สำหรับตัวโรงแรมควิป อย่างที่เห็นในภาพเปิดคือเป็นอาคารเก่าที่ถูกปรับปรุงใหม่ อาคารหลังนี้เดิมเป็นร้านขายจักรยานยนต์ครับ แต่พอเจ้าของเดิมเลิกกิจการเจ้าของควิปเลยขอเช่าพื้นที่ต่อด้วยสัญญานานพอสมควรฮะ แล้วเนื่องจากเจ้าของควิปเป็นคนชอบสะสมของเก่าก็เลยอยากจะอนุรักษ์อาคารหลังนี้เอาไว้ นี่เลยเป็นที่มาของโรงแรมแห่งนี้ครับ 

เพราะฉะนั้นของที่ใช้ตกแต่งในตัวโรงแรมเกือบจะทั้งหมดเป็นของเก่าสะสมของเจ้าของโรงแรมฮะ (เจ้าของโรงแรมเป็นหนุ่มหล่อหน้าตาดีอายุยังไม่ถึง 30 เลยนะครับ)

แวะเช็คอินกันก่อนฮะ เครื่องดื่มต้อนรับเป็นน้ำส้มใส่แก้วเก๋ๆมาให้ด้วย



เนื่องจากตัวโรงแรมเป็นตึกเก่าและมีแค่ 4 ชั้นเพราะฉะนั้นที่ควิปก็จะไม่มีลิฟท์ให้บริการนะครับ ตามทางเดินขึ้นห้องพักก็จะมีสารพัดของเก่าเก็บที่เจ้าของเค้าสะสมเอาไว้ตั้งแต่เด็กๆมาใส่กรอบโชว์เอาไว้ นี่เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ลูกค้าที่เข้าพักทุกคนเห็นแล้วก็อดที่จะหยิบกล้องถ่ายรูปหรือโทรศัพท์มือถือเอามาเก็บภาพไว้ไม่ได้







เห็นรูปมาหลายใบแล้วหลายๆคนเริ่มจะสงสัยแล้วใช่มั๊ยฮะว่าราคาห้องพักจะแพงมั๊ยหน๊ออออ บอกเลยครับว่าราคาห้องพักที่นี่ถูกมากหน้าไฮฯ ราคาต่อห้องน่าจะอยู่ไม่เกิน 1000-1500 บาทครับ ถูกมากใช่มั๊ยฮะ ..

มาดูในห้องพักกันบ้างดีกว่าฮะ วันนี้ผมได้เข้าพักในห้องพักขนาดใหญ่ที่สุดของโรงแรมครับ

ห้องนี้เป็นห้องเตียงควีนไซส์ 2 เตียงต่อกัน นอนกันได้ 4 คนสบายๆเลย

มีโซฟาตั้งอยู่กลางห้อง 

ปลายเตียงไปมีทีวีจอแบนให้ด้วยครับ มีช่องให้เลือกอยู่พอสมควร

ทีวีเยอะจัดเลือกไม่ถูกเลยว่าจะดูจอไหนดี 5555 จริงๆในห้องทุกๆห้องจะมีของสะสมเก่าๆตั้งโชว์อยู่ด้วยครับ

ในห้องน้ำ

ห้องพักของควิปจริงๆมีขนาดห้องไม่ใหญ่มากครับ ถ้าไม่ซีเรียสเรื่องพื้นที่ภายในห้องที่นี่โอเคมากที่จะเข้าพัก นอกจากห้องใหญ่แบบที่ผมพักแล้วยังมีห้องขนาดเล็กที่เป็นเตียงเดี่ยวและเตียงคู่ให้บริการอีกด้วยครับ

ทีนี้ลงมาดูด้านล่างของโรงแรมบ้างดีกว่า

กรอบที่ใส่พวกคำคม สำนวนต่างๆทั้งต่างประเทศและของไทยมีให้เห็นอยู่เยอะเลยครับ แน่นอนว่านี่คือที่มาของชื่อโรงแรมที่ชื่อ " Quip " ที่แปลได้ว่า " สำนวน หรือ คำคม " อะไรประมาณนี้

รถคันที่เห็นนี้มีไว้ทำไมรู้มั๊ยฮะ .. ที่จริงนี่คือเคาเตอร์เช็คอินของโรงแรมนี้นะครับ เก๋มั๊ยฮะ ..

ด้านล่างนี้จะเป็นทั้งล็อบบี้ ร้านกาแฟ และห้องอาหารเช้าไปในตัวเดียวกันครับ 

ได้มีโอกาสนั่งคุยกับน้องเจ้าของโรงแรมควิปอยู่พักนึงครับ สิ่งที่ได้พูดคุยสร้างความกระจ่างให้ผมพอสมควรเลยทีเดียว





นอกจากถามความเป็นมาของโรงแรมแล้ว ยังได้รู้อีกว่าจริงๆน้องเค้าชอบสะสมของเก่ามากๆ เก็บสะสมมาตั้งแต่เด็กๆที่พอจะเก็บเงินซื้อได้ แล้วก็เก็บสะสมมาเรื่อยๆ วันนึงก็รู้สึกว่าของมันเริ่มเยอะอยากที่จะทำแกลอรี่เล็กๆเอาไว้ดู ก็เห็นว่าอาคารหลังนี้น่าจะเอามาทำอะไรได้ ก็เลยคิดอยากจะทำโรงแรมเล็กๆในสไตล์ของตัวเอง มีที่วางโชว์ของสะสมอะไรประมาณนี้

เพราะฉะนั้น อย่างที่บอกว่าของแทบจะทุกอย่างในโรงแรมจะเป็นของเก่าแทบทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะ เก้าอี้ ก็เป็นของสะสมครับ

ที่นี้มาชิมอาหารกันบ้างดีกว่า จริงๆร้านกาแฟนี้ชื่อว่า Chicroom Cafe ฮะ ให้บริการ อาหาร เครื่องดื่ม และขนมหวานอร่อยๆ เปิดบริการตั้งแต่ 8 โมงเช้า ถึง 5 ทุ่มทุกวันครับ

จานแรกไส้กรอกเยอรมันทอดครับ

จานที่สองเป็นสปาเก็ตตี้เนื้อซอสมะเขือเทศ



จานที่สามก็เป็นอกเป็ดราดซอสบาร์บีคิวฮะ 

เครื่องดื่มก็จะเป็น โกโก้ปั่น กับกล้วยปั่นฮะ

นอกจากเจ้าของจะสะสมของเก่าแล้ว ยังพยายามเก็บรักษาสภาพของอาคารหลังนี้ไว้ด้วยครับ อย่างที่เห็นก็เป็นโมเสสเก่าของเดิมที่อยู่กับอาคารมาตั้งแต่สร้างเลยฮะ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นโมเสสมาจากเยอรมันไม่ก็อิตาลีนี่ล่ะครับ

ของสะสมที่เราเคยคุ้นตาในตอนเด็กๆ

และอีกหลายๆอย่างที่เป็นของสะสม

กลัดไม้ขีดเก่า 

กล่องเหล้าเก่า

ทีวีเก่า รุ่นพวกนี้ใครทันบ้างฮะ ที่บ้านผมมีนะแบบที่มีม่านไม้เปิดปิดอ่ะ

แอบถามเจ้าของว่าเสียดายมั๊ย .. เค้าตอบว่าเสียดายสิพี่ .. บางทีลูกค้าเค้าเล่นกับของเราแรงๆเราก็รู้สึกไม่ชอบนะ แต่ใจนึงก็คิดว่าอยากเอาออกมาให้คนอื่นได้ดูบ้าง ไม่อยากเก็บเอาไว้ดูคนเดียว

ของบางอย่างยังใช้ได้นะฮะถึงแม้ว่าจะเป็นของเก่า อย่างวิทยุเครื่องนี้เปิดฟังได้เลยฮะ

เครื่องอบผมรุ่นขุ่นแม่ .. ที่ถูกกลายสภาพมาเป็นโคมไฟเก๋ๆ

มอเตอร์ไซค์รุ่นคุณอา

ของสะสมเล็กๆน่ารักๆ

ปี๊บฮอลล์รุ่นเดอะ ใครทันบ้างงงง 

ตุ๊กตาตัวนี้แอบน่ากลัว (แถมยังมีเหล่าบาร์บี้อีกเป็นแก๊งซ์)

โต๊ะไม้เก่าที่เอากระดุมเก่าๆมาช่วยตกแต่ง

ถ่ายรูปเพลินจนบ่าย มานั่งทานของหวานกันดีกว่า มีหลายๆคนที่เคยมาพักที่นี่เค้าแนะนำมาว่าเค้กที่นี่อร่อยเด็ด !! ไหนๆมาแล้วก็ต้องลอง

ตัดมาที่ภาพช่วงกลางคืนกันหน่อยครับ

ไหนๆก็มานอนในตัวเมืองภูเก็ตกันแล้ว อยากถ่ายภาพมุมนี้มานานจากโรงแรมเดินไปไม่กี่สิบก้าวก็ถึงแล้วฮะ " สี่แยกธนาคารชาร์เตอร์ "



เสียดายได้มาแค่มุมเดียว พอดีมีกลุ่มที่กำลังถ่ายภาพนางแบบอยู่ใกล้ๆก็เลยไม่อยากไปบังมุมกันฮะ

กลับมาดูภาพหน้าโรงแรมตอนกลางคืนกันบ้าง

ที่จริงโรงแรมอยู่ในมุมที่ดีมากนะฮะ ติดริมคลองมีน้ำไหลผ่านไม่มีมลพิษเหมือนแสนแสบในกรุงเทพฯด้วย เสียอย่างเดียวไม่มีที่จอดรถส่วนตัว

มาดูบรรยากาศด้านในกันอีกรอบ ลืมบอกไปว่าเป็นห้องแอร์นะครับ แต่ช่วงอาหารเช้าอาจจะเปิดกระจกรับลมเย็นๆ

สมกับเป็นโรงแรมฮิปๆจริงๆฮะ มีมุมให้เลือกถ่ายรูปเยอะเลย

ตัดภาพมาที่อาหารเช้าฮะ อาหารเช้าเป็นแบบบริการตัวเองฮะ อาจจะมีอาหารให้เลือกไม่เยอะมากเท่าไหร่ แต่ก็เป็นอาหารญี่ปุ่นนะครับ



555 มาม่าฮะ มีให้เลือก 2 รสแล้วแต่เติมได้ไม่อั้นด้วยฮะ

นอกจากนี้ยังมีผลไม้ ขนมปัง ชา กาแฟ น้ำผลไม้ไว้ให้บริการ

ถามเจ้าของโรงแรมแล้วเค้าบอกโรงแรมเราเล็กๆ อยากทำอะไรที่มันง่ายๆไม่ต้องยุ่งยากมาก ลูกค้าส่วนใหญ่ก็ดูแฮปปี้กับอาหารแบบนี้นะฮะ

ก่อนกลับ ไม่ลืมที่จะเก็บภาพเป็นที่ระลึก ..

เอ๊ะ!! ลูกใครหว่าหน้าคุ้นๆ อิอิ จริงๆทริปนี้ผมต้องไปร่วมทริปในวันรุ่งขึ้นกับบล็อกเกอร์อีกหลายคนฮะหนึ่งในนั้นก็เป็นครอบครัวแสบซนครอบครัวนี้ด้วย

นอกจากนี้ก็ยังมีเพื่อนร่วมทริปรับเชิญอีกสองท่านคือ แพรว คณิตกุล

และ เป๊ก ผลิตโชค อีกด้วยครับ 

บทสรุปทริป ..

Quip Bed & Breakfast เป็นโรงแรมเล็กๆมีห้องพักแค่ 33 ห้อง ขนาดห้องอาจจะไม่ใหญ่โตมากนักแต่ก็ไม่ได้อึดอัดในการพัก ทุกห้องถูกตกแต่งได้สวยงาม สะอาดสะอ้าน ราคาห้องพักถูกมากเมื่อเทียบกับโรงแรมอื่นๆ แต่อาจจะต้องแลกกับการบริการที่อาจจะต้องช่วยเหลือตนเอง เช่นรับกุญแจเช็คอินเดินขึ้นไปเอง แต่ถ้ามีกระเป๋าใบใหญ่ๆก็บอกให้พนักงานช่วยขนขึ้นไปได้ โรงแรมเป็นอาคาร 4 ชั้นไม่มีลิฟท์ไม่เหมาะสำหรับคนชราหรือผู้ที่มีปัญหาด้านการเดินฮะ

จุดเด่นของที่นี่คืออยู่ในตัวเมืองและใกล้สถานที่เที่ยวและกินในตัวเมืองภูเก็ต อย่างหมี่ต้นโพธิ์ก็สามารถเดินไปทานได้ ถนนคนเดินที่เพิ่งเริ่มจัดได้ไม่กี่อาทิตย์ก็อยู่ห่างไปไม่มาก เหมาะมากจะเดินถ่ายรูปดูวิถีคนภูเก็ต ถ้าขับรถมาอาจจะไม่ค่อยสะดวกนักเพราะโรงแรมไม่มีที่จอดรถส่วนตัวต้องจอดริมถนน แต่ก็มีไฟถนนตลอดคืนเพราะเป็นเส้นทางหลักของคนในเมือง

อาหารเช้าเทียบกับค่าห้องพักราคาแค่ 1000-1200 บาทผมว่าได้แบบนี้ดีเยี่ยมแล้วฮะ อาหารที่ร้านของโรงแรมเท่าที่ทานก็อร่อยดี ส่วนเค้กอร่อยมากครับ ที่นี่เหมาะจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่จะไปเที่ยวภูเก็ตที่ไม่ได้ซีเรียสเรื่องว่าต้องอยู่ริมทะเล เนื่องจากราคาที่ค่อนข้างถูกมากๆและอยู่กลางตัวเมืองครับ

สำหรับรีวิวต่อไปน่าจะเป็นตอนต่อจากรีวิวนี้นะครับ เป็นทริปบล็อกเกอร์หลายๆคนที่ร่วมกันไปทำกิจกรรมเก็บขยะบนหาดทรายของเกาะตาชัย แล้วเจอกันรีวิวหน้าครับ

ขอบคุณสำหรับทุกเม้นท์ ขอบคุณมากๆครับ

ฝากติดตามแฟนเพจผมได้ที่ https://www.facebook.com/travelholicbigboy นะครับ