Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728 
 
2 กุมภาพันธ์ 2554
 
All Blogs
 
Thaidividend.com : คุณปู่บั๊ฟเฝ็ตต์ (อีกสักที) กับการจ่ายเงินปันผล

จะว่าไปแล้วคุณปู่วอร์เร็น บั๊ฟเฝ็ตต์ ทั้งรักทั้งชังเงินปันผล พูดให้เคลียร์ก็คือ คุณปู่รักที่จะได้ แต่เกลียดที่จะจ่าย (เงินปันผล)

บริษัท เบิร์กไชร์ แฮทธาเวย์ ของมหาเศรษฐีพันล้านอย่างปู่บั๊ฟเฝ็ตต์ เข้าลงทุนถือหุ้นในบริษัทยักษ์ใหญ่อื่นๆอย่าง โคคาโคล่า, จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน, พร็อกเต้อร์ แอนด์ แกมเบิ้ล ฯลฯ ซึ่งบริษัทเหล่านี้มีประวัติการจ่ายเงินปันผลที่ดีมากๆ จำนวนเงินปันผลที่จ่ายออกมามีจำนวนเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเวลาอย่างน้อย 25 ปีติดต่อกันแทบทั้งสิ้น!

แต่ทว่าตั้งแต่ที่บั๊ฟเฝ็ตต์เข้ามาบริหารงานในยุคทศวรรษที่ 1960 บริษัทที่ขึ้นชื่อในเรื่องความขี้เหนียวอย่างเบิร์กไชร์ แฮทธาเวย์ก็ไม่เคยเอาเงินปันผลที่ได้รับเหล่านั้นมาแบ่งจ่ายให้ผู้ถือหุ้น เลย แม้แต่ครั้งเดียว O_o!

จะมีโอกาสไหมที่คุณปู่จะเปลี่ยนใจหันมาจ่ายเงินปันผลกับเขาบ้าง ทางผู้สันทัดกรณีหลายท่านกล่าวว่ามีความเป็นไปได้ครับ เพราะจำนวนเงินสดของเบิร์กไชร์ฯนั้นสะสมพอกพูนมากขึ้นเรื่อยๆจนกำลังจะล้น บริษัทอยู่แล้ว แต่เจ้าตัวบั๊ฟเฝ็ตต์เองก็ออกมาเบรกความคิดนี้ว่าเบิร์กไชร์จะไม่จ่ายเงิน ปันผลแน่นอน อย่างน้อยก็ในช่วงที่เขายังคงครองอำนาจในบริษัท (หรือจะพูดอีกอย่างก็คือตราบใดที่ปู่แกยังมีลมหายใจอยู่นั่นแหละครับ) ยังไงก็ไม่จ่าย ใครจะทำไม?

หันไปดูสถานะการเงินของบริษัทเบิร์กไชร์ แฮทธาเวย์แล้ว ก็ได้แต่อิจฉาตาร้อน อยากมีหุ้นกับเขาบ้างครับ คาดกันว่าเมื่อถึงสิ้นปีค.ศ. 2011 ธุรกิจประกันอันเป็นธุรกิจหลักของเบิร์กไชร์จะมีเงินสดนอนแช่อยู่ในบริษัท ถึง 50,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ แถมยังมีกำไรจากการดำเนินงานอื่นๆสูงเป็นประวัติการณ์ ทั้งนี้เกิดจากการควบรวมบริษัท เบอร์ลิงตั้น นอร์ทเธิร์น ซานตาเฟ่ คอร์ป (Burlington Northern Santa Fe Corp.)ในปี 2009 และการเข้าซื้อหุ้นในราคาที่ลดกระหน่ำซัมเมอร์เซลส์ระหว่างวิกฤติเศรษฐกิจ ของสหรัฐอเมริกาในช่วงปี 2008-2009 อีกด้วย

เงินสดมหาศาลที่มีอยู่อาจเป็นตัวกระตุ้นให้เบิร์กไชร์ แฮทธาเวย์จ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นเป็นครั้งแรกภายใน 12 ถึง 18 เดือนข้างหน้า ทั้งนี้ตั้งอยู่บนเงื่อนไขว่าคุณปู่ของเราไม่สามารถค้นพบดีลการลงทุนที่น่า สนใจครั้งใหญ่ยักษ์ได้ในช่วงเวลาดังกล่าวด้วย ซึ่งการจ่ายเงินปันผลแม้เพียงเล็กน้อยซักประมาณ 2% ก็จะช่วยผ่อนคลายแรงกดดันสำหรับบรรดาผู้บริหารของเบิร์กไชร์ฯ ในการจัดการกำไรของบริษัทลงได้

ทว่า.....

ปรัชญาการลงทุนของคุณปู่บั๊ฟเฝ็ตต์กล่าวไว้เสมอว่า ถ้าเขายังมีความสามารถในการเอาผลกำไรมาลงทุนใหม่ให้ได้ผลตอบแทนที่น่าพอใจ อย่างต่อเนื่อง เขาจะเลือกเก็บเงินที่เป็นผลกำไรนั้นเอาไว้กับบริษัท ดีกว่าจ่ายเป็นเงินปันผลออกไปเปล่าๆ

ปี 1997 บั๊ฟเฝ็ตต์กล่าวไว้ว่า "สาเหตุที่บริษัทไม่จ่ายเงินปันผลเพราะเราเชื่อว่า บริษัทของเราสามารถเปลี่ยนเงินทุกๆ 1 ดอลล่าร์ที่ได้มา ให้มีค่ามากกว่า 1 ดอลล่าร์ในตลาดได้อย่างต่อเนื่อง ...... เพราะฉะนั้น บริษัทจะจ่ายเงินปันผลก็ต่อเมื่อ บริษัทไม่สามารถลงทุนให้ได้ผลตอบแทนที่ดีแบบนั้นได้อีกต่อไปแล้วเท่านั้น"

พูดง่ายๆก็คือ ถ้านี่เป็นเกมส์สักเกมส์หนึ่ง บั๊ฟเฝ็ตต์ไม่ยอมให้ผู้ถือหุ้นเล่นเกมส์ เพราะเขาคิดว่า เขาและทีมงานเล่นเกมส์นี้ได้ดีกว่าผู้ถือหุ้นคนอื่นๆ

ถ้าคุณเชื่อ คุณก็ลงทุนกับเบิร์กไชร์ฯ แต่ถ้าไม่เชื่อ ก็เงียบๆและพิสูจน์ให้เห็นสิครับ

อย่างไรก็ตาม จำนวนเงินสดที่ล้นบริษัทยังคงเป็นเรื่องที่คาใจใครต่อใครไม่น้อย นั้นเพราะการถือเงินสดไว้เฉยๆไม่ช่วยให้เงิน 1 ดอลล่าร์งอกเงยขึ้นมาได้แน่ๆ แต่ถ้าบั๊ฟเฝ็ตต์ไม่คิดจะจ่ายเงินปันผล แถมยังไม่มีแผนจะลงทุนด้วย แล้วเขาจะจัดการเงินเหล่านั้นอย่างไร?

คำตอบที่ดูเป็นไปได้ก็คือ "การซื้อหุ้นคืน" ครับ แต่ก็อีกนั่นแหละ เก๋าๆอย่างบั๊ฟเฝ็ตต์คงไม่หลับหูหลับตาซื้อหุ้นคืนแน่นอน เดาได้เลยว่าเขาจะซื้อหุ้นคืนก็ต่อเมื่อราคาหุ้นของเบิร์กไชร์ฯในตลาดหลัก ทรัพย์ลดต่ำลงจนถูกแสนถูกในความคิดของเขาเท่านั้น ซึ่ง ณ ปัจจุบันที่ตลาดหุ้นฟื้นตัวขึ้นมามากแล้ว บั๊ฟเฝ็ตต์คงไม่ใช้วิธีซื้อหุ้นคืนแน่ๆ

มืดแปดด้านสิครับแบบนี้

ถ้าเช่นนั้นคุณปู่อัจฉริยะของเราจะทำอย่างไรดีล่ะครับ?

บรรดาผู้ถือหุ้นของเบิร์กไชร์ตอบคำถามนี้ว่า พวกเขามีความเชื่ออย่างลึกซึ้งว่าคุณปู่และทีมงานจะสามารถค้นหาการลงทุน ใหม่ๆที่น่าสนใจได้อยู่เสมอ เรียกว่ายินยอมเททั้งกายทั้งใจทั้งเงินให้บั๊ฟเฝ็ตต์เลยทีเดียว บางคนถึงกลับกล่าวว่า ถ้าวันใดที่บริษัทอย่างเบิร์กไชร์ฯตัดสินใจจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้น นั่นอาจเป็นลางบอกเหตุว่า ในสภาวะการลงทุนขณะนั้น แม้แต่วอร์เร็น บั๊ฟเฝ็ตต์ก็ไม่มั่นใจว่าจะทำผลตอบแทนให้เป็นที่น่าพอใจได้อีกหรือไม่

แล้วพวกนักลงทุนรายย่อยอย่างเราจะเหลืออะไร?

อันตัวผมเองไม่ได้มีหุ้นเบิร์กไชร์ แฮทธาเวย์ในครอบครอง (อยากมีเหมือนกันนะ) ก็ได้แต่คิดว่าถ้าผมเป็นผู้ถือหุ้นกับเขาบ้างผมจะคิดอย่างไร? ในฐานะที่ผมเป็นนักลงทุนที่เน้นเงินปันผลเป็นหลัก ผมคงไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ที่บั๊ฟเฝ็ตต์อมเงินเอาไว้ในบริษัท ไม่ยอมเผื่อแผ่คนอื่นบ้างเลย

แต่ถ้าถามต่อว่า แล้วผมมั่นใจแค่ไหนว่าจะลงทุนได้เก่งกว่าบั๊ฟเฝ็ตต์ด้วยเงินจำนวนเท่ากัน?

แหม....... ใครจะกล้าเทียบรัศมีคุณปู่ท่านล่ะครับพี่น้องค้าบบบบบ



ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้นะครับทุกท่าน :)



บทความนี้มีเค้าโครงจาก : //www.theglobeandmail.com/globe-investor/investment-ideas/dividends/warr...

Click "Like" & share my page on FB at ---> //www.facebook.com/pages/Thai-Dividend/166761113341304?v=wall

or Follow me on Twitter at ---> //twitter.com/ThaiDividend



Create Date : 02 กุมภาพันธ์ 2554
Last Update : 2 กุมภาพันธ์ 2554 12:00:00 น. 1 comments
Counter : 398 Pageviews.

 


โดย: zawadio (khonmanrak ) วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:0:13:48 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Aristotle
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add Aristotle's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.