บอลโลกครั้งที่ 10 ที่ เยอรมัน 1974
Logo ฟุตบอลโลก ปี 1974
อินทรีผงาด โลกรู้ซึ้งโททั่ลฟุตบอล
Franz Beckenbauer ของเยอรมันชูถ้วยใหม่ของฟีฟ่า
ศึกเวิลด์ คัพ ปี 1974 ประเทศเยอรมันตะวันตก (ในขณะนั้น) รับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพ มีการรักษาความปลอดภัยกันอย่างเข้มงวดกว่าที่เคย เนื่องจากเกิดเหตุสลดใจ เมื่อมีนักกรีฑายิว 11 รายถูกผู้ก่อการร้ายชาวปาเลสไตน์ฆ่าตายในระหว่างการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ เมื่อ 2 ปีก่อน
Sepp Maier ผู้รักษาประตูเยอรมัน คว้าลูกก่อนJohan Cruyff โดยมี Franz Beckenbauer ยื่นมอง
โดยฟุตบอลโลกครั้งนี้ มี 16 ชาติเข้าร่วมโม่แข้ง แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม ซึ่ง 2 ทีมที่มีคะแนนดีที่สุดในแต่ละกลุ่ม จะได้ผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 2 หรือรอบ 8 ทีมสุดท้ายแทนที่การเล่นในแบบน็อกเอาต์ ทีมที่ชนะในรอบนี้ก็จะได้ผ่านเข้าไปเล่นในรอบชิงชนะเลิศ ขณะที่อันดับ 2 ในแต่ละกลุ่มจะได้ชิงตำแหน่งที่ 3 แทน ขณะเดียวกันยังมีอีกสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปอีกเช่นกันนั่นก็คือถ้วยรางวัล หลังจากที่ บราซิล ได้ถ้วย จูลส์ ริเม่ต์ ไปเป็นกรรมสิทธิ์ ก็ทำให้ต้องมีการจัดทำถ้วยใหม่ขึ้นมาทดแทน โดยโทรฟี่ใหม่นี้หล่อขึ้นเป็นรูปโลกที่ทำมาด้วยทองคำ 18 กะรัต
Johan Cruyff กำลังโต้เถียงกับ Jack Taylor กรรมการชาวอังกฤษ
"แชมป์เก่า" บราซิล มีนักเตะที่หลงเหลือจากชุดคว้าแชมป์โลกปี 1970 ที่เม็กซิโก เพียง 3 คนเท่านั้นคือ ริเวลิโน่, แจร์ซินโญ่ และเพี๊ยซซ่า ขณะที่ เยอรมันตะวันตก เจ้าภาพก็มีโอกาสครองแชมป์สมัยที่ 2 เป็นอย่างมากหลังซิวถ้วยยูโรปี 72 มาครองได้สำเร็จ โดยมี ฟร้านซ์ เบ๊คเค่นเบาเออร์ สุดยอดลิเบอโร่ เจ้าของรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของยุโรปในปี 1972 ของบาเยิร์น มิวนิค นำทีม ส่วนทีมจากเกาะบริเทน มีเพียงทัพลูกหนังแดน "วิสกี้" สกอตแลนด์ เพียงชาติเดียวเท่านั้น ที่ได้ผ่านเข้ามาเล่นในรอบสุดท้าย โดยทีมชาติอังกฤษ ภายใต้การนำทีมของ เซอร์ อัลฟ์ แรมซี่ย์ พลาดท่าไม่สามารถผ่านรอบคัดเลือกเข้าไปเล่นในครั้งนี้ได้สำเร็จ ก่อนที่ แรมซี่ย์ จะโดนสมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) ปลดออกจากตำแหน่งในเดือนพฤษภาคมปีเดียวกัน
Johan Cruyff ถูกสกัดล้มในเขตโทษต่อหน้า Jack Taylor กรรมการชาวอังกฤษ เกมเปิดสนามมีขึ้นที่สังเวียนแข้ง วัลด์ สเตเดี้ยม ในเมืองแฟร้งค์เฟิร์ต โดย บราซิล ทำได้เพียงแค่เสมอกับทัพลูกหนังยูโกสลาเวีย ไปแบบไร้สกอร์ ขณะเดียวกัน เกมที่แฟนบอลทั่วโลกต่างตั้งหน้าตั้งตารอคอย ก็คือ การปะทะกันครั้งแรกระหว่างเยอรมันตะวันตก กับ "เดเดแอร์" หรือ เยอรมันตะวันออก ในรอบแรก กลุ่ม 1 ที่สนาม โฟล์ค ปาร์ค สเตเดี้ยม ของ ฮัมบูร์ก (ปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อเป็น เอโอแอล อารีน่า) ท่ามกลางแฟนบอลแน่นขนัดกว่า 60,200 คน นั้น เกมจบลงด้วยชัยชนะของทีมชาติเยอรมันตะวันออก จากการยิงประตูโทนของ เจอร์เก้น สปาร์วาสเซอร์ ก่อนหมดเวลาเพียงแค่ 10 นาทีเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 ทีมต่างก็กอดคอผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 2 ได้สำเร็จ
Johan Neeskens ยิงเล่นทางจน Sepp Maier หลงทาง ให้ ฮอลแลนด์ ขึ้นนำ 1-0
ขณะที่ทีมที่อันตรายที่สุดในทัวร์นาเมนต์ครั้งนี้ก็คือ "อัศวินสีส้ม" ฮอลแลนด์ ที่เพิ่งมีโอกาสผ่านเข้ามาเล่นในรอบสุดท้ายได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ซึ่งทีม "ฟลายอิ้ง ดัตช์แมน" ในยุคนั้นเต็มไปด้วยขุนพลฝีเท้าเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็น "นักเตะเทวดา" โยฮัน ครัฟฟ์ ที่เป็นหัวใจคอยบัญชาเกมในแดนกลางได้อย่างอัศจรรย์พันลึก นอกจากนั้น ยังมีนักเตะที่โชว์ฟอร์มระดับโลกหลายคนอาทิเช่น โยฮัน นีสเก้นส์, วิม ฟาน ฮาเนเก้น, รุด ครอลล์, จอห์นนี่ เร็ป และร็อบ เรนเซ่นบริ๊งค์ โดยมี "ท่านนายพล" ไรนุส มิเชลส์ เป็นกุนซือคอยบงการเกมอยู่ข้างสนาม
Paul Breitner ยิงประตูตีเสมอฮอลแลนด์ 1-1 โดยมี Jan Jongbloed ผู้รักษาปร ะตูฮอลแลนด์ยืนมอง
ฮอลแลนด์ จับติ้วมาอยู่กลุ่ม 3 ร่วมกับ สวีเดน, บัลแกเรีย และอุรุกวัย ซึ่งก็ไม่ได้สร้างปัญหาให้กับพวกเขาแต่อย่างใด เมื่อเก็บชัยชนะเป็นที่ 1 ของกลุ่ม ส่วนในรอบ 2 นักเตะดัตช์ เปลี่ยนเพื่อนร่วมกลุ่มมาเป็น อาร์เจนตินา, บราซิล และเยอรมันตะวันออก แต่ก็ยังโชว์ฟอร์มได้อย่างสะเด่า ด้วยการเก็บชัยชนะรวดทั้ง 3 นัด ร่ายเพลงเตะฟุตบอลในสไตล์ที่เรียกว่า "โททั่ล ฟุตบอล" คือนักเตะทุกตำแหน่งสามารถเล่นทดแทนกันได้ทุกคน พร้อมกับเข้าไปรอชิงชนะเลิศอย่างองอาจ โดยในรอบชิงชนะเลิศ อัศวินสีส้ม เจอศึกหนักพบ "เจ้าภาพ" เยอรมันตะวันตก หลังจากทัพ "อินทรีเหล็ก" เฉือนเอาชนะทีมชาติโปแลนด์ ในนัดตัดเชือกไปได้ชนิดเสียวหัวใจคนทั้งประเทศ 1-0
Gerd Muller ยิงประตูชัยให้เยอรมันชนะฮอลแลนด์ 2-1 ในนาทีที่ 43
รอบชิงชนะเลิศ มีขึ้นที่สนาม โอลิมปิก สเตเดี้ยม เมืองมิวนิค วันที่ 7 กรกฎาคม 1974 ท่ามกลางผู้ชมเข้ามาเป็นสักขีพยานกว่า 77,833 คน ทัพลูกหนัง "อินทรีเหล็ก" มี ฟร้านซ์ เบ๊คเค่นเบาเออร์ เดินนำลูกทีมออกสู่สนามด้วยเสื้อสีขาว กางเกงดำ และถุงเท้าขาว ขณะที่แข้ง "ดัตช์แมน" อยู่ในชุดเก่งเสื้อสี้ส้ม กางเกงขาว ถุงเท้าส้ม
Beckenbaue ยิ้มรับถ้วยบอลโลก
เริ่มเกมไปได้เพียงแค่ไม่ถึงนาที สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นหลังจากที่ ฮอลแลนด์ เป็นฝ่ายเริ่มเขี่ยบอลก่อนก็บุกตะลุยเข้าไปในเขตโทษทันทีกระทั่ง ครัฟฟ์ ถูก อูลี่ เฮอเนส เสียบคว่ำลงในเขตโทษ แจ๊ค เทย์เลอร์ ผู้ตัดสินชาวอังกฤษ ไม่รีรอเป่านกหวีดให้เป็นลูกจุดโทษทันที และเป็น โยฮัน นีสเก้นส์ ที่บรรจงยิงเล่นทางหลอก เซปป์ ไมเออร์ นายทวารเมืองเบียร์ ให้หลงทาง ทำให้ ฮอลแลนด์ ออกนำไปก่อน 1-0 ทั้งๆ ที่นักเตะเยอรมันตะวันตกยังไม่ได้สัมผัสบอลเลยสักคนด้วยซ้ำ นอกจากนี้ ยังเป็นครั้งแรกที่มีการยิงจุดโทษเกิดขึ้นในศึกเวิลด์ คัพ รอบชิงชนะเลิศอีกด้วย อย่างไรก็ตาม แฟนบอลชาวด๊อยท์ซ ก็ได้เฮกันบ้าง เมื่อเยอรมันตะวันตกเป็นฝ่ายได้ลูกจุดโทษ จากจังหวะที่ วิลเล่ม แจนเซ่น ไปเกี่ยว แบร์น โฮลเซ่นบายน์ ล้มลงในเขตโทษ และก็เป็น พอล ไบร์ทเนอร์ ที่รับหน้าที่สังหารเข้าไปอย่างเลือดเย็นให้ทัพเมืองเบียร์ ตามตีเสมอเป็น 1-1 ก่อนที่การตัดสินแชมป์จะมาเกิดขึ้นในช่วงก่อนหมดเวลาครึ่งแรกเพียงแค่ 2 นาที เมื่อ "ไอ้ลูกดินระเบิด" เกิร์ด มุลเลอร์ ได้บอลจาก ไรเนอร์ บอนโฮฟ เอี้ยวตัว 180 องศา ซัดบอลเข้าไปกองในก้นตาข่ายอย่างงดงาม ช่วยให้ เยอรมัน พลิกขึ้นมานำ 2-1 จนกระทั่งหมดครึ่งแรก
ทีมเยอรมันพร้อมถ้วยฟุตบอลโลก
ครึ่งหลัง ฮอลแลนด์ โหมบุกเป็นพายุบุแคม หมายตีเสมอให้สำเร็จ แต่แนวรับ "อินทรีเหล็ก" ที่มี ฟร้านซ์ เบ๊คเค่นเบาเออร์ คอยบัญชาการเกมอยู่นั้น ทำให้ขุนพลดัตช์ หมดโอกาสเจาะตาข่ายตีเสมอไปโดยปริยาย ก่อนที่ผู้ตัดสินจะเป่านกหวีดยาวหมดเวลาการแข่งขัน ส่งผลให้เยอรมันตะวันตก ประกาศศักดากลายเป็นแชมป์โลกสมัยที่ 2 ได้สำเร็จ หลังจากที่เคยได้แชมป์มาก่อนหน้านี้เมื่อปี 1954
ลีลาการเลี้ยงบอลของ Johan Cruyff
ผลงานของบราซิลในฟุตบอลโลก ครั้งที่ 10 ที่ เยอรมัน ในปี 1974 แข่ง 7 นัด ชนะ 3 แพ้ 2 เสมอ 2
Leão, Renato, Wendell, Clodoaldo, Marinho, Nelinho, Alfredo, L. Pereira, M. Antonio, Zé Maria and M. Chagas; Ademir da Guia, Valdomiro, Jairzinho, Carpeggiani, Rivelino, César, Piazza, Leivinha, P. César, Edu and Dirceu.
นัดแรก Brazil 0 Yugoslavia 0 June 13, 1974 สนาม : Frankfurt, Waldstadion คนดู : 62000 คน กรรมการ : Scheurer (Switzerland) ผุ้ทำประตูให้บราซิล :
Muamba Kazadi ผู้รักษาประตูจาก Zaire (C) ป้องกันการโหม่งของ Janrzinho
นัดที่ 2 Brazil 0 Scotland 0 June 18, 1974 สนาม : Frankfurt, Waldstadion คนดู : 50000 คน กรรมการ : van Gemert (Netherlands) ผุ้ทำประตูให้บราซิล :
Emerson Leao ผู้รักษาประตูบราซิล มองดูลูกบอลที่กองหลังช่วยกันขึ้นโหม่งสกัดกับกองหน้า Yugoslavia
นัดที่ 3 Brazil 3 Zaire 0 June 22, 1974 สนาม : Frankfurt, Waldstadion คนดู : 35000 คน กรรมการ : Rainea (Romania) ผุ้ทำประตูให้บราซิล : Jairzinho 12',Rivelino 66', Valdomiro 79'
BraZil 0 Yugoslavia 0
นัดที่ 4 (รอบสอง) Brazil 1 East Germany 0 June 26, 1974 สนาม : Hanover, Niedersachsenstadion คนดู : 58643 คน กรรมการ : Thomas (Wales) ผุ้ทำประตูให้บราซิล : Rivelino 60'
Johan Cruyff ถูกกองกลางบราซิลเข้าสกัด
นัดที่ 5 (รอบสอง) Brazil 2 Argentina 1 June 30, 1974 สนาม : Hanover, Niedersachsenstadion คนดู : 38000 คน กรรมการ : Loraux (Belgium) ผุ้ทำประตูให้บราซิล : Rivelino 32',Jairzinho 49' อาร์เจนติน่า : Brindisi 35'
นักเตะบราซิลถูกไล่ออก นัดเจอฮอลแลนด์
นัดที่ 6 (รอบสอง) Brazil 0 Netherlands 2 July 3, 1974 สนาม : Dortmund, Westfalenstadion คนดู : 52500 คน กรรมการ : Tschenscher (Germany) ผุ้ทำประตูให้บราซิล : Netherlands : Neeskens 50' Cruyff 65'
นัดชิงที่ 3 Brazil 0 Poland 1
นัดที่ 7 (ชิงที่ 3) Brazil 0 Poland 1 July 6, 1974 สนาม : Munich, Olympiastadion คนดู : 74100 คน กรรมการ : Angonese (Italy) ผุ้ทำประตูให้บราซิล : Poland : Lato 76'
Brazil 0 Poland 1
จำนวนประตู ฟุตบอลโลกครั้งแรกบราซิลยิงไป 5 ประตู เสีย 1 ประตู ฟุตบอลโลกครั้งที่ 2 บราซิลยิงไป 1 ประตู เสีย 3 ประตู ฟุตบอลโลกครั้งที่ 3 บราซิลยิงไป 14 ประตู เสีย 11 ประตู ฟุตบอลโลกครั้งที่ 4 บราซิลยิงไป 22 ประตู เสีย 6 ประตู ฟุตบอลโลกครั้งที่ 5 บราซิลยิงไป 8 ประตู เสีย 5 ประตู ฟุตบอลโลกครั้งที่ 6 บราซิลยิงไป 16 ประตู เสีย 4 ประตู ฟุตบอลโลกครั้งที่ 7 บราซิลยิงไป 14 ประตู เสีย 5 ประตู ฟุตบอลโลกครั้งที่ 8 บราซิลยิงไป 4 ประตู เสีย 6 ประตู ฟุตบอลโลกครั้งที่ 9 บราซิลยิงไป 19 ประตู เสีย 7 ประตู ฟุตบอลโลกครั้งที่ 10 บราซิลยิงไป 6 ประตู เสีย 4 ประตู
รวมฟุตบอลโลก 10 ครั้ง บราซิลยิงไป 109 ประตู เสีย 52 ประตู
Brazil 0 Poland 1
จำนวนนัด ฟุตบอลโลกครั้งแรก บราซิลแข่ง 2 นัด ชนะ1 แพ้ 1 เสมอ - ฟุตบอลโลกครั้งที่ 2 บราซิลแข่ง 1 นัด ชนะ - แพ้ 1 เสมอ - ฟุตบอลโลกครั้งที่ 3 บราซิลแข่ง 5 นัด ชนะ3 แพ้ 1 เสมอ 1 ฟุตบอลโลกครั้งที่ 4 บราซิลแข่ง 6 นัด ชนะ 4 แพ้ 1 เสมอ 1 ฟุตบอลโลกครั้งที่ 5 บราซิลแข่ง 3 นัด ชนะ 1 แพ้ 1 เสมอ 1 ฟุตบอลโลกครั้งที่ 6 บราซิลแข่ง 6 นัด ชนะ 5 แพ้ - เสมอ 1 ฟุตบอลโลกครั้งที่ 7 บราซิลแข่ง 6 นัด ชนะ 5 แพ้ - เสมอ 1 ฟุตบอลโลกครั้งที่ 8 บราซิลแข่ง 3 นัด ชนะ 1 แพ้ 2 เสมอ - ฟุตบอลโลกครั้งที่ 9 บราซิลแข่ง 6 นัด ชนะ 6 แพ้ - เสมอ - ฟุตบอลโลกครั้งที่ 10 บราซิลแข่ง 7 นัด ชนะ 3 แพ้ 2 เสมอ 2
รวมฟุตบอลโลก 10 ครั้ง บราซิลแข่ง 45 นัด ชนะ 29 แพ้ 9 เสมอ 7
ริเวลิโนของบราซิล
TOPSCORERS Grzegorz Lato (POL) 7 goals Andrzej Szarmach (POL) 5 goals Johan Neeskens (NED) 5 goals Gerd Müller (GER) 4 goals Ralf Edström (SWE) 4 goals Johnny Rep (NED) 4 goals Paul Breitner (GER) 3 goals Rivelino (BRA) 3 goals Dusan Bajevic (YUG) 3 goals Rene Houseman (ARG) 3 goals Johan Cruijff (NED) 3 goals Kazimierz Deyna (POL) 3 goals
Brazil 1 East Germany 0
OTHER STATISTICS Number of games 38 Total Goals scored 97 Average per game 2,55 Own goals 3 Total attendance 1,774,022 Average attendance 46,685
Create Date : 21 ตุลาคม 2549 |
|
0 comments |
Last Update : 25 มิถุนายน 2551 14:52:42 น. |
Counter : 2845 Pageviews. |
|
|
|