Study room หรือห้องทำงาน, ห้องทำการบ้าน, ห้องอ่านหนังสือ หรือตามแต่จะเรียกไปได้อีกมากมาย ขึ้นอยู่กับกิจกรรมที่เกิดขึ้นในห้องนี้ อาจเป็นห้องสักห้องของบ้านที่ต้องการใช้สมาธิ ในการทำกิจกรรมนั้นๆ แทนที่จะแยกย้ายไปทำงานในห้องใครห้องมัน หรือบางครั้งต้องใช้โต๊ะกินข้าวกลางบ้านแทนโต๊ะทำงาน พอจะกินข้าวทีก็ต้องย้ายของออกจากโต๊ะ ทำให้การใช้งานอยู่ผสมปนเปกันไปหมด ยิ่งถ้าบ้านเรามีลูกๆ ในวัยเรียน มีงานอดิเรกของแต่ละคน จัดห้องสักห้องของบ้านให้ได้ประโยชน์ตรงตามการใช้งาน ความรกก็จะไม่กระจัดกระจายไปทั่วบ้าน แถมมีพื้นที่ที่ได้ใช้เวลาร่วมกันกับทุกคนในบ้านอีกด้วย
มาจัดห้อง Study room กันเถอะ...
1.ควรระบุกิจกรรมให้ชัดเจนก่อนว่าจะมีการใช้งานประเภทใดบ้างในห้องนี้ เช่น อ่านหนังสือ ทำการบ้าน เย็บผ้า แกะยางลบ ต่อจิ๊กซอว์
2.กิจกรรมแต่ละประเภทอาจต้องการเฟอร์นิเจอร์ที่แตกต่างกัน เช่น
-อ่านหนังสือ ควรมีเก้าอี้ที่นั่งสบาย แสงสว่างที่เพียงพอ
-ใช้คอมพิวเตอร์ เก้าอี้ กับ โต๊ะ ควรมีความสูงที่เหมาะสมกับผู้ใช้งาน หรือสามารถปรับความสูง-ต่ำได้-และไม่ลืมตำแหน่งปลั๊กไฟในตำแหน่งที่เข้าถึงได้ง่าย
-เย็บผ้า แสงสว่างเพียงพอสำหรับงานที่ต้องการความละเอียด โต๊ะทำงานกว้างพอสำหรับการกางผ้าทำงาน มุมจัดเก็บอุปกรณ์ชิ้นเล็กๆ หยิบใช้สะดวก
-งานประดิษฐ์, งานฝีมือนอกจากความสูงของโต๊ะและเก้าอี้ที่เหมาะสม แสงสว่างที่เพียงพอ อย่าลืมคิดถึงพื้นที่สำหรับการจัดเก็บวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ให้เป็นระเบียบ
3.ตรวจสอบช่วงเวลาที่ใช้ห้อง ถ้ามักจะใช้ห้องช่วงเย็น ไม่ควรเลือกห้องที่อยู่ทางทิศตะวันตก เพราะผนังห้องจะคายความร้อนออกมาในช่วงหัวค่ำ
4.โทนสีของห้องไม่ฉูดฉาดจนเกินไป อาจเลือกใช้สีทาผนังที่ดูเย็นสบายตา เช่น สีครีม เทาอ่อน ฟ้าพาสเทล
5.เติมความสดใสด้วยการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์สีสด ไม่ทำให้ห้องดูเรียบ ขรึม จนเกินไป
6.ใช้ประโยชน์ของผนังแต่ละด้านให้คุ้มค่า ด้วยการติดชั้นวางหนังสือ หรือบอร์ดสำหรับแปะโน้ตเตือนความจำ
7.สำหรับหนอนหนังสือ สามารถทำตู้เก็บหนังสือแบบเต็มผนังตั้งแต่พื้นจรดเพดาน แต่ควรตรวจสอบตำแหน่งโครงสร้างของบ้านให้ดีเสียก่อน เพราะน้ำหนักหนังสือเมื่อรวมกันมากๆ นั้น หนักไม่ใช่เล่น
8.ถ้ากลัวเรื่องฝุ่นสะสมตามชั้นต่างๆ อาจเพิ่มหน้าบานกระจกช่วยลดฝุ่น แต่ห้องยังดูโปร่ง และมองเห็นของที่อยู่ในตู้ได้ชัดเจน
9.เพิ่มความน่าสนใจในชั้นวางหนังสือไม่ให้น่าเบื่อ ด้วยการกรุไม้ไว้ด้านใน หรือติดวอลล์เปเปอร์ ลวดลายสดใส
10.พื้นที่เก็บของแยกเป็นลิ้นชักใหญ่ๆ สะดวกต่อการจัดเก็บ ช่วยพรางความรกไปได้ในระดับหนึ่ง
11.อย่าลืมเผื่อตำแหน่งปลั๊กไฟให้เพียงพอต่อการใช้งาน และอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม
12.โคมไฟส่องสว่างเฉพาะจุด ช่วยให้แสงไม่รบกวนผู้อื่นที่อยู่ในห้อง
13.ผนังอเนกประสงค์ กรุผนังด้วยแผ่นสังกะสีและปิดทับด้วยผ้าลายสวย สามารถติดโน้ตต่างๆ ด้วยแม่เหล็ก แถมผนังไม่เสียหายจากคราบกาวอีกด้วย
14.ใช้โต๊ะติดล้อเลื่อนขนาดเล็ก สำหรับการเก็บของแต่ละประเภทของแต่ละคน สามารถเลื่อนเก็บไว้ใต้โต๊ะได้เมื่อไม่ใช้งาน
15.ใช้พื้นที่ร่วมกัน ประหยัดแอร์ได้ด้วย
กรุผนังด้วยแผ่นสังกะสีและปิดทับด้วยผ้าลายสวย เพิ่มความน่าสนใจด้วยการกรุไม้ด้านในชั้น
สินค้า di-cut
โต๊ะทำงานไม้สยา ขากากบาท ขนาด 60x120x สูง 75 ซม.
ตู้หนังสือจัตุรัส กว้าง 75 ซม. สูง 90 ซม.
โต๊ะทำงานไม้ แบบวางเข้ามุม 3 ขา ขนาดด้านกว้างสุด 150 ซม.
Tri Tray ถาดไม้ขนาด 7 x 7 x 3 ซม.
ถาดใส่อุปกรณ์เครื่องเขียนรถบรรทุก
ตัวหนังสือไม้
แม่เหล็กตัวเลข
หมอนลาย Yellow Oxford ขนาด 12x24" สอบถามราคาที่ Kitsch decors
หมอนลาย Yellow Oxford ขนาด 16x16 สอบถามราคาที่ Kitsch decors
โคมไฟสีเทาจุดขาว ขนาด 50 x 40 x สูง 49 ซม สอบถามราคาได้ที่ Kitsch decors
โคมไฟตั้งพื้น รุ่น Naked Bell สอบถามราคาได้ที่ Kitsch decors
อาร์มแชร์ไม้แอช รุ่น Bu-ko (บุโกะ) ขนาด 60×65×73 ซม.
ชั้นวางของ รุ่น Iang (เอียง) ขนาด 36×100×170 ซม.
เก้าอี้ไม้แอช สีธรรมชาติ พนักพิงสีโอ๊คเข้ม รุ่น Bai-Bua P (ใบบัว พี) ขนาด 43×46×80 ซม.
คอลัมน์ before & after ส.ค. 56 เรื่อง ออกแบบ ภาพประกอบ jOhe ภาพ ณัฐวุฒิ เพ็งคำภู สไตล์ เกษม์จงกล พูลล้น ข้อมูลจากนิตยสาร my home