ตุลาคม 2555

 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
14
17
18
20
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
แรงเงา ตอนที่ 10(4)

แรงเงา ตอนที่ 10(4)

วีกิจมองตาวาวเอาเรื่องสองกระเทยสลายตัววูบ ปริมค้อนแบบเกรงๆ มุนินทร์วางโทรศัพท์ลงหันมาหาลูกศรช้าๆ ลูกศรนั่งตะไบเล็บทำหน้าซื่อ
"เธอทำบ้าอะไร"
"เดทเธอกับนายวีกิจน่ะซี"
"อย่าพยายามนักเลย บอกแล้วไง นับวันเขาก็ยิ่งเกลียดฉันมากขึ้น" มุนินทร์บอกอย่างเจ็บปวด
"เธอไปทำอะไรให้เขาเกลียดล่ะ"
"แล้วจะเล่าให้ฟัง"
"ย่ะ ยายคนความลับเยอะ"
ณัฐดนัยโผล่มา
"ฮัลโหล เย็นนี้ไปทานข้าว ฟังเพลงกันดีไหมครับ"
"ไปค่ะ เอ๊ะ ชวนใครคะ ลูกศรหรือนิน" ลูกศรตอบรับแล้วถาม
"ทั้งคู่ครับ"
"ยายนินเพิ่งนัดกับชายหนุ่ม คงไปกับเราไม่ได้หรอกค่ะ"
มุนินทร์ตาเขียวฉีกยิ้ม ณัฐดนัยเจื่อนๆ ไป

ที่ร้านอาหารริมน้ำ วีกิจมองมุนินทร์ที่นั่งอยู่ตรงหน้า สะสวยจนวีกิจไม่คิดว่ามุนินทร์จะร้ายกาจได้อย่างที่รับฟังมา
"จะด่าทออะไรฉันอีกล่ะคะ เชิญตามสบาย "
"ผมก็อยากรู้ว่าคุณกำลังเล่นสงครามประสาทกับอานภาไปทำไม"
"ฉันกำลังเรียกร้องความยุติธรรมมังคะ"
"ความยุติธรรมคือการแย่งอาภพมาจากอานภาหรือฮะ"
"เปล่าค่ะ ความยุติธรรมคือ เขาสองคนไม่ควรเสวยสุข บนความทุกข์ของคนอื่น"
มุนินทร์ตาแข็งกร้าว วีกิจพูดอย่างจริงจัง
"ตา ผมไม่ได้พูดเพื่ออาภพหรืออานภา แต่ผมพูดเพื่อคุณ ผมไม่อยากให้คุณถลำลึกไปมากกว่านี้ สิ่งที่คุณทำอยู่มันอันตราย อานภาร้ายกว่าที่คุณคิด เขามีพรรคพวกที่จะทำอะไรก็ได้ อย่างวันนั้นที่ฟิตเนสที่คุณไปว่ายน้ำกับอาภพ" มุนินทร์เลิกคิ้ว
"คุณตามฉันไปเหรอ"
"ครับ แล้วคนของอานภาก็ตามคุณไปด้วย ดีที่ผมแสดงตัวมันเลยตามคุณไปไม่ทัน"
"ขอบคุณ ที่ช่วย"
"อย่าเสี่ยงอีกเลยนะครับ"
"แล้วจะให้ฝ่ายเขากระทำอยู่ข้างเดียว โดยฝ่ายฉันเป็นเหยื่อตลอดกาลหรือคะ"
วีกิจไม่เข้าใจ ความขมขื่นพลุ่งขึ้น
"นี่คุณรักอาภพ จนยอมแลกกับทุกอย่างเลยหรือ ไม่น่าเชื่อว่าคุณรักเขามากขนาดนี้"
"ฉันทำได้ทุกอย่าง เพราะฉันเกลียดเขามากต่างหากค่ะ"
"เหมือนที่เขาพูดกันใช่ไหมฮะ ที่เกลียดมากก็เพราะรักมาก"
"ไม่ใช่ค่ะวีกิจ ฉันเกลียดมาก เพราะฉันเกลียดมาก"
"ผมไม่เชื่อฮะ"
"ฉันก็ไม่บังคับให้คุณเชื่อ"
"ตา ผมเคยขอร้องให้คุณหยุด แต่คุณบอกขอเวลาคิดก่อนตอนนี้คุณจะตอบผมได้หรือยัง"
มุนินทร์นิ่งไปนิดหนึ่งไหล่เหยียดตรง
"คำตอบของฉันคือ ฉันหยุดไม่ได้ ขอโทษด้วยนะคะวีกิจ"
"ไม่จำเป็นหรอกฮะ" วีกิจบอกอย่างหมางเมิน
"จำเป็นซีคะ เพราะคุณยังเป็นเพื่อนฉันไม่ใช่หรือ"
"ขอโทษเถอะฮะ ผมก็ต้องขอเวลาคิดดูก่อนเหมือนกัน" วีกิจย้อนกลับประชดประชัน มุนินทร์ยิ้มขื่นๆ "ผมมีเรื่องจะคุยเท่านี้ สวัสดีครับ"
วีกิจเดินแยกมา มุนินทร์จะเรียกแต่เสียงแหบแห้งไป วีกิจเดินจากมาด้วยน้ำตารื้น มุนินทร์น้ำตาไหลพราก วีกิจเองก็น้ำตาไหลพรากเช่นกัน

หลายวันต่อมาที่ร้านนมปั่นหน้าสถาบัน ต้องแต่งชุดนักเรียนนั่งตรงข้ามกับแจ็คที่เลิกเรียนหนังสือแต่งตัวแบบเด็กฮิปฮอพ ตรงหน้าเป็นนมกับขนมปัง
"นี่แกเลิกเรียนแล้วจริงๆ เหรอ" ต้องถามแจ็ค
"ต้องเรียนไปทำไม เสียเวลาหาเงินเปล่าๆ"
"ขายยาเนี่ยน่ะหรือ"
แจ็คสะดุ้ง เหลียวซ้ายแลขวา
"เบาๆ หน่อยซีจ๊ะ นี่มันร้านขายนม เด็กดีเขานั่งกัน"
"แกก็รู้ว่านมร้านนี้ใส่เหล้าด้วย"
แจ็คอมยิ้ม เอาซองยามาวางลงบนโต๊ะ ต้องมองดูมีแววสับสนอลหม่าน
"ของเยอะ จ่ายสด"
"ยังไม่มี ขอไว้ก่อน" แจ็คทำตาเยิ้ม
"ได้ แต่รีบนะ เดี๋ยวนายทวง"
ต้องกำซองยาไว้ ดวงตามีแววขมขื่น

ที่ห้องกินกาแฟของบริษัทซีเอ็มซีคอนซัลติ้ง ลูกศรและมุนินทร์นั่งจิบกาแฟ ณัฐดนัยยืนหัวโต๊ะ
"พรุ่งนี้มีนัดเอ็นเตอร์เทนลูกค้าเกาหลี เชิญคุณสองคนด้วย"
"ทำไมคะ"
"ก็ออฟฟิศเรามีแค่คุณสองคนที่พอเป็นชื่อเสียงให้ประเทศชาติได้น่ะซี"
"โอเคค่ะ เพื่อศักดิ์ศรีของประเทศ"

"คุณด้วยนะ มุนินทร์"
"แค่เลี้ยงดูอย่างเดียว คงไม่มีปูเสื่อด้วยนะคะ"
มุนินทร์ถามหน้าตาเฉย ณัฐดนัยโบกมือ
"ไม่ว่ายังไง ผมจะไม่ให้ไอ้คิมมันมาชีกอกับคุณสองคนหรอก ถ้ามันทะลึ่งผมจะเตะมันเอง" ณัฐดนัยทำตาหวานกับสองสาว
"ต๊าย ทำตาหวานกับเธอด้วย" ลูกศรบอก
"บอสหวานกับเราทั้งคู่ต่างหาก รู้สึกว่าจะหวานกับเธอมากกว่าฉันอีกนะ" มุนินทร์แย้ง
"คงเพราะเขารู้ว่าเธอมีคุณวีกิจแล้วมั้ง" มุนินทร์หน้าสลดลง
"อย่าพูดถึงเขาเลย ฉันไม่ได้เจอเขามาหลายวันแล้ว"
"ทะเลาะกันหรือ เล่าเร็วเล่า"
"ก็ไม่มีอะไร แค่เขาขอให้ฉันเลิกยุ่งกับอาเขา แต่ว่าฉันยังเลิกไม่ได้"
มุนินทร์พูดหน้าตาเฉย ลูกศรลืมตาโพลง
"นี่เธอคบทั้งอาทั้งหลานเชียวเหรอ ฉันไม่คิดเลยว่าเธอ"
"จะเลวขนาดนี้ใช่ไหม"
"เลวอะไร เลิศ เริ่ด เจิดที่สุด ยุคนี้ละครควรจะมีเรื่องผัวน้อย ผัวหลวง ผัวบำเรอได้แล้ว"
"นี่เธออย่ามาทำให้ศีลธรรมอันดีงามของประเทศนี้เสื่อมทรามนะ"

เย็นวันเดียวกันนั้นที่ห้องโถงโต๊ะสนุกเกอร์บ้านเจนภพ นพนภาเอะอะเข้ามาที่ห้องสนุกเกอร์ แต้ว ยายแหวงกำลังทำความสะอาดห้องอยู่ถึงกับสะดุ้ง
"นังแต้ว ยายแหวง"
"ขา / มีอะไรคะคุณ"
"เงินฉันใส่ลิ้นชักไว้สองหมื่นเจ็ด มันหายไปไหน"
"ไม่ทราบค่ะ"
"ยายแหวง"
"อิฉันก็ไม่ทราบค่ะ อิฉันอยู่แต่ก้นครัว"
ต่อนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องทีวี เข้ามาสมทบ
"เงินหายอีกแล้วเหรอครับ"
"ใช่ หายอีกแล้วไม่รู้ใครขโมย"
"จะมีใครล่ะครับ ก็พ่อนั่นแหละ"
"แม่ก็ว่าอย่างงั้น เจ็บใจนัก ไอ้ผัวขี้ขโมย"
"หักเงินเดือนพ่อเลยซีครับ รถก็ไม่ให้ใช้"
"อย่าถึงขนาดนั้นเลยลูก"
"แล้วจะปล่อยไปอย่างนี้หรือครับ"
"แม่พยายามจะปล่อยวางน่ะลูก พี่สร้อยเตือนไว้..."
ขณะนั้นต้องแอบฟังอยู่ สีหน้าต้องสลดลงเพราะเป็นคนขโมยเงินแม่ไปเอง

มุนินทร์แบกกระเป๋าใส่ชุดวอร์มออกมาจากฟิตเนสเดินตรงไปยังลานจอดรถ ไฟสลัวและเสาที่เรียงรายเป็นระยะทำให้บรรยากาศมืดทะมึน มุนินทร์เดินมาจนเกือบถึงรถสปอร์ต ทันใดมีร่างสูงใหญ่โผล่พรวดมาล็อคไว้ กดตัวมุนินทร์กับเสา เอามีดคมวาวจ่อคอ มุนินทร์ตัวชาพยายามระงับสติ มองดูหน้ามันเห็นรอยแผลเป็นยาว
"แกต้องการอะไร ถ้าเอาเงิน ฉันจะหยิบให้แล้วก็ไปซะ"
"ฉันอุตส่าห์มาดักรอที่นี่ทุกวัน จะให้ไปง่ายๆ ได้ยังไง"
"ดักรอ ยายคุณนายสั่งมาใช่ไหม"
"ถึงไม่สั่ง ฉันก็มาเองอยู่แล้ว เธอดูสวยขึ้นนะ เชฟก็ดีขึ้นกว่าแต่ก่อน"
ปุ๊ลูบไล้สะโพกมุนินทร์ มุนินทร์เริ่มเดาได้
"คราวนี้เขาสั่งแกมาว่ายังไงหรือ"
ปุ๊ตวัดมุนินทร์มาแนบตัว หลังมุนินทร์ทาบทับบดเบียดกับด้านหน้าปุ๊ ปุ๊เอามีดจ่อคอ
"สวยไปทั้งตัว งั้นสิ ผัวยอมทิ้งเมียมาขึ้นสวรรค์กับเธอ"
"แล้วแกอยากขึ้นสวรรค์บ้างไหมล่ะ ไปซี ในรถฉันก็ได้นะ"
ปุ๊งงงัน มุนินทร์มีสีหน้าขยะแขยงวูบหนึ่งแล้วพลันทำท่ารัญจวนใจ เข้าเบียดหลังกับแผงอกปุ๊ ปุ๊ลังเลดันตัวมุนินทร์ให้หันมาเผชิญหน้า มุนินทร์มองให้ท่าเข้าไปในดวงตาใต้แว่นดำแล้วพลันรูดซิปแจ็กเก็ตที่ใส่ลงครึ่งหนึ่ง เห็นผิวขาววอมแวม
"รู้ไหมว่าข้างใต้แจ็กเก็ต ฉันไม่ได้ใส่อะไรเลย"
ปุ๊พลันเผลอสติ มือมุนินทร์รูดซิปแจ็กเก็ตลงอีก อีกมือล้วงไปในกระเป๋าของเสื้อ ปุ๊ยื่นมือมาราวจะล้วงเข้าไปในเสื้อ ทันใดมุนินทร์ก็ตาวาวกระทืบส้นสูงลงบนรองเท้ามัน ส้นแหลมของรองเท้าไฮฮีลทะลุลงในรองเท้าปุ๊ ปุ๊ร้องโอ๊ย มุนินทร์ตวัดมือเอาที่ชอร์ตไฟฟ้าจี้คอมัน ปุ๊ผงะเกร็งล้มหงายลงกับพื้น มุนินทร์เหยียบมือมีดกระเด็นหลุด มุนินทร์เตะมีดกระเด็นไป แล้วเตะมันอย่างแรง 2-3 ครั้ง แล้วดึงประตูรถแถวนั้น สัญญาณกันขโมยทำงาน ไฟกระพริบเสียงสัญญาณดังสนั่น รปภ. 2 คนกับลูกศรวิ่งมาแต่ไกล
"ตรงนั้นค่ะ"
มุนินทร์ขยับถอย ปุ๊รวบรวมกำลังมันมองมุนินทร์อย่างเจ็บแค้นก่อนจะวิ่งหนีกระเจิงไป มุนินทร์ขยับออกมา ลูกศรกับ 2 รปภ.วิ่งมาถึง
"ผู้ร้านปล้นชิงทรัพย์ค่ะ มันหนีไปแล้ว"
รปภ.เป่านกหวีดเริ่มตามหา ลูกศรตื่นเต้นมองดูมุนินทร์ มุนินทร์ไม่ตกใจตาวาววับด้วยความแค้น
"อะไรกันนิน"
"ฉันเกือบถูกข่มขืนน่ะซี"
"หา มีเรปิสต์มาดักเหยื่อ กลางโรงแรมห้าดาวอย่างนี้เชียวหรือ"
"ไม่ใช่เหยื่อทั่วไปหรอก มีคนส่งมันมาจัดการฉันโดยตรงต่างหาก"

อีกด้านหนึ่งที่บ้านเจนภพ นพนภานั่งดูเอกสารอยู่ที่โซฟา ต่อนั่งวาดรูปเล่น นพนภาดูผลงานของต่อ
"สวยจัง" นพนภาเอ่ยชม
"นี่ล่ะครับ ที่ผมจะเอาไปโชว์ถ้าได้คัดเลือกไปเรือเยาวชนจริงๆ"
"ดีจ้ะ"
ต้อมนั่งแหกขาอยู่ที่พื้น มีขนมอยู่ที่หว่างขา ตาจ้องดูทีวีเขม็ง แต้วกับยายแหวงมานั่งจ้องทีวีด้วย ที่จอโทรทัศน์ขึ้นว่า รายการ 13+ ไม่เหมาะกับเด็กและเยาวชน นพนภาเหลือบดูจอทีวีพลางบ่น
"ต๊าย เรื่องนี้เองหรือ ตอนสร้างครั้งแรกฉันแค่ 8 ขวบ ฉันก็ดู โตขึ้นมาก็ไม่เห็นเป็นไร"
"ค่ะ ออกจะเป็นคนดี" แต้วบอก

มุนินทร์มีสีหน้าเคียดแค้น นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานในคอนโด กำลังคิดหาทางเล่นงานนพนภากลับ แต่เสียงเตือนของวีกิจยังแว่วมา
"ตา ผมไม่ได้พูดเพื่ออาภพหรืออานภา แต่ผมพูดเพื่อคุณ ผมไม่อยากให้คุณถลำลึกไปมากกว่านี้ สิ่งที่คุณทำอยู่มันอันตราย อานภาร้ายกว่าที่คุณคิด เขามีพรรคพวกที่จะทำอะไรก็ได้ อย่าเสี่ยงอีกเลยนะครับ"
มุนินทร์สับสนในใจ แต่แล้วก็หยิบมือถือขึ้นมาด้วยสีหน้าเด็ดเดี่ยว พยายามลืมคำเตือนของวีกิจทั้งหมด

โทรศัพท์บ้านเจนภพดัง แต้วอารมณ์เสียเพราะกำลังมันกับละคร ตาจ้องโทรทัศน์ มือควานรับโทรศัพท์อย่างเสียไม่ได้
"ฮัลโหล บ้าน ผ.อ.เจนภพค่ะ"
"ไปเรียน ผ.อ.ว่า คุณนายหมายเลข 2 โทรมา"
"คุณนายหมายเลข 2 ใครวะ"
ทันใดแต้วก็นึกออก เอามือปิดปากกระบอกโทรศัพท์ลดลง
"ว๊าย อีเมียน้อย"
นพนภามองดูจอโทรทัศน์เห็นเมียน้อยขยับผ้าแถบยั่วเจ้าคุณอยู่ก็ตาขุ่น
"ต๊าย นังบ้า ติดละครซะเป็นบ้า" นพนภาต่อว่าแต้ว
"ไม่ใช่ค่ะ อีเมียน้อยมันโทรมาขอสายคุณผู้ชาย"
เพียงเท่านั้นละครโทรทัศน์ก็หมดความหมาย ยายแหวงหันขวับ ต้อมหมุนตัวมา ต่อลุกขึ้นมาเกาะแขนนพนภาที่นั่งตัวแข็ง
"แม่ฮะ ทำไงดี"
"มันอยากพูดกับพ่อแกก็ให้พูดซี อยู่ที่ห้องเล็กไม่ใช่หรือให้รับในนั้น"
"ค่ะ" แต้วยกหูขึ้น "เอ้อ ขอโทษค่ะ เดี๋ยวนะคะ ตามหาผัว เอ๊ย หาคุณผู้ชายก่อนค่ะ"
นพนภาตัวสั่น ต่อบีบแขนแม่
"หนูไปเรียกเอง คุณพ่อขา อีเรยาโทรมาค่ะ"
ต้อมวิ่งออกจากห้อง แต้วยื่นโทรศัพท์ให้นพนภา นพนภารับมาแนบหูช้าๆ แต้วยื่นหน้ามาฟังด้วย
"อ้อ เขารับสายแล้ววางหูด้วยนะคะ อย่าเสียมารยาทแอบฟังล่ะ ผัวเมียเขาจะออดอ้อนกัน"
นพนภาเงื้อโทรศัพท์จะปาแล้วชะงักลดลง พยายามทำตัวแวว ดร.วิกันดา แต่ตัวสั่น ตาวาว กระแทกหูโทรศัพท์ลง
"แม่ครับ ปล่อยมันทำไม ห้ามพ่อซีครับ"
"ไม่ แม่ปล่อยวางแล้ว ถ้าสานต่อมันก็ไม่จบสิ้น แล้วคนที่ทุกข์ที่สุดก็คือแม่ แม่ไม่สนใจอีกแล้วต่อ"
นพนภาน้ำตารื้น ต่อกอดแม่ไว้อย่างสงสาร แต้ว ยายแหวงพลอยสลดไปด้วย

//www.manager.co.th/Entertainment/




Create Date : 15 ตุลาคม 2555
Last Update : 15 ตุลาคม 2555 9:06:49 น.
Counter : 1938 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

bosszone
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]