ดาวดวงใหม่ของพัทยา " Cape Dara : The Beachfront Resort Pattaya



ถึงโรงแรมนี้จะเป็นโรงแรมที่อยู่ใน list ของผมมาตั้งแต่เริ่มสร้าง แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีโอกาสได้ไปพักซักที จนมีโอกาสได้ร่วมสนุกชิงรางวัลทางแฟนเพจของคุณ Paksabuy ที่เอา Voucher ของที่นี่มาแจกแล้วผมได้รับรางวัล ทริปนี้จึงได้เกิดขึ้น

มาแนะนำสถานที่ตั้งกันก่อนครับ “เคปดารา รีสอร์ท พัทยา” ตั้งอยู่ที่ ”แหลมดารา” ชายหาดส่วนตัวที่ผมเองก็เพิ่งจะรู้จักชื่อตอนที่ไปพักเนี่ยล่ะครับ แหลมนี้อยู่ไม่ไกลจากวงเวียนปลาโลมา(พัทยาเหนือ)เท่าไหร่นัก พอเห็นป้ายบอกถนนพัทยา-นาเกลือ ซอย 20 ก็เลี้ยวเข้าไปได้เลย

พอเลี้ยวเข้าไปก็จะเห็นตัวโรงแรมตั้งเด่นอยู่ตามรูปปกเลยฮะ จอดรถให้พนักงานรับกระเป๋า แ้ล้วเอารถไปจอดบนที่จอดรถในอาคารเสร็จก็ลงลิฟท์เข้ามาที่ล็อบบี้เพื่อเช็คอินกันเลย

ล็อบบี้ของเคปดารานี้เป็นแบบเรียบง่ายฮะ เปิดโล่งรับลม เดินเข้าโถงห้องมาเงยหน้ามองดูเจอกับสถาปัตยกรรมที่แปลกตา ถามได้ความว่าที่นี่ออกแบบด้วยแรงบันดาลใจจากดวงดาว จักรวาล และห้วงเวลา ได้ยินแค่นี้ก็รู้สึกอลังการแล้วฮะ



ดื่มน้ำอัญชันผสมมะนาวรอรับคีย์การ์ด ซักพักเดียวพนักงานก็เดินมาบอกว่าห้องพร้อมแล้ว

ในซองใส่คีย์การ์ดจะมีรหัส Wifi ให้คนละ 1 user ครับถ้าพักคืนเดียวก็จะเล่นได้ประมาณ 20 ชั่วโมงฮะ



พนักงานแจ้งว่าห้องที่ได้พักเป็นห้องแบบ Dara Deluxe ซึ่งทางโรงแรมได้อัพเกรดห้องขึ้นมาให้หนึ่งระดับจากที่ใน Voucher บอกว่าจะได้พักห้อง Deluxe ธรรมดา

แหม..แบบนี้ใครจะกล้าปฎิเสธลง ผมกับผบ.ทบ.ก็เลยได้แต่เดินตามพนักงานยกกระเป๋าต้อยๆ ขึ้นลิฟท์ไปที่ชั้น 23 ซึ่งมารู้ทีหลังว่าเกือบจะเป็นชั้น top ของที่นี่แล้ว

เข้ามาดูภาพในห้องพักกันบ้างดีกว่าฮะ



ห้องกว้างพอสมควรครับ เตียงนอนขนาด King Size มาตราฐาน ปลายเตียงมี TV LCD แขวนไว้ให้รับชมความบันเทิง



มีเตียง Sofa Bed ไว้ให้นอนเล่นชิลๆด้วย เรียกได้ว่าจัดที่พักผ่อนให้เต็มที่





เตียงนุ่มนอนสบาย มีการจัดวางไฟหัวเตียงไว้ให้ใช้งานตามสะดวก



หมอนหนุนมีให้เลือกหลายขนาดตามแต่เราชอบเลยฮะ



เปิดมาดูนอกระเบียงห้องกันบ้าง มีเก้าอี้ให้นั่งชมวิวด้วย



ในห้องน้ำแยกส่วนเปียกส่วนแห้ง แต่ที่เห็นจะเป็นไฮไลท์ของห้อง Type นี้ก็คือการได้นอนแช่น้ำในอ่างแล้วได้มองวิวสวยๆแบบนี้ฮะ







อ้อ..ชักโครกที่นี่มีสายชำระให้นะฮะ ให้ไป 1 ดาวตรงนี้เลย

จุดเด่นที่สุดที่ผมยกให้เป็นจุดขายของที่นี่เลยก็คือวิวสวยๆที่คุณหรือแม้แต่ผมเองยังคิดไม่ถึงว่าจะได้เห็นมุมมองของพัทยาที่แปลกตาออกไปแบบนี้

กลับกันถ้าเป็นอีกฝั่งก็จะเห็นโค้งอ่าวของหาดวงศ์อมาตย์ยาวไปสุดลูกหูลูกตาถึงเกาะสีชังเลยฮะ



อุปกรณ์ในห้องน้ำมีมาให้ครบครัน





ทีนี้ลงมาดูด้านล่างบ้างว่ามีอะไรน่าสนใจ

อาคาร 26 ชั้นตั้งสูงเด่นเป็นสง่าอยู่ปลายแหลมดารา ด้านหน้ามี Main Pool ขนาดใหญ่ไว้ให้ลูกค้าพักผ่อน



เท่าที่สังเกตลูกค้าที่นี่มีคละกันไป ไทย จีน ฝรั่ง แต่ถ้าแถวสระว่ายน้ำก็ต้องยกให้พวกฝรั่งเค้าไป นอนอาบแดดกันเยอะมาก

อยู่ใกล้ๆล็อบบี้เลยตัดสินใจเดินไปถามและแนะนำตัวว่าเป็นนักรีวิวของห้อง BP อยากจะขอดูห้อง Type อื่นได้บ้างมั๊ย ใจผมเองก็ไม่ได้คิดว่าทางโรงแรมจะให้หรอกฮะเพราะหลายๆที่ที่เคยไปขอแล้วเค้าไม่ให้เข้าไปถ่ายทั้งๆที่ห้องว่าง แต่ซักพักก็ได้รับคำตอบกลับมาว่ายินดีพาชม 2 ห้องและให้ถ่ายภาพได้ตามสะดวก



ดีใจมากฮะที่ได้ชมห้อง ซึ่งห้องแบบแรกที่จะพาไปชมเป็นห้องที่ทางโรงแรมบอกว่าเพิ่งสร้างเสร็จใหม่ๆและยังไม่ได้เปิดให้บริการเลยเพราะยังมีกลิ่นสีอยู่บ้าง ห้องนั้นก็คือ “DARA BEACHFRONT” ที่เห็นในภาพนี่เอง





ห้อง Type นี้อยู่บริเวณด้านหน้าของอาคารใกล้ๆกับสระว่ายน้ำ

รูปแบบของห้องใกล้เคียงกับห้อง Deluxe ธรรมดาที่เคยเห็นในรีวิวของคุณพักสบาย แต่น่าจะใหญ่กว่าพอสมควร







ห้องน้ำกว้างมาก กว้างกว่าห้องที่ผมพักอีก แถมเป็นห้องที่เหมาะกับคู่รักมากๆเพราะห้องน้ำกับเตียงนอน กั้นกันแค่กระจกใส แต่ถ้ายังอายกันอยู่ก็สามารถรูดม่านลงมาปิดได้ฮะ



Sofa Bed ไว้นอนชิลเหมือนห้องที่ผมพัก



มีหมอนให้เลือกเหมือนที่ห้องผมเลย



เห็นที่ระเบียงไกลๆมั๊ยฮะ

ห้องนี้พิเศษตรงมีอ่างจากุซซี่ใบใหญ่วางอยู่ตรงระเบียงห้องด้วย

ถึงตรงนี้คิดในใจว่าทำไมเค้าไม่อัพให้มานอนห้องนี้ สีน่ะทนได้ 555



ถึงจะเป็น Beachfront แบบมุมสูงหน่อยแต่บรรยากาศก็ชิลสุดๆ



ถ้าไม่เกรงใจว่าเป็นห้องที่ขอเค้าเข้ามาถ่ายรูปจะแอบเปิดน้ำนอนแช่ซะให้ตัวเปื่อย



ห้อง “DARA BEACHFRONT” เป็นอีกหนึ่งห้องที่ผมชอบมากฮะ ยิ่งถ้าได้นอนแช่น้ำชมพระอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้า คงมีความสุขมากทีเดียว



ใช้เวลาไม่นานก็มีพนักงานพาไปชมอีกห้องนึง ซึ่งห้องนี้เป็นอีกหนึ่งห้องไฮไลท์ที่สุดของเคปดาราเลยทีเดียว

ห้องที่ว่าก็คือห้อง “TOP STAR DUPLEX SUITE” ซึ่งถือเป็นห้องที่อยู่ในระดับสูงสุดของโรงแรมทั้งในแง่ของความสูงและร่วมไปถึงราคาอีกด้วย



ห้องนี้อยู่บนชั้น 25 ชั้นบนสุดที่ลิฟท์สามารถกดมาถึงฮะ (แหม .. ก็ขึ้นจากชั้นที่ผมพักมา 2 ชั้นเองนะเนี่ย) เป็นห้องแบบ 2 ชั้นที่รวมเอาชั้น 26 เข้าไปด้วย ลูกค้าสามารถเข้าพักได้สูงสุด 4 ท่าน



ชั้นล่างมีเตียงนอนและห้องน้ำอยู่ด้านข้าง



ห้องน้ำขนาดกลาง กั้นห้องได้โดยบานเลื่อนไม้

ห้องนอนก็สามารถกั้นห้องแยกจากห้องนั่งเล่นเพื่อความเป็นส่วนตัวได้เช่นกัน





ห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ โซฟากลางห้องไว้นั่งสังสรรค์กับครอบครัวหรือเพื่อนฝูง โดยที่มีวิวทะเลไกลสูดลูกหูลูกตาที่สามารถมองผ่านกระจกบานใหญ่เหมือนไม่มีอะไรกั้น ม่านไฟฟ้าเลื่อนเปิดปิดได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส



เพดานสูงทำให้ห้องดูกว้างมากยิ่งขึ้น



เดี๋ยวขึ้นไปดูชั้นบนบ้างดีกว่า



ห้องนอนที่ชั้นสองกว้างกว่าด้านล่างฮะ

ห้องน้ำก็ใหญ่กว่าข้างล่าง แถมมีอ่างจากุซซี่ให้แช่อีกด้วยตะหาก
ถ้าอยากเป็นส่วนตัวก็เลื่อนบานเลื่อนไม้ปิดได้ฮะ



อีกอย่าง เห็นบานประตูไกลๆมั๊ยฮะ ผมถามพนักงานที่พามาชมว่าหลังประตูนี้มีอะไร เค้าบอกว่า ข้างบนห้องขึ้นไปเป็นดาดฟ้าซึ่งมีลานจอดเฮลิคอปเตอร์ฮะ ผู้ที่พักห้องนี้แล้วมี ฮ.ส่วนตัวก็สามารถจอดและลงมาที่ห้องได้เลยทางประตูนี้ หรูมากกกกกก .. !!

ห้องฝั่งนี้สามารถเปิดม่านชมความงามของวิวฝั่งนาเกลือได้ ถ้าอากาศเคลียร์ๆก็สามารถมองเห็นเกาะสีชังได้ชัดเจนเลยฮะ



ห้องน้ำกว้างขวาง แยกส่วนเปียกส่วนแห้ง



จากระเบียงชั้นสองมองลงไปที่ห้องนั่งเล่นด้านล่าง ด้านนอกมีระเบียงและเก้าอี้ให้นั่งชมวิวด้วยฮะ



ห้อง “TOP STAR DUPLEX SUITE” เป็นห้องที่เหมาะสำหรับการมาเป็นครอบครัวฮะ เนื่องจากขนาดพื้นที่ห้องที่ใหญ่โต สามารถมองวิวมุมสูงได้จากปลายเตียงนอนสมกับชื่อห้องจริงๆฮะ

หลังจากขอบคุณพนักงานที่พาชมห้องทั้งสองแบบเรียบร้อยผมก็ลงมาด้านล่างบริเวณ Main Pool ของโรงแรม เพื่อเก็บบรรยากาศเพิ่มเติมอีกซักนิด



คนไทยแบบเราๆอากาศช่วงเดือนมีนาคมมันร้อนมากทีเดียว แต่ชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวยุโรปคงชอบอากาศแบบนี้มากทีเดียว เท่าที่สังเกตบางคนนอนอาบแดดเป็นชั่วโมงๆแบบหลับคาเก้าอี้ไปเลยก็มี





ที่ Main Pool จะมี Pool Bar ที่ชื่อ “Twinkle” เปิดบริการอยู่

และในช่วงเวลาบ่าย 4 โมงถึง 6 โมงเย็นจะมีช่วง Happy Hour “Buy 1 Get 1 Free” สำหรับ Softdrink, Beer, Cocktail, Mocktail ให้บริการ

แนะนำว่าให้ลองมาชิมดูฮะ บาร์เทนเดอร์ที่นี่ฝีมือดี เห็นว่าไปประกวดได้รับรางวัลมาหลายที่แล้วตะหาก





ช่วงเย็นๆแบบนี้ตรงบริเวณข้างๆ Main Pool จะมีซุ้มอาหารตั้งไว้ด้วยครับ

ซุ้มนี้เป็น Benefit สำหรับลูกค้าที่พักห้อง Suite ขึ้นไปสามารถมาทานได้เลยครับ







บรรยากาศช่วงเย็นๆนี่ดีมากจริงๆฮะ



เย็นนี้ขอเปลี่ยนบรรยากาศทานมื้อเย็นในโรงแรมบ้างแล้วกันฮะ ปกติผมเป็นคนที่มาพัทยาแล้วก็มักจะออกไปหาอาหารทะเลทาน แต่วันนั้นเบื่อๆไม่อยากทานอาหารทะเล เลยชวนคนข้างๆมานั่งทานอาหารรับลมที่ห้องอาหาร “RADIUS” ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับ Main Pool นั้นเอง



ปล.ห้อง “DARA BEACHFRONT” ที่ผมพาไปชมก่อนหน้านี้ก็อยู่บริเวณชั้นล่างของห้องอาหารนี้นั่นเองครับ

ห้องอาหาร Radius นี้เป็นห้องอาหารที่เราต้องต้องมาทานอาหารเช้ากันด้วย ที่นี่บริการอาหารตลอดทั้งวัน มีห้องปรับอากาศร่วมถึงโซน Outdoor ให้บริการ

วันนี้ผมเลือกที่จะนั่งรับลม ชมพระอาทิตย์ตกไปด้วยเลยเลือกด้านนอกที่เป็น Outdoor ฮะ





บรรยากาศดีมากทีเดียว จากที่นั่งอยู่พักใหญ่ๆผมว่าห้องอาหาร Radius เป็นจุดที่นั่งทานข้าวดูพระอาทิตย์ตกได้สวยไม่แพ้โรงแรมไหนๆในพัทยาเลยล่ะครับ



เนื่องจากเป็นห้องอาหารที่อยู่บนมุมสูงเลยได้วิวสวยๆไปเต็มๆ



ไข่แดงโผล่มาแล้ววว



ทีนี้มาดูเรื่องอาหารกันบ้างฮะ จานแรกเป็นพิซซ่าหน้าเมดิเตอร์เรเนี่ยน อร่อยใช้ได้ทีเดียวฮะ



จานที่สองจำชื่อไม่ได้ 555 แต่เป็นสเต๊กเนื้อแกะราดซอสเห็ด



สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า จานนี้ก็เข้มข้นฮะ ลืมถ่ายน้ำสีเหลืองๆที่อยู่ด้านหลัง แต่จำได้ว่าชื่อมันเดย์ เรดาร์ เป็น Signature Cocktail ของเคปดารา ซึ่งทางพนักงานบอกว่าเพิ่งจะไปประกวดได้ที่ 7 ของโลกมา(ถ้าผมจำไม่ผิด) ก็อร่อยสมกับรางวัลล่ะครับ



จานนี้จนใจมากทั้งๆที่เป็นคนสั่งเองแท้ๆ จำได้แต่ว่าเป็นเอ็นหอยราดน้ำสลัดอะไรซักอย่างเนี่ยล่ะครับ สดทั้งเอ็นหอยทั้งผักเลยฮะ



ตบท้ายด้วยของหวานจานนี้เป็นไอศครีมที่มีชื่อว่า วอร์ม ราสเบอร์รี่ จเปรี้ยวๆหวานๆดีครับ



นั่งทานกันจนค่ำถึงได้สั่งเช็คบิล ก่อนกลับขึ้นห้องว่าจะแวะหาของหวานกินต่ออีกหน่อย



ช่วงค่ำๆมีนักดนตรีมาเล่นขับกล่อมแขกที่เข้าพักบริเวณล็อบบี้อีกด้วยฮะ



บริเวณโถงก่อนขึ้นลิฟท์กลับห้องมีร้านกาแฟเล็กๆอยู่ชื่อ “Mellow Cafe”



ที่นี่มีเค้กอร่อยๆหลายอย่างเลยฮะ



มาสองคนก็สั่งสองอย่าง คือเค้กมะพร้าวอ่อน



กับบานอฟฟี่พายฮะ



อิ่มหวานแล้วก็เดินขึ้นห้อง ขึ้นมาถึงก็เห็นว่าเมท Turn Down เตียงให้เรียบร้อย





วิวของเมืองพัทยาช่วงค่ำ ภาพนี้ถ่ายจากในห้องน้ำครับ ไม่ได้ตั้งขาตั้งเลยสั่นๆหน่อย

คืนนั้นนอนหลับสบายฮะ



เช้าวันรุ่งขึ้นตื่นมาก็อาบน้ำแปรงฟันเตรียมตัวไปทานอาหารเช้ากัน



ช่วงเช้ายังไม่ร้อนมากฮะ ออกมานั่งริมระเบียงดูเรือวิ่งผ่านไปมา หาดหน้าโรงแรมนี้สงบมากครับ ไม่พลุกพล่านวุ่นวายเหมือนฝั่งอ่าวพัทยา





อย่างที่บอกว่าอาหารเช้าเสิร์ฟที่ห้องอาหาร Radius ฮะ ไลน์อาหารมาให้เลือกพอสมควรในระดับมาตราฐานโรงแรม 5 ดาว

อ้อ อาหารเช้าน่าจะเปิดให้บริการตั้งแต่ 6.30-10.30น. นะครับ



ที่สเตชั่นไข่วันนี้ผมเลือกทานง่ายๆด้วยออมเล็ท กับไส้กรอก แฮม และเบคอน กับกาแฟ ครบชุด



เดินไปสั่งราเมงที่สเตชั่น แล้วตามด้วยผัดซีอิ๊ว



หมูผัดพริกสดราดบนข้าวสวย พร้อมแกงเผ็ดเป็ดย่างมาอีกถ้วย



ตบท้ายด้วยผลไม้และขนมปัง 



สารภาพว่าทานอย่างละนิดหน่อยเพราะว่าผมตั้งใจจะลองทานมื้อเที่ยงที่โรงแรมอีกมื้อฮะ

อิ่มแล้วก็ปล่อยคนข้างๆนั่งอยู่ในห้องอาหารเป็นแอดมินขายขนมในเฟสไป

ผมก็ออกไปเดินสำรวจด้านหน้าหาดของโรงแรมซะหน่อย เมื่อวานยังไม่ได้ลงไปเดินดูเลย



ข้างๆห้องอาหารจะมีทางเดินลงไปที่ชายหาดครับ เดินลงมาก็จะเจอกับ Beach Pool อีกสระครับ แต่สระนี้ขนาดจะเล็กกว่าด้านบน

ที่ Beach Pool นี้จะมี Beach Bar อีกแห่งชื่อว่า Walala ให้บริการ





เดินลงมาอีกหน่อยก็จะเป็นชายหาดส่วนตัวแล้วครับ แน่นอนว่าพื้นที่ส่วนใหญ่ถูกจับจองไว้สำหรับผู้ที่นิยมอาบแดด



ไม่รู้คิดไปเองป่าวแต่ผมว่าน้ำแถวนี้หน้าเล่นกว่าแถวพัทยากลางพอสมควรเลย ทั้งๆที่อยู่ไม่ไกลกันมาก ข้อเสียอย่างเดียวของการลงเล่นน้ำหน้าหาดที่นี่คือด้านล่างมันจะเป็นหินซะเป็นส่วนใหญ่ฮะ อาจจะต้องระวังบ้างแต่ก็พอเล่นได้สบายๆ





พัทยาตื่นแต่เช้าเลยฮะ เห็นเรือ เห็นร่ม วิ่งกันให้วุ่นไปหมด ผิดกับแถวหน้าโรงแรมเลย



อย่างที่บอกว่าหน้าโรงแรมมีโขดหินเยอะเลยมีมุมสวยๆให้เห็น ข้างๆโรงแรมก็ยังเป็นป่านะครับ เหมือนเป็นที่ส่วนบุคคลที่เจ้าของเป็นเศรษฐีเก่าเลยปล่อยที่ไว้เฉยๆ



Main Pool ด้านบนแบบเต็มๆฮะ แดดร้อนมากถ่ายเสร็จรีบวิ่งเข้าร่มอย่างไว





ภายในโรงแรมยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกอีกหลายอย่างฮะ ทั้ง Kids Club ,fitness ,Spa ,ห้องประชุม จัดเลี้ยง สัมมนา



มีเรื่องที่ลืมบอกไปตั้งแต่ตอนต้นฮะ ผมเองเข้าใจผิดมาตลอดเรื่องเชนของโรงแรม

ตอนแรกเข้าใจว่าเป็นโรงแรมในเครือเกษมกิจเหมือนเคปพันวา-เคปนิทราที่เราๆคุ้นหู แต่จริงๆแล้ว ”เคปดารา” เป็นโรงแรมที่อยู่ในเครือ Mike Group หรือเจ้าของเดียวกันกับ Mike Shopping Mall ที่พัทยานั่นเองฮะ เพียงแต่ชื่อนำหน้าว่าเคปเลยทำให้เข้าใจผิดมาตลอด







หลังจากเก็บข้าวของเครื่องใช้เรียบร้อยก็ขอโทรไปเลื่อนเช็คเอ้าท์เป็นซักบ่าย 2 ซึ่งทางโรงแรมก็ยินดีเพราะห้องว่าง

ก็เลยลงมาทานอาหารกลางวันที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่แรกฮะ อาหารกลางวันมื้อนี้ต้องลงมาที่ชั้น 3 ของโรงแรม จะมีร้านอาหารจีนอยู่ชื่อว่า “MING XING” ฮะ

สิ่งที่ทำให้ผมสนใจจะมาลองทานก็คือทางห้องอาหาร Ming Xing มีโปรโมชั่นพิเศษเป็นบุฟเฟ่ห์อาหารกลางวันชื่อว่า “Noodle Affairs” เสิร์ฟสลัดและอาหารจีนประเภทเส้นทั้งหลายทั้งหมด 24 อย่างและรวมไปถึงของหวาน



ในร้านตกแต่งแบบจีนโมเดิร์นเลยฮะ



อันนี้เก๋มาก เอาไพ่นกกระจอกมาประดับตกแต่งผนัง



มีมุมเก๋ๆ ชิคๆให้นั่ง



หรือจะเลือกนั่งแบบโต๊ะจีนแท้ๆก็ได้



แถมยังมีห้องส่วนตัวเอาไว้บริการ เผื่ออยากมากินโต๊ะแชร์ คุยธุรกิจอะไรก็ว่ากันไป



อาหารก็มีตามรายการที่เห็นฮะ จะสั่งมาทานทุกอย่างก็ยังไงอยู่ เลยเลือกสั่งมาเป็นบางจานครับ



เริ่มด้วย “ราดหน้าปลาเต้าซี่”

น้ำเก๊กฮวยเป็นรีฟิลนะครับเติมได้ตลอด



จานที่สอง “อีหมี่ผัดเนื้อปูกับไข่กุ้ง”



จานที่สาม “บะหมี่ผัดซ๊อสเสฉวนทะเล” 



จานที่สี่ “เส้นใหญ่ผัดสิงคโปร์ทะเล”



จานที่ห้า “ก๋วยเตี๋ยวหลอดไส้ผักโขม”



จานที่หก “ก๋วยเตี๋ยวหลาดไส้เป็ดย่าง”



จานที่เจ็ด “ขนมจีบหมูกุ้ง”


สรุปว่าบ้าสั่งมาถ่ายรูป ผลคือกินไม่หมดฮะ

ขอบอกว่าราคา 390 บาท++ อาหารเยอะขนาดนี้คุ้มสุดๆ แนะนำเลยฮะว่าถ้าได้ไปพัทยาไปลองทานดู เวลาให้บริการแบบบุฟเฟ่ห์คือ 11.00-14.00น. ฮะ ส่วนท่านที่ไม่ชอบเมนูแบบนี้ก็ยังสามารถสั่งแบบ A la carte ทานได้เช่นกันฮะ

ร้านอาหาร Ming Xing เปิดให้บริการสองช่วงเวลาคือ 11.00-14.00น. และ 18.00-22.00น. ครับ

บทสรุปการเข้าพักที่ Cape Dara : The Beachfront Resort Pattaya ในครั้งนี้ สิ่งที่ผมประทับใจอันดับแรกต้องยกให้ที่ตั้งของโรงแรมรวมถึงวิวที่สามารถมองเห็นได้จากห้องพักครับ ถือว่าเป็นจุดขายของที่นี่จริงๆ วิวสวยเพราะโรงแรมตั้งอยู่ปลายแหลมดารา สถานที่ตั้งไม่ไกลมากจากวงเวียนปลาโลมา แต่ได้ชายหาดที่มีความเป็นส่วนตัว คนไม่พลุกพลานและดูสะอาดกว่าแถวพัทยากลางหรือจอมเทียน

ห้องพักสวยงามสมกับเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว บริการเท่าที่สังเกตถือว่าอยู่ในระดับดีมากนะครับพนักงานใส่ใจบริการดี เรื่องของราคาถึงผมจะไม่ได้เสียเงินค่าที่พัก แต่จากงานท่องเที่ยวที่ผ่านมาผมว่าราคาไม่หนีกันมากกับโรงแรมระดับเดียวกันในเมืองพัทยาถือว่าตรงนี้คงพอรับกันได้สบายๆ
อย่างนึงที่ทำเอาผมอึ้งคือ มีห้องพักให้เลือกถึง 11 แบบซึ่งถือว่าเยอะมากสำหรับโรงแรม 1 แห่ง

ผมว่าเคปดารา จะเป็นดาวระยิบระยับประดับคู่เมืองพัทยาอย่างแน่นอนครับ



ฝากติดตามแฟนเพจผมได้ที่ https://www.facebook.com/travelholicbigboy นะครับ



Create Date : 22 มีนาคม 2557
Last Update : 2 พฤศจิกายน 2557 21:12:31 น. 1 comments
Counter : 4223 Pageviews.

 
thx u crab


โดย: Kavanich96 วันที่: 23 มีนาคม 2557 เวลา:5:18:20 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

biGbOySalaDbAr
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 23 คน [?]




Group Blog
 
<<
มีนาคม 2557
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
22 มีนาคม 2557
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add biGbOySalaDbAr's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.