|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
|
|
|
หุ้นที่จ่ายเงินปันผลกับที่ไม่ได้จ่ายปันผล (หรือจ่ายน้อยๆ)
ใครก็ตามที่ติดตามอ่าน Thaidividend.com นี้มาได้ซักระยะ น่าจะเริ่มเดาทางได้ถูกแล้วว่าบทความต่างๆใน Thaidividend.com จะพูดถึงการลงทุนในหุ้นที่มีการจ่ายปันผลในอัตราที่น่าพอใจ
ผมใช้คำว่า "น่าพอใจ" นั่นเพราะแต่ละคนอาจมีเกณฑ์ของความพอใจที่ไม่เหมือนกัน บางคนอาจบอกว่าได้เงินปันผลซัก 2-4% ก็พอแล้ว แต่บางคนอาจตั้งไว้สูงถึง 8-10% เป็นต้น อันนี้ก็แล้วแต่เลยครับ
คำถามก็คือแล้วทำไมหุ้นแต่ละตัวถึงจ่ายเงินปันผลไม่เท่ากันล่ะ? ทำไมบางตัวจ่ายมาก, บางตัวจ่ายน้อย แล้วทำไมบางตัวไม่จ่ายเลย?
1. บริษัทต้องทำธุรกิจแล้วมีกำไรถึงจะจ่ายเงินปันผลได้ -- บางคนเล่นหุ้นเพราะเห็นหุ้นเป็นสินค้าอย่างหนึ่งที่ซื้อๆขายๆแล้วมีกำไร แต่ลืมนึกไปว่าเบื้องหลังของหุ้นแต่ละตัวนั้นมี "ธุรกิจ" ของมันอยู่ หุ้นที่จะจ่ายเงินปันผลได้ต้องเป็นหุ้นที่ทำธุรกิจแล้วมีกำไรสุทธิเหลือให้ จ่าย มีกำไรมากก็อาจจะจ่ายมาก มีกำไรน้อยก็อาจจะน้อย ถ้าธุรกิจไหนที่ทำแล้วขาดทุนชั่วครั้งชั่วคราวก็อาจจะหยุดให้เงินปันผลเป็น ช่วงๆไป แต่ถ้าหุ้นตัวไหนทำธุรกิจแล้วขาดทุนทุกปี ย่อมไม่มีเงินเหลือมาจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น ซ้ำร้ายบางบริษัทอาจไปกู้เงินมาจ่ายเงินปันผลเพื่อสร้างภาพลวงตาว่าธุรกิจ กำลังไปได้สวยอีกด้วย ... เจอแบบนี้ก็น่ากลัวนะครับต้องระวังให้ดี
2. หุ้นที่ทำธุรกิจที่มีแผนขยายตัวเยอะๆมักจะจ่ายเงินปันผลน้อยหรือไม่จ่ายเลย -- เข้าทำนองน้ำขึ้นให้รีบตักครับ ถ้าธุรกิจไหนที่กำลังไปได้สวย มีกำไรดี ก็ย่อมอยากจะขยายงานขยายธุรกิจให้กว้างไกลออกไปมากขึ้น เงินกำไรที่ทำได้ก็คงต้องแบ่งเป็นเงินปันผลน้อยหน่อย (หรืออาจไม่จ่ายเลย) แล้วเอาไปลงทุนทำธุรกิจมากหน่อย เราจึงเห็นหุ้นหลายๆตัวที่ทำธุรกิจดี มีกำไร แต่ให้เงินปันผลน้อย เนื่องจากต้องไปขยายธุรกิจนั่นเอง
3. หุ้นที่ทำธุรกิจที่อยู่ตัวแล้วมักจะจ่ายเงินปันผลมากพอสมควรอย่างสม่ำเสมอ -- อันนี้เรียกอีกอย่างว่าเสือนอนกินครับ ส่วนใหญ่มักเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจที่เรียบง่าย ไม่หวือหวา ขายสินค้าจำเป็นที่คนทั่วไปใช้อยู่ทุกวัน ธุรกิจเหล่านี้ไม่มีอัตราการขยายตัวที่สูง แต่มีความมั่นคงมากเพราะลูกค้าก็ซื้อสินค้าของตัวเองซ้ำๆอยู่เรื่อยๆ กำไรของธุรกิจจึงค่อนข้างสม่ำเสมอ แผนการลงทุนใหม่ก็ไม่ค่อยมี เงินที่เหลือจึงเอามาจ่ายเป็นเงินปันผลได้อย่างสม่ำเสมอเช่นกัน
4. แนวคิดและธรรมาภิบาลของผู้บริหาร -- อันนี้มองยากครับ แต่เชื่อไหมครับว่ามีหุ้นบางตัวที่ทำธุรกิจที่ดี สามารถทำกำไรได้ แต่กลับเอาผลกำไรของธุรกิจไปจ่ายเป็นเงินโบนัสของผู้บริหาร ค่าใช้จ่าย ค่าเลี้ยงรับรองโน่นนี่นั่น เยอะแยะตาแป๊ะไก่ สุดท้ายมันก็ร่อยหรอไม่เหลือเผื่อให้ผู้ถือหุ้นเลย หรือบางกรณีที่ผู้บริหารมีแนวคิดแบบอนุรักษ์นิยมมากๆ ก็มักจะชอบสะสมกำไรเอาไว้เยอะๆ โดยไม่ได้นำไปลงทุนให้เกิดประโยชน์ แถมยังไม่ยอมเอาออกมาปันผลอีกต่างหาก แบบนี้ก็มีเหมือนกัน เพราะฉะนั้นสไตล์การบริหารและธรรมาภิบาลของผู้บริหารก็มีส่วนสำคัญครับ
เหล่านี้คือเหตุผลที่ทำให้หุ้นแต่ละตัวจ่ายเงินปันผลในอัตราที่แตกต่าง กันออกไปครับ จะเห็นได้ว่าหุ้นที่จ่ายปันผลก็ไม่ใช่ว่าจะดีเสมอไป ส่วนหุ้นที่ไม่ได้จ่ายเงินปันผลก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ดีเสมอไปเช่นกัน ทั้งนี้เราต้องทำความเข้าใจ "ธุรกิจ" ของหุ้นนั้นก่อนเป็นสำคัญ และถ้าเราตั้งใจที่จะสร้าง Passive Income จากเงินปันผล ก็ควรที่จะเข้าใจความแตกต่างเหล่านี้ด้วยนะครับ อาจจะมีรายละเอียดเพิ่มเติมในแต่ละข้ออยู่บ้างพอสมควรซึ่งผมจะได้นำมาคุยกัน ในครั้งต่อๆไปครับ
You can click "Like" and share my page on Facebook at ---> //www.facebook.com/pages/Thai-Dividend/166761113341304?v=wall
or Follow me on Twitter at ---> //twitter.com/ThaiDividend
Thanks!
Create Date : 20 ตุลาคม 2553 |
Last Update : 20 ตุลาคม 2553 16:05:47 น. |
|
0 comments
|
Counter : 595 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|