|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
เล่นหุ้นแบบ "ตามใจมาร์"
บทความจาก //www.thaidividend.com
Click "Like" & share my page on FB at ---> //www.facebook.com/pages/Thai-Dividend/166761113341304?v=wall
or Follow me on Twitter at ---> //twitter.com/ThaiDividend
ช่วงนี้ไปไหนก็มีแต่คนหันมาสนใจเรื่องการลงทุนในหุ้นกันทั้งนั้น คนที่รู้จักกับผมหลายคนก็เริ่มถามไถ่ว่าถ้าอยากจะเล่นหุ้นจะต้องทำอย่างไร และเริ่มต้นอย่างไรบ้าง เล่นเอาผมใจไม่ค่อยดีเป็นระยะๆ
สมัยที่ผมเริ่มศึกษาเรื่องการลงทุนใหม่ๆนั้นก็คงมีคำถามที่ไม่ต่างกันนี้ เท่าไหร่ และก็รู้สึกหงุดหงิดทุกครั้งที่ไม่ค่อยมีใครสอนผมแบบตรงไปตรงมา แต่กลับพยายามบอกให้ผมไป "ศึกษา" หรือ "อ่านหนังสือเกี่ยวกับการลงทุน" ให้มากๆด้วยตัวเองก่อนเป็นการดีที่สุด ....."อะโด่ พูดยังงี้ออกแนวหวงวิชานี่หว่า ไม่อยากสอนก็บอกตรงๆเดะว้าาา"
โชคยังดีที่อย่างน้อยผมก็ยังฟังคำของผู้มีประสบการณ์ พยายามรวบรวมหนังสือมานั่งอ่านและศึกษาการลงทุนด้วยตัวเองอยู่เป็นปีๆ จนเริ่มมีความมั่นใจว่าตัวเองพร้อมแล้วที่จะลองเข้าไปสัมผัสสนามลงทุนจริง เสียที (หลังจากที่ลงสนามซ้อมมานาน) และท้ายที่สุดก็ยังดำรงชีวิตรอดอยู่ในสนามรบแห่งนี้ มานั่งเล่าเรื่องราวต่างๆให้ได้ฟังกันอยู่ตรงนี้นี่แหละครับ
มาวันนี้พอมีคนถามว่า "ถ้าไม่รู้เรื่องอะไรเลย แล้วจะเริ่มเล่นหุ้นได้ยังไงดี?" ผมก็เลยใบ้กินไปโดยปริยาย ไม่รู้จะตอบว่าไงดี ไอ้ครั้นจะไล่ให้ไปอ่านหนังสือก็เดี๋ยวจะโดนด่าลับหลัง (ผมเองก็เคยทำมาแล้ว) ครั้นจะอธิบายให้ฟัง มันก็ไม่ใช่เรื่องที่จะอธิบายได้ครบจบหมดภายใน 10 นาทีซะเมื่อไหร่
ผมเลยแก้ปัญหาด้วยการยกประเภทของนักลงทุนในหุ้นตามแบบที่เข้าใจง่ายๆ หน่อยมาให้เขาเลือกเองว่าเขาอยากจะเป็นนักลงทุนแบบไหน โดยผมจะอธิบายให้ฟังก่อนว่านักลงทุนทุกคนจะต้องมีเจ้าหน้าที่การตลาดประจำ ตัว คอยเป็นตัวกลางในการซื้อขายหลักทรัพย์ให้กับเราเสมอ จากนั้นก็จะแยกประเภทนักลงทุนเป็น
1. นักลงทุนแบบที่ตัดสินใจลงทุนด้วยตัวเอง : นักลงทุนแบบนี้ ร้อยปีจะได้คุยกับเจ้าหน้าที่การตลาดสักทีหนึ่ง เพราะเขาเป็นนักลงทุนที่มีความรู้ในการที่จะเลือกหลักทรัพย์ที่จะลงทุนได้ ด้วยสติปัญญาของตัวเอง โดยไม่ต้องฟังเสียงพรายกระซิบจากใครตลอดเวลา 2. นักลงทุนแบบ "ตามใจมาร์ฯ" : คำว่า "ตามใจมาร์" มาจากคำว่า ตามใจมาร์เก็ตติ้ง หรือเจ้าหน้าที่การตลาดนั่นเอง นักลงทุนแบบนี้ไม่ได้มีความรู้เรื่องหุ้นเท่าไหร่ ไม่เคยศึกษาเรื่องการลงทุนในหุ้น และจะลงทุนด้วยการซื้อขายตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่การตลาดของตัวเองเป็น สำคัญ เพราะเชื่อว่าเจ้าหน้าที่การตลาดน่าจะลงทุนได้เก่งกว่าตน จึงเชื่อเขาไว้ก่อน (ซะงั้น)
ขั้นตอนต่อจากนั้น ผมก็จะยกคำของนักลงทุนชั้นอ๋องท่านหนึ่งที่ได้เคยกล่าวไว้ทำนองว่า "ตลาดหุ้นเป็นที่แห่งเดียวที่มีคนนั่งรถโรลสรอยส์มาฟังคำแนะนำเรื่องการลงทุนจากคนที่โดยสารรถไฟใต้ดิน"* ซึ่งประโยคนี้สามารถอธิบายนักลงทุนแบบ "ตามใจมาร์ฯ" ได้เป็นอย่างดี เพราะบางคนร่ำรวยมีเงินเป็นล้านๆ แต่กลับเชื่อว่า เจ้าหน้าที่การตลาดส่วนตัวของเขาจะสามารถลงทุนได้เก่งกว่า ทั้งๆที่แท้ที่จริงแล้วประสบการณ์ทางการเงินและธุรกิจของเจ้าหน้าที่เหล่า นี้อาจจะสู้เขาไม่ได้เลยก็เป็นได้ การที่เขาเหล่านั้นยกเงินที่มีในบัญชีให้มาร์เก็ตติ้งไปลงทุน แล้วฝันหวานว่าจะรวยขึ้นแน่นอน จึงเป็นการกระทำที่ไม่น่าจะถูกต้องนัก
พอเพื่อนๆและคนรู้จักหลายๆคนได้ฟังคำอธิบายแบบนี้ก็เริ่มเห็นภาพว่า ความรู้ส่วนตัวในเรื่องการลงทุนนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมากที่จะทำให้เรา สามารถกำหนดชะตากรรมทางการเงินของเราได้เอง โดยที่ไม่ต้องยืมจมูกคนอื่นเขาหายใจตลอดเวลา แถมความรู้นั้นก็จะอยู่ติดตัวเราไปตลอด ไม่หล่นหายไปไหนอีกด้วย เมื่อฟังมาถึงตรงนี้ หลายๆคนจึงเริ่มเปลี่ยนคำถามมาเป็นให้ผมแนะนำหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนดีๆ ให้แก่เขา ซึ่งทำให้ผมรู้สึกดีและสะดวกใจในการให้คำแนะนำมากขึ้นเยอะเลยทีเดียว
Create Date : 02 พฤศจิกายน 2553 |
|
2 comments |
Last Update : 2 พฤศจิกายน 2553 18:11:19 น. |
Counter : 817 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: hellojaae (hellojaae ) 2 พฤศจิกายน 2553 22:35:16 น. |
|
|
|
| |
|
|