งามสุดสายตาศิลาวดี .. “ Silavadee Pool Spa Resort : Koh Samui



สวัสดีอีกครั้งครับ วันนี้มาพร้อมกับสายฝนชุ่มฉ่ำของกรุงเทพฯกันเลยฮะ

ArounD ฉบับ 15 นี้จะพาไปเที่ยวกันที่เกาะสมุยกันครับ เกาะสมุยเป็นอำเภอๆนึงของจังหวัดสุราษฎร์ธานีฮะ เป็นเวลานานสิบกว่าปีแล้วมั้งครับที่ผมไม่ได้กลับไปเยือนเกาะสมุยเลย ไปคราวนี้ถึงไม่ได้ออกจากรีสอร์ทเลยแต่ก็พอจะเห็นความเปลี่ยนแปลงของสมุยมากพอสมควรครับ

แถมการไปพักผ่อนครั้งนี้ยังได้ไปนอนรีสอร์ทที่ผมลิสไว้เป็นหนึ่งในสามในเมืองไทยของตัวเองที่คิดว่าต้องไปให้ได้ซักครั้งในชีวิตอีกด้วยฮะ จะสวยงามและสมกับที่ตั้งตารอแค่ไหนไปชมกันได้เลยฮะ


การเดินทางไปสมุยของผมในครั้งนี้ใช้บริการของสายการบินบางกอกแอร์ครับ เป็นอีกครั้งในรอบไม่ถึงเดือนหลังจากที่กลับมาจากมัลดีฟส์ที่ผมได้ใช้บริการของ PG ฮะ แน่นอนว่าที่ตัดสินใจไปสมุยได้ง่ายมากขึ้นเพราะโปร 45 ปีของ PG เนี่ยล่ะครับ



โปร 45 ปีของ PG คราวนี้ทำให้ผมบินไปสมุยในราคาไปกลับ 2 คนประมาณ 4500 บาทซึ่งถือว่าถูกลงจากราคาเต็มร่วมๆหนึ่งหมื่นบาทเลยทีเดียว

ซึ่งตั๋วราคาเต็มที่แพงมากเป็นอีกเหตุผลที่ผมไม่เลือกที่จะไปสมุยเลยตั้งแต่เริ่มมาเป็นบล็อกเกอร์ฮะ







อิ่มแล้วก็ได้เวลาขึ้นเครื่อง PG ขึ้นเครื่องที่สุวรรณภูมินะครับ

ด้านล่างที่เห็นน่าจะเป็นเกาะแสมสารแถวๆสัตหีบฮะ 



ซักพักพนักงานต้อนรับก็เริ่มแจกอาหาร บนเครื่องในประเทศอาหารจะเป็นประเภทอาหารเบาๆฮะ ไม่ได้เป็นพวกข้าวหรือก๋วยเตี๋ยวเหมือนไฟลท์ระหว่างประเทศ



ชั่วโมงนิดหน่อยเราก็มาถึงสนามบินสมุยกันแล้วฮะ 





รอกระเป๋าซักพักก็เดินออกมาที่จุดนัดพบด้านหน้าซึ่งผมนัดให้รถของทางศิลาวดีมารับฮะ พนักงานรับกระเป๋าขึ้นรถก็ได้เวลาออกเดินทางต่อไปที่รีสอร์ทโดยจะใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 40 นาทีฮะ



บนรถมีเครื่องดื่มต้อนรับเป็นน้ำแอ๊ปเปิ้ลเย็นๆไว้ให้ด้วยฮะ 



ซักพักก็มาถึงรีสอร์ทครับ ศิลาวดี พูล สปา ตั้งอยู่ปลายแหลมตรงกลางระหว่างกลางของหาดเฉวงกับหาดละไมเลยครับ ในซอยทางเข้าจะมีโรงแรมเชนใหญ่ๆอยู่สองสามโรงแรม แต่ที่ศิลาวดีนี้จะมีวิวที่ดีที่สุดครับ 



ล็อบบี้เป็นแบบเปิดโล่งรับลมครับ นั่งรอเชคเอกสารและ Voucher กันซักครู่



เครื่องดื่มต้อนรับเป็นน้ำตะไคร้เย็นสดชื่นฮะ 



ไม่นานก็เรียบร้อยครับ ได้เวลาเข้าห้องพักกันแล้ว พื้นที่ของรีสอร์ทตั้งบนเชิงเขาครับเพราะฉะนั้นเพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าที่เข้าพักก็จะมีรถบักกี้ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงจะไปไหนภายในรีสอร์ทก็เรียกใช้บริการได้ครับ



ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ Voucher มาที่นี่ผมได้ทราบมาว่าทางศิลาวดีกำลังสร้าง Phase ที่ 2 อยู่ก็เลยสอบถามและได้ความว่าได้สร้างเสร็จแล้วเป็นบางห้องและยังไม่เปิดอย่างเป็นทางการ แต่ด้วยความที่อยากได้ภาพห้องพักจาก Phase ใหม่ก็เลยซื้อ Voucher จากในงานท่องเที่ยวและได้รับการอัพเกรดห้องพักในตอนนั้น เดี๋ยวไปชมห้องพักกันดีกว่าครับ 



เฟสใหม่ของรีสอร์ทอยู่ถัดจากเฟสเดิมมาทางขวาฮะ พื้นที่ใกล้เคียงกันคืออยู่บริเวณเนินเขา ห้องพักฝั่งนี้จะเป็นวิลล่าทั้งหมดครับ

มาถึงหน้าห้องพักก็เห็นการออกแบบเก๋ๆแล้วครับ

วิลล่าฝั่งนี้มีทั้งหมด 27 หลังครับ แต่ที่เสร็จเรียบร้อยแล้วตอนนี้คือหลังที่อยู่หน้าสุด ติดทะเลที่สุด ซึ่งก็เรียกว่า "Ocean Front Pool Villa" ซึ่งมีทั้งหมด 9 หลัง



เข้ามาในห้องแล้วเมื่อเห็นวิวสวยๆผบ.ทบ.ของผมก็อดไม่ได้ที่จะเก็บภาพอัพเฟส 555 



ผลไม้ต้อนรับ มีเติมให้ทุกวันครับ



เตียง King Size นุ่มมากๆฮะ เรียกได้ว่าดูดวิญญาณกันเลยทีเดียว









มีหมอนให้เลือกหลายขนาดเลยครับ ข้างๆเตียงก็มีเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ให้ด้วย



ใครมีไอโฟนไอพอตติดไปก็สามารถเสียบกับเครื่องรับเปิดฟังได้ทั้งวันชิลล์ไปเลยฮะ ส่วนตัวผมใช้ประโยชน์มากที่สุดเพราะแช่น้ำอยู่ด้านนอกก็เปิดกระจกเปิดเพลงฟังสบายยยย



Day bed ภายในห้องพัก





ภายในห้องพักครับ 



ในกระเป๋าสานจะมีผ้าเช็ดตัวอยู่ครับ สามารถเอาไปเล่นน้ำที่ Main Pool ได้เลย





อากาศดีๆ เดี๋ยวจะพาไปชมสปากันก่อนเลยครับ



สปาของรีสอร์ทมีชื่อว่า Silavadee Wellness Spa ฮะ



จะมีพนักงานคอยให้คำแนะนำเกี่ยวกับโปรแกรมการนวด การเลือกผลิตภัณฑ์



ส่วนของสปานี้จะอยู่ใกล้กับล็อบบี้เลยครับ ห้องทำสปาจะมีอยู่ทั้งหมด 5 ห้อง ผมจะพาไปชมห้องใหญ่ที่สุดกันครับ 





ห้องนี้ชื่อ Sila ครับ เป็นห้องเดียวที่มีอ่างแช่ตัว

ในห้องนี้จะมีเตียงทำสปาคู่ครับ ภาพในมีห้องอาบน้ำและห้องสตีมอยู่ด้วย







อ่างแช่จะอยู่ด้านนอก กลางสวนครับ ได้บรรยากาศมากๆ แต่ถ้าใครเคยอ่านรีวิวผมบ่อยๆจะรู้ว่าผมไม่ชอบทำสปาก็เลยมีแต่รูปมาให้ชมนะครับ 



จากสปา ข้างๆกันก็จะมีห้องขายของที่ระลึกและของใช้ฮะ ส่วนอีกห้องก็จะเป็นห้องหนังสือและดีวีดีให้ยืมครับ





ทีนี้มาชมภาพตอนกลางคืนกันบ้างครับ

อย่างที่บอกว่าห้องพักเป็นแบบพูลวิลล่า ห้องขนาดใหญ่ถึง 150 ตร.ม.ครับเพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงความกว้างขวางเลย (หลังคาด้านซ้ายเป็นวิลล่าอีกหลังนะครับไม่ใช่ส่วนของห้องที่ผมพัก)



ด้านนอกระเบียงกว้างมากฮะ มีเตียงนอน โต๊ะสนาม และ Daybed ให้ด้วย



แปลนห้องถูกจัดวางอย่างลงตัวครับ ถ้าคุณเคยดูรีวิวเฟสเก่าของศิลาวดี จะเห็นเลยว่าห้องพักและการออกแบบแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ห้องพักฝั่งนี้ดูโมเดิร์นกว่าวิลล่าแบบเก่ามาก แต่ก็แล้วแต่คนชอบฮะว่าถ้าจะมาพักอยากเลือกพักแบบไหน





ห้องแต่งตัวใหญ่มาก มินิบาร์(เสียค่าใช้จ่าย)และเครื่องชงกาแฟแบบแคปซูล(ฟรี) มีน้ำดื่มให้วันละ 4 ขวด และเติมเต็มทุกวันครับ



ห้องน้ำใหญ่ทีเดียว ห้องอาบน้ำแยกส่วนเปียกและมีอ่างน้ำให้แช่ด้วยครับ เราสามารถเดินออกจากห้องน้ำลง pool ด้านหน้าได้เลยใช่กันฮะ



และอย่างที่เห็นจากรูปด้านบนฮะ ผมมาที่นี่ทุกวันฝนจะตกช่วงค่ำๆไปจนถึงดึกทุกวันเลยครับ วันนี้ก็เลยขอสั่งอาหารค่ำมาทานกันในห้องแทนที่จะไปทานที่ห้องอาหารครับ 

สปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศ



ข้าวผัดสะเต๊ะไก่



ยำรวมมิตรทะเล จานนี้รสชาติดีมากฮะถึงกับต้องสั่งต่อในมื้อต่อๆมา Smiley



ทอดมันกุ้ง



ของหวานเป็นข้าวเหนียวมะม่วงครับ



ตัดภาพมาที่ช่วงเช้าเลยฮะ และนี่เป็นวันเดียวที่ได้เห็นแสงสวยๆยามเช้า ตอนแรกก็ลุ้นมากเพราะเมื่อคืนฝนตกยาวไม่รู้จะหยุดตอนไหน แถมก็ไม่แน่ใจว่าพระอาทิตย์จะขึ้นตรงจุดไหนด้วยเลยตื่นมาลุ้นพระอาทิตย์

วิลล่านี้ไม่เห็นพระอาทิตย์จากปลายเตียงครับแต่ก็ยังพอมองเห็นจากระเบียงห้อง

ขออนุญาตปล่อยภาพบรรยากาศช่วงเช้ายาวๆนิดนึงนะครับ









เช้านั้นแสงสวยมากฮะ ไข่แดงมาแล้วววว 









บริเวณเฟสใหม่นี้ยังมีการก่อสร้างห้องอาหารใหม่อีกหนึ่งแห่งนะครับ แต่ตอนที่ผมไปในช่วงต้นเดือนมิถุนายนห้องอาหารยังไม่เสร็จเรียบร้อย แต่ปัจจุบันเห็นรูปจากเฟสบุ๊คของรีสอร์ท ห้องอาหารน่าจะใกล้เปิดบริการแล้วฮะ



ด้านล่างเป็นส่วนของห้องอาหารครับ เดี๋ยวพาไปแอบดูนิดนึง 5555

ลานนี้เป็นลานที่สร้างขึ้นด้วยไม้อยู่บนโขดหินที่ยื่นลงไปในทะเลครับ



มองย้อนขึ้นไปก็จะเห็นวิลล่าของผมอยู่ตรงกลางฮะ



ถัดมานิดจะเป็นส่วนของ Main Pool ของเฟส 2 นี้ครับ ใหญ่และสวยมากทีเดียว นี่ขนาดว่ายังไม่เสร็จดีนะครับ





ด้านหลังของ Main Pool จะเป็นห้องอาหารขนาดใหญ่ 2 ชั้นที่กำลังเร่งก่อสร้างอยู่ครับ ไว้มีโอกาสคงได้กลับไปเก็บภาพตอนที่เสร็จแล้วมาให้ชมกันฮะ

ถัดจาก Main Pool ไปอีกนิดจะมีสะพานให้เดินไปตามแนวหินอีกประมาณ 200 เมตรครับ เราสามารถมองเห็นวิวสวยๆของหาดละไมได้เลย แถมมีหินตาจูเนียร์ให้ชมกันพลางๆด้วยครับ 5555



มาต่อกันที่อาหารเช้าเลยครับ ผมขอรวบยอดมาไว้ในคราวเดียวกันเลยนะฮะ

อาหารเช้าเราต้องมาทานกันที่ The Height Restaurant ซึ่งอยู่ในฝั่งเฟสเก่าครับ เมื่อห้องอาหารที่เฟสใหม่เสร็จก็น่าจะไม่ต้องข้ามเฟสมาทานที่นี่แล้วล่ะฮะ 



ชื่อก็บอกถึงที่ตั้งอยู่แล้วฮะ ห้องอาหารจะอยู่ในมุมสูงสามารถมองเห็นวิวได้ไกลสุดตาครับ



ห้องอาหารแบ่งระดับออกเป็น 2 ชั้นครับ ชั้นบนเป็นห้องปรับอากาศ ส่วนชั้นล่างเป็นระเบียงแบบ Open Air และห้องที่สามารถปรับเป็นห้องปรับอากาศได้





อาหารเช้าของที่นี่จะเป็นแบบ a la carte ครับ สามารถสั่งอาหารได้ตามเมนูที่มีให้เลือก ที่สำคัญสามารถสั่งได้ไม่อั้นนะครับสั่งทานจนอิ่มได้ตามสบาย

นอกจากนั้นยังมีสเตชั่นพวกสลัด ขนมปังต่างๆ คอนเฟล็ค น้ำผลไม้คั้นสดๆให้เลือกทานได้อีกด้วย



ใครอยากกระชุ่มกระชวยแต่เช้าก็นี่เลยฮะ 



ขนมปัง ชา-กาแฟ ร้อนเย็นสั่งได้หมดฮะ





ในเมนู a la cart เราสามารถเลือก ABF ได้ตามใจชอบฮะ ไข่ดาว ออมเล็ต ไส้กรอกหมูหรือไก่ เบค่อน แฮม ทานกับมันฝรั่ง มะเชือเทศ เห็ด มิกซ์เอาตามใจชอบเลยครับ 





Egg Benedict ที่เลือกได้ว่าจะเอาแฮมหรือแซลม่อนรมควัน



ข้าวต้มที่เลือกได้ว่าจะใส่หมู ไก่ หรือกุ้ง ส่วนติ่มซำตักได้จากสเตชั่นครับ



ข้าวผัดหมูหรือไก่



สลัดจากสเตชั่น



เฟรนโทสต์หน้าตาดีมาก 



แพนเค้กที่เลือกได้ว่าจะใส่อะไร กล้วย หรือ ช็อคโกแลต



ทั้งหมดนี้เป็นแค่ส่วนนึงที่ผมสั่งมาครับ ยังมีอีกหลายอย่างที่ได้ไม่สั่ง เพราะฉะนั้นผมว่าอาหารเช้าที่นี่ล้ำมากฮะ ได้ใจผมไปอีกหนึ่งที่เลยครับ

วิวสวยๆที่เราเห็นได้จาก The Height ครับ สวยมากจริงๆ





นอกจากนี้ชั้นล่างลงไปอีกหนึ่งชั้นของ The Height ยังมีส่วนที่เรียกว่า Wine & Cigar Lounge ซึ่งเป็นบาร์เครื่องดื่มครับ 





ด้านหลังจะมีห้องเก็บไวน์อยู่ด้วยครับ 



ข้างๆกันก็จะมีศาลาไว้ให้นั่งจิบเครื่องดื่มรับลมเย็นๆ 







นั่งชมวิวไปด้วย



เดินลงมาตามเนินเขาอีกนิดก็จะเจอกับบาร์เครื่องดื่มอีกหนึ่งแห่งครับ บาร์นี้จะอยู่ตรง Main Pool ฮะ





Main Pool คนเล่นเยอะมากเราเลี่ยงไปทางอื่นก่อนเพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกค้าท่านอื่นฮะ



ข้างๆ Main Pool มีทางเดินลงไปที่หาดส่วนตัวของรีสอร์ทครับ



ทางเดินเป็นสะพานไม้ลงไปที่หาดครับ ตรงนี้จะมีจุดชมวิวอีกจุดนึงที่อดไม่ได้ที่จะต้องแวะถ่ายรูป











ทางเดินลดระดับลงจนถึงชายหาดครับ ต้องยอมรับว่าหน้าหาดของที่นี่ไม่เหมาะที่จะเล่นน้ำครับ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเล่นไม่ได้เลยซะทีเดียว เพียงแต่ต้องใช้ความระมัดระวังในการเล่นหน่อยครับ



ป้ายเตือน



ลงมาที่หาดจะมีบีชบาร์อยู่ครับ พวกชาวต่างชาติชอบลงมาอาบแดดกันที่หาดนี้ ก็สามารถสั่งเครื่องดื่มมาทานกันได้





นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมให้ทำอีกหลายอย่างเล่นพายเรือคยัค หรือดำน้ำดูปะการังน้ำตื้นที่มีอยู่หน้าหาดครับ



ช่วงที่ผมไปยังมีการเตรียมงานแต่งงานบนชายหาดด้วยครับ แต่จะเป็นพิธีที่จัดกันขึ้นในช่วงบ่ายแก่ๆ เลยยังไม่ได้มีการเซ็ตสถานที่กันมากมาย



แน่นอนว่าคู่บ่าวสาวเป็นชาวต่างชาติฮะ น่าแปลกใจที่มารู้ทีหลังว่าอาทิตย์ที่ผมไปพักมีงานแต่งงานติดๆกันถึง 3 งานเลยฮะ


ตอนแรกตั้งใจไว้เหมือนกันว่าจะเดินลงมาถ่ายภาพในช่วงงานแต่งงาน แต่คิดไปคิดมามันเป็นงานส่วนตัวของเค้าเราไม่มารบกวนดีกว่า แต่สุดท้ายตอนค่ำๆผมก็ได้ภาพมานิดหน่อยอยู่ดี

กลับไปที่ห้องพักกันดีกว่าครับ 



ยังไม่ได้ให้ดูระเบียงด้านนอกกันแบบเต็มๆเลย 



ระเบียงของแต่ละห้องจะมี Day Bed โต๊ะสนาม และเตียงอาบแดดไว้ให้ครับ



แอบถ่ายห้องข้างๆให้เห็นมุมกว้างของระเบียงครับ



เล่นน้ำกันดีกว่าฮะ น้ำในสระเป็นน้ำเกลือนะครับ 





สระแบบ Infinity-Edged Pool ที่มี Aqua Jet สระที่เปิดโล่งเหมือนเราว่ายอยู่ท่ามกลางทะเลจริงๆเลยฮะ





วิวที่มองได้ไกลสุดสายตา มองทั้งวันก็ไม่เบื่อฮะแบบนี้





เล่นน้ำเสร็จหมดพลังก็ไปเติมพลังเข้าท้องกันซะหน่อยครับ

อาหารกลางวันเราก็กลับไปทานกันที่ The Height กันเหมือนเดิมครับ 



วิวที่นี่สวยมากจริงๆครับ



มาดูอาหารกันบ้าง มื้อนี้ตั้งใจทานอาหารไทยๆครับ

จานแรกเป็นสะเต๊ะรวมมิตรครับ ในจานจะมีเนื้อปลา กุ้งและเอ็นหอย



ปลาทอดราดพริก



แกงปู



และยำวุ้นเส้นทะเล ติดใจจนต้องสั่งอีกครั้ง



น้ำมะพร้าวปั่น



บรรยากาศช่วงบ่ายๆวันนี้อากาศดีมากอีกแล้ว แต่ค่ำมาทีไรฝนตกทุกทีฮะ 







ขอตัดภาพมาดูบรรยากาศช่วงค่ำเลยแล้วกันนะครับ





ห้องอาหารด้านบนมีการจัดโต๊ะไว้ให้กับแขกของงานแต่งงานครับ



เมื่อพิธีที่ชายหาดด้านล่างเสร็จสิ้นแขกที่มาร่วมงานแต่งงานก็เริ่มทยอยเดินขึ้นมาที่ห้องอาหารครับ





บรรยากาศยามค่ำที่ห้องอาหาร The Height สวยงามมากทีเดียวครับ





แล้วก็ได้เวลาที่บ่าว-สาวจะปรากฎตัวขึ้นอีกครั้ง



เจ้าสาวในพิธีวันนี้สวยมากครับมองตอนแรกทำให้ผมคิดถึงนิโคล คิทแมนเลยทีเดียวฮะ ไปสืบมาได้ความว่าทั้งคู่เป็นชาวรัสเซียครับ

เมื่อด้านบนถูกจัดให้เป็นที่นั่งของแขกของคู่บ่าวสาวแล้ว เราก็ลงมานั่งด้านล่างกันฮะ



อาหารเย็นวันนี้ ..

สเต๊กเนื้อเทนเดอลอยด์จากออสเตรเลียฮะ



ศิลาวดีสลัด 



ก๋วยเตี๋ยวผัดซีอิ๊วไก่



ของหวานเป็นเมอร์แรงเลม่อนเสิร์ฟกับไอศครีมวนิลา



อีกจานเป็นช็อคโกแลต มัด เค้ก เสิร์ฟกับไอศครีมวนิลาเช่นกันฮะ



ทานเสร็จก็กลับห้องพักกันดีกว่า



กลับไปที่ห้อง เตียงถูก Turndown ไว้เรียบร้อยฮะ



และทุกคืนจะมีขนมไทยๆมาวางไว้ให้วันละหนึ่งอย่างครับ





ถัดมาที่เช้าอีกวันครับ 



ร่องรอยของฝนที่ตกมาเมื่อคืนยังคงมีให้เห็นอยู่



ตั้งใจว่าเช้านี้จะไปเก็บภาพของ Main Pool ในฝั่งเฟสใหม่ที่เมื่อวานไม่ได้เก็บภาพเพราะลูกค้าใช้บริการอยู่เยอะ



อากาศเช้าวันนี้ขมุกขมัวสุดๆ



สระนี้ไม่ใหญ่มากครับแต่วิวสวยชนะเลิศ 





เช้าแบบนี้หน้าหาดก็เงียบสงบมากฮะ



ซุ้มงานแต่งงานเมื่อวานถูกรื้อออกไปหมดแล้ว



วันจะกลับนี่เป็นวันที่ชุ่มฉ่ำจริงๆฮะ แดดออกเปรี้ยงๆฝนก็ยังจะตก

ฝนตกแดดออกเราจะได้เห็นอะไร



ถือเป็นภาพสวยๆก่อนที่จะจากลาศิลาวดีกันครับ



เก็บเสื้อผ้า เตรียมเช็คเอ้าท์เรียบร้อยแต่ก็ขอฝากท้องที่ The Height อีกหนึ่งมื้อเบาๆครับ



เบอร์เกอร์เนื้อชิ้นใหญ่มาก



พิซซ่า(จำหน้าไม่ได้แล้วฮะ)



ได้เวลากลับบ้านแล้วฮะ รถของทางรีสอร์ทมาส่งที่สนามบินอีกเช่นเดิมครับ เช็คอิน โหลดกระเป๋าแล้วก็รอขึ้นเครื่อง นี่เป็นครั้งแรกที่มาใช้บริการของสนามบินสมุยซึ่งเป็นสนามบินของ PG เองด้วยพื้นที่เล้าจน์จึงเป็นของ PG ด้วยครับ

เราสามารถขอรหัสอินเตอร์เน็ตกับทางเจ้าหน้าที่เพื่อใช้งานในห้องพักผู้โดยสารได้ด้วยนะฮะ





นอกจากมาใช้บริการที่สนามบินสมุยเป็นครั้งแรกแล้ว ผมยังได้ใช้บริการเครื่องบินใบพัดเป็นครั้งแรกด้วยฮะ 



เครื่องขึ้นไปได้ซักพักก็ถึงเวลาอาหารว่างกันอีกแล้วฮะ



ใช้เวลาเดินทางประมาณเกือบๆชั่วโมงครึ่งก็ถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพครับ



สรุปทริป ...

"ศิลาวดี พูล สปา รีสอร์ท" สมกับที่เป็นลิส 1 ใน 3 ที่ผมอยากมาพักที่สุดฮะ ด้วยห้องพักที่สวยงาม การออกแบบที่ดี และวิวที่สวยสุดๆทำให้ศิลาวดีเป็นรีสอร์ทในฝันของใครหลายๆคนครับ ห้องพักที่ผมนำมาแนะนำเป็นเพียงแค่แบบหนึ่งในจำนวนห้องพักทั้งหมดถึง 10 แบบของศิลาวดี ที่นี่ยังมีห้องพักแบบ Deluxe อีกถึง 3 แบบบนอาคาร 3 ชั้นถึง 3 อาคาร มีห้องพักแบบวิลล่าอีกหลายแบบให้เลือกใช้บริการ และเมื่อเฟส 2 เปิดบริการเต็มรูปแบบจะมีห้องอาหารขนาดใหญ่และสระว่ายน้ำที่มีวิวที่สวยงามไม่แพ้ที่ไหนๆให้คุณได้ใช้บริการอีกด้วย

เรื่องของการเดินทางถือว่าไม่ไกลนักจากสนามบินหรือท่าเรือเฟอร์รี่ ถ้าเช่ารถขับเองก็สามารถออกไปเล่นน้ำหรือหาอาหารทานตามร้านอาหารภายนอกได้สบายเพราะอยู่ไม่ไกลจากหาดละไมและเฉวงซึ่งเป็นหาดยอดนิยมอยู่แล้ว แลนด์มาร์คสำคัญอย่างหินตาหินยายก็อยู่ไม่ไกลจากรีสอร์ทนัก พนักงานใส่ใจบริการดีครับ

ถ้าจะมีข้อเสียก็คงเป็นชายหาดที่มีหินใต้น้ำเยอะทำให้เล่นน้ำที่หาดส่วนตัวของรีสอร์ทได้ไม่สบายนัก

ห้องพักแบบวิลล่าเหมาะมากสำหรับคู่รัก ส่วนถ้ามาแบบครอบครัวผมแนะนำให้นอนห้องบนอาคารฮะ ส่วนเฟสแรกห้องพักจะออกแนว Tropical
ส่วนของเฟสใหม่จะออกแนวโมเดิร์น แล้วแต่ผู้เข้าพักจะชอบแบบไหนกว่ากันฮะผมคงแนะนำให้ไม่ได้เพราะห้องพักในเฟสแรกผมไม่ได้เข้าพัก
อาหารเช้าเป็นสิ่งที่ผมปลื้มมากครับ ถึงจะสั่งแบบ a la carte แต่ก็มีอาหารให้เลือกหลายหลายและที่สำคัญสั่งทานได้ไม่อั้น แถมที่นี่ถ้าสั่งอาหารเช้าไปทานที่ห้องพักจะไม่มีการคิดค่าบริการนะครับ

ถือเป็นอีกหนึ่งทริปที่น่าประทับใจ เป็นการไปสมุยครั้งแรกในรอบสิบกว่าปีที่เก็บความสุขกลับมาเยอะแยะเลยครับ

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณทางศิลาวดีที่ต้อนรับอย่างดี อัพเกร็ดห้องพักและให้วันเข้าพักเพิ่มกับผมฮะ ขอบคุณเพื่อนๆทุกๆคนที่ติดตามรีวิวนี้จนจบ ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ มันเป็นกำลังใจอย่างดีสำหรับคนทำรีวิวแบบพวกผมที่จะมีแรงทำรีวิวให้ทุกๆคนได้ชมันต่อๆไปฮะ 



ฝากติดตามแฟนเพจผมได้ที่ https://www.facebook.com/travelholicbigboy นะครับ












Create Date : 26 สิงหาคม 2557
Last Update : 26 สิงหาคม 2557 19:42:54 น. 0 comments
Counter : 1558 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

biGbOySalaDbAr
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 23 คน [?]




Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2557
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
26 สิงหาคม 2557
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add biGbOySalaDbAr's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.