กุมภาพันธ์ 2559

 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
22
23
25
26
29
 
 
15 กุมภาพันธ์ 2559
All Blog
ปีกความฝัน - นิพพานฯ

อยู่ในโหมดเก็บตกอยู่ค่ะ ไปเจอรีวิวหนังสือที่เคยตอบในเกมมหกรรรมหนอนหนังสือฯ ฤดูกาลต่างๆ ในห้องสมุด พันทิป
หลายเล่มลงไว้ในบลอกแล้ว หลายเล่มยังไม่ได้นำมาลง

นั่งอ่านมุมมองความคิดของตัวเองที่มีต่อหนังสือแต่ละเล่มแล้ว ก็อยากเก็บรวบรวมไว้ด้วยกัน ให้เห็นความคิดของตัวเองในวันเวลาที่ผ่าน และเผื่อว่าจะเป็นประโยชน์ในการแลกเปลี่ยนทัศนะกับเพื่อนนักอ่านนะคะ

จะค่อยๆ ทะยอยนำมาลงค่ะ 

เริ่มต้นด้วย




ปีกความฝัน

ผู้เขียน นิพพานฯ
จำนวน 366 หน้า
สำนักพิมพ์ผีเสื้อ
ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 2 พฤศจิกายน 2535 (พิมพ์รวมเล่มครั้งแรก สำนักพิมพ์กะรัต ธันวาคม 2534)
ราคา 117 บาท


ปีกความฝันเป็นเรื่องราวของ "ทวน" กับแม่ซึ่งเป็นผู้ป่วยจิตเวช ทวนกับแม่อาศัยอยู่ในสลัมแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ

ในวันที่มีงานฉลองกรุงฯ (แม้ว่าจะไม่ได้ระบุช่วงเวลาที่ชัดเจน แต่ฉากหลังของเรื่องนี้น่าจะเป็นระหว่างมีงานฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี ในปี พ.ศ.2525) แม่พาทวนเก็บข้าวของทิ้งบ้านในสลัมไป  พวกเพื่อนบ้านในสลัมมักจะพูดถึงแม่ในทางไม่ดี รวมถึงเรียกทวนว่าเป็น ไอ้ลูกผู้หญิงหากิน ทวนจึงคิดว่าดีเหมือนกันที่จะไปจากที่นั่นเสีย ทวนรู้ว่าแม่มีอารมณ์แปรปรวน บางครั้งก็พูดไม่รู้เรื่อง ฉุนเฉียว และแม่ชอบพูดถึงการเป็นคนมีชื่อเสียง ดูเหมือนเรื่องนี้จะเป็นเรื่องเดียวที่แม่จำได้ไม่ลืม ในคืนวันแรกที่จากบ้านมา หลังจากงานมหรสพรอบๆ สนามหลวงพักการแสดงลง ทวนกับแม่อาศัยนอนที่แถวรอบๆ สนามหลวง และได้เจอกับหญิงขอทานท้องโตแม่ลูกอ่อน และชาย-หญิงชราอีกคู่หนึ่ง เมื่อฟ้าสางทั้งสามคนได้ชวนทวนกับแม่ไปด้วยกัน ทวนได้รู้ในภายหลังว่า ชายชราเคยเป็นโรคเรื้อน แม้ตอนนี้จะรักษาหายแล้ว แต่ก็กลายเป็นคนพิการ นิ้วกุด ทั้งสามคนแอบอาศัยอยู่ในสุสานรถไฟ หรือบริเวณพักรถไฟที่ปลดระวางแล้ว ในตู้รถไฟจำนวนมากมายนั้น มีคนพิการที่เคยเป็นโรคเรื้อนอาศัยอยู่มากมายนับร้อย โดยมีชายชราเป็นเหมือนหัวหน้า ทวนได้ค้นพบว่าคนผู้พิกลพิการ รูปร่างหน้าตาอัปลักษณ์ น่าเกลียดน่ากลัวเหล่านั้น ล้วนมีน้ำใจอันประเสริฐ วันเวลาที่อยู่่ที่นั้น บางขณะเหมือนมีสายลมเย็นชื่นพัดมาสู่ชีวิตอันร้อนแล้ง มีแสงสว่างวูบไหวขึ้นในคืนวันอันมืดมัวของทวน แต่ความสติไม่ดีของแม่ก็นำเรื่องราววุ่นวายมาสู่ชุมชนอันเงียบสงบของคนเหล่านั้น ครั้งแล้วครั้งเล่า ทวนรักแม่ แต่ก็ไม่อยากให้แม่เป็นให้แม่ทำอย่างที่แม่ทำอยู่ ไม่อยากได้ยินใครพูดถึงแม่ในทางไม่ดี แม้จะรู้ว่าเป็นเรื่องจริง จะมีสิ่งใดช่วยปลอบประโลมหัวใจดวงน้อยๆ อันบอบช้ำ ที่โดนเหวี่ยงไปมาระหว่างความหวังกับความข่มขื่น ความฝันกับความจริง หรือเขาจะต้องติดปีกความฝันโบยบินไปพร้อมกับแม่


อ่านหนังสืออายุเกือบยี่สิบปีเล่มนี้จบด้วยความทึ่งอีกแล้วค่ะ แม้ว่าฉากหลังจะเป็นฉากเก่า สมัยยังมีการฉายหนังร้อยจอรอบสนามหลวง แต่เรื่องราวที่โลดแล่นอยู่บนฉากนั้น สดใหม่ราวกับเรื่องที่เราพบเจอในวันนี้ นาทีที่เพิ่งผ่านมา อ่านแล้วต้องบอกว่า นี่ไม่ใช่แค่เรื่องราวของคนบ้ากับคนโรคเรื้อนเมื่อหลายสิบปีก่อนเท่านั้น ยังมีเรื่องของสังคมด้านมืด (สลัม แก๊งค์ขอทาน การใช้เซ็กส์ต่างตอบแทน) ความเป็นผู้นำ (ชายชราต้องประกาศภาวะฉุกเฺฉินด้วยนะคะ Smiley) การอยู่ร่วมกันในสังคม ฯลฯ เรื่องราวเกือบทั้งหมดที่พบในเรื่องนี้ แทบจะเหมือนปัญหาที่เราเผชิญในทุกวันนี้จนน่าตกใจ ไม่รู้จะน่าดีใจหรือน่าเศร้าใจสำหรับผู้แต่ง ว่าช่างมองการณ์ไกล เขียนภาพอนาคตเกือบยี่สิบปีได้ชัดเจนราวตาเห็น หรือว่า ข้อสังเกตปัญหาต่างๆ ที่เคยเสนอไว้ตั้งเกือบยี่สิบปีก่อน ไม่ได้รับความใส่ใจ ไม่มีใครตระหนักถึง ปัญหาเดิมๆ ยังเกิดและขยายวงใหญ่โตจนน่ากลัว Smiley

แม้ว่าเรื่องราวของทวนจะค่อนข้างเศร้า และน่าหดหู่ แต่ดิฉันเชื่อว่าหนังสือเล่มนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ที่ได้อ่านนึกอยากจะทำสิ่งดีๆ เพื่อคนอื่นค่ะ

คุณนิพพานฯ เขียนหนังสือเล่มนี้ ด้วยแรงบันดาลใจจากชายชราโรคเรื้อน และหญิงเสียสติกับลูกชายเล็กๆ ที่ได้รู้จักและพูดคุยด้วยบ่อยๆ  การบรรยายเกี่ยวกับอาการทางจิตของตัวละครในเรื่อง และคำลงท้ายที่เขียนโดยจิตแพทย์ผู้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับโรคจิตเวชกับคุณนิพพานฯ ทำให้เราได้รู้จักกับโรคจิตเวชในระดับหนึ่งค่ะ


หมายเหตุ ความคิดเห็นนี้ บันทึกครั้งแรกเมื่อปี 2553



Create Date : 15 กุมภาพันธ์ 2559
Last Update : 15 กุมภาพันธ์ 2559 16:37:10 น.
Counter : 4192 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เที่ยงวัน
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]