|
ว่านน้ำเต้าทอง เกสรภายใต้กล้อจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบส่องกราด
ว่านน้ำเต้าทอง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Pancratium zeylanicum L. อยู่ในวงศ์Amaryllidaceae(วงศ์ว่านสี่ทิศ-พลับพลึง) เป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยวมีหัวใต้ดินอายุหลายปี ใบสีเขียวแคบยาวขอบเรียบผิวใบเรียบ ดอกสีขาวมีกลิ่นหอมมีกลีบดอกแคบยาวสีขาว 6 กลีบเมื่อบานนานเข้ากลีบดอกจะม้วนไปด้านหลัง มีก้านเกสรตัวผู้ 6 อันที่มีฐานเป็นกลีบบางสีขาวเชื่อมรวมกันแบบมงกุฏล้อมก้านเกสรตัวเมียที่อยู่กลางดอก เมื่อบานจะอยู่ได้สัก 3-4 วันก่อนโรยรา กระจายพันธุ์ในอินเดีย หมู่เกาะในมหาสมุทรอินเดีย จนถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ดอกว่านเศรษฐีน้ำเต้าทองมีสีขาวมีกลิ่นหอม มีกลีบดอกแคบยาวสีขาว 6 กลีบ ก้านเกสรตัวผู้ 6 อันมีกลีบบางสีขาว เชื่อมเป็นรูปมงกุฏล้อมก้านเกสรตัวเมียตรงกลาง (By Muhammad Mahdi Karim (www.micro2macro.net) Facebook Youtube (Own work) [CC BY-SA 2.5-2.0-1.0 (//creativecommons.org/licenses/by-sa/2.5-2.0-1.0)], via Wikimedia Commons)
ละอองเกสรแห้งของว่านน้ำเต้าทองภายใต้กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบส่องกราดแสดงในด้านล่าง เกสรแห้งของว่านน้ำเต้าทอง
เกสรแห้งจะแบนและยุบตัวเป็นรูปคล้ายเรือ
พื้นผิวเป็นลายตาข่าย
มีaperture เพียงด้านแดียวแต่ต้องขออภัยที่ถ่ายไม่ได้เนื่องจากเกสรแห้งจนยุบตัวตรงด้านaperture
ในภาพกลีบดอกทั้ง 6 ม้วนขมวดไปด้านหลัง
การบานตั้งแต่วันที่ 1 ถึงวันที่ 4 ของดอกว่านถ้วยทอง (By Muhammad Mahdi Karim (www.micro2macro.net) Facebook Youtube (Own work) [GFDL (//www.gnu.org/copyleft/fdl.html)], via Wikimedia Commons)
ในสังคมไทยต้นไม้อะไรที่ขึ้นชื่อว่าว่านมักจะมีความเชื่อบางอย่างติดสอยห้อยตามมาด้วย บางคนก็เชื่ออย่างเป็นจริงเป็นจัง บางคนก็พูดกลางๆว่าเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง บางคนก็หาใส่ใจไม่ เรื่องมันจะมาลงตรงที่มีเหตุและความเป็นไปให้สอดคล้องกับความเชื่อที่ผูกอยู่กับว่านนั้นๆ เป็นต้นว่า บางคนเริ่มธุรกิจการค้าแต่ซบเซาทำท่าจะไม่รอด ไปได้ยินว่าทำค้าขายให้เอาว่านนางกวักมาปลูกและจงผูกแพรพรรณประดับ จุดธูปเทียน บริกรรมคาถา ว่านนางกวักเธอจะช่วยกวักลูกค้ากวักเงินกวักทองมาให้ จะด้วยเหตุผลกลใดถ้าผ่านไปไม่กี่วันการค้าดีขึ้นมา พ่อค้าแม่ขายเจ้านั้นก็จะเริ่มเชื่อว่าเป็นเพราะว่านนางกวัก
หรือถ้าบางครั้ง ทำแบบนั้นแล้วก็ยังค้าขายไม่คล่อง แต่เมืยงมองไปทางคนอื่น ที่บูชาว่านนางกวัก เห็นขายดิบขายดี ก็ไปแอบเสาะถามเสาะหา มีคาถาที่ดีกว่า เปลี่ยนผ้าแพรให้งามกว่า จุดธุปกลิ่นหอมกว่า รวมถึงหาอะไรต่อมิอะไร ที่ไม่ต้องลงทุนมากไปนัก ทำไปเพื่อให้สบายใจ ดีไม่ดีอย่างไรเอาสบายใจเข้าไว้ก่อน แต่จะด้วยเปิดร้านมานานจนลูกค้าเริ่มติด หรือเผอิญมีคนถูกหวยกันหลายคนพอดี ลูกค้าพากันเข้าร้านจนขายดิบขายดี เจ้าของร้านเจ้านั้นก็จะมีใจโน้มเอียงให้ชักจะเชื่อว่าว่านนั้นศักดิ์สิทธิจริง
นี่คือเรื่องงมงายหรือ อย่าเพิ่งตอบ-อย่าเพิ่งตอบ ลองทวนดูสิหาใช่เลื่อนลอย-ปลูกว่านขึ้นมาดูแลอย่างดีได้ผลตอบแทนที่ดี นี่มีเหตุผลดี น่าเชื่อแค่ไหน จะให้ไม่เชื่อได้อย่างไร
แต่อย่าๆ อย่าเพิ่งเห็นคล้อยตาม เพราะนี่คือแค่เรื่องของคนที่ได้ผลตอบแทน ลองคิดดูดีๆ มีคนที่ทำแบบเดียวกัน ที่บูชาว่านแต่ไม่เคยได้รับผล และคนเหล่านี้น่าจะมีมากกว่าคนที่ได้ผล แต่ก็เหมือนอีกหลายเรื่องในสังคม-คนล้มเหลวเสียงจะไม่ดัง พูดอะไรไม่มีใครฟัง เขาจะไม่ได้มาเล่าเรื่อง และคนเหล่านี้ก็กลายเป็นคนไม่ใส่ใจเรื่องนี้เอาเลย และน้อยคนนักจากคนกลุ่มหลังนี้ที่จะกล้าออกมาพูดว่า "ก็แค่เรื่องงมงาย"
และนี่หรือคือหนึ่งในช่องทางที่มาของความรู้มนุษย์ ที่ยึดติดกับสิ่งที่ตัวสังเกตอันเรียกว่าประสบการณ์ แต่เป็นประสบการณ์ตรงที่มีค่าสังเกตที่ลำเอียง แล้วความรู้นี้ก็ถูกถ่ายทอดออกไปจากประสบการณ์ของคนที่ได้รับโชค (ที่ถูกเรียกว่าคนมีประสบการณ์) สิ่งนี้ถือเป็นการเรียนรู้และยึดติดอยู่กับความรู้ด้วยหรือไม่ หรือจะเรียกว่าอะไรดี?
ความเชื่อและสรรพคุณทางยาของว่านนี้ผมไม่ขอบอกกล่าวเพราะคงหาเอาได้จากที่อื่นแล้ว
ภาพเกสรของว่านน้ำเต้าทองถ่ายที่ศูนย์เครื่องมือวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร นครปฐม
ขอขอบคุณ อ.เก๋ : อ.กัญจน์รัตน์ สุขรัตน์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม สำหรับดอกว่านน้ำเต้าทองกลิ่นหอมอ่อนที่ผมนำมาถ่ายภาพเกสรนะครับ
ขอความสุขสงบสถิตย์กับทุกท่าน
สวัสดี
| Create Date : 09 กุมภาพันธ์ 2559 |
|
0 comments |
| Last Update : 10 กุมภาพันธ์ 2559 14:27:40 น. |
| Counter : 3748 Pageviews. |
 |
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [
