บอลโลกครั้งที่ 11 ที่อาร์เจนติน่า 1978
Logo ฟุตบอลโลก ปี 1978
ถึงคราวฟ้า-ขาวครองโลก
(Standing, from L : Daniel Passarella, Rene Houseman, Luis Galvan, Alberto Tarantini, Mario Kempes, Ubaldo Matildo Fillol; front row, from L : Americo Gallego, Osvaldo Ardiles, Leopoldo Luque, Daniel Valencia, Jorge Olguin)
ท่ามกลางความสับสนวุ่นวายทางการเมืองในประเทศอาร์เจนตินา จนเป็นที่เกรงกันว่าฟุตบอลโลกปี 1978 อาจจะไม่สามารถจัดขึ้นได้บนแผ่นดินอเมริกาใต้ในตอนแรก ขุนพลฟ้า-ขาวได้ประกาศศักดาคว้าแชมป์โลกสมัยแรกมาครอง ที่กรุงบูเอโนสไอเรส แม้จะมีเสียงครหาถึงกลโกงต่างๆ ที่เจ้าภาพงัดออกมาใช้ในครั้งนี้ก็ตาม
ทีมชาติฮอลแลนด์
ปัญหาด้านความพร้อมเรื่องสถานที่จัดการแข่งขัน ทำให้ศึกเวิลด์ คัพ ครั้งนี้ค่อนข้างฉุกละหุกทีเดียว ทีมที่อยู่ในกลุ่มเดียวกันต้องกระจัดกระจายไปใช้สนามร่วมกับกลุ่มอื่น รวมทั้งหมดแล้วมีถึง 9 ทีมที่ต้องมาแข่งขันกันที่บูเอโนสไอเรส
ผู้เล่นฮอลแลนด์ให้กำลังใจต่อกันก่อนแช่งขัดนัดชิงชนะเลิศ
สำหรับทีมเต็งแชมป์ในครั้งนี้ นอกเหนือจากอาร์เจนตินา ภายใต้การนำทีมของ เซซ่าร์ หลุยส์ มิน็อตติ กุนซือสิงห์อมควันแล้ว "แซมบ้า" บราซิล ก็เป็นอีกทีมที่ได้รับความคาดหมายว่าจะกระชากถ้วยฟุตบอลโลกมาครอง หลังจากที่โชว์ฟอร์มในรอบคัดเลือกได้อย่างสุดยอด
Leopoldo Luque กระโดดหลบการเข้าเสียบของกองหลังฮอลแลนด์
ในการแข่งขันนัดเปิดสนาม "แชมป์เก่า" เยอรมันตะวันตก ซึ่งนำโดย มิชาเอล รุมเมนิกเก้ ทำได้เพียงเสมอกับ โปแลนด์ 0-0 ทำให้เป็นอีกครั้งที่ไม่มีสกอร์เกิดขึ้นในเกมเปิดสนามฟุตบอลโลก นับตั้งแต่ปี 1962 เป็นต้นมา ทว่าในช่วงบ่ายของวันถัดมา ตูนิเซีย ทีมนอกสายตาได้สร้างความฮือฮาด้วยการอัด เม็กซิโก 3-1นับเป็นชัยชนะครั้งแรกของทีมจากทวีปแอฟริกา ในศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายด้วย ขณะที่ในกลุ่ม 1 ก็เกิดเรื่องฮือฮาขึ้นเช่นกัน เมื่อ อิตาลีเฉือนชนะ ฝรั่งเศส 2-1 โดย แบร์กนาร์ ลาคอมป์ ของทีมตราไก่สร้างสถิติพังประตูที่เร็วที่สุดในฟุตบอลโลก ด้วยเวลาเพียง 31 วินาทีเท่านั้น
ลีลาการเลี้ยงลูกของ Mario Kempes
อาร์เจนตินาและ ฮังการี ก็เป็นอีก 2 ทีมที่อยู่ร่วมกลุ่ม 1 ทั้งสองลงสนามฟาดแข้งกันอย่างสนุก และในที่สุดเจ้าภาพ ซึ่งประกอบไปด้วยยอดนักเตะอย่าง มาริโอ เคมเปส, เรเน่ เฮ้าส์แมน, ออสวัลโด้ อาร์ดิเลส และ ดาเนียล พาสซาเรลล่า ก็เป็นฝ่ายชนะไป 2-1 โดยผู้เล่นฮังการีโดนไล่ออกถึง 2 คน ท่ามกลางความสะใจของแฟนบอลจำนวน 77,000 คนในวันนั้น
Ruud Krol พยายามเลี้ยงลูกผ่าน Leopoldo Luque
อีก 4 วันถัดมา อิตาลีเอาชนะ ฮังการีอย่างสบาย 3-1 ขณะที่เจ้าภาพก็ปราบ ฝรั่งเศส ลงได้เช่นกัน โดยความอนุเคราะห์ของ ฌอง ดูบาช์ ผู้ตัดสินชาวสวิส ที่ให้จุดโทษกับทีมฟ้า-ขาวในครึ่งแรก แต่ปฏิเสธจุดโทษของทีมตราไก่ในครึ่งหลัง ทำให้สกอร์จบลงด้วยอาร์เจนตินาชนะไป 2-1 อาร์เจนตินา ต้องมาตัดสินตำแหน่งแชมป์กลุ่มกับอิตาลี ในนัดสุดท้าย ซึ่งเป็นเกมสำคัญยิ่ง เนื่องจากหากทีมใดแพ้จะต้องไปแข่งที่ โรซาริโอ ทางตอนเหนือ ขณะที่ผู้ชนะจะได้เล่นในบูเอโนส ไอเรส ต่อไป และก็เป็นขุนพลมะกะโรนีที่ทำได้เยี่ยมกว่า โดย โรแบร์โต้ เบ๊ตเตก้า ซัลโวประตูโทนให้ แฟนบอลในสนามต้องเงียบกริบ และส่งเจ้าภาพไปยังโรซาริโอ จริงๆ
Gonella ผู้ตัดสินชาวอิตาลีมองดูผู้เล่นอาร์เจนติน่าที่นอนเจ็บอยู่ในสนาม ขณะที่กลุ่ม 3 ออสเตรีย กลายเป็นทีมนำของกลุ่ม เมื่อเอาชนะ สเปน 2-1 ด้วยประตูอันสุดยอดของ ชัคเนอร์ ส่วนบราซิล เริ่มต้นฟุตบอลโลกได้อย่างน่าผิดหวัง เมื่อแพ้ต่อ สวีเดน และนัดต่อมาก็ทำได้แค่เสมอ สเปน 0-0 ก่อนที่ในนัดที่ 3 แซมบ้า พบกับออสเตรีย ที่เข้ารอบไปเรียบร้อยแล้ว แต่ บราซิล ก็ยังเล่นได้น่าผิดหวัง ยังดีที่อุตส่าห์เฉือนชนะได้ 1-0 ทำให้ได้ผ่านเข้ารอบ 2 ไปอย่างหวุดหวิด ต้องไปอยู่ในกลุ่ม บี ในรอบที่ 2
Mario Kempes ดีใจที่ทำประตูแรกให้อาร์เจนติน่าขึ้นนำฮอลแลนด์ 1-0 นาที 38
ส่วนกลุ่ม 4 สกอตแลนด์ ตั้งเป้าจะเสมอ 3 เกมรวด แต่ลูกทีมของ อัลลี่ แม็คลาวด์ ก็ต้องผิดหวัง เมื่อแพ้ต่อ เปรู 1-3 ก่อนที่จะเสมอ อิหร่าน 1-1 โดยนัดสุดท้ายต้องเจอกับ ฮอลแลนด์ ซึ่งเป็นโอกาสสุดท้ายที่ทีมขี้เมา จะฝากความประทับใจไว้ในฟุตบอลโลกครั้งนี้ และสกอตแลนด์ ก็ทำได้สมกับที่ตั้งใจ พลิกกลับมาชนะขุนพลแดนกังหันลม 3-2 นับเป็นการคว้าชัยเหนือฮอลแลนด์เป็นครั้งแรกในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ซึ่งจุดโทษของ ร็อบ เรนเซ็นบริงค์ ในนัดนี้ ก็เป็นประตูที่ 1,000 พอดีในรอบสุดท้าย ในรอบ 2 กลุ่ม เอ ประกอบไปด้วย เยอรมันตะวันตก, อิตาลี, ออสเตรีย และ ฮอลแลนด์ ส่วนกลุ่ม บี ประกอบไปด้วย อาร์เจนตินา, โปแลนด์, บราซิล และ เปรู
Mario Kempes ดีใจหลังทำประตูที่ 2
กลุ่ม เอ นั้น อิตาลี เสมอกับ เยอรมันตะวันตก 0-0 ในนัดแรก ขณะที่ฮอลแลนด์ถล่มออสเตรีย 5-1 ส่วนนัดที่ 2 เป็นการพบกันของคู่แค้นอย่างอินทรีเหล็กกับอัศวินสีส้ม และเสมือนกับเป็นการย้อนรำลึกถึงนัดชิงชนะเลิศเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ก่อนที่เกมจะจบลงด้วยการเสมอกัน 2-2 โดย ดิ๊ก นันนิงก้า ตัวสำรองของฮอลแลนด์ถูกไล่ออก หลังจากลงเหยียบสนามได้เพียง 9 นาที ขณะที่อิตาลีเฉือนชนะออสเตรีย 1-0 จากประตูของ เปาโล รอสซี่ ในนัดสุดท้าย ออสเตรีย ที่ตกรอบไปแล้วทิ้งทวนได้อย่างงดงาม เมื่อเอาชนะเยอรมันตะวันตก ทีมเพื่อนบ้าน 3-2 ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 47 ปี และการแพ้ในนัดนี้ก็ทำให้ปรมาจารย์ลูกหนังอย่าง เฮลมุท เชิน เสียใจเป็นอย่างยิ่ง ประกาศวางมือจากการคุมทีมทันที หลังจากพาเยอรมันตกรอบ
ผู้เล่นฮอลแลนด์ปลอบใจเพื่อนๆหลังแพ้อาร์เจนติน่า 1-3
ส่วนอิตาลีจำเป็นต้องเอาชนะฮอลแลนด์ให้ได้ เพื่อโอกาสเข้าชิงชนะเลิศ พวกเขามีโอกาสอันสดใส จากการทำเข้าประตูตัวเองของ เออร์นี่ บันด์ทส์ กองหลังดัตช์ จนกระทั่งนาทีที่ 77 อารี ฮาน ซัดประตูตีเสมอส่งให้ขุนพลฟลายอิ้งดัตช์แมน ได้ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศเป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกันขณะที่ในกลุ่ม บี เป็นการดวลกันระหว่าง อาร์เจนตินากับ บราซิล 2 ทีมที่มีโอกาสเข้าชิงชนะเลิศมากที่สุด โดยเกมแรก ขุนพลแซมบ้าชนะเปรู 3-0 ส่วนทีมฟ้า-ขาวเอาชนะโปแลนด์ 2-0 จากการเหมายิงของเคมเปส ขณะที่ เดย์น่า ฉลองการติดทีมชาติครบ 100 นัดด้วยการซัดจุดโทษพลาด และจากการเล่นในนัดที่ 2 ที่ อาร์เจนตินา เสมอ บราซิล 0-0 ทำให้ทั้งคู่ต้องมาตัดสินการเข้ารอบกันที่นัดสุดท้าย โดยบราซิล ชนะ โปแลนด์ 3-1 ทำให้เจ้าภาพต้องยิงไม่ต่ำกว่า 4 ประตู ถึงจะเข้าชิงชนะเลิศ และอาร์เจนตินาก็ทำได้เกินเป้า เมื่อไล่ถล่ม เปรู ที่สิ้นหวังแล้วไปถึง 6-0 ท่ามกลางความกังขาจากฝ่ายแซมบ้า
Daniel Passarella กัปตันทีมชาติอาร์เจนติน่าถูกเพื่นๆแบกวิ่งรอบสนามหลังชนะฮอลแลนด์ 3-1
เกมนัดชิงชนะเลิศ ยังไม่ทันเริ่มแข่งขัน เจ้าภาพก็ทำป่วนเมื่อขอร้องให้ เรเน่ ฟาน เดอร์ เคอร์คอฟ ถอดเฝือกที่แขนที่เป็นปูนปลาสเตอร์ออก ทำเอา รุด ครอล กัปตันทีมดัตช์ ฉุนจัดนำลูกทีมเดินออกจากสนาม แต่ แซร์โจ้ โกเนลล่า ผู้ตัดสินชาวอิตาเลียน ก็ทำให้การแข่งขันเริ่มขึ้นได้ แม้ต้องล่าช้าออกไปกว่า 10 นาทีก็ตามการแข่งขันนัดชิง ถูกถ่ายทอดไปกว่า 90 ประเทศฮอลแลนด์ เริ่มต้นได้ไม่ดี และรับใบเหลืองไปถึง 3 คน ขณะที่ฝั่งเจ้าภาพโดนไป 2 ราย จนถึงนาทีที่ 38 อาร์เจนตินา ก็มาได้ประตูแรก เมื่อ เคมเปส ได้บอลจาก ลีโอ โปลโด ลูเก้ ก่อนจะเลี้ยงฝ่าแนวรับอัศวินสีส้มเข้าไปยิงประตูให้ขุนพลฟ้า-ขาวนำ 1-0 ในครึ่งแรก ครึ่งหลัง ฮอลแลนด์ ก็ยังเล่นกันได้ไม่ดี แต่ก่อนหมดเวลา 7 นาที นันนิงก้า ก็โขกพังประตูตีเสมอได้สำเร็จ และ ทีมอัศวินสีส้ม น่าจะได้แชมป์โลกไปครอง แต่ลูกยิงของ เรนเซนบริง กลับพุ่งไปชนเสากระดอนออกมาอย่างน่าเสียดาย ทำให้เกมจบ 90 นาทีลงด้วยการเสมอกัน 1-1 ต้องต่อเวลาพิเศษ
แฟนๆทีมอาร์เจนติน่าขว้างกระดาษลงสนามหลังชนะฮอลแลนด์
ช่วงต่อเวลานี้เอง เคมเปส ก็ได้กลายเป็นฮีโร่ของคนทั้งชาติ เมื่อจัดการซัด 1 ประตู และผ่านให้ แบร์โตนี่ ยิงอีก 1 ลูก ทำให้จบการแข่งขัน อาร์เจนตินา ชนะ ฮอลแลนด์ 3-1 คว้าแชมป์โลกไปครองเป็นสมัยแรก ท่ามกลางความยินดีและการเฉลิมฉลองของแฟนบอลอาร์เจนไตน์ จนทำให้ลืม ปัญหาทางการเมืองอันเลวร้ายไปอย่างหมดสิ้น และตอกย้ำให้เห็นว่า อย่างไรเสียประเทศเจ้าภาพก็อยู่ในฐานะที่ได้เปรียบคู่แข่งอยู่เสมอ
ผลงานของบราซิลในฟุตบอลโลก ครั้งที่ 11 ที่ อาร์เจนติน่า ในปี 1978 แข่ง 7 นัด ชนะ 4 แพ้ - เสมอ 3
The line-up against Italy: Nelinho, Leão, Oscar, Amaral, Batista and Rodrigues Neto; Gil, Cerezzo, Jorge Mendonça Mendonça, Roberto and Dirceu
นัดแรก Brazil 1 Sweden 1 June 3, 1978 สนาม : Mar del Plata, Estadio José Maria Minella คนดู : 32569 คน กรรมการ : Thomas (Wales) ผุ้ทำประตูให้บราซิล : Reinaldo 45' สวีเดน : Sjöberg 37'
Zico ปะทะกับ Linderoth ของสวีเดน
นัดที่ 2 Brazil 0 Spain 0 June 7, 1978 สนาม : Mar del Plata, Estadio José Maria Minella คนดู : 34771 คน กรรมการ : Gonella (Italy) ผุ้ทำประตูให้บราซิล :
Brazil 1 Austria 0
นัดที่ 3 Brazil 1 Austria 0 June 11, 1978 สนาม : Mar del Plata, Estadio José Maria Minella คนดู : 35221 คน กรรมการ : Wurtz (France) ผุ้ทำประตูให้บราซิล : Roberto Dinamite 40'
Roberto ปะทะกับ Dinamite ของ Austria
นัดที่ 4 (รอบสอง) Brazil 3 Peru 0 June 14, 1978 สนาม : Mendoza, Estadio Ciudad de Mendoza คนดู : 31278 คน กรรมการ : Rainea (Romania) ผุ้ทำประตูให้บราซิล : Dirceu 15', 28', Zico 73'
Batista ปะทะ Ardiles ของอาร์เจนติน่า
นัดที่ 5 (รอบสอง) Brazil 0 Argentina 0 June 18, 1978 สนาม : Rosario, Estadio Gigante de Arroyito คนดู : 37326 คน กรรมการ : Palotai (Hungary) ผุ้ทำประตูให้บราซิล :
ผู้เล่นบราซิลแลกเสื้อกับผู้เล่นอาร์เจนติน่า หลังเสมอกัน 0-0
นัดที่ 6 (รอบสอง) Brazil 3 Poland 1 June 21, 1978 สนาม : Mendoza, Estadio Ciudad de Mendoza คนดู : 39586 คน กรรมการ : Silvagno Cavanna (Chile) ผุ้ทำประตูให้บราซิล : Nelinho 12',Roberto Dinamite 57', 63' โปแลนด์ : Lato 45'
บราซิลชุด 1978
นัดที่ 7 (ชิงที่ 3) Brazil 2 Italy 1 June 24, 1978 สนาม : Buenos Aires, Estadio Monumental คนดู : 69659 คน กรรมการ : Klein (Israel) ผุ้ทำประตูให้บราซิล : Nelinho 64', Dirceu 72' อิตาลี : Causio 38'
Luis Galvan ของอาร์เจนติน่า พยายามเลี้ยงบอลผ่านZico
จำนวนประตู ฟุตบอลโลกครั้งแรกบราซิลยิงไป 5 ประตู เสีย 1 ประตู ฟุตบอลโลกครั้งที่ 2 บราซิลยิงไป 1 ประตู เสีย 3 ประตู ฟุตบอลโลกครั้งที่ 3 บราซิลยิงไป 14 ประตู เสีย 11 ประตู ฟุตบอลโลกครั้งที่ 4 บราซิลยิงไป 22 ประตู เสีย 6 ประตู ฟุตบอลโลกครั้งที่ 5 บราซิลยิงไป 8 ประตู เสีย 5 ประตู ฟุตบอลโลกครั้งที่ 6 บราซิลยิงไป 16 ประตู เสีย 4 ประตู ฟุตบอลโลกครั้งที่ 7 บราซิลยิงไป 14 ประตู เสีย 5 ประตู ฟุตบอลโลกครั้งที่ 8 บราซิลยิงไป 4 ประตู เสีย 6 ประตู ฟุตบอลโลกครั้งที่ 9 บราซิลยิงไป 19 ประตู เสีย 7 ประตู ฟุตบอลโลกครั้งที่ 10 บราซิลยิงไป 6 ประตู เสีย 4 ประตู ฟุตบอลโลกครั้งที่ 11 บราซิลยิงไป 10 ประตู เสีย 2 ประตู
รวมฟุตบอลโลก 11 ครั้ง บราซิลยิงไป 119 ประตู เสีย 54 ประตู
จำนวนนัด ฟุตบอลโลกครั้งแรก บราซิลแข่ง 2 นัด ชนะ1 แพ้ 1 เสมอ - ฟุตบอลโลกครั้งที่ 2 บราซิลแข่ง 1 นัด ชนะ - แพ้ 1 เสมอ - ฟุตบอลโลกครั้งที่ 3 บราซิลแข่ง 5 นัด ชนะ3 แพ้ 1 เสมอ 1 ฟุตบอลโลกครั้งที่ 4 บราซิลแข่ง 6 นัด ชนะ 4 แพ้ 1 เสมอ 1 ฟุตบอลโลกครั้งที่ 5 บราซิลแข่ง 3 นัด ชนะ 1 แพ้ 1 เสมอ 1 ฟุตบอลโลกครั้งที่ 6 บราซิลแข่ง 6 นัด ชนะ 5 แพ้ - เสมอ 1 ฟุตบอลโลกครั้งที่ 7 บราซิลแข่ง 6 นัด ชนะ 5 แพ้ - เสมอ 1 ฟุตบอลโลกครั้งที่ 8 บราซิลแข่ง 3 นัด ชนะ 1 แพ้ 2 เสมอ - ฟุตบอลโลกครั้งที่ 9 บราซิลแข่ง 6 นัด ชนะ 6 แพ้ - เสมอ - ฟุตบอลโลกครั้งที่ 10 บราซิลแข่ง 7 นัด ชนะ 3 แพ้ 2 เสมอ 2 ฟุตบอลโลกครั้งที่ 11 บราซิลแข่ง 7 นัด ชนะ 4 แพ้ - เสมอ 3
รวมฟุตบอลโลก 11 ครั้ง บราซิลแข่ง 52 นัด ชนะ 33 แพ้ 9 เสมอ 10
TOPSCORERS Mario Kempes (ARG) 6 goals Teofilio Cubillas (PER) 5 goals Rob Rensenbrink (NED) 5 goals Leopoldo Luque (ARG) 4 goals Hans Krankl (AUT) 4 goals Roberto Dinamite (BRA) 3 goals Dirceu (BRA) 3 goals Karl-Heinz Rummenigge (GER) 3 goals Johnny Rep (NED) 3 goals Paolo Rossi (ITA) 3 goals
OTHER STATISTICS Number of games 38 Total Goals scored 102 Average per game 2,68 Own goals 3 Total attendance 1,610,215 Average attendance 42,374
Create Date : 24 ตุลาคม 2549 |
|
4 comments |
Last Update : 25 มิถุนายน 2551 14:57:39 น. |
Counter : 3606 Pageviews. |
|
|
|