นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า คณะช่างสิบหมู่ ประกอบด้วย นายธีระชัย จันทรังษี นักวิชาการช่างศิลป์ชำนาญการพิเศษ สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร พร้อมด้วยนาย อาณัติ บำรุงวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 14 นครศรีธรรมราช รายงานผลการซ่อมแซมบัวคว่ำบัวหงาย องค์พระบรมธาตุเจดีย์วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เสร็จเรียบร้อยแล้ว

ต้องขอขอบคุณช่างสิบหมู่ทุกคนที่ทำงานเสร็จสมบูรณ์อย่างรวดเร็วใช้เวลาเพียง 5 วันเท่านั้น ซึ่งทางจังหวัดจะได้ทำหนังสือชมเชยไปยังกรมศิลปากรต่อไป อย่างไรก็ตาม ที่จังหวัดต้องดำเนินการต่อคือการขัดล้างคราบสนิมเหล็กที่ปล้องไฉน ซึ่งต้องมีการปรับนั่งร้านใหม่และต้องใช้งบประมาณอีกจำนวนหนึ่งในการจ้างช่างขึ้นไปทำความสะอาด หลังขัดแล้วต้องมีการทาสีน้ำปูนทับอีกชั้นหนึ่งเพื่อให้มี สีขาวเช่นเดิม ซึ่งต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นก่อนงานประเพณีเทศกาลบุญสารทเดือนสิบ ประจำปี 2556

ด้านนายธีระชัยกล่าวว่า หลังจากที่ได้ถอดเหล็กยึดรอกรอบฐานปลียอดทองคำออก ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดคราบสนิมไหลเยิ้มลงไปยังปล้องไฉน ได้มีการล้างทำความสะอาดและขัดคราบสนิมที่บัวคว่ำบัวหงายซึ่งเป็นทองคำ จากนั้นได้เสริมความแข็งแรงของบัวคว่ำบัวหงาย โดยตอกหมุดยึดและใช้กาวอัดทับส่วนที่ฉีกขาดด้วย ทำให้บัวคว่ำบัวหงายมีความสวยงามขึ้น

ถือว่าการซ่อมแซมได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว ทั้งนี้ยังมีอีกปัญหาหนึ่งที่พบคือ มีนกพิราบบินขึ้นไปเกาะทำให้รอยเล็บข่วนส่วนที่เป็นทองคำสึกไปบางส่วนเช่นกัน และมีการถ่ายมูลทิ้งไว้ทำให้เกิดคราบสกปรกด้วย นอกจากนี้ส่วนหนึ่งยังมีคราบไคลจากฝุ่นละออง และคราบเขม่าจากฟ้าแลบฟ้าผ่าด้วย เพราะทองคำถือเป็นโลหะชนิดหนึ่งที่เหนี่ยวนำประจุไฟฟ้าด้วย และที่ขอฝากไว้อีกเรื่องหนึ่งคือขอความร่วมมือจากผู้ที่เกี่ยวข้องที่ขึ้นไปทำงานบนปลียอดพระบรมธาตุ อย่าเอาเหรียญกษาปณ์วางไว้ เพื่อบูชาพระธาตุ เพราะเหรียญกษาปณ์เป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดสนิมเช่นกัน