพี่ชายเอาใจใส่ ดูแล รดน้ำ พรวนดิน ใส่ปุ๋ยมากกว่า
ผลผลิตเมื่อมันเยอะไป พี่ชายก็ให้ลูกน้องเก็บมาขาย พี่ชายพูดเหมือนพ่อ "เงินทั้งนั้น ที่หล่นอยู่ในสวน" แรกๆหนูแดงก็ไม่รุ้หรอก นึกว่าพี่ชายเอาไปฝากเจ้าหน้าที่ศาล ลูกน้องที่ทำงาน พ่อก็เคยทำ แต่บ่อยๆ เยอะขนาดไปเปิดตลาดได้ คงฝากหลายกรมหลายกองหลายกระทรวงนะเนี่ยะ
ในตอนนั้นเมื่อเดือนเศษที่แล้วหนูแดงเลยขับรถตามไปห่างๆ ปานภรรยาแอบตามสามีไปกกอีหนูนั่นล่ะ (เคยคิดด้วยนะว่า.....พี่ชายเอาผลไม้ไปฝากอีหนูคนไหนฟระ ดูความคิดยัยเมียนะ )
สิ่งที่เห็นคือพี่ชายเอาผลไม้มาส่งกับรถที่จะบรรทุกไปส่งต่อที่ตลาดอื่นๆ หนูแดงจำได้เพราะพ่อเคยทำ แต่เราทำกับลองกองและทุเรียนเพราะเรามีแต่สวนยาง สวนลองกองและสวนทุเรียน ความคิดเดิมๆ คำพูดที่เคยพูดกับพ่อดังขึ้นมาหลอกหลอนอีกแระ (พ่อหนูแดงนี่ตายไปแล้วก็หลอกเก่งเหมือนกันนะเนี่ยะ )
หนูแดงเคยพูดด้วยสมองไม่คิดและความเป็นเด็ก "คุณพ่อเป็นตั้งอะไร ทำไมต้องมาทำแบบนี้ เลอะอ่ะ หนูแดงไม่ชอบ" หนูแดงพูดแบบนี้กับพ่อ ถ้าเป็นพ่อที่แย่ๆ(มีเยอะนะในสังคมเรา....กรุณาอย่าโลกสวย ณ ขณะนี้ )โดนตบปากแตกแล้ววววว แต่พ่อของหนูแดงมีแต่ขำ "เดี๋ยวก็รู้ว่าเลอะแบบนี้จะน่ารักมั้ย" พ่อบอกหนูแดงตอนนั้น ไอ้เราไม่คิดไรหรอก แบมืออย่างเดียว "กุญแจรถ.....สกปรก หนูแดงจะไปนอนรอในรถ" พูดจาไม่น่ารัก แต่น่ารักเสมอสำหรับคนที่มีลูกสาวคนเดียวจะเข้าใจอารมณ์นี้ดี ไม่ขอกุญแจเปล่านะ ขอเงินซื้อหนมด้วย 100 บาท แบงค์สีแดงที่เปลี่ยนมาหลายรูปแบบก็ยังสีแดงเหมือนเดิม ไปซื้อหนมแต่ก็ไม่ลืมที่จะซื้อกาแฟกระป๋องเบอร์ดี้ฝากพ่อ พ่อชอบทาน แล้วก็ไปติดเครื่อง นอนรอในรถ ตามแอร์ อ่านหนังสือ กินขนม โอ้โห....อภิชาตบุตรจริงๆเลยกรู(การเอาใจพ่อแม่เป็นสิ่งที่ยัยเด็กคนนี้ในตอนนั้นชนะเลิศ 5555....ฉันก็มีดีนะเว้ยเฮ้ย )
พ่อเดินขึ้นรถมาพร้อมส่งเงินให้นับปึกเล็กๆ สมัยนั้นทุเรียนแพงเทียบกับค่าเงินตอนนั้นที่ก๋วยเตี๋ยวชามละ 15 -20 บาท หกหมื่นกว่าบาท กว่าไปเท่าไหร่จำไม่ได้อ่ะ นานแล้ว รู้แค่ตอนนั้นตกใจ พ่อบอกว่า "เอาไป พ่อให้สี่หมื่นเอาไปฝากธนาคาร" เงินนะ มีใครบ้างที่ไม่เอา หนูแดงหักส่วนที่พ่อให้ออกพับใส่เป๋าของตัวเองแบบงกค่ะ งกจริงๆ และงกมากๆ ที่เหลือพับครึ่งใส่กระเป๋าเสื้อพ่อ "เฮ่ย....ถือไว้ เสื้อพ่อเลอะ" พ่อร้องห้ามในขณะที่ขับรถไปด้วย "เฮ่ย.....คุณพ่อ เงินนะ" หนูแดงเถียงเสียงดังลั่นรถเหมือนกัน "เสื้อเลอะ!!!!!" "ไหน ......ตรงไหนอ่ะคุณพ่อ" หนูแดงก็ยังเถียง "เมื่อกี้หนูว่าเสื้อพ่อเลอะไง" เงิบสิกรู.....
ต้องยอมรับว่าความที่พ่อเป็นครู เป็นผู้บริหารสถานศึกษา(อื่ม....กรูอวดนะเนี่ยะ....พ่อกรูหญ่ายยย ใหญ่ได้โดยไม่ต้องชื่อ เฉลิม ) กุศโลบายในการสอนลูกบอกได้เลยว่า "เพียบ" แม้ลุ่มๆดอนๆ พ่อใจเย็นเสมอ แค่ไม่กี่คำ หนูแดงก็เข้าใจถึงสิ่งที่พ่อสื่อในวันนั้น .....
คุยเรื่องสามี ไปหา พ่อจนได้ อื่ม ไม่น่าหาสามีแก่เล๊ยยยย เค้าบอกว่า ได้สามีแก่เหมือนได้พ่อท่าทางจะจริงแฮะ......เอร้ย แต่คนนี้พ่อนะ ไม่ใช่พี่ชาย (บอกก่อน กลัวแม่ฆ่า.....โทษฐานไปแย่งแฟนแม่) ต่อเรื่องสามี.....(ถึงไหนแล้วเนี่ยะท่านผู้อ่าน....ออกอ่าวอีกสิกรู ) วันนั้นหนูแดงกลับทันทีที่เห็น เพราะรู้และเข้าใจ เพียงแต่เวลาที่พบหน้ากันเมื่อเย็น คำถามที่ถามพี่ชาย ไม่เหมือนที่ถามพ่อ
"เราลำบากถึงขึ้นที่ท่านผู้พิพากษาจะต้องไปขายของในสวนเลยหรอคะ" คำถามแบบลูกสาวคนเดียว คุณหนูบิ๊กอายสะพายหลุยส์ สาวหน้าตาไม่เท่าไหร่แต่หรูแทบจะตลอดเวลาจนกลายเป็นฟุ่มเฟือย ถามสามีนักกฎหมายมีตำแหน่งเรียกได้ว่า แค่แบกบั้ง(อินทรธนูชุดขาวพระราชทานที่ข้าราชการต้องใส่กันนั่นล่ะท่านผู้อ่าน)ไปแถวไหนใครๆก็ต้องเคารพ
"ไม่ค่ะ เราไม่จำเป็นต้องหาเงินด้วยวิธีแบบนี้ เราไม่ได้ลำบาก และพี่ก็ไม่เคยปิดน้องเรื่องเงิน น้องก็ทราบ" นี่คือสิ่งที่พี่ชายตอบมา และพูดต่อด้วยประโยคคล้ายๆกับที่เคยได้ยิน
"หนูแดง...พี่ไม่เคยให้น้องลำบากแล้วก็ไม่อยากให้น้องลำบาก พี่ไม่ได้ไปฆ่าใคร อย่าคิดว่าพี่เป็นผู้พิพากษา พี่เป็นแค่ผู้ชายปกติ เป็นสามี เป็นคนที่ต้องดูแลครอบครัว เรือกสวนเราเหลือกินเราก็ขาย ไม่ใช่เรื่องน่าอับอาย ถ้าพี่ไปฆ่าเค้าปล้นเค้าเอาเงินมาใช้ นั่นล่ะถึงน่าอาย คนอื่นมองว่าสกปรกพี่ไม่แคร์ แต่อย่ามองว่าพี่สกปรก พี่มอมแมมคนเดียวได้ พี่อาบน้ำเดี๋ยวก็สะอาด แต่พี่ไม่อยากให้เมียต้องมอมแมม หนูแดงไม่สบาย อยู่บ้าน ดูแลบ้าน ดูแลตัวเอง อยากทำอะไร อยากซื้ออะไร เอาที่หนูแดงสบายใจ ทำไปเถอะ พี่ชายสบายใจที่ได้ทำแบบนี้"
น่าชื่นใจป่ะล่ะ ....... แต่ไม่อ่ะ ..... ยัยเมียเด็กเถียงได้อีก "แต่หนูแดงอายคน หนูแดงไม่อยากตอบคำถามคน ทำไมพี่ชายไปทำงานแบบนั้น?"
พี่ชายยิ้ม (เหมือนพ่อเลยว่ะ ยิ้มก่อนตอกฝาโลง ) พี่ชายยื่นเงินให้ 2 ปึกแสนนึงแบบไม่ต้องนับ 1 ปึก และอีกปึกน่าจะเกินห้าหมื่นเพราะหนาเกือบเท่าปึกที่รัดแหวนจากธนาคาร "พอให้หายอายได้มั้ยคะ ..... เงินหอมเสมอถ้ามาจากงานสุจริต อย่าคิดมากค่ะ ใครพูดอะไรก็บอกเค้าไปว่า ท่านผู้พิพากษาชอบเล่นของสกปรกที่มีรายได้สะอาดนะคะ" (พูดจบขยี้หัวให้เสียทรงก่อนไปอาบน้ำ (นี่ล่ะสามีฉัน เหมือนพ่อมั้ยล่ะ)
ขยายความนิดนึง คือจริงๆหนูแดงปลื้มนะ พี่ชายให้หนูแดงเป็นคุณนายเล็บแดง สวยไปสวยมา แล้วพี่ชายไปทำงานเอง (โห .... เมียชั่วเนอะ 555 ) แต่กวนบาทาทำตัวเยอะไปแบบนั้นเพราะอยากรู้เหตุผล แม้ตอนนี้ หนูแดงอาจจะได้ยินเสียงเข้ามาบ้างแล้ว ว่า "ท่านผู้พิพากษาถังแตก" แต่ยิ้มได้เสมอ เรารู้ตัวของเราดี
อ่านบล็อคพัฒนาความคิดจากคุณหมอท่านหนึ่ง "คุณหมอหว่อง" ขอเอ่ยนามนะคะ รู้สึกได้คิดเหมือนได้พ่ออีกคนเลย 555 (คุณหมอมาอ่านอาจจะมีงง ลูกอาจจะแก่กว่าพ่อไปมั้ย ) แนวความคิด ต้องคิดได้เอง มีคนจุดประกายแล้วสานต่อเอง พ่อสอนให้คิดได้ อยู่ได้ ในแบบของตัวเองที่ไม่ไปทำร้ายใคร แต่อย่าให้ใครมาทำเรา (เฮ่ย.....ไม่จริง โดนเค้าทำมาตลอดอ่ะ )
เคยน้อยใจชะตาฟ้ากำหนดมา ทำไมไม่แข็งแรง ทำไมป่วยนั่นนี่ ทำไมชีวิตไปไม่ค่อยรอด ฯลฯ ตอนนี้คิดเพียงอย่างเดียว ขอบคุณปัญหานะคะ ขอบคุณทุกๆปัญหาที่เข้ามาทำให้ชีวิตหนูแดงมีความสุขในแบบของตัวเอง สุขไม่ต้องมาก ยังต้องฟังเสียงนินทาคนอยู่ ยังต้องสู้กับความเจ็บป่วยอยู่ แต่หนูแดงก็คิดบวกได้เสมอ
คนนินทา_____เค้าคิดถึงหนูแดง ไม่เคยลืมหนูแดง (เออ กรณีนี้คืออย่าไปทำตัวเสียหายให้เค้าด่าเอานะ อันนั้นมันสมควรอยู่ล่ะที่โดนเค้านินทา อ่านแล้วอย่าไปแปลเจตนาเข้าข้างตัวเองนะ)
โรคภัยที่เข้ามา_____อย่างน้อย หนูแดงก็ได้รู้ว่าทุกครั้งที่ตื่นมาอยู่ที่โรงพยาบาลในยามใกล้ตาย หนูแดงมีแม่ที่จะโทรไปที่วอร์ดถามอาการตลอดแม้แม่ไม่กล้ามาเพราะเราป่วยเหมือนพ่อ แล้วพ่อก็จากเราไปด้วยโรคแบบนี้ แต่ก็ยังดีที่แม่คิดถึงเสมอ มีสามีที่อยู่ข้างๆเรียกได้ว่า พยาบาลพูดทุกครั้งว่าคุณชายจะไปทำงานแล้วรีบมาโรงพยาบาลเพื่อมาดูใจว่าจะได้เงินประกันจากเมียใกล้ตายรึยัง.....เฮ่ย.. 5555 ไม่ใช่ รีบมาเฝ้าต่างหาก มีลูกๆที่รอแม่กลับจากโรงพยาบาลอยู่ที่บ้าน มีเพื่อนที่ดีถามตลอดเวลาว่า"น้องเป็นไงบ้าง เรียกได้ว่า ทรุดเมื่อไหร่ เป็นอันว่านางร้องไห้นำหน้าญาติคนไข้เสมอๆ อยากบอกนางว่า (เจเจ๊....หนูยังอยู่อีกนาน)
สิ่งรอบตัวที่ไม่ดี พี่ชายจะบอกเสมอว่าให้อดทน แต่อย่าทนจนเก็บไปเครียด มองให้สวยงาม มองไปว่าใครเป็นไงก็เป็นแบบนั้น ผลของต้นไม้ชนิดใดคือเป็นไปตามต้นนั้น พี่ชายจะบอกเสมอว่า อย่าคิดตามคำพูดของคนที่เป็นคำพูดตอกย้ำความล้มเหลวของเราหรือเป็นคำพูดที่ไม่ดี ให้คิดว่าเค้าพูดเตือนเรา ส่วนบางอย่างให้คิดว่าเค้าทำแบบเราไม่ได้ อย่าโกรธเค้า เดี๋ยวไม่สวย .... เออ อันนี้เข้าท่า ฉันกลัวแก่มากไปกว่านี้ (บอกแล้วว่าสามีแก่เหมือนได้พ่อ อันนี้ 2 เด้ง พ่อและพระในบางเวลาด้วยนะเออ )
บล็อคนี้ยาวหน่อย(ไม่หน่อยอ่ะ ยาวเลยล่ะ) ใครอ่านถึงตรงนี้ ขอบคุณนะคะ ขอบคุณที่อ่านจบ หนูแดงสู้ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นยังไงต่อไปก็จะสู้ค่ะ ขอบคุณทุกๆความห่วงใย หนูแดงขอให้คุณทุกๆคนมีความสุขกับคนข้างๆเช่นกันนะคะ รักนะตะเอ๊งทั้งหลาย......อิอิ
ขอขอบพระคุณ
คุณหมอหว่อง อยากเรียนว่า "ขอบคุณนะคะที่ทำให้คิดได้ และ ทำให้ได้คิด" ท่านใดสนใจที่จะอ่านบทความที่ดี นำไปปรับใช้ได้ เชิญอ่านได้นะคะ หนูแดงไม่ได้ค่าโฆษณาค่ะ แต่อยากบอกว่า มุมของแพทย์ที่มองคนไข้ แล้วเขียนมาให้เป้นหลักในความคิดที่จะนำไปปรับใช้กับจนเองได้ง่ายและเข้าใจน้อยมาก อ่านแล้วคิดตาม ไม่ได้ให้ปลงหมดทุกอย่าง แต่คิดแล้วปฏิบัติได้ ชีวิตจะมีความสุขขึ้นมากๆค่ะ (คลิกด้านล่างได้ค่ะ)
คุณฐิติ สามีที่น่ารักเสมอ แก่แต่ไฟเพียบ......555 ขอบคุณทุกๆความเอาใจใส่ ทุกๆความรักและการดูแลมาตั้งแต่เป็นน้องเล็ก จนถึงวันนี้ค่ะ
Create Date : 24 กุมภาพันธ์ 2557 |
Last Update : 24 กุมภาพันธ์ 2557 12:40:44 น. |
|
19 comments
|
Counter : 1023 Pageviews. |
|
|