กันยายน 2556

เครื่องบินส่วนบุคคลลงจอดที่ลานจอด หญิงสาวสวยทันสมัยกลิ่นอายเปอร์เซียลงจากเครื่อง โดยมีคนสนิทเดินตามหลัง เธอมีผ้าคลุมผมสวมทับมาด้วย เอมม่าก็สวมเช่นกัน เพราะไม่อยากมีปัญหากับคนท้องที่

“แจ้งท่านทูตด้วยว่าฉันจะไปรับประทานอาหารด้วยในอีกสี่วันข้างหน้า” เจนสั่งความแล้วลงจากเครื่องอย่างสง่างาม 

เธอสวมแว่นตากันแดด เพราะไม่ได้มาตะวันออกกลางนานแล้ว และมองเห็นเขายืนรออยู่ที่รถ เธอก็เดินไปหาอย่างช้าๆ ท่าทางเธอเฉื่อยกว่าปกติ ทักทายด้วยการโค้งให้เท่านั้น ไม่ได้เข้าไปกอดทักทายอย่างเคย

“เดินทางเหนื่อยอย่างนั้นเชียว” เขาเห็นเธอมีท่าทีเฉยชาก็ถามอย่างประหลาดใจ

“ฉันไม่ค่อยสบายเท่าไรค่ะ อากาศที่นี่ก็ร้อนด้วย ต้องวุ่นวายเรื่องประเพณีอีก” เจนปิดปากหาว ทำท่าทางง่วงๆ ก่อนบอก “รีบพาฉันไปที่พักดีกว่าค่ะ ฉันอยากจะนอนพักแล้วสิ”

อัสซิมหันไปมองคนสนิทสองคน แล้วก็มองผู้ติดตามอีกนับสิบคนอย่างงุนงง แต่ท่าทางเอมม่ากับโฮเวิร์ดจะไม่ได้สนใจอะไรมากนัก นอกจากตามเจ้านายให้ทัน และมองรถที่เขาสั่งให้มารับมา ก่อนขอตัวไปที่รถของตน

อัสซิมตามเธอขึ้นรถเขา ก่อนถามอย่างข้องใจ “ไม่สบายเป็นอะไร ไม่เห็นบอกก่อน

“ช่างเถอะค่ะ เดี๋ยวก็หาย ไม่ได้ป่วยร้ายแรงอะไรค่ะ” เจนอธิบายและเมื่อเขานั่งลงข้างเธอ เธอก็กอดแขนเขาแล้วซบอย่างคิดถึง “คิดถึงจังเลยค่ะ”

อัสซิมรู้สึกว่าเธอแตกต่างออกไปดูอ้อนมากผิดปกติ สองเดือนที่ผ่านมาผู้หญิงที่เคยเย็นชาและเยือกเย็นกลายเป็นหญิงสาวขี้อ้อนไปได้อย่างไร

“นี่คุณเป็นอะไรกันแน่” อัสซิมเริ่มไม่ชอบใจมากขึ้น

เจนหัวเราะเล็กน้อย ยิ่งเขามีสีหน้าดุมากแค่ไหนก็ยิ่งหัวเราะ ก่อนรวบรวมสติ ปรับท่าทีให้เหมือนเดิม “ขอโทษค่ะ สองเดือนที่ผ่านมาฉันงานยุ่งมาก ในอาทิตย์เดียว บินกันข้ามทวีป รู้สึกตัวอีกทีไปอยู่อเมริกาใต้บ้าง อเมริกาบ้าง แล้วก็กลับเอเชีย ต่อยุโรป ไปออสเตรเลียอีก ไม่เหนื่อยจนบ้าก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้วล่ะ”

คาลิมกับยาซิดค่อยโล่งอก นึกกังวลอยู่นานว่าหล่อนจะกลายเป็นคนมาเกาะติดเจ้านายจนเป็นเรื่อง เพราะเจ้านายก็ดูมีใจให้อีกฝ่ายอยู่ไม่น้อย

อัสซิมได้แต่ถอนหายใจยาว ท่าทางเธอจะโหมงานหนักตลอด

“เหมือนมีคนแกล้งฉัน เกิดปัญหาพร้อมกัน ปัญหาเรื่องงานฉันไม่เครียดเท่าญาติฉันนี่แหละ งานน่ะ พอประชุมทางไกลได้ แต่ญาติป่วยเนี่ยสิ ฉันเลยต้องเดินทางไปเยี่ยม เพราะไม่ยอมกลับบ้านกัน ต้องไปรับกลับ พอไปก็เลยแวะไปดูงาน ปัญหาก็เลยเยอะ ฉันก็เลยยังไม่ค่อยได้พักน่ะ ร่างกายก็เลยพลอยเหนื่อยไปด้วยน่ะ อีกอย่างฉันก็เครียดมากด้วย พอดีช่วงที่ยุ่งๆ มีผู้ชายสามคนมาขอแต่งงานด้วยน่ะ” เจนเล่าเหมือนเป็นเรื่องปกติ เธอไม่ได้กอดแขนเขาแล้ว แต่กำลังนั่งพักสายตาอยู่

อัสซิมยิ่งอึ้งไปใหญ่ เหมือนสองเดือนของเธอจะเท่าหนึ่งปีของคนบางคนเสียอีก

“ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วล่ะ” อัสซิมตัดสินใจพูดเพียงแค่นั้น

“ขอบคุณที่เป็นห่วงค่ะ” เจนหันมามองเขาด้วยท่าทางนิ่งเฉย ก่อนกดโทรศัพท์โทรไปที่รถอีกคันเป็นภาษาฝรั่งเศส “ยังไม่ต้องเอาของลงนะ เตรียมบ้านพักไว้รอเลย บางทีฉันอาจจะไปพักที่นั่น”

เอมม่ารับคำแล้ววางสาย ก่อนโทรไปสั่งคนที่บ้านพัก ซึ่งเช่าไว้ให้ท่านหญิง เผื่อมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น จะได้ไม่ต้องวุ่นวายหาสถานที่พักใหม่ 

“นึกขึ้นได้ว่าต้องสั่งงานที่ชาโตว์น่ะค่ะ วุ่นวายจริงๆ” เจนพูดให้เขาเข้าใจไปว่าเธอโทรกลับไปที่ชาโตว์

อัสซิมดึงเธอเข้าหาแล้วจูบอย่างดูดดื่ม แววตาสดใสของเธอกับดวงหน้าที่ติดกลิ่นอายเปอร์เซียช่างน่าถวิลหานัก บางครั้งเขาก็ลืมไปว่าฟาติมากับซัลมาไม่ใช่เจน จึงเรียกสองคนนั่นมาพบอยู่ประจำ มองอีกทีก็มีส่วนคล้ายกัน แต่เจนก็ไม่มีสัญลักษณ์ประจำตระกูลอยู่ที่ไหนบนร่างกาย

คาลิมกดปิดฉากกั้นระหว่างด้านหน้ากับด้านหลัง เพราะไม่มีความจำเป็นที่เขากับยาซิดต้องดูเจ้านายกับเพื่อนสาวแสดงความสนิทสนม

เจนตอบรับเขาอย่างง่ายดาย เพราะโหยหาเขาอยู่ไม่น้อย ช่วงที่ไม่อยู่ด้วยกันนับเป็นช่วงเวลานาน ทั้งที่ครั้งก่อนใช้เวลาห่างกันมากกว่านี้ อัสซิมไม่เพียงจูบแต่พยายามแกะกระดุมเสื้อเธออยู่ แต่เจนหยุดมือเขาไว้ จากนั้นก็ถอนจูบแล้วหอบหายใจถี่ๆ

“ไม่ใช่ที่นี่ค่ะ” เจนบอกเขาแล้วถูกเขาดึงไปจูบอีกครั้ง

อัสซิมพยักหน้ารับทราบ แต่ไม่ยอมหยุดจูบเธออย่างร้อนแรง มือเขายังลูบสะโพกเธอเลื่อนไปใต้กระโปรงยาวที่เธอสวมอยู่ หากพอเขาจะลูบไปถึงเนื้ออ่อน เธอก็ต้องรีบหยุดมือเขา

“พอก่อนค่ะ” เจนผลักเขาออกเพราะเลือดลมที่สูบฉีดรุนแรง ทำให้ดวงหน้าสวยคมของเธอมีแต่สีแดงระเรื่อ

อัสซิมยกมือขึ้นลูบหน้า พยายามสงบสติอารมณ์ ยิ่งเมื่อได้อยู่กันตามลำพังด้านหลัง เขาก็ยิ่งร้อนใจมากยิ่งขึ้น แต่ไม่ถึงขั้นบังคับให้เธอมีอะไรด้วยในรถ

ทั้งสองไม่พูดอะไรกันจนถึงคฤหาสน์ของเขา แต่มือเขาโอบไหล่เธออยู่ตลอดเวลา ราวกับไม่ต้องการให้เธอห่างไปจากตัวเขา พอคาลิมเปิดประตูให้ อัสซิมก็ลงจากรถ แล้วยื่นมือให้เธอลงตามเขามาด้วย เจนจับมือเขาแล้วลงจากรถ หลังจัดผ้าคลุมผมให้เรียบร้อย เมื่อเธอยืนได้ เขาก็ปล่อยมือจากเธอ

คฤหาสน์มาห์นาซหลังใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในแถบนี้ เมื่อเธอลงจากรถก็ส่งกระเป๋าถือให้เอมม่าที่มารอรับ เธอเดินตามหลังเขาเข้าไปในบ้าน หลังจากเขาพยักหน้าให้ ท่าทีของเขาเปลี่ยนไปมาก ไม่ให้ความใกล้ชิดอย่างเคย ซึ่งเธอก็เข้าใจได้ คงเพราะเขาต้องการให้ทุกคนเคารพเขา

เมื่อเข้าไปในโถงกลางเธอก็ไม่แปลกใจเท่าไรนัก ปราสาทเธอยังมีห้องโถงแคบกว่านี้ แต่ปราสาทแห่งฮาร์ทฟอร์ดถูกสร้างขึ้นมายาวนานกว่าสามร้อยปี ก็ไม่น่าแปลกถ้าห้องโถงจะเล็กกว่าบ้านเขา

สักพักก็มีคนออกมา ดวงหน้าคุ้นเคยของคนที่ออกมาไม่ทำให้เจนหวั่นไหว เพราะบัดนี้ไม่มีใครจำเธอในฐานะเริ่มแรกได้แล้ว มีแต่คนเรียกเธออย่างให้เกียรติเสมอ

“หลานพาผู้หญิงคนนี้มาทำไม” ฟอเซย์เห็นท่านหญิงฮาร์ทฟอร์ดแล้วก็ตะลึง เพราะในห้องรับแขกมีฟาราห์อยู่ด้วย “ไหนมูนาบอกว่าหลานไปรับเพื่อน”

“นี่ไงครับ เพื่อนผม” อัสซิมมองอย่างไม่ใส่ใจนัก ก่อนจะแนะนำ “นี่ฟอเซย์ อัชราฟ อาของผม แล้วนี่ก็ท่านหญิงเจน ซีมัวร์แห่งฮาร์ทฟอร์ด”

“สวัสดีค่ะ” เจนแสดงท่าทางทักทายแบบสากล แล้วยื่นมือออกไปให้ฟอเซย์เพื่อจับทักทาย

ฟอเซย์ไม่รับและยังแสดงท่าทีรังเกียจอีกด้วย ทำให้เจนไม่พอใจ เธอหันไปมองหน้าอัสซิมเป็นเชิงบอกให้เขารู้ว่าญาติเขาแสดงท่าทีไม่ต้อนรับเธอ หากเขาทำเฉย

“มีอะไรอีกไหมคะ ถ้าไม่มี ฉันจะกลับที่พัก” เจนถามขึ้นโดยไม่สนใจมารยาทของอีกฝ่ายอีก เธอไม่จำเป็นต้องแสดงมารยาทใดๆ กับคนที่ไม่ต้อนรับเธอ

“เดี๋ยวจะให้คนพาไปที่พัก” อัสซิมตอบเธอ ก่อนคิดจะจัดการอาทีหลัง หากยังไม่ทันได้พูดอะไร ผู้หญิงอีกคนก็ออกมา เขามองหญิงสาวคนนั้นแล้วถอนหายใจยาว “ซาลาม คุณหนูฟาราห์”

เจนหันไปมองแทบจะทันที เห็นฟาราห์ออกมาจากห้องรับรองแขก ขณะเดียวกันฟอเซย์ก็มีสีหน้าลำบากใจระคนสะใจนิดๆ 

อัสซิมจึงทำได้เพียงแนะนำเท่านั้น “นี่คือท่านหญิงเจน ซีมัวร์แห่งฮาร์ทฟอร์ด และนี่ก็คือฟาราห์ แฮสซาน”

“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” เจนทักทายอีกครั้ง แล้วยื่นมือออกไปจับ 

ฟาราห์ก็ไม่ทักทายเธอตอบเธอกัน แต่ฟาราห์ก็ไม่จับด้วยแล้วยืนนิ่ง ยิ่งทำให้เจนไม่พอใจมากขึ้น เธอหันหลังแล้วเดินออกไปจากห้องโถงคฤหาสน์ทันที โดยมีเอมม่ากับโฮเวิร์ดเดินตาม และการที่เธอเดินจนแทบจะวิ่ง ยิ่งทำให้รู้ว่าเธอโกรธจัด

อัสซิมรีบเดินตามมาจะเข้าคว้าแขนเธอไว้ แต่โฮเวิร์ดเข้ามาขวาง ปัดมือเขาออกไป ทำให้เขาโกรธมากขึ้น

เจนถึงรถคันแรกของเธอ เธอก็เปิดประตูด้านหลังแล้วขึ้นไปนั่งทันที “ออกรถ”

คนขับรถที่รออยู่ก็ลังเล หากเป็นเอมม่ากับโฮเวิร์ดคงขับออกไปแล้ว

อัสซิมจึงตามมาที่รถทัน แล้วจะเข้าไปเคาะกระจก ติดที่โฮเวิร์ดขวางอยู่ เขายิ่งโกรธเลยตะคอกโฮเวิร์ด “หลีกไป!!!”

คนขับรถออกรถทันทีที่เอมม่าสั่ง โดยไม่ฟังเสียงอื่น แต่คาลิมถอยรถมาขวางไว้ ทำให้ไปไหนไม่ได้ และเอมม่าต้องลงจากรถแล้วลงมาสั่ง

“เลื่อนรถเดี๋ยวนี้ ท่านหญิงจะกลับแล้ว” เอมม่าบอกคาลิม แต่คาลิมไม่ใส่ใจนัก เมื่อไรที่คนขับรถพยายามย้ายหนี เขาก็ขับรถขวางไม่ให้ออกจากบ้าน

เจนเห็นอย่างนั้นก็ลงจากรถ จากนั้นก็เดินกลับมาที่อัสซิม “บอกคนของคุณให้เลื่อนรถออกไปเดี๋ยวนี้ ฉันจะกลับที่พักของฉัน”

“ไม่!! เธอต้องพักที่นี่” อัสซิมไม่ยอมง่ายๆ แน่

“คิดเหรอว่าคนอย่างฉันจะยอมให้คุณสั่ง ฉันไม่ใช่ทาสของคุณนะ ฉันเป็นถึงท่านหญิงแห่งฮาร์ทฟอร์ด ถ้าอยากมีปัญหาระหว่างประเทศก็ลองดูสิ” เจนกวักมือเรียกมือถือจากเอมม่า แล้วจะโทรสถานกงสุลอังกฤษ 

“ทำไมต้องทำเป็นเรื่องใหญ่ด้วย ผมขอโทษที่อากับแขกของเธอเป็นคนไร้มารยาท ไม่รู้จักต้อนรับ คุณก็น่าจะให้อภัยคนบ้านนอกขาดการเข้าสังคมสิ” อัสซิมพยายามขอโทษแทนแขกในบ้านของเขา

มูนาออกมาด้านนอก หลังจากน้องสาวสามีแสดงท่าทีไม่พอใจที่ลูกชายพาผู้หญิงมาพัก

“มารยาททำให้คนเราแตกต่างจากสัตว์เดรัชฉาน นอกเสียจากว่าพวกเขาแสดงกิริยาแบบนั้น เพราะไม่ต้อนรับฉัน ฉันก็ควรกลับ” เจนชี้แจงแต่เขาไม่ฟัง

“มีอะไรเหรอ ลูก” มูนาถามลูกชายเสียงดัง มองเหตุการณ์ที่ดูเหมือนจะร้ายแรงขึ้น

ยูซุปเข้ามากระซิปแปลให้เจนฟังแทน เพราะเขาถูกจ้างมาเพื่อแปลภาษาอาหรับให้ท่านหญิงชาวอังกฤษเข้าใจ

“ไม่มีอะไรหรอกครับแม่ เข้าใจผิดกัน” อัสซิมหันไปตอบแม่แล้วบอกให้แม่เข้าบ้าน เขากระแทกลมหายใจ แล้วจะเดินเข้ามาหาเธอ แต่โฮเวิร์ดขวางไว้ “หลีกไป!!!”

อัสซิมฉุนมากขึ้น เพราะเขาถูกขวางครั้งแล้วครั้งเล่าในบ้านของตัวเอง เมื่อโดนขวางอีก เขาก็สุดจะทน แล้วยาซิดก็เข้ามาจะเปิดทางให้เจ้านาย โฮเวิร์ดกับยาซิดจึงปะทะกัน

เจนมองแล้วกระแทกลมหายใจ “หยุดนะ!! โฮเวิร์ด”

โฮเวิร์ดหยุดต่อสู้ แต่ก็พยายามป้องกันตัวแทน แล้วยาซิดก็หยุดเมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่สู้แล้ว

คาลิมได้เห็นวินัยในการเคารพและเชื่อฟังคำสั่งของเจ้านายแล้ว ก็ชื่นชมโฮเวิร์ดอยู่ไม่น้อย เมื่อได้รับคำสั่งให้หยุดก็หยุดแต่ไม่ถึงขั้นยอมให้ทำร้ายฝ่ายเดียว แต่ป้องกันตัว

“จำเป็นด้วยเหรอ ที่ต้องให้เกิดเรื่องในบ้านของฉัน” อัสซิมถามเจนอย่างหงุดหงิด

“คนของฉันไม่ได้เริ่มก่อน พวกเขาแค่อยากให้ฉันได้กลับไปพักผ่อน แต่คนของคุณเข้าจู่โจมเขาก่อน” เจนอธิบายความ เห็นเขายืนนิ่งคงไม่หายโกรธง่ายๆ และตอนนี้เธอก็เหนื่อยเพราะไม่ค่อยสบายตัวด้วย จึงอยากยุติปัญหา และเป็นฝ่ายเดินเข้าไปหาเขาก่อน “ฉันเหนื่อยแล้วอยากไปพัก ขอเวลาให้ฉันได้พักก่อนได้ไหมคะ ฉันเหนื่อยมากแล้ววันนี้”

อัสซิมไม่ตอบคำคว้าข้อมือเธอแล้วพาเดินเข้าบ้านเขา ครั้งนี้โฮเวิร์ดไม่ขวาง เพราะเห็นท่านหญิงเป็นฝ่ายเดินเข้าไปหาก่อน แต่นึกเป็นห่วง จึงลากยูซุปเข้าไปในบ้านด้วยกัน เพื่อแปลภาษาให้ท่านหญิง

เมื่อเข้าไปแล้ว อัสซิมก็พาเจนไปห้องรับแขก เห็นฟอเซย์กำลังสนุกกับการพูดลับหลังเขากับเจน เขาก็มองอย่างดุดัน

“สนุกปากมากไหมครับ วันนี้มูฮัมหมัดไม่มีธุระให้อาไปทำแล้วหรือยังไง” อัสซิมออกปากเชิงไล่

“อาพาฟาราห์มาช่วยงานแต่งงานของอามีนาห์ ใช่ไหมจ๊ะ อามีนาห์” ฟอเซย์รีบเอาว่าที่เจ้าสาวมาเป็นข้ออ้าง

“ที่นี่มีคนช่วยเยอะแล้ว ผมว่าการที่คุณหนูฟาราห์มาที่นี่นานๆ ก็อาจจะทำให้มีเรื่องให้นินทาในทางเสียหายได้นะครับ เชิญกลับก่อนดีกว่า แล้วค่อยมาวันงานทีเดียว” อัสซิมออกปากไล่อ้อมๆ และเมื่ออาจะพูด เขาก็ดักคออีกรอบ “อย่าให้ผมต้องพูดตรงๆ มันจะเสียเกียรติแม่ของผู้นำตระกูลอัชราฟหมด”

“แต่อามีนาห์ไม่ต้องการให้ผู้หญิงคนนี้มาร่วมงานแต่งงานของเค้าหรอกนะ ใช่ไหม อามีนาห์ เธอบอกพี่ชายเธอสิ” ฟอเซย์พยายามหาพวก

อามีนาห์ไม่กล้าพูดมาก

“อย่าคิดนะว่าใกล้วันแต่งงาน แล้วฉันจะไม่กล้ายกเลิกการแต่งงาน หรือไม่บางทีฉันอาจจะให้น้องคนอื่นแต่งงานแทนเธอนะ อามีนาห์” อัสซิมขู่น้องสาวและก็ได้ผล เมื่ออามีนาห์หันหน้าไปทางอื่น ไม่กล้าพูดอะไร เขามองหน้าอาอีกรอบ ก่อนพูดอย่างจริงจัง “ท่านหญิงฮาร์ทฟอร์ดเป็นเพื่อนของผม ถ้าใครคิดไล่เธอออกจากที่นี่อีกล่ะก็ ผมจะไม่ไว้หน้ามันคนไหนทั้งสิ้น”

“อย่างน้อยเธอก็ควรเกรงใจฟาราห์บ้าง” ฟอเซย์เดินเข้ามาใกล้ๆ แล้วพูดกับหลานชาย

“อย่าห่วงเรื่องชีวิตคู่ของผมให้มากจะดีกว่า ตำแหน่งภรรยาแรกของผมมีผู้หญิงในครอบครัวที่ดีต้องการเยอะ ถ้าคิดว่าไม่พอใจวิสัยในการปกครองของผม ก็ไม่ต้องรอ” อัสซิมประกาศชัดทำเอาอีกหลายคนหน้าเสีย

ฟาราห์ลุกขึ้นแล้วเดินออกไปทันที ก่อนผ่านเจน ยังมองเจนอย่างดูถูก แล้วก็พูดลาอัสซิม ไปขึ้นรถของที่บ้านที่มาส่งและรอเธอ ยังไงตำแหน่งสะใภ้ตระกูลใหญ่ก็คงไม่ไกลเกินเอื้อม หากเธอได้ครองตำแหน่งนั้นเมื่อไร เธอจะยิ่งใหญ่ในตระกูลนั้นให้ได้

แม้ในศาสนาจะสอนให้ปฏิบัติต่อภรรยาทั้งสี่เท่าเทียมกัน แต่ใจคนย่อมไม่อาจยุติธรรมได้เสมอ ดังเช่นความวุ่นวายในตระกูลใหญ่อันเกิดแต่ความไม่เท่าเทียม ที่ภรรยาทั้งสี่ของสองตระกูลได้รับ ก็เป็นตัวอย่างที่ดี

“ถ้ายังดูแลปากตัวเองให้สงบไม่ได้ล่ะก็ ผมแนะนำว่าวันงานแต่งงานของอามีนาห์ อาส่งมาแต่ความปรารถนาดีก็พอ ไม่ต้องนำเอาความโชคร้ายมาอวยพรเจ้าสาวหรอกนะครับ เชิญ” อัสซิมออกปากไล่อาของเขาชัดเจน พร้อมกำราบไว้ด้วย

เมื่อตัวปัญหาไปจนหมดแล้ว เขามองไปที่สมาชิกของบ้าน และไม่มีน้องชายเขา คาดว่าคงลอบไปนัดพบคนรักอีกแน่ แต่เขาก็เห็นว่าคนรักของน้องชายจัดว่าเป็นคนที่สุภาพเรียบร้อย เสียอย่างเดียวฐานะไม่เหมาะสมแต่ก็ถึงกับเป็นภรรยาของน้องชายเขาไม่ได้

“ฉันคงไม่ต้องบอกพวกเธอหรอกนะ ว่าต้องปฏิบัติตัวอย่างไรเวลามีแขกมาที่บ้าน คนที่เขาพัฒนาแล้วไม่ต้องทำลืมมารยาทในการต้อนรับแขก นี่เพื่อนฉัน ท่านหญิงเจน ซีมัวร์” อัสซิมต้องแนะนำอีกครั้ง เขาเห็นฟาติมากับซัลมาอยู่ในห้องด้วย ยังมีผู้หญิงอีกสองคนที่คอยบำเรอเขาด้วย แต่ไม่ใส่ใจนัก

“นี่เจ้าสาวของงานแต่ง อามีนาห์ มาห์นาซ” อัสซิมมองให้น้องสาวทักทายเพื่อน ก่อนจะพาเธอไปรู้จักแม่เขา “แม่ผม มูนา”

เจนยื่นมือออกไปจับทักทายแล้วทักทายเป็นภาษาอังกฤษ และมูนาก็ยื่นมือมาจับด้วย จากนั้นเจนก็ขอตัว

“ขอตัวกลับก่อนนะคะ” เจนพูดขึ้นแล้วจะหันหลังออกไป

“ผมขอให้คุณพักที่นี่” อัสซิมพูดขึ้นเป็นภาษาสากลที่น้อยคนในนี้จะฟังเข้าใจ

เจนถอนหายใจ แล้วถามเขา “จะให้พักที่ไหนได้ล่ะคะ”

“เดี๋ยวผมพาไป” อัสซิมโอบไหล่พาเธอไปยังตึกเล็กที่พัก

มูนามองลูกชายแสดงท่าทีเกรงอกเกรงใจท่านหญิงชาวอังกฤษก็มีสีหน้าเป็นกังวล ไม่ใช่เพราะกลัวว่าจะได้สะใภ้ต่างชาติต่างศาสนา แต่กลัวจะเกิดเรื่องในตระกูลมาห์นาซอีก

“คุณมูนาจะปล่อยให้นายท่านแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้นเหรอคะ” ฟาติมาถามก่อนเป็นคนแรก

“ไม่ใช่เรื่องของเธอ” อามีนาห์รีบห้ามไม่ให้ฟาติมาพูดแบบนั้น เดี๋ยวคนในบ้านเอาไปบอกพี่ชายจะเป็นเรื่อง

“อัสซิมบอกแล้วว่าเขาจะไม่แต่งงานกับผู้หญิงนอกศาสนา ไม่ต้องกังวลไปหรอก” มูนาบอกให้ทุกคนเบาใจ

ฟาติมากับซัลมาก็เป็นลูกของตระกูลใหญ่ ที่ต้องยอมมาเพราะฟอเซย์กับมูฮัมหมัดขู่แม่ของพวกเธอ ว่าจะไม่ให้ฝังแม่ทั้งสองในสุสานของตระกูลอัชราฟ ทำให้ทั้งสองต้องยอมกล่ำกลืนเป็นนางบำเรอให้อัสซิม เหตุเพราะอัสซิมมีโอกาสเป็นใหญ่เหนือคนอื่นๆ ในตอนนั้น และก็ไม่ผิดพลาด

อีกส่วนหนึ่งฟอเซย์ต้องการหยามเกียรติตระกูลอัชราฟ เพราะแค้นใจที่อาเหม็ด สามีหลงรักภรรยาชาวไทยมากกว่าภรรยาคนอื่น ความอิจฉาริษยาจึงเกิดขึ้นในใจทีละน้อย จนอยากจะทำลายเสียให้หมด หากเพราะตนเองก็ถือว่าเป็นคนตระกูลอัชราฟด้วย จึงหยุดความคิดต่างๆ ไว้

**********************************

สวัสดีค่ะ คุณผู้อ่านทุกท่าน

อยากให้แฟนคลับรักค่า อิอิ

ก็เลยมาโพสต์ค่ะ

ช่วงนี้งานยุ่งมากค่ะ แต่ก็ยังสนุกกับพวกเขาอยู่นะคะ

อย่าลืมดูแลสุขภาพด้วยนะคะ

ขอบคุณที่ติดตามนิยายนะคะ

ป.ล. ขอรับคำแนะนำจากผู้อ่านเพื่อนิยายเรื่องนี้นะคะ

เหตุอย่างที่บอกค่ะ เป็นเรื่องไม่ถนัดและพยายามหลีกเลี่ยงรายละเอียดของศาสนา

เนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ถ้ามีช่วงไหนอ่านแล้วรู้สึกขัดๆ ก็ขอคำแนะนำด้วยนะคะ

ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

- ใครที่ต้องการพาสจะเมลมาที่ plerngwaree@hotmail.com ก็ได้ค่ะ

- ติดตามข่าวสารต่างๆ ได้ที่ //www.facebook.com/plerngwaree

- คนรักเฮีย "พาย" อย่าพลาดเฮีย "พาย" ปกใหม่ จะวางแผงตุลาคมนี้แล้วนะคะ

**********************************

eBooks ผลงานที่ผ่านมานะคะ

1. ด้วยหัวใจ...พันรัก (229 บาท / 9.99$)

- //www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNDQ2NiI7fQ

- //www.ebooks.in.th/ebook/13221/ด้วยหัวใจ...พันรัก

- //www.ookbee.com/bookinfo.aspx?pid=98e88e8d-1760-42f1-9fc0-68fb86d1cbf2

2. เราสามคน..หนทางเดียว (159บาท / 6.99$)

- //www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNDQyNyI7fQ

- //www.ebooks.in.th/ebook/13203/เราสามคน..หนทางเดียว

- //www.ookbee.com/bookinfo.aspx?pid=9377205d-d30b-4542-a715-8c94c244c178

3. ตามตะวัน ณ จันทร์พันดาว (159฿ / 6.99$)

- //www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNDQ2OSI7fQ

- //www.ebooks.in.th/ebook/13231/ตามตะวัน_ณ_จันทร์พันดาว

- //www.ookbee.com/bookinfo.aspx?pid=fbca2fe2-b27a-40f2-89fc-7c13c7cef35c

4. แผนร้ายในทางรัก (139บาท / 5.99$)

- //www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNDI2MyI7fQ

- //www.ebooks.in.th/ebook/13179/แผนร้ายในทางรัก

- //www.ookbee.com/bookinfo.aspx?pid=e5a118b1-db26-481d-92ac-39322c29ef1d

5. ผูกพัน...เข้าใจ...สายใยแห่งเรา (129บาท / 5.99$)

- //www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMjM5MjY5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NDoiNjMzOCI7fQ

- //www.ebooks.in.th/ebook/16015/ผูกพัน...เข้าใจ...สายใยแห่งเรา/