อยู่ที่ไหนก็ไม่สุขใจเหมือนประเทศไทยเรา...ขอโทษด้วยนะคะที่เจ้าบ้านไม่ค่อยได้อัพเดทเลย อย่าเพิ่งโกรธกันนะคะ ไม่มีเน็ตเล่นหง่า... :( “Just being alive is such a lovely and wonderful thing”. - Aya (1 litre of tears)

Group Blog
 
 
เมษายน 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
5 เมษายน 2551
 
All Blogs
 
ป่วยขำๆ

อรุณสวัสดิ์..อรัสวุน ผู้ที่อยู่ใน time zone ช่วงเช้าของวันใหม่นะคะ (",)

วันนี้แอ้ลุกมาเขียน blog แต่เช้า เพราะหงุดหงิดค่ะ ช่วงนี้เป็นไรไม่รุ นอนไม่

ค่อยหลับเลย หลับประมาณตี 4 มาหลายวันติดๆ กันแล้ว โดยเฉพาะเมื่อคืน

นี้ ซึ่งหลับไปตอนเกือบ 6 โมงเช้าแน่ะ ตอนแรกก็กะว่าจะไม่นอนแระ เพราะ

เดี๋ยว 7 โมงครึ่งก็ต้องตื่น (มีเรียนเช้าวันเสาร์ค่ะ) แต่ก็นอนนนนนนนนนนนน

ไป นอนขำๆ ไปงั้น หลับก็ช่างไม่หลับก็ช่าง ดีนะไม่ลุกขึ้นมา

เขียน blog ตั้งแต่ 6 โมงเช้า 555...


นอนพลิกตัวไปมา ก็เลยได้ idea มาเขียน blog รวมมิตรเรื่องขำขำซะเรย


++มาว่ากันที่เรื่องแรก...




@ป่วยขำๆ@

ไม่ได้ไปแกล้งป่วยการเมืองใส่ใครหรอกนะคะ แต่ว่าป่วยจริงๆ ค่า อ้าว..แล้ว

ขำยังไง? ก็ตอนแรก มันก็ serious อยู่หรอกนะ เพราะก่อนเดินทางมา

Australia แอ้เป็นไวรัสตาอักเสบชนิดนึงที่เรียกว่า "Adino Virus no. 8"

ประมาณ 2 อาทิตย์ก่อนที่จะขึ้นเครื่อง แอ้ก็ไปวัดสายตาตัดแว่นเพื่อเตรียม

พร้อมเดินทางค่ะ แต่ปรากฏว่า วัดเท่าไหร่ๆ ก็หาเลนส์ตาที่เหมาะสมไม่ได้

ปรับเลนส์เพิ่มขึ้น เพิ่มเลนส์เอียงให้ ก็ไม่ได้ผล มองแล้วเบลอ ไม่มี focus

เลยค่ะ พี่ที่เค้าวัดสายตาให้ที่ร้านหอแว่นก็แนะนำค่ะว่า อาจจะเป็นเพราะพัก

ผ่อนน้อยรึป่าว ลองไปนอนพักสักวันสองวันค่อยมาตัดใหม่ดีกว่า วันนั้นก็เลย

ยังไม่ได้ตัดแว่นค่ะ กลับไปพักตามที่บอก แล้วก็มาใหม่ในอีกสองวันถัดมา

แล้วก็เกิดอาการเดิมขึ้นค่ะ!! เครื่องวัดสายตาอ่านค่าเลนส์ตาออกมาได้แตก

ต่างจากประวัติเดิมที่มีอยู่มาก (เดิมสั้นประมาณ 200 แต่ว่าเครื่องอ่านค่ามา

ประมาณเกือบ 300 และเอียงอีกเกือบ 100) โอ้ว...แม่เจ้า ทำไงดีล่ะ เกิด

อะไรขึ้นกับช้านนนนนนนนนน คราวนี้ พี่ที่วัดสายตาให้ตอบอย่างมั่นใจเลย

ว่า ผิดปกติและ ไม่ได้เป็นเพราะสายตาสั้นขึ้นหรือเอียงขึ้นแน่นอน ต้องเป็น

โรคเกี่ยวกับตาแน่ๆ เลย เค้าก็มีจรรยาบรรณมากๆ ไม่ยอมตัดให้จนกว่าจะ

แน่ใจว่าเป็นอะไรกันแน่ (ขอยกเครดิตให้ร้านหอแว่น สาขา Avenue แจ้ง

วัฒนะ มา ณ ที่นี้ ขอบคุณจากใจจริง) เลยแนะนำให้ไปหาหมอตาค่ะ ซึ่งตอน

แรกแอ้ก็เลือกที่ที่ใกล้บ้านที่สุดก่อนคือ โรงพยาบาลหู ตา คอ จมูก แถวๆ

สายใต้ใหม่ ปิ่นเกล้า ผลปรากฏว่า เค้าบอกว่ามีปัญหาที่กระจกตา แล้วก็ให้

ยาหยอดตามายกใหญ่ แต่ว่า..หาหมอคนเดียวก็กลัวจะไม่ได้ผล เพราะรู้สึก

มันผิดปกตินะ ก็เลยไปหาหมออีกที่นึงซึ่งพี่คนนี้แนะนำมาให้ เป็นหมอที่มี

คลินิกอยู่ที่สีลมค่ะ ตอนแรกพี่เค้าอยากจะให้ไป รพ. รัตนินทร์ ซึ่งถ้าไปที่

นั่น หายชัวร์.. แต่ว่ามันไกลน่ะ แอ้ก็เลยลองไปที่สีลมก่อน พอคุยกับหมอ

สักพัก ใจเสียเลยสิคราวนี้ ก็หมอดันบอกว่าคุณมีการติดเชื้อที่กระจกตา

อันตรายมาก อาจจะต้องผ่าตัด ไม่งั้นตาบอด

หา!!..ผ่าตัดเหรอ!???????!.. แล้วจะมา Australia ได้ยังไงล่ะ??

เหลืออีกไม่กี่อาทิตย์แล้วนะ ไม่ได้นะ ทำเรื่องทุกอย่างไว้พร้อมแล้ว...

ไม่ยอมค่ะ ถามหมอต่อ ว่าพอจะแนะนำคุณหมอเก่งๆ ที่โรงพยาบาลไหนให้ได้บ้าง

หมอก็เลยต่อสายตรงไปยังหมอตาที่ รพ.บำรุงราษฎร์ ว่าให้รับคนไข้พิเศษหน่อย


จากนั้น แอ้ก็บึ่งไปยัง รพ.บำรุงราษฎร์เลยค่ะ วันนั้นเป็นวันที่ทุลักทุเลเรื่องการหาที่จอดรถมากๆ

แถมยังต้องรีบอีก เพราะเหลืออีกไม่กี่ชั่วโมง หมอก็จะกลับบ้านแล้ว

ก็เลยไปจอดรถที่ลานจอดหน้า BTS จตุจักร แล้วก็ต่อ BTS ไปลงอโศก รุดไปยังที่หมาย

โชคดีค่ะ ที่พยาบาลเค้าทำประวัติคนไข้ให้ล่วงหน้า (หมอลัดคิวกันให้น่ะ)

เจอหมอปุ๊บ ก็โดนถ่างตาปั๊บ (ช่วงนั้นตาระบมไปเลยค่ะ ไม่รู้กี่หมอต่อกี่หมอ หยอดยามาก็เยอะ)

หมอก็เลยถามอาการซักไซ้อย่างละเอียด แอ้ก็บอกไป แล้วก็เอะใจขึ้นได้ว่า

ก่อนหน้านี้ (ไม่ถึงอาทิตย์) แอ้ใส่ contact lens ลงสระว่ายน้ำค่ะ คิดว่าไม่เป็นไร

ก็เลยใส่ลงไปเล่น เพราะว่ายแค่แป๊บๆ ไม่ถึงชั่วโมง เผอิญลืมตลับเก็บ contact มาด้วยล่ะ

ก็เลยไม่ได้ถอดมันออกนะ... หมอก็ถามเลยค่ะว่า ใส่ contact lens มานานแค่ไหนแล้ว

เพราะดูจากกระจกตาแล้ว น่าจะเป็นผลจาก contact ที่ใส่มาเป็นแรมปี มันก่อตัวสะสม

จนกระจกตาดูเขรอะ เลอะ เปรอะเปื้อนไปหมด แถมเยื่อบุตาก็ยังอักเสบรุนแรงด้วย

คำตอบก็คือ..ใส่มาประมาณ 4 ปีได้แล้วล่ะ (เป็นแบบรายเดือนค่ะ) หมอวินิจฉัยสักพัก

ก็บอกว่า คุณน่าจะติดเชื้อไวรัสที่ตานะ..."แต่หมอบอกไม่ได้ว่า เป็นเชื้อไวรัสชนิดไหน"

อ้าว!!! แล้วไงล่ะเนี่ย ไม่รู้ว่าเป็นไร...แต่หมอดู serious มากนะ แล้วก็บอกว่า

ถ้าต้องไปตปท.จิง ก็จำเป็นต้องกลับมาดูอาการด่วน เพราะไม่รู้ต้องผ่าตัดรึป่าว โอย..กรรมจิงจิ๊งงงง

สรุป เค้าก็เขียนใบ referee ให้เก็บไว้ยื่นให้หมอที่นี่ค่ะ แล้วก็ได้ยาหยอดตามา กับน้ำตาเทียมอีกกล่องใหญ่ๆ

ช่วงนั้นเป็นกังวลมาก นอนคิดทุกคืนเลยว่า จะได้มา Aus มั้ยเนี่ย แล้วจะเกิดไรขึ้นหลังจากนั้น

แต่ก็เสี่ยงมาค่ะ เพราะจัดการธุระทุกอย่างแล้วนี่ จะ cancel ก็ไม่ได้ ค่าเทอม ค่า homestay

ทุกอย่างจ่ายไปเรียบร้อยแล้ว โฮ..กลุ้มใจจัง แต่ก็แอบมีหวังเล็กๆ นะว่า

หมอที่ Aus ต้องรักษาให้หายได้น่า...

พอมาถึง host ของแฟน ก็จัดการหาเบอร์โทรศัพท์ของ คลินิคตาให้ค่ะ

แล้วก็ได้ชื่อหมอมาเสร็จสรรพ ตอนแรกเข้าไปในตัวคลินิค ไม่น่าเชื่อเลยว่า

เค้าจะรักษาเราให้หายได้ เพราะมันเป็นคลินิคเล็กๆ คนแก่นั่งรอคิวเต็มเลย

แต่จริงๆ แล้ว ... พอเข้าไปหาหมอ หมอเปิดตา เอาไฟส่อง หยอดตาแป๊บเดียวเท่านั้นแหละ

รู้ผลเลยค่ะ!! เป็นไวรัสที่บอกน่ะแหละ แต่หมอสามารถชี้ชัดได้ภายในไม่กี่นาทีว่า

ไวรัสตัวนี้ชื่ออะไร แล้วก็บอกด้วยว่า ไม่ต้องกังวล ไวรัสชนิดนี้เจอบ่อยมากกกก ที่ Aus

คนเป็นกันเยอะ หยอดยาตามที่หมอสั่ง ประมาณ 1 - 2 เดือนก็หาย

โว้ว...โล่งงงงงงงงงงงงงงงงงงง แต่เอ๊ะ??... เป็นไวรัสที่เจอใน Aus เยอะ

แล้วทำไมมันไปโผล่ที่ไทยหว่า หมอที่ไทยก็ไม่รู้จัก นึกอีกที ก็รู้สึกดีจัง

เหมือนฟ้าลิขิตให้มารักษาให้หายที่ Aus นะ เพราะอยู่ไทยต่อไป ก็ไม่รู้ว่า

คุณหมอคนนี้จะบอกได้รึป่าวว่าเป็นไร แล้วรักษายังไงให้หาย ขืนโดยจับผ่าตัดตาล่ะยุ่งเลย

ดีใจเอ๊ย ดีใจจัง เหมือนได้ชีวิตใหม่กลับมาอีกครั้ง

ไปหาหมอบ่อยหน่อย แต่ก็สังเกตว่าอาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ หมอตาที่นี่ เยี่ยมจริงๆ

นี่แหละน้า..ป่วยขำๆ เป็นโรคตาเด็กๆ ของที่นี่ (แต่เป็นเรื่องใหญ่สำหรับที่ไทย...ซะงั้น)

ขอบคุณคุณหมอจริงๆ...credit to Dr.Wise (Eyes Clinic, South Hobart)



Create Date : 05 เมษายน 2551
Last Update : 12 เมษายน 2551 12:59:17 น. 1 comments
Counter : 821 Pageviews.

 
ดีใจด้วยค่ะ เหมือนฟ้่าสั่งให้มาอยู่ที่ออสนะคะ อิอิ


โดย: thaispicy วันที่: 5 เมษายน 2551 เวลา:5:36:38 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

cadeau
Location :
Tasmania Australia

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]




Friends' blogs
[Add cadeau's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.