|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
Thaidividend.com : หุ้นในตม
หากจะพูดถึงของการลงทุนแบบ Value Investment ที่กลายมาเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับใครก็ตามที่คิดจะลงทุนด้วยการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลักแล้วล่ะก็ คงจะหลีกหนีไม่พ้นที่จะพูดถึงบิดาของทฤษฎีการลงทุนนี้ นั่นก็คือ เบนจามิน เกรแฮม (Benjamin Graham) ตามทฤษฎีของเกรแฮม เขาได้พูดถึงหุ้นประเภทหนึ่งที่เรียกว่า "หุ้น Net-Net" ซึ่งเกรแฮมจัดให้หุ้นประเภทนี้เป็นหุ้นที่มีราคาถูกแสนถูก โดยวิธีการหาหุ้น Net-Net สามารถทำได้ด้วยการอ่านงบดุลของบริษัท แล้วนำเอา สินทรัพย์หมุนเวียน ลบด้วย หนี้สิน ทั้งหมดที่บริษัทมี หากพบว่าตัวเลขที่เหลืออยู่นั้นยังมากกว่ามูลค่าตลาดของหุ้นที่ซื้อขายอยู่ในตลาดหุ้นในปัจจุบัน นั่นแปลว่าคุณได้พบเจอหุ้น Net-Net เข้าให้แล้ว
กวาดตามองในตลาดหุ้นไทย ผมก็ได้ไปพบกับหุ้นตัวหนึ่งที่มีคุณสมบัติของหุ้น Net-Net แบบเกรแฮมเข้าให้พอดี
หุ้นตัวที่ว่านี้มีมูลค่าตลาด ณ วันที่ 8 เมษายน 2554 อยู่ที่ประมาณ 570 ล้านบาท (หมายความว่าที่ราคาหุ้นปัจจุบัน นักลงทุนสามารถซื้อบริษัทนี้ได้ทั้งบริษัทด้วยเงิน ราว 570 ล้านบาท) เมื่อเราเปิดเข้าไปดูงบดุลของบริษัท ก็พบว่าบริษัทมีสินทรัพย์หมุนเวียนมูลค่าประมาณ 770 ล้านบาท และมีหนี้สินทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 44 ล้านบาทเท่านั้น
770 ล้าน ลบด้วย 44 ล้าน จะเหลือตัวเลขอยู่ที่ 726 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่ามูลค่าตลาดที่ 570 ล้านบาทอยู่ถึง 39.62% เลยทีเดียว
อธิบายความถูกของหุ้น Net-Net ตัวนี้ได้ว่า หุ้นตัวนี้มีหนี้สินน้อยมาก และหนี้ส่วนใหญ่ก็เป็นหนี้สินทางการค้าที่ไม่มีภาระดอกเบี้ยเลย สินทรัพย์หมุนเวียนของบริษัทก็มีมูลค่าสูงมากและอยู่ในรูปเงินสดกว่าครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว นี่ยังไม่นับรวมสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน เช่น ที่ดิน อาคาร และเครื่องจักรต่างๆของบริษัทซึ่งมีอยู่อีกพอสมควรด้วย
สำหรับผม นี่คือหุ้นในตมชัดๆ
แต่ผมก็ยังลังเลที่จะลงทุนในหุ้นตัวนี้่ นั่นเพราะเป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าการลงทุนซื้อหุ้น โดยส่วนใหญ่แล้วเราควรจะคำนึงถึง "ธุรกิจ" ที่หุ้นตัวนั้นๆมีอยู่ ซึ่งหุ้นตัวนี้ทำธุรกิจที่มีการแข่งขันค่อนข้างสูง มีคู่แข่งในตลาดมากมาย และดูเหมือนว่าธุรกิจอาจไม่มีอนาคตที่สดใสนัก
เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว หากเราตัดสินใจซื้อหุ้นตัวนี้ นั่นเท่ากับเรากำลังคาดหวังว่าซักวันหนึ่งจะมีคนมาเห็นความถูกแบบไม่น่าเป็นไปได้ของมันเหมือนกับเรา และมาช่วยเราซื้อจนหุ้นตัวนี้มีราคาตลาดรวมสูงขึ้นกว่า 726 ล้านบาท หรือไม่เช่นนั้นก็ต้องรอให้เจ้าของเบื่อแล้วจับ Tender Offer ออกจากตลาดไปแบบชิวๆ มากกว่าที่จะคาดหวังว่าธุรกิจของบริษัทจะเติบโตก้าวกระโดดในอนาคต
คำถามคือ แล้วเมื่อไหร่ที่คนส่วนใหญ่ในตลาดจะมาเห็นค่าของมัน? แล้วเมื่อไหร่ล่ะที่เจ้าของจะเอามันออกไปจากตลาด และจะซื้อที่ราคาไหน?
คงจะเป็นคำถามเหล่านี้นี่แหละที่น่าจะทำให้หุ้นตัวนี้เป็น "หุ้นในตม" ไปอีกซักพัก
Click "Like" & share my page on FB at ---> //www.facebook.com/pages/Thai-Dividend/166761113341304?v=wall or Follow me on Twitter at ---> //twitter.com/ThaiDividend
Create Date : 04 พฤษภาคม 2554 |
Last Update : 4 พฤษภาคม 2554 8:37:17 น. |
|
0 comments
|
Counter : 346 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|