เรื่องวุ่นวายของชีวิตในแต่ละวัน
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2555
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
5 พฤษภาคม 2555
 
All Blogs
 
Who are we?

เราทั้งสองไม่ได้พูดอะไรมากนักในเรื่องนี้ต่างเงียบๆจมอยู่ในความคิดของตัวเองและหาข้อมูลไปเงียบๆ

เราได้รู้ว่าเวียตนามแปรรูปฟักข้าวออกมามากมายชนิดไม่ว่าจะเป็นผง แคปซูล น้ำมันหรือแม้แต่ขายเมล็ดพันธ์ออนไลน์

เราได้รู้ว่าผลสดมีขายปลีกอยู่ที่ตลาดน้ำบางน้ำผึ้งผลละ50 บาท แต่ไม่ใช่จะมีทุกครั้งเราได้รู้ว่ามีพันธ์เวียตนามมาปลูกเมืองไทยขายที่จตุจักรมีผลสดขายด้วยแบบตัดใจขายผลละ 200 บาท

“งั้นเรามาปลูกขายกันดีกว่าลูกละตั้งสองร้อย” ฉันบอกเพื่อนไปแบบขำๆ “เหลือก็เอามาทำน้ำขาย”

“เอาสิ ทำเลยพ่อเขามีที่ที่โคราชอยู่สักสิบกว่าไร่ น่าจะปลูกได้เป็นร้อยต้น”เพื่อนสุดรักของฉันตอบแบบไม่ต้องคิด โอ็ยทำไมไม่มีคนอย่างนี้เกิดมาให้เต็มโลกนี้นะโลกคงน่าอยู่ขึ้นอีกเยอะ เมื่อคิดแบบนี้ เราจึงได้เริ่มสนุกกับการแข่งขันกันหาข้อมูลต่อแน่ละว่าฉันต้องเป็นผู้ชนะอยู่แล้ว ไม่ใช่เพราะเก่งกว่าหรอกแต่ฉันมีลูกบ้ามากกว่าต่างหาก

ฉันพบว่ามีคนขายเมล็ดพันธ์ฟักข้าวแบบนับเมล็ดขายราคา3-5 บาท ขายต้นกล้าราคาตั้งแต่ 10-20 บาท ชื่อว่าพี่บุญสุข ฉันขอเข้าดูไร่ฟักข้าวว่ามันมีหน้าตาอย่างไร พี่เค้าเองยินดี

พี่บุญสุขนัดเราที่ข้างทางที่จะมุ่งหน้าไปสวนผึ้ง ราชบุรี เมื่อไปถึงที่นัดหมายเขากระโดดขึ้นรถทันทีแบบไม่ต้องพูดพล่ามทำเพลงให้เสียเวลา เราทักทายทำความรู้จักระหว่างมุ่งไปไร่ฟักข้าว เขาจะเป็นคนพูดคุยซะมากกว่า พวกเราก็ฟังไปเรื่อยๆ

ฉันแอบมองเขาทางกระจกมองหลังด้วยความผิดหวังเล็กน้อย จากการคุยกันทางโทรศัพท์ก่อนฉันจะเดินทางออกมาฉันวาดภาพว่าเราจะมาเจอเจ้าของไร่ที่หลงใหลฟักข้าว ทุ่มเทกับการปลูกมีความรู้แบบนักวิชาการ แต่งตัวเท่ๆแบบชาวไร่ในหนังประเภทขี่ม้าสวยๆชมไร่ เฮ้อตื่นๆได้แล้ว นี่มันชีวิตจริงนะ เธอยังติดภาพความคิดแบบคนเมืองที่ติดภาพลักษณ์ ฉันเตือนตนเอง

“ผมมีลูกไร่อยู่ร้อยกว่าไร่ในเขตราชบุรีนครปฐม เราต้องการกว่าพันไร่ เรารับซื้อผลิตผลทั้งหมด ราคา 15 บาทต่อกิโลกรัม”

แล้วกิโลกรัมละ 200 ที่ฉันเห็นในจตุจักรละ มันต่างกันราวฟ้ากับเหวเชียวนะ ฉันโวยวายในใจแต่หูก็ฟังเขาเล่าไปเรื่อยๆ ปากคนเรามีแค่ปากเดียวแต่หูมีสองข้างนั่นหมายถึงว่าฉันต้องฟังมากกว่าพูดใช่ไหมฉันคิดขณะที่เลี้ยวเข้าถนนลูกรังเล็กๆเพื่อเข้าไปในไร่ฟักข้าว

ไร่ที่เราไปชมนี้เป็นไร่ของคุณป้าคนหนึ่งที่ซื้อต้นกล้าจากเขาปลูกมาปีหนึ่ง ขณะนี้เริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้วป้าบอกว่าลูกสาวคุณป้าเป็นอาจารย์ที่ ม. เกษตรรู้จักฟักข้าวเนื่องจากอาจารย์ท่านนี้มีซีสต์ที่หน้าอกจึงมองหาแนวทางธรรมชาติที่จะบำบัดโดยไม่ผ่าตัดหรือใช้ยาปรากฏว่าลูกสาวเธอลองทานฟักข้าวมาประมาณเกือบปี ก้อนเนื้อเล็กๆนั้นค่อยๆเล็กลงเธอจึงเชื่อว่าฟักข้าวนี่ละคือคำตอบของวิถีชีวิตข้างหน้าของมนุษย์ จึงตัดสินใจรวบรวมเงินเก็บมาซื้อที่แถบราชบุรีเพื่อปลูกฟักข้าวโดยเฉพาะ มันน่าทึ่งนะว่าไหม

เราลากลับพร้อมความอิ่มเอมสุขใจที่ได้เห็นลูกฟักข้าวจริงๆที่ห้อยโตงเตงเต็มไร่จากที่เคยเห็นแต่ในอินเตอร์เน็ตเราตัดสินใจว่าเราจะปลูกฟักข้าวก่อนหน้าฝนที่จะถึงในที่ดินของพ่อตุ๊ที่เคยเป็นโรงตากมันมาก่อน

ที่ที่ว่านี้อยู่ริมถนนโชคชัยนครราชสีมา ด้านหน้าติดถนนใหญ่ ด้านหลังติดถนนเล็กๆเข้าชุมชนมีอ่างเก็บน้ำอยู่ไม่ไกล น่าจะเชื่อได้ว่าเราคงมีน้ำพอสำหรับการเพาะปลูก ในพื้นที่ส่วนกลางนั้นเทปูนไว้เพื่อตากมันประมาณ5 ไร่ ส่วนที่เราตั้งใจจะปลูกนั้นเป็นที่ด้านหลังยาวไปจนสุดถนนเล็กๆราวๆ 4 ไร่จากการสอบถามคนขายกล้าฟักข้าวคือเราต้องถางดินตากดินไว้สักอาทิตย์เพื่อให้วัชพืชตายแล้วจึงยกร่องเพื่อที่จะปักเสาปูนทำนั่งร้านให้ฟักข้าว ลักษณะคล้ายกับการปลูกองุ่นบางไร่ต้องการประหยัดเงินลงทุนในการเริ่มปลูกก็อาจจะใช้เสาไม้ไผ่ซึ่งเพียงปีสองปีต้นฟักข้าวอาจจะล้มได้

โอเคเราจะทำการเกษตรแบบสมัยใหม่ทุกอย่างต้องดีเลิศ ถูกต้องสวยงามแต่แค่การไถพลาญพื้นที่ 4 ไร่เราถูกเรียกไปถึงหมื่นสองพันบาท ถ้าจะให้ยกร่องก็ต้องเพิ่มอีกสามพันลุงเจ้าของรถไถที่เราติดต่อบอก เอาวะ หมื่นก็หมื่นเราสองคนผู้ไม่เคยรู้เรื่องการเกษตรใดๆมาก่อนกัดฟันจ้าง เพราะเราไม่ใช่คนพื่นที่ไม่รู้จักใคร ไม่เคยรู้ว่าราคามาตรฐานเป็นเท่าไหร่แต่ความอยากเห็นไร่ฟักข้าวของเราเองก็ทำให้เราต้ดสินใจจ้างไป

ในวันเดียวพื้นที่รกๆก็ราบพนาสูญ เราจึงเริ่มวางแผนที่จะปลูก โดยเริ่มจากเสาปูนขนาด 3x2.5ราคาต้นละ 95 บาท ต่อไร่ใช้ประมาณ 400 ต้นแล้วก็คูณจำนวนไร่เข้าไปก็จะตกอยู่ราวๆ แสนห้า ค่าจ้างลงเสาต้นละ 200บาท ค่ากล้าต้นละ 10 บาท ค่าปลูกต้นละ 2บาท เอาละทั้งหมดยังไม่ใช่ปัญหาที่เป็นปัญหาคือแล้วใครจะเป็นคนคอยดูแลกล้าน้อยๆเหล่านี้จนกว่ามันจะแข็งแรงซึ่งคงไม่ใช่เราสองคน สาวชาวกรุงที่ไม่เคยปลูกอะไรมาก่อนในชีวิตหรือถ้าเราจะต้องมาดูจริงๆ เราจะพักที่ไหน แล้วงานของฉันละ ฉันคิดวุ่นวายในใจเกลียดตัวเองจริงๆเลยในเรื่องความใจร้อนจะเอาให้ได้อย่างใจโดยไม่คิดทบทวนให้ดีเสียก่อน ฉันถอนใจก่อนจะชวนกันกลับ กทม.

หลังจากเสียเงินค่าไถไปหนึ่งหมื่นสองค่ากินอยู่ไปอีกสามพัน เราสองคนก็ต่างไม่เอ่ยถึงเรื่องนี้อีกต่างคนต่างกลับไปคิดวิธีแก้ปัญหาในแบบของตัวเอง ฉันพยายามถามหาญาติหรือคนรู้จักของพนักงานโรงงานที่เป็นคนนครราชสีมาแต่ไม่มีใครว่างพอที่จะไปดูแลไร่ให้ได้ เฮ้อ...

ทุกปัญหาต้องมีทางออกสิ

เราสองคนยังคงแกล้งทำเป็นลืมว่าที่ที่ไถไว้กำลังรอการปลูกจากเราก่อนที่ฝนจะมาเพราะนั่นหมายถึงหญ้าและวัชพืชรอบใหม่จะขึ้นด้วยการทำเป็นยุ่งกับการหาข้อมูลต่อไป ฉันศึกษาวิธีการทำน้ำผลไม้บรรจุขวดศึกษาวิธีการพาสเจอร์ไรส์และสเตอริไรส์แล้วก็ดูไปเรื่อยๆว่ามีใครในตลาดที่ผลิตน้ำฟักข้าวออกมาขายบ้างในระดับบนที่วางบนห้างและร้านสะดวกซื้อจะมียี่ห้อดังอยู่เจ้าหนึ่งที่รสชาติไม่ถูกชะตากับฉันและมีสินค้าขายตรงเจ้าดังจากอเมริกาในราคาขวดละสองพันกว่าบาทที่ต้องนำมาทานเป็นช็อตที่เหลืออีกสองเจ้าก็เป็นตลาดล่าง ประเภทโอทอปนับว่ายังเหลือพื้นที่ในตลาดให้ฉันยืนไม่รู้ว่าแบบนี้พอจะเรียกว่าทะเลสีครามได้ไหม

บางทีฉันอาจจะมีจุดเริ่มที่ผิดๆแต่พอมองย้อนกลับไป การที่ฉันรู้ว่าคู่แข่งคือใคร ทำให้ฉันรู้ว่าฉันคือใครฉันไม่เคยเห็นภาพตัวเองจนกว่าฉันจะเห็นว่าสิ่งที่คนอื่นเป็นนั้นฉันชอบหรือไม่ชอบอะไรบางทีเราไม่รู้จักความมืดจนกว่าจะมีความสว่างเข้ามา และมาถึงตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าน้ำฟักข้าวฉันจะเป็นอย่างไร

ระหว่างนั้นมีงานแสดงสินค้าเกี่ยวกับอาหารชื่องานFood Ingredient World จัดขึ้นที่ศูนย์ประชุมสิริกิตต์ซึ่งฉันและเพื่อนรักย่อมไม่พลาดอยู่แล้วแต่คุณเอ้ย...อย่าให้พูดเลยหลังจากกลับจากงานครั้งนั้น ฉันไม่กล้ากินอะไรเลยให้ตายเถอะ

ฉันไม่สงสัยเลยทำไมทุกวันนี้คนจึงไม่ค่อยแก่ตายแต่จะตายด้วยโรคมะเร็ง เบาหวาน หัวใจ ความดัน ฯ เป็นส่วนใหญ่ซึ่งคุณจะพบคำตอบได้ในงานนี้ ขายกาแฟถ้าอยากให้กาแฟหอมโดดเด่นเตะจมูกลูกค้ามีกลิ่นขาย ทำเสต็กให้เก็บได้นานขึ้น เนื้อนุ่มขึ้น สีสันน่ากิน เติมผงเสต็ก ทำไอศกรีมอยากเพิ่มปริมาณลดค่าใช้จ่าย เพิ่มความหอม มีทุกอย่างที่สามารถปรุงแต่ง แม้กระทั่งซาลาเปาแป้งนุ่มนิ่ม ไส้นุ่มลิ้น ฟูหนารสชาติกลมกล่อม เหล่านี้ล้วนถูกปรุงแต่งด้วยสารสังเคราะห์ได้ทั้งสิ้น

เราสองคนเหมือนคนพลัดหลงเข้าดินแดนอาหารพลาสติคผู้จำหน่ายสารปรุงแต่งคนหนึ่งถามฉันว่าฉันอยากจะมีต้นทุนต่อขวดสำหรับเครื่องดื่มที่จะทำเท่าไหร่เธอสามารถถอดสูตรออกมาให้ได้ จะเอาผลไม้อะไร ใส่วิตามินไหนบ้างใส่สารสังเคราะห์ประเภทแอลคาร์นิทืน กลูต้าไธโอน หรือแม้กระทั่งทำให้หน้าเด้งมีทั้งนั้น

“แล้วไม่มีของจริงเลยเหรอคะ”ฉันถามด้วยความอยากรู้

“ของสดของจริงจะทำให้เสียง่ายค่ะ แต่ถ้าเป็นผงแบบนี้เก็บไว้ได้เป็นปีไม่มีเสียค่ะต้นทุนก็ต่ำกว่า อย่างถ้าคุณริสาอยากได้ต้นทุนที่สิบบาทก็เลือกส่วนผสมได้ถึง 5ตัวนี้เลยนะคะ อย่างตัวนี้ช่วยลดไขมันหรืออย่างคิวเทนก็กำลังนิยม ลูกค้ารู้จักก็จะซื้อง่ายขายคล่องลองชิมสูตรที่เรานำมาโชว์ตัวนี้สิคะ ต้นทุนอยู่ที่ขวดละไม่เกิน 5 บาทเท่านั้น” พนักงานขายหญิงหน้าตาหมดจดยื่นน้ำสีสวยมาให้ฉัน

อืม อร่อยดีแฮะแล้วก็ถ้าต้นทุน 5 บาทรวมค่าขวดสักบาทสองบาทฉันก็กำไรอื้อเลยสิ แล้วฉันก็ไม่ต้องใช้ผลสด ไม่ต้องทำไร่ที่หาคนดูแลไม่ได้ไม่ต้องวุ่นวายว่าต้องรีบขายเพราะของจะเสีย

แต่...

ฉันเองยังรู้สึกกลัวสารปรุงแต่งที่เห็นอยู่เป็นร้อยๆรายในฮอลล์แห่งนี้ถ้าฉันยังไม่กล้ากินแล้วฉันกล้าขายให้คนอื่นกินจริงๆเหรอฉันจะพูดได้เต็มปากหรือว่าฟักข้าวดีมีประโยชน์ ถ้ายังต้องใส่สารปรุงแต่งพวกนี้

ไม่...เราสองคนหันมามองตากันฉันรู้ว่าเพื่อนฉันก็คงคิดแบบเดียวกับฉัน เราสัญญากันว่าเราจะทำของจริง ผลไม้จริงวิตามินจริง และที่สำคัญเราจะไม่ใส่สารไม่จริงในน้ำของเรา ถ้าเราจะด้อยกว่าคู่แข่งเพียงเพราะว่าเราไม่มีสารทำให้ตัวขาวทำให้หน้าเด็กลง เราก็จะยอมรับความด้อยนั้นเพียงเพราะเราอยากเป็นของจากธรรมชาติของจริง

ถ้าแม้แต่ตัวเราเองยังไม่สามารถพูดได้เต็มปากว่าสิ่งที่นำเสนอต่อลูกค้าคือสิ่งที่ดีที่สุดประณีตที่สุด ของจริงที่สุดแล้วละก็ เราก็ไม่หวังว่าจะสามารถดึงดูดใครให้เป็นลูกค้าได้หรอกเพราะเราหลอกไม่ได้แม้แต่ตัวเอง

มาถึงตอนนี้เรายังไม่มีอะไรสักอย่าง ไม่มีโรงงานที่จะผลิตให้ในจำนวนทดลองขายก่อนไม่มีฟักข้าวที่จะนำมาผลิตและต่อให้มียังไม่รู้เลยว่าต้องซื้อจำนวนเท่าใดจึงจะเพียงพอถ้าจะมีก็คงที่ที่ไถพลาญไว้พร้อมวัชพืชที่กำลังเติบโต

บริษัทขายวัตถุดิบโทรหาฉันหลังจากงานแสดงสินค้าจบลงพร้อมข้อเสนอที่ฉันไม่อาจปฏิเสธได้

“เรามี Contactกับโรงงานที่รับผลิตจำนวนน้อยได้ราคาก็ตามที่เรากำหนดหลังจากที่แหม่มสืบค้นข้อมูลฟักข้าวแล้วก็ติดว่าที่นี่จะช่วยพี่ได้”

“เหรอ มีโรงงานผลิตจำนวนน้อยๆด้วยเหรอว้าวดีจังงั้นนัดกันเลย” ฉันยินดีปรีดาอย่างที่สุด เอาน่าอย่างน้อยก็มีดรงงานในมือ

เราสองคนแจ้นไปหาน้องแหม่มที่ออฟฟิศทันที

“เราจะพัฒนาสูตรให้พี่จนกว่าพี่จะพอใจแล้วจะส่งสูตรนี้ให้กับโรงงานอีกทีหลังจากนั้นโรงงานจะผลิตตัวอย่างตามสูตรนี้ส่งมาให้ ถ้าพี่พอใจก็สั่งผลิตทางโรงงานระหว่างนี้ก็จะเดินเรื่องขอหมายเลข อย. ให้ ค่าใช้จ่ายในการขอหมายเลข อย.ก็ราวๆสองหมื่น”

“พัฒนาสูตรแบบไหนละพี่จะเอาของจริงนะ”

“มันคงต้องผสมของจริงกับตัวสังเคราะห์ค่ะเพราะไม่เช่นนั้นแล้วพี่สู้คู่แข่งไม่ได้หรอก ราคาของสดจะแพงกว่าเยอะอย่างเท่าที่ฟังพี่ ราคาไม่น่าจะหนี 16 บาทต่อขวด” น้องแหม่มตอบ

“อืมแต่ถ้าพี่ไม่ชอบสูตรละ”

“เราก็จะพัฒนาจนกว่าพี่จะชอบ”เจ้าหล่อนตอบอย่างมั่นใจ “ไม่เกินสามครั้งเราก็สรุปได้แล้ว”

“งั้นก็ลองดู”ฉันตอบแบบหมดทางสู้ ก็ในเมื่อมั่นใจขนาดนี้ ฉันจะว่าอะไรได้ละ




Create Date : 05 พฤษภาคม 2555
Last Update : 5 พฤษภาคม 2555 12:55:11 น. 2 comments
Counter : 3345 Pageviews.

 
ฟังดูน่าสนุกจริงครับ
จะได้มีชาวสวนเพิ่มขึ้นอีกคนละ


โดย: ริว (lARtZnolASt ) วันที่: 5 พฤษภาคม 2555 เวลา:19:20:13 น.  

 
ใช่ค่ะ เราเองก็ Go so far แล้วค่ะ ติดตามดูนะคะ


โดย: สาวช่างถาม วันที่: 18 พฤษภาคม 2555 เวลา:17:49:27 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

สาวช่างถาม
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




Friends' blogs
[Add สาวช่างถาม's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.