10 วิธีคืนความใสให้ดวงตาของบ้าน
10 วิธีคืนความใสให้ดวงตาของบ้าน
1. เลือกเช็ดเวลาดี ไม่มีคราบ
ไม่ควรเช็ดทำความสะอาดกระจกตอนที่พระอาทิตย์กำลังส่องแสงแรงกล้าตรงมายังกระจกเพราะน้ำยาเช็ดกระจกจะแห้งเร็วเกินกว่าที่ผ้าจะดูดเอาคราบและฝุ่นผงออกจากกระจกได้ทัน
2. ใช้ผ้าไร้ขน ได้ผลดีที่สุด
ควรเลือกใช้ควรเป็นผ้านุ่มๆ เช่นผ้าฝ้าย ผ้าชามัวร์ หรือผ้าจากเสื้อยืดคอกลมที่ทิ้งแล้วหรือใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ขยำแล้วเช็ดก็ได้ โดยใช้น้ำธรรมดา หรือน้ำยาเช็ดกระจก
3. จะเช็ดทางไหน เลือกเอาสักทาง
ควรทำความสะอาดกรอบและโครงเสียก่อนจึงทำการเช็ดกระจกในทิศทางขึ้น-ลงด้านหนึ่ง ขณะที่เช็ดอีกด้านตามแนวซ้าย-ขวา เพื่อให้สามารถมองเห็นร่องรอยคราบที่เหลืออยู่และควรเลือกเช็ดไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อที่น้ำยาจะได้ถูกไล่ไปในทางเดียวกัน
4. หมั่นตรวจหารอยรั่วอยู่เสมอ
รอยรั่วเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดความร้อนเล็ดลอดเข้ามาภายในอาคารเพราะฉะนั้นจึงควรหมั่นตรวจสอบรอยรั่วตามขอบหน้าต่างกระจกทุกปีไม่ว่าหน้าต่างนั้นจะทำด้วยวัสดุที่เป็นไม้ หรือกระจกก็ตาม
เพื่อให้หน้าต่างคงสภาพดีอยู่เสมอ
5. หน้าต่างฝืด?แก้ไขได้
ถ้าเมื่อไรที่หน้าต่างเกิดอาการฝืดแล้วล่ะก็ให้หากระดาษคาร์บอนมาทดสอบอาการด้วยการวางระหว่างกรอบและวงกบ แล้วลองออกแรงเปิดดูหากพบรอยคราบคาร์บอนติดอยู่ที่หน้าต่าง แสดงว่านั่นคือส่วนที่ก่อให้เกิดการฝืดขึ้นกับหน้าต่างหลังจากนั้นให้เปลี่ยนมาใช้กระดาษทรายหรือเทียนไขขัดๆ ถูๆ จุดที่ฝืดแล้วทาสีทับก็เสร็จเรียบร้อย
6. ขจัดปัญหาขอบหน้าต่างชื้น
ความชื้นคือตัวการที่ทำให้ไม้ขยายหรือหดตัวซึ่งจะเกิดขึ้นในหน้าฝนและหน้าหนาวมากกว่าหน้าร้อนส่งผลให้หน้าต่างฝืดมากขึ้นกว่าเดิมซึ่งคราวนี้ให้ลองรักษาอาการฝืดด้วยการใช้กบไสไม้ออกสัก 3มิลลิเมตรก่อนที่จะทาสีใหม่ทับลงไป
7. ทาสีใหม่ ให้ถูกวิธี
หากชอบทาสีให้กับหน้าต่างเพื่อสร้างบรรยากาศใหม่ๆควรระวังอย่าทาสีทับซ้ำกันเพราะอาจทำให้หน้าต่างฝืด วิธีแก้อย่างง่ายๆ คือให้ขูดลอกสีเก่าบริเวณที่ผิวหน้าต่างสัมผัสกันในการเปิดปิดออกแล้วจึงทาสีที่ต้องการลงไป รอให้สีแห้งแล้วลองปิดดู
8. ควบคุมอุณหภูมิ คุ้มครองหน้าต่าง
อุณภูมิภายในและภายนอกห้องที่แตกต่างกันมีผลต่อกระจกหากภายในห้องเปิดเครื่องปรับอาการโดยให้ลมเย็นมากระทบผิวหน้ากระจกโดยตรงเป็นเวลานานๆจะก่อให้เกิดการแตกร้าวของกระจกได้
9. รักษากระจกไว้ ไม่ให้แตกร้าว
ไม่ควรทาสี ติดกระดาษ ติดผ้าม่านหนาหรือวางตู้ทึบมิดชิดบริเวณกระจก เพราะจะทำให้เกิดการสะสมความร้อนในเนื้อกระจกทำให้กระจกแตกร้าวได้ง่าย ทางที่ดีควรปล่อยให้บริเวณกระจกโปร่งโล่งให้มากที่สุดแต่ถ้าจำเป็นต้องวางตู้ตรงจุดนั้น ก็ให้วางห่างจากกระจกอย่างน้อย 1 ฟุต
10. ดูทิศทางให้ดี ก่อนติดตั้ง
หน้าต่างส่วนใหญ่จะอยู่ในทิศทางที่รับแสงอาทิตย์โดยตรงจึงเป็นช่องทางรับความร้อนเข้าสู่ตัวบ้านได้อย่างดี ดังนั้นควรเลือกใช้กระจกเขียวตัดแสง เพื่อลดความร้อนจากดวงอาทิตย์ที่มาตกกระทบและยังช่วยประหยัดพลังงานอีกด้วย
ควรหมั่นคอยดูแลหน้าต่างบ้านทุกบานให้คงความสะอาดใสอยู่เสมอเพราะนอกจากจะทำให้บ้านน่ามองแล้ว ยังส่งผลให้สมาชิกทุกคนในบ้านเกิดความสบายตาสบายใจไปด้วย
บทความพระเครื่อง | พระเครื่อง
Create Date : 18 กุมภาพันธ์ 2555 |
Last Update : 18 กุมภาพันธ์ 2555 1:01:02 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1107 Pageviews. |
|
|
|
|
|