ตุลาคม 2555

 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
14
17
18
20
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
แรงเงา ตอนที่ 9(5)

แรงเงา ตอนที่ 9(5)

วีกิจและกริบนั่งคุยกันอยู่ที่ล็อบบี้ระเบียงชั้นบน มุนินทร์และลูกศรแอบมองลงมา
"มาได้ยังไงเนี่ย"
"ตกลงเธอปิดบังเขาทั้งหมดเลยใช่ไหม ไม่ว่าที่อยู่ ที่ทำงาน เบอร์โทรศัพท์แม้แต่ ชื่อของเธอ"
"ชื่อฉัน"
"เธอใช้ชื่อน้องสาวหลอกเขาน่ะซี เอ...ฉันงงไปหมดแล้วว่าเขาเป็นกิ๊กเธอแบบไหน"
"ก็เพราะไม่ใช่กิ๊กน่ะซียะ"
"อย่าหลอกตัวเองหน่อยเลยยายนิน เล่ามาซีว่าเธอไปหลอกนายวีกิจนั่นเพื่ออะไร"
"เรื่องมันยาว วันหลังจะเล่าให้ฟังว่าแต่ตอนนี้เธอช่วยฉันหน่อย"
"ช่วยอะไร"
"ช่วยหลอกนายวีกิจต่อน่ะซี"
"หา ให้ฉันร่วมหลอกเขาด้วยอีกคนเหรอ"
จังหวะนั้น ณัฐดนัยเดินผ่านมาพอดี
"อะไรกันครับ ใครจะไปหลอกใคร"
"บอสคะ งั้นช่วยร่วมหลอกด้วยอีกคนก็แล้วกัน"
"อะไรครับ"
"คืออย่างนี้ค่ะ ช่วยหน่อยนะคะ"
มุนินทร์ดึงทั้งณัฐดนัยและลูกศรเข้าเจรจาร่วมเล่นละครฉากใหญ่

วีกิจและกริบกำลังสำรวจไปรอบๆ ออฟฟิศ คนเดินขวักไขว่ ท่าทางดูดีไฮโซทั้งนั้น
"ถ้าคุณมุตตาทำงานที่นี่ ฉันก็บอกแกได้คำเดียวว่าเขาไม่ใช่คนเดียวกับมุตตาคนเดิมของแกแล้วล่ะว่ะ"
"ทำไม"
"ก็คนที่นี่ ถ้าไม่จบนอกก็ต้องจบโท"
ลูกศรเดินเข้ามา
"คุณวีกิจคะ รอสักครู่นะคะ ยายนินกำลังเตรียมการประชุมอยู่ค่ะ"
"ตกลงชื่ออะไรกันแน่ครับ มุตตาหรือนิน" กริบถามอย่างสงสัย
"อ้อ มีสองชื่อค่ะ แต่ที่นี่เราเรียก นิน ค่ะ"
"อ้อ งั้นซีครับ ถามที่ประชาสัมพันธ์ ไม่รู้จักชื่อ มุตตา"
"ใช่ค่ะ"
"แล้วคุณตา ทำงานอะไรที่นี่ครับ"
"อ้าว ก็งานเลขาไงคะ"
วีกิจและกริบมองหน้ากัน สีหน้าเหมือนไม่เชื่อ ลูกศรทำหน้าเบื่อๆ

ลูกศรพาวีกิจและกริบมาในห้องประชุมขนาดย่อม เห็นมุนินทร์กำลังวางเอกสารลงบนโต๊ะ แกล้งทำท่าท่าดูเก้ๆ กังๆ กริบพยายามจับพิรุธ
"มิสเตอร์เจฟฟรีย์ มิสเตอร์ไรอัน นี่ชื่ออะไรอ่านไม่ออก เอดัวอาร์โด้ อาเลซซาบรีอานี่ ว๊า เรียกยาก"
"ยายนิน"
มุนินทร์หันมา ทำท่าทางตกใจ
"คุณวีกิจ คุณกริบ"
"สวัสดีครับคุณนินจา"
"คุณมาได้ยังไง ฉันไม่ได้อนุญาตให้คุณมาพบฉันที่นี่นะ"
"แต่ผมก็มาแล้วนี่ครับ"
"งั้นก็กลับไปเดี๋ยวนี้เลย"
"ทำไมครับ มีอะไรที่คุณปกปิดผมอยู่งั้นเหรอ"
มุนินทร์สบตาลูกศร ลูกศรยิ้มเจื่อนๆ เล่นไปตามบท
"ฉันกำลังทำงานอยู่ คุณกลับไปเถอะ"
"อีกครึ่งชั่วโมงก็พักเที่ยงแล้ว ผมรอได้"
"เอ๊ะ คุณไม่ได้นัดฉันนะ จะมารอทำไม เดี๋ยวฉันไปทานกับลูกศร"
"งั้นผมก็ตามไปด้วยคน"
"นี่คุณจะเอายังไงกับฉัน"
"ก็แค่อยากรู้ความจริงที่ผมยังไม่รู้เท่านั้นเอง"
"เฮ้ย กิจ อย่าตื๊อเลยว่ะ เขาไล่ก็กลับเถอะ"
วีกิจยังมีอาการมุ่งมั่น มุนินทร์สีหน้าอ่อนใจ ณัฐดนัยเดินเข้ามาเอะอะโวยวาย
"คุณนิน นี่คุณพลาดอีกแล้วนะครับ"
"คะ บอส พลาดอะไรอีกคะ" มุนินทร์ทำท่าทางนอบน้อม
"จดหมายนี่น่ะซี คุณพิมพ์ผิดหลายคำมาก เฮ้อ ทำงานมาเป็นเดือนแล้วคุณก็ยังผิดได้ทุกวัน ปรับปรุงตัวด่วนเลยนะคุณนิน"
มุนินทร์หน้าเจื่อนรีบยกมือไหว้ณัฐดนัยขอโทษ วีกิจและกริบมองอย่างคลายใจหายสงสัยไปส่วนนึง แต่ก็ยังสงสัยบางเรื่องอยู่

มุนินทร์นั่งหน้าหงิกต่อหน้าวีกิจที่ร้านกาแฟแถวออฟฟิศ
"คุณรู้ไหมที่คุณมาที่นี่ ทำให้ฉันเดือดร้อนฉันอาจจะถูกไล่ออกก็ได้"
"ยังไงผมก็ต้องมา เพราะคุณสร้างความสงสัยไว้หลายอย่างเหลือเกิน"
"อะไรบ้าง"
"ผมอยากรู้ว่าคุณทำงานอะไรน่ะซีครับ"
"ตอนนี้คุณก็รู้แล้ว ฉันก็เป็นเลขาเหมือนเดิมเพียงแต่ทำงานคุ้มเงินเดือนมากขึ้นเพราะเป็นงานเอกชน ไงคะ หายสงสัยหรือยัง"
"ยังครับ งานเลขาอะไรมีรถประจำตำแหน่งหรูขนาดนี้"
"เอ...บอกแล้วไงว่าทางบริษัทให้ยืมมาขับ อีกอย่างฉันคงเป็นที่รักของบอสละมัง"
วีกิจยิ่งหน้าเครียด เพราะนึกอยู่แล้วว่ามุนินทร์ต้องรับบทเมียน้อยแน่ๆ
"รู้ไหมตอนนี้ที่กองเขากอสซิปกันเรื่องอะไร เขาลือกันว่าคุณลาออกไปให้อาภพเลี้ยงหรือไม่ก็มีเสี่ยใหญ่รับเลี้ยงคุณอยู่"
"โอ แล้วคุณเชื่อข่าวลือนั่นหรือคะ"
"ไม่ฮะ สำหรับเรื่องอาภพ ผมไม่คิดว่าคุณจะทำอย่างนั้น เพราะคุณบอกว่าคุณไม่มีวันที่จะกลับไปหาอาภพอีก แล้วผมก็เชื่อคุณ" วีกิจมองมุนินทร์อย่างเชื่อมั่น มุนินทร์ยิ้มขอบใจแต่สายตาสลดลง "แต่กับบอสของคุณ ผมชักไม่เชื่อเสียแล้ว"
มุนินทร์ไม่รู้จะแก้ตัวอย่างไร
"เชิญกลับได้แล้วค่ะ ฉันต้องทำงาน"
มุนินทร์ลุกขึ้น วีกิจลุกตามจับมือไว้
"ตา ผมเป็นห่วงคุณ"
มุนินทร์รับรู้ถึงความจริงใจนั้น แต่ดึงมือออก
"ฉันทราบค่ะ"

มุนินทร์แยกจากมาด้วยใจที่เต้นแรง ต้องตัดใจอย่างยิ่ง วีกิจได้แต่มองตาม

ที่ฟิตเนสระดับหรูในโรงแรมห้าดาวแห่งหนึ่ง บริเวณสระว่ายน้ำไม่มีผู้คน มุนินทร์ใส่ชุดว่ายน้ำวันพีซนอนอยู่บนเก้าอี้นอนตัวหนึ่ง น้ำในสระไหวเป็นระลอกมุนินทร์หลับตาแต่คิ้วขมวดครุ่นคิดเมื่อนึกถึงคำพูดของวีกิจกับแจงจิต

"เรื่องของคุณกับอาภพ ผมขอให้มันจบไปจริงๆ ได้ไหมฮะ"
"รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ เธอยิ่งต่อ มันก็ยิ่งไม่มีวันจบ"
จากนั้นมุนินทร์ก็นึกถึงเหตุการณ์ตอนที่มือปืนชักปืนขู่ ปุ๊มือปืนจ่อปืนเข้าหามุนินทร์ รถมุนินทร์เสียหลัก มุนินทร์กลัวลนลานอยู่ในรถ...มุนินทร์สะดุ้งลืมตาขึ้น มีแววตัดสินใจว่าพอแล้ว
มุนินทร์ลุกขึ้นเดินไปริมสระแล้วพุ่งตัวไปว่ายน้ำแบบนักกีฬา หลังจากว่ายไปรอบหนึ่งก็มีอะไรอย่างหนึ่งมาพันข้อเท้า มุนินทร์ชะงักพบว่ามันคือผมยาว มุนินทร์จมวูบลงมองไปเบื้องหน้าท่ามกลางพรายน้ำฟอง อากาศเล็กๆ ผุดพราย มุตตาในชุดบางพลิ้วจมอยู่ใต้น้ำ ใบหน้าซีดเผือด ดวงตาปิดสนิท ผมยาวสลวยแผ่ไปเหมือนนางเงือก มุนินทร์ตกตะลึงพรึงเพริด ดวงตามุตตาลืมขึ้นดูเรืองแสงน่าสะพรึงกลัว

มุนินทร์ผวาลุกขึ้นนั่งบนเตียงนอน หน้าขาวซีดมีแสงสว่างเพียงที่เตียงนอนและโต๊ะเครื่องแป้ง มุนินทร์ลุกขึ้นเดินไปนั่งที่โต๊ะเครื่องแป้งตาหลุบลงต่ำอย่างครุ่นคิด แล้วค่อยๆ มองดูเงาในกระจก เงาสะท้อนมองตอบมาเงานั้นกลับไม่เหมือนเงาของมุนินทร์ มุนินทร์เบิกตากว้างยื่นมือไปมือของมุนินทร์แตะกับผิวหน้าของกระจก มันกลับไหวเป็นระลอกของวงน้ำแผ่ไป เงาสะท้อนนั้นบิดเบี้ยวพร่าเลือน แล้วค่อยๆ กลับสู่ปกติ แต่ภาพสะท้อนนั้นกลับกลายเป็นมุตตาในชุดบางพลิ้ว ผมสยายไหวราวอยู่ใต้น้ำ ดวงหน้าซีดขาว ดวงตาเจิดจ้าและชั่วร้าย
"ตา"
"เธอกำลังจะถอนตัวหรือนิน"
"ตา"
"เธอเคยบอกว่าจะมาทวงความยุติธรรมให้ฉันไง"
"ใช่ ฉันทวงความยุติธรรมให้เธอ"
"จำวันที่เธอผลักฉันลงไปในบึง ปล่อยให้ฉันจมลงไปในสายน้ำที่มืดมิดนั่นได้ไหม"
"ตา ฉันไม่ได้ตั้งใจ" มุนินทร์บอกอย่างเจ็บปวด
"และเธอก็เป็นคนผลักดันให้ฉันมากรุงเทพฯ และปล่อยให้ฉันจมลงในความชั่วร้ายของมัน"
"จริงหรือตา เป็นเพราะฉันหรือ"
"เธอบอกว่าฉันต้องอยู่ มุตตาต้องอยู่ มุตตาต้องไม่ตายไม่ใช่หรือ"
มุนินทร์พยักหน้า อาการลังเลหายไป
"มุตตา ต้องไม่ตาย"
ภาพมุตตาในกระจกพลันยิ้มอย่างชั่วร้าย มุนินทร์ดวงหน้าเคร่งเครียดหมกมุ่น ดวงตาเจ็บแค้นวาววับ เสียงมุนินทร์และมุตตาดังกึกก้อง สะท้อนอึงอลไปมา
"มุตตาต้องไม่ตาย มุตตาต้องไม่ตาย"
มุนินทร์ผวาเยือกลืมตาขึ้น เธอยังคงนอนอยู่บนเก้าอี้นอนของสระว่ายน้ำ มุนินทร์ลุกขึ้นช้าๆ ดวงตาวาวโรจน์ ความแค้นกลับมาใหม่

คืนนั้นที่บ้านเจนภพ เจนภพนั่งบนเก้าอี้นอนดูโทรทัศน์อยู่ ต้อมนอนทำการบ้านที่โซฟา อีกด้านต่อกับนพนภากำลังดูโปรแกรมคัดเลือกให้ร่วมเดินทางไปกับเรือเยาวชน
"คัดเลือกเรือเยาวชนนี่ ลูกแม่ต้องชนะให้ได้นะลูกเพราะต่อมีคุณสมบัติครบถ้วน"
"ครับแม่"
มือถือเจนภพดังขึ้น เจนภพรับขึ้นมา
"ฮัลโหล"
ที่ผับหรู มุนินทร์แต่งหน้าจัด ดวงตาเจิดจ้าพูดโทรศัพท์อยู่
"สวัสดีค่ะ ผ.อ."
เจนภพยินดี ฝืนทำสีหน้าปรกติที่สุด
"เดี๋ยวนะ" เจนภพหันไปหานพนภา "ยายแจงจิตอีกแล้ว"
"ต๊าย ดึกดื่นเที่ยงคืนยังจะมีราชการงานเมืองอะไรอีก"
"ก็เรื่องสัมมนาพรุ่งนี้น่ะแหละ เดี๋ยวผมไปเอาเอกสารก่อน"
เจนภพลุกขึ้นไปคว้ากระดาษชิ้นหนึ่งเดินไปห้องสมุด นพนภามองตามแต่ไม่ติดใจอะไร

เจนภพก้าวมาในห้องสมุดกดล็อคประตูแน่นหนา แล้วรีบยกโทรศัพท์มาพูด
"ฮัลโหลตา ขอโทษนะที่ให้รอ"
"สำหรับ ผ.อ. ฉันรอได้อยู่แล้วค่ะ สบายดีหรือคะ"
"สบายอะไร ผมคิดถึงตาจะตายอยู่แล้ว"
"ยังหรอกค่ะ ฉันยังไม่ให้คุณตายตอนนี้หรอก"
"ตา วันนั้นตาหายไปไหน"
"มีผู้หวังดีโทรบอกเมีย ผ.อ.ให้บุกไปไม่ใช่หรือคะ ฉันขี้เกียจเผชิญหน้าก็เลยกลับไปก่อน"
"แล้วเมื่อไร ผมจะได้เจอตาอีก"
"อยากมากนักหรือคะ"
"โธ่ ผมจะขาดใจตายอยู่แล้ว พรุ่งนี้ดีไหม"
"ไม่ได้ค่ะ พรุ่งนี้ฉันมีนัดกับคนอื่นแล้ว"
เจนภพขมวดคิ้วระแวงขึ้นมาทันที
"ใคร นายวีกิจหรือ"
"ไม่ใช่หรอกค่ะ วีกิจดีงามเกินไป ฉันไม่กล้าแตะต้องเขาหรอก"
มุนินทร์มีแววขมขื่นบางอย่าง
"ขนาดนั้นเชียวหรือ แล้วผมล่ะเป็นไง"
"เราสองคนก็เลวพอกันน่ะซีคะ ถึงได้คบกันได้"
"ตา ทำไมถึงพูดแบบนั้น"
"โถ อย่าเซนซิทีฟนักเลยค่ะ ผ.อ.คะ ทำไมเราต้องรอวันอื่นล่ะคะ คืนนี้ไม่ดีกว่าหรือคะ"
เจนภพเหลือบดูนาฬิกาที่ผนังมันบอกเวลา 22.30 น.
"โธ่ ผมจะออกไปได้ยังไง"
"ก็หาหนทางเอาเองซีคะ อย่าให้ฉันต้องสอนจระเข้กินคนให้ว่ายน้ำเลยตอนนี้ฉันอยู่ที่เอ็กซ์ผับ"
"อ๋อ ที่ๆ ผมเคยพาตาไป"
"ค่ะ ฉันถึงอยากย้อนรอยความหลังไงคะ"
"ตา"
"ฉันให้เวลาคุณชั่วโมงนึง ถ้าห้าทุ่มครึ่งคุณยังไม่มา ฉันจะออกไปกับใครก็ได้แถวๆ นี้"

มุนินทร์กดเลิกติดต่อ เจนภพหันรีหันขวางคิดหาทาง

//www.manager.co.th/drama/




Create Date : 11 ตุลาคม 2555
Last Update : 11 ตุลาคม 2555 10:17:57 น.
Counter : 770 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

bosszone
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]