อิ่ม(กับ)รัก
ช่วงที่ชีวิตวุ่นวายกับการต้องย้ายที่อยู่ชั่วคราว ไม่เคยได้มีระเบียง เปิดหน้าต่างออกไปสัมผัสภายนอกมากว่าสิบห้าปี เคยได้แต่เกาะหน้าต่างมองท้องฟ้ากว้าง มีความสุขไปตามประสา พอได้มาอยู่ที่ใหม่...มีระเบียงให้ตั้งกระถางต้นไม้(จริงๆก็คือเอามาบังที่ตากเครื่องใช้ส่วนตัว) แม้ภาพท้องฟ้าจะเตี้ยลง แต่ก็ยังได้มองเห็นฟ้าในอีกมุม จะมีมุมที่ไม่คุ้นเคย ก็ตรงมีห้องฝั่งตรงข้ามที่ให้ต้องระวังตัวมากกว่าตอนอยู่ที่เก่า ที่ฝั่งตรงข้ามก็คือท้องฟ้า...ไม่มีอะไรนอกจากอากาศ พอไปเล่าให้เพื่อนฟังก็มีโดนแซวว่าระวังจะได้ปิ๊งหนุ่ม....เฮ้ออออ มาให้นึกดู ตัวเองก็ไม่ได้คบหากับใครมาหกเจ็ดปีแล้ว นับตั้งแต่เลิกกับคนล่าสุดไป แต่ทำไมไม่เห็นจะเดือดจะร้อนอยากจะมีใครอะไรกับเขา ชอบเสียอีก ได้มองเห็นคนรักกัน แต่งงานกัน มันดูน่าสดชื่นดีนัก แต่จะให้ตัวเองไปคบหากับใคร ก็ดูจะไม่ใช่ทาง ยิ่งตอนนี้ก็ไม่ได้หุ่นดีเช้งกะเด๊ะ(คำโบราณจริงๆ) อายุก็เยอะขึ้น จะให้ไปเริ่มต้นคงไม่สนุก ผู้ชายสมัยนี้ จะหาของแท้ก็ยาก มองกันไม่ได้ง่ายๆ การอยู่ตัวคนเดียวมันสุขนักแล้วจริงๆ มันเป็นความอิ่มตัวกับความรัก จากปั๊บปี้เลิฟแบบเด็กๆตั้งแต่อายุสิบสอง มีแฟนมาหลายคน แต่กว่าจะได้รู้จักจับมือก็จบปริญญาตรี เรียนรู้ความรักมาหลายแบบ รู้สึกว่า...ความรักมันก็ดี แต่เราไม่เหมาะจะคบกับใครเลย การได้นึกย้อนถึงความรักในแต่ละครั้ง มันก็พอเพียงแล้ว ปัจจุบันกับความรักที่มอบให้พ่อเป็นที่หนึ่ง คุณอา...น้อง...หลานๆ...ก็ไม่รู้สึกว่า การมองหาใครมาอยู่ข้างๆมันจำเป็น ความรู้สึกอิ่ม...และพอ...คงเป็นเช่นนี้เองกระมัง มันเคยรู้ความอร่อย...อาจจะเจอบางคำที่ขมจนเบ้หน้า หรือกัดเจอพริกจนแสบปากจนแทบจะตาย หรือ...เจอจานที่ดูจะอร่อยแต่ทานแล้วกลับปวดท้อง....พอรู้จักพอ...อิ่มกับสิ่งที่เจอ...มันก็ไม่ต้องรู้สึกอะไร...นอกจากมันก็...พอแล้วล่ะ....ความรักแบบหนุ่มสาว...อิ่มแล้ว...ไม่ใช่...อิ่มจัง
Create Date : 14 มิถุนายน 2558 |
|
4 comments |
Last Update : 14 มิถุนายน 2558 21:31:40 น. |
Counter : 662 Pageviews. |
|
|
|
ฮ่าๆท่านขุนคิดว่าการอยู่คนเดียวไม่แต่งงานหรือหาภาระหรือเชือดมารักคอ..
เท่ากับเป็นลาภอันประเสริฐกว่าสิ่งอื่นใดขอรับคุณนัท