ที่มาจาก //www.itti-patihan.com/หัวใจเห็นธรรมน้อยลง-หลวงพ่อคูณ-วัดบ้านไร่.html
เมื่อศาลาหลังใหญ่สร้างเสร็จ ซึ่งก็คือศาลาหลังที่เราท่านเห็นกัน อยู่ทุกวันนี้แหละ หลวงพ่อก็ย้ายมาอยู่ที่ใหม่ ส่วนกุฏิหลังเล็กก็รื้อถวายวัดที่ยากจนไป
ที่ศาลาหลังใหม่ บรรดาศิษย์ทั้งหลายจะให้อยู่ชั้นบนอันเป็นชั้นที่ ๒ มีห้องใหญ่ๆ หลายห้องเพื่อให้ท่านอยู่สบาย แต่หลวงพ่อไม่ยอม โดยให้ เหตุผลสั้นๆ ว่า
ใครไปใครมาหากูได้พบง่ายๆ กูได้รู้ได้เห็น ท่านได้เลือกเอาห้องข้างบันไดที่เป็นห้องเล็กๆ ประมาณ ๓ X ๕ เมตร เห็นจะได้ ส่วนพระรูปอื่นได้อยู่ห้องดีๆ ข้างบน และชั้นล่างนี้หลวงพ่อคูณ ได้ใช้เป็นที่ต้อนรับญาติโยม
ความสวยงามโอ่อ่าของศาลาหลังนี้เป็นที่ชื่นชมของชาวบ้านไร่ ซึ่งเป็น หน้าเป็นตาของพวกเขา และไม่เคยคิดว่าจะมีอยู่ในถิ่นของตน
ส่วนหลวงพ่อเคยอยู่ของท่านสมถะเช่นไรก็อยู่อย่างนั้น ไม่เคยคิดจะ ทำตัวให้สบายกว่าเดิม ผู้เขียนเคยถามหลวงพ่อว่า
หลวงพ่อครับ สมัยอยู่ในโรงสังกะสีหลังเล็ก กับมาอยู่ศาลาหลัง ใหญ่นี้ มันผิดกันตรงไหนไหมครับ
ท่านสวนกลับทันที
ผิดวะ ที่นี่สบายกว่าหลังเก่าแน่ แต่ถ้าอยู่ไปนานๆ มันก็มีโทษ คือ ทำให้หัวใจเห็นธรรมน้อยลง เพราะติดความสะดวกสวยงามนี่แหละ ศาลาของหลวงพ่อสวยดีนะครับ ผู้เขียนชม หลวงพ่อกลับบอกอีกว่า
ใครบอกว่ามันเป็นของกู ของพวกมึง ของชาวบ้าน ของเทพบุตร เทพธิดาทั้งหลาย ที่เขาทำบุญกันต่างหากกูมันแค่คนอาศัยไม่กี่วันก็ตายแล้ว นั่นคือหลวงพ่อคูณผู้ไม่ปรารถนาอะไรมากไปกว่าการอยู่อย่างเห็นธรรม และสร้างสรรค์ประโยชน์สุขให้ชาวบ้านเท่าที่จะท่าได้
ในชีวิตอันสมถะของท่าน หลวงพ่อคูณไม่นิยมสะสมของส่วนตัว ท่าน เคยพูดอยู่เสมอ
นั่นไม่ใช่สงฆ์ที่ตัดแล้วทุกสิ่งทุกอย่าง จะเอาไว้เป็นสมบัติส่วนตัว ทำไมเล่า
มีบางคนเอาเงินมาถวายหลวงพ่อแล้วกำชับว่า หลวงพ่อเก็บเอาไวใช้ส่วนตัว ห้ามเอาไปรวมกับของวัดเด็ดขาด เวลาไปไหนมาไหนหลวงพ่อจะได้มีใช้จ่าย
แต่พอเจ้าของเงินกลับไปเท่านั้น ท่านก็บอกลูกศิษย์ว่า มึงเอาไปใส่ตู้ที เดี๋ยวธนาคารเขามาเก็บไป จะได้มีเอาไว้เป็นค่าอิฐ ค่าทราย กูใช้เงินไม่เป็น
ท่านประพฤติเช่นนี้เสมอ บางคราวท่านไปตามที่ต่างๆ แต่ละจังหวัด ลองไปตรวจย่ามของท่าน เถอะ จะเห็นมีเงินไม่กี่ร้อยบาทแล้ว เป็นแบงก์ย่อยและเหรียญอีกด้วย
เคยมีคนถามท่านว่า หลวงพ่อเอาเงินมาแค่นี้,หรือ ท่านหัวเราะแล้วบอกว่า
จะให้ภูเอามาแค่ไหน ก็กูมีอยู่แค่นี้เท่านั้น มีคนหวังดีกับหลวงพ่อมากกว่านั้น เอาโทรศัพท์เอาวิดีโอมาถวายท่าน เป็นการถวายส่วนตัว เพื่อให้หลวงพ่อดูแก้เหงา พอคนผู้นั้นกลับไปท่านก็ เรียกลูกศิษย์มาบอกว่า
มึงช่วยไปเรียกอาจารย์ใหญ่ที่โรงเรียนมานี่ซิ มาเอาไอ้นี่ไปให้เด็กๆ มันดูกัน บอกชื่อคนบริจาคเขาด้วย เขาจะได้บุญมากๆ เอาให้พระดูมันบาปเท่ากับสร้างกิเลสให้กับพระ ถ้ากูจะดูกูต้องสึก
ตกลงคนบริจาคก็ได้บุญเพิ่ม เพราะแทนที่จะให้พระดูรูปเดียว กลับ ไปให้เด็กนับร้อยดูกัน
นี่คือความเป็นหลวงพ่อคูณที่มีอะไรไม่ค่อยเหมือนใคร ท่านคือพระที่ซื่อและบริสุทธิ์ด้วยศีลอันน่ายกย่อง ๏