|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
หุ้นดีมีคุณภาพ ราคาไม่แรง ยังมีอยู่ (แต่ไม่มีใครสนใจ)
บทความจาก //www.thaidividend.com
Click "Like" & share my page on FB at ---> //www.facebook.com/pages/Thai-Dividend/166761113341304?v=wall
or Follow me on Twitter at ---> //twitter.com/ThaiDividend
ผมเป็นคนหนึ่งที่ไม่ค่อยสนใจลงทุนในสิ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งสักเท่าไหร่นัก
เช่น ตอนที่น้ำมันกำลังบูมมากๆ ผมก็ไม่ได้เล่นด้วย (แถมแช่งให้ราคามันลงได้สำเร็จด้วยซ้ำ)
หรือตอนนี้ที่ทองคำกำลังเนื้อหอมสุดๆ ผมก็ไม่เอากับเขาเหมือนกัน
ทัศนคติแบบสวนกระแสเช่นนี้ลามไปถึงเรื่องอื่นๆในชีวิตของผมด้วย
เรียกได้ว่าอะไรที่คนอื่นๆเขานิยมทำกันมากๆ จนเป็น Talk of the town ผมกลับจะรู้สึกเฉยๆ ไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก
จนเขาเลิกสนใจกันไปพอสมควรแล้วนั่นแหละ ผมถึงค่อยหาโอกาสแวะเวียนเข้าไปทดลองทำ, ทดลองใช้ หรือทดลองกิน ฯลฯ
หุ้นก็เหมือนกัน
ในความเห็นส่วนตัวของผม ถ้าหุ้นตัวไหนที่ "ได้รับความนิยม" มากๆ ราคาของหุ้นตัวนั้นขึ้นเอาๆไม่มีหยุด ผมจะบอกกับตัวเองว่า "ผมช้าเกินไปแล้วและไม่มีประโยชน์ที่จะไปซื้อตามคนอื่น เพราะหุ้นตัวนั้นมันอาจจะเลิกฮิตเมื่อไหร่ก็ได้ อาจจะวันนี้ พรุ่งนี้ หรือปีหน้า ผมไม่รู้จริงๆ"
ผมจึงต้อง (จำยอม) ปล่อยมันไป
สิ่งที่ผมพยายามมองหาในการลงทุนในหุ้นก็คือ "หุ้นที่มีคุณภาพดี แต่ยังไม่ได้รับความสนใจจากคนส่วนใหญ่" เพราะนั่นเท่ากับผมเข้าไปลงทุนในหุ้นนั้นได้ก่อนที่คนอื่นจะเห็นคุณค่าของ มัน
ซึ่งถ้าการวิเคราะห์ของผมถูก สักวันหนึ่งไม่ช้าก็เร็ว หุ้นตัวนั้นจะกลายเป็น "หุ้นที่ได้รับความนิยม" และราคาก็จะวิ่งขึ้นไปตามความนิยมนั้น อันนี้ถือได้ว่า "ผมเร็วกว่าคนอื่น"
ใครหลายคนอาจจะสงสัยว่า ในช่วงเวลาที่ตลาดหุ้นกำลังวิ่งขึ้นเป็นกระทิงเปลี่ยวแบบนี้ (พฤศจิกายน 2553) เราจะไปหาหุ้นที่ว่านี่ได้จากที่ไหนกัน?
ผมเองก็เคยเชื่อว่ามันไม่น่าจะมีแล้ว
แต่ถ้าเรากวาดตาสำรวจหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหลายร้อยตัวแบบ พินิจพิเคราะห์เพิ่มอีกสักหน่อย ผมพบว่ามีหุ้นอีกหลายตัวทีเดียวที่ราคาของมันไม่ได้วิ่งขึ้นมากๆตามดัชนี ตลาดหลักทรัพย์ (หนำซ้ำบางตัวกลับมีราคาลดลงอีกต่างหาก) ทั้งๆที่ธุรกิจของหุ้นเหล่านั้นยังคงทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง หลายธุรกิจเจ๋งถึงขนาดมีกำไรเติบโตเป็นเท่าตัวในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา
แต่เพราะว่าคนส่วนใหญ่ยังไม่สนใจ ราคามันเลยยังไม่ไปไหน
อยากให้ลองย้อนกลับไปอ่านบทความอันเก่าของผม เรื่อง "130,000 หุ้น ฟรี! พร้อมปันผลอีก 5% (ราวๆนั้น)" หุ้นตัวที่ผมพูดถึงก็เป็นอีกตัวอย่างของหุ้นที่มีคุณภาพแต่ไม่ได้รับความ นิยม และสุดท้าย เมื่อคนส่วนใหญ่หันมาสนใจ (ไม่ว่าจะหันมาเจอเอง หรือ มีคนเชียร์ให้มาเจอ) ราคาก็ไต่ระดับขึ้นไปในที่สุด
ข้อควรระวังของการลงทุนแบบนี้ก็คือ "อย่าดันทุรัง" เพราะการวิเคราะห์ของเราอาจจะผิดก็ได้ ดังนั้นหากเราซื้อหุ้นไป แล้วมารู้ทีหลังว่าหุ้นนั้นไม่ใช่ "เพชรแท้ในตม" แต่กลายเป็น "เพชรเก๊ในตม" ซะอย่างนั้น เราก็ต้องตัดสินใจให้รวดเร็วในการปล่อยมันทิ้งไป
และเทคนิคอีกอย่างที่ผมอยากฝากไว้ด้วยก็คือ
อย่าลืมเลือกหุ้นที่จ่ายปันผลในระดับที่น่าพอใจด้วยนะครับ
เพราะถ้าซื้อไว้ 2-3 ปี คนก็ยังไม่สนใจกันซักที
อย่างน้อยเราก็มีเงินปันผลเป็นขนมกินเล่น ก่อนอาหารมื้อหลัก
แหล่มครับ!
Click "Like" & share my page on FB at ---> //www.facebook.com/pages/Thai-Dividend/166761113341304?v=wall
or Follow me on Twitter at ---> //twitter.com/ThaiDividend
Create Date : 07 พฤศจิกายน 2553 |
Last Update : 7 พฤศจิกายน 2553 16:54:25 น. |
|
0 comments
|
Counter : 441 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|