ถึงเวลาพิสูจน์ฝีมือของคนรุ่นใหม่อย่าง ชวินธร คุณากรปรมัตถ์ ที่ก้าวเข้ามาสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในการต่อยอดความสำเร็จของ บริษัท กรุงเทพบ้านและที่ดิน จำกัด (มหาชน) หรือ KLAND ที่ก่อตั้งมากว่า 30 ปี ในฐานะทายาทและผู้บริหารในตำแหน่งรองผู้อำนวยการสายพัฒนาธุรกิจของเคแลนด์
ชวินธร หรือ ท็อด เป็นลูกชายคนเดียวของ ธงชัย คุณากรปรมัตถ์ ซีอีโอของเคแลนด์ นับเป็นลูกไม้หล่นใต้ต้นเลยจริงๆ เพราะ ฉายแววเป็นนักธุรกิจมาตั้งแต่เด็ก ได้เล่าว่า สนใจเรื่องเศรษฐกิจเพราะเกี่ยวข้องกับธุรกิจของที่บ้าน โดยเริ่มดูหุ้นมาตั้งแต่ตอนเด็ก ป.4 ช่วงนั้นหุ้นกำลังบูม แล้วธุรกิจที่บ้านทำอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องมีความสัมพันธ์กับเศรษฐกิจมหภาค ทำให้ตนเลือกที่จะเรียนทางด้านเศรษฐศาสตร์ โดยจบปริญญาตรี ด้านเศรษฐศาสตร์ และปริญญาโท ด้านบัญชี ที่มหาวิทยาลัยมิชิแกน แอนน์อาร์เบอร์ ที่สหรัฐอเมริกา จบมาก็ยังไม่ได้มาทำงานของที่บ้าน แต่ไปทำงานสั่งสมประสบการณ์ในตลาดเงิน ตลาดทุน และอสังหาริมทรัพย์จากบริษัทอื่นๆ เป็นเวลา 4 ปี ถึงกลับมาช่วยดูงานของที่บ้านจวบจนถึงปัจจุบันนี้
แม้จะเป็นมือใหม่ แต่เรื่องวิสัยทัศน์การทำงานถือว่าเก๋าพอตัว ซึ่ง ท็อด มองงานที่ตนรับผิดชอบว่า ในสายงานพัฒนาธุรกิจ จำเป็นต้องมองภาพให้กว้าง ให้ไกลและรู้ให้ลึก การดำเนินธุรกิจที่ดีจำเป็นต้องศึกษาอย่างใกล้ชิดถึงปัจจัยที่จะนำเราไปสู่ความสำเร็จ และปัจจัยที่นำไปสู่ความล้มเหลว สิ่งหนึ่งที่เป็นส่วนสำคัญของความสำเร็จอาจไม่ได้ขึ้นอยู่กับผู้บริหารที่เก่งเพียงอย่างเดียว การมีพนักงานที่มีคุณภาพพร้อมที่จะเติบโตไปกับองค์กรและมีการทำงานเป็นทีมที่ประสานพลังกัน ถือเป็นหัวใจในการขับเคลื่อนบริษัทให้ประสบความสำเร็จ
ส่วนแนวคิดในการทำงานและการใช้ชีวิตให้เกิดการสมดุล นักธุรกิจหนุ่มคนนี้บอกว่า ได้รับแนวทางมาจากทั้งคุณพ่อและคุณแม่ อย่างคุณแม่จะสอนเรื่องการใช้ชีวิต ทั้งความมีระเบียบวินัย แล้วก็จะสอนเรื่องความพอเพียง ความสุขในชีวิตไม่ใช่อยู่ที่เรื่องเงินทอง แต่ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของเรามากกว่า ความสุขในการทำงานอาจอยู่ที่ความภาคภูมิใจที่เราสามารถทำงานนั้นได้ ส่วนคุณพ่อจะได้แนวคิดทางธุรกิจ สิ่งที่ซึมซับมาจากคุณพ่อคือ การมองโลกในแง่บวก สนุกกับการทำงาน ไม่ว่าจะเจอปัญหาอุปสรรคใดๆก็ตาม เพราะคนเรามาทำงานเพื่อมาแก้ปัญหา ฉะนั้นเราต้องให้กำลังใจตัวเองในการทำธุรกิจ พอชีวิตมีความสุข สุขภาพแข็งแรง คิดงานออก ทุกอย่างก็จะผ่านไปด้วยดี
คนเราต้องมีสติครับ จึงจะใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข จริงๆแล้วที่เราทุกข์เพราะเราคิดไปเอง ชีวิตคนเรามีวินาทีนี้เท่านั้น อดีตก็ไม่มี อนาคตก็ไม่มี ผมคิดว่าอดีตจะไม่มี ถ้าเราไม่คิดถึงมัน แต่ถ้าจะคิดถึงก็ให้คิดแต่เรื่องดีๆ เรื่องที่มาสอนใจเรา...สมเป็นนักธุรกิจหนุ่มรุ่นใหม่ที่มีวิสัยทัศน์จริงๆ.