space
space
space
<<
มิถุนายน 2559
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
space
space
13 มิถุนายน 2559
space
space
space

ไขปัญหา`อาหารหมดอายุ` กินได้หรือไม่



รอบรู้ไปกับเว็บ16Lao:ไขปัญหา`อาหารหมดอายุ` กินได้หรือไม่


สวัสดีครับทุกคนวันนี้เว็บ16Laoอาสานำข้อมูลที่ใครๆหลายคนยังสังสัยกันอยู่มาฝากกันเกี่ยวกับอาหารหมดอายุกินได้หรือไม่ ซึ่งสังคมปัจจุบันผู้คนเร่งรีบ แข่งขันจึงทำงานกันอย่างขะมักเขม้นชนิดที่ไม่ลืมหูลืมตาจนบางครั้งอาจหลงหยิบอาหารเข้าปากแบบไม่ทัน “อ่านฉลาก” วันดีคืนดีจึงพบว่า “หมดอายุ” ไปแล้วหรือบางคนกินเพราะเห็นว่าหน้าตาอาหารยังดูดี ไม่มีทีท่าว่าจะ “บูดเสีย”แต่ใครจะรู้บ้างว่า“อาหารหมดอายุ” จริงๆ แล้ว “กินต่อได้ไหม...หรือทิ้งไปดีกว่า”

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับคำจำกัดความของ“อาหารหมดอายุ” กันก่อนเลยครับผม โดย ดร.ทิพย์วรรณปริญญาศิริ ผู้อำนวยการสำนักอาหาร สำนักคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข อธิบายว่า ตามประกาศฉบับที่ 367การแสดงฉลากของอาหารในภาชนะบรรจุแบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ “หมดอายุ” หมายถึงวันที่ซึ่งแสดงการสิ้นสุดของคุณภาพของอาหารภายใต้เงื่อนไขการเก็บรักษาที่ระบุไว้และหลังจากวันที่ระบุไว้ อาหารนั้นวางจําหน่ายไม่ได้ และ “ควรบริโภคก่อน” หมายถึงวันที่ซึ่งแสดงการสิ้นสุดของช่วงเวลาที่อาหารนั้นยังคงคุณภาพดีภายใต้เงื่อนไขการเก็บรักษาที่ระบุไว้ และหลังจากวันที่ระบุไว้อาหารนั้นวางจําหน่ายไม่ได้ สำหรับอาหารที่บังคับใช้คำว่า“ควรบริโภคก่อน” โดยทั่วไปตามประกาศเป็นอาหารพร้อมบริโภคเช่น ขนม เครื่องดื่ม ซึ่งคำนิยามคืออาหารที่สามารถทานต่อได้ในระยะหนึ่งหลังจากถึงวันที่ระบุแล้ว ไม่เป็นอันตรายแต่มีรสชาติที่ผิดเพี้ยนไป รวมทั้งคุณค่าทางโภชนาการลดน้อยลงดังนั้นขึ้นอยู่กับผู้บริโภคที่ต้องพิจารณาด้วยตัวเองว่าควรจะเก็บไว้อีกนานเท่าใดส่วนคำว่า “หมดอายุ” เป็นประกาศเฉพาะอาหารที่บังคับใช้ได้แก่ อาหารประเภทนมดัดแปลงสำหรับทารก ซึ่งคำนิยาม คือหลังจากวันที่ระบุแล้วห้ามรับประทานเพราะอาจเป็นอันตราย


อย่างไรก็ตามหากพบอาหารทั้ง 2 กลุ่มนี้วางขายอยู่บนชั้นวางทั้งๆที่เลยวันที่ระบุบนฉลากมาแล้วถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย มีโทษปรับไม่เกิน 30,000 บาท ทั้งนี้จากกระแสที่ว่า“อาหารหมดอายุแล้วยังกินต่อได้” เป็นคำพูดสั้นๆ ที่เผยแพร่ทั้งทางสื่อโทรทัศน์และสื่อออนไลน์หรือกระแสข่าวต่างประเทศเปิดร้านขายอาหารหมดอายุเพื่อลดปริมาณอาหารขยะนั้นบางครั้งอาจส่งผลให้ผู้บริโภคเข้าใจผิดคิดว่าการรับประทานอาหารหมดอายุไม่เป็นอันตรายดังนั้นอย่าเพิ่งปักใจเชื่อ ควรศึกษาหรืออ่านคำขยายความให้จบเสียก่อน โดย อาจารย์สง่า ดามาพงษ์ ที่ปรึกษาสำนักโภชนาการกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ไขปัญหา“อาหารหมดอายุ” ว่าอาหารที่ถูกเก็บอยู่ในบรรจุภัณฑ์ที่เป็นสูญญากาศเช่น นม และอาหารกระป๋องต่างๆ การเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ซึ่งเป็นตัวการทำให้อาหารบูดเน่าไม่ค่อยเกิด เราจึงเห็นว่าหารประเภทนี้มีวันหมดอายุที่ยาวนาน1-2 ปี แต่ถ้าหมดอายุแล้วมักมีคำถามตามว่า“สามารถกินต่อได้หรือไม่” ซึ่งจุดสำคัญคือเราไม่รับประกันว่ากล่องนม หรือกระป๋องที่เก็บไว้นานๆ นั้นจะโดนแสงแดด ความร้อนหรือถูกกระแทกจนแตกหรือไม่ เพราะหากมีรอยแตกจะทำให้เชื้อจุลินทรีย์เข้าไปได้นอกจากนี้ยังมีเรื่องของรสชาติ กลิ่นของอาหารที่เปลี่ยนแปลงไปรวมถึงคุณค่าทางโภชนาการที่ลดน้อยลง จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมต้องมีการกำหนดวันที่ “ควรบริโภคก่อน”

ส่วนอาหารประเภท “ขนมปัง” เป็นอีกกลุ่มที่ผู้บริโภคสงสัยกันมากว่า“หากหมดอายุแล้วสามารถรับประทานต่อได้หรือไม่” ตรงนี้ต้องดูว่าการเก็บรักษาดีหรือไม่หากเก็บในอุณภูมิห้องอยู่ได้นาน 2-5 วันและเก็บในตู้เย็นจะอยู่ได้นานประมาณ 2 สัปดาห์แต่ขึ้นอยู่กับปริมาณการใส่สารกันบูดของขนมปังชนิดนั้นด้วยบางคนคิดว่าถึงแม้จะหมดอายุไปแล้ว 1-2 วัน แต่สภาพยังดูดีอยู่ เพราะ “เชื้อราเป็นสิ่งที่เรามองไม่เห็น” จึงหยวนๆ รับประทานไปซึ่งเราอาจไม่เป็นอะไรเลย แต่ถ้าปฏิบัติแบบนี้บ่อยๆ พวก “เชื้อรา” ทั้งหลายที่มันเข้าไปสะสมในร่างกายอาจจะเกิดผลในระยะยาวได้ จึงไม่ควรเสี่ยงกินและตัดใจทิ้งไปเสียดีกว่า

ต่อมา “ไข่ไก่” ถ้าซื้อมาแล้วสามารถเก็บได้ 2 ที่ คืออุณหภูมิห้องเก็บได้นาน 1-2 สัปดาห์ และในตู้เย็นเก็บได้นาน 3-5 สัปดาห์หากเกินจากนี้ไข่ไก่จะไม่บูดเหมือนอาหารกระป๋องและสามารถนำมาปรุงอาหารรับประทานได้ แต่จะไม่สดไม่หอม ไม่อร่อยและคุณค่าทางโภชนาการลดน้อยลง ดังนั้นไม่ควรซื้อมาตุนไว้เยอะๆ และกลุ่มสุดท้าย “ซีเรียล” เป็นธัญพืชมีคาร์โบไฮเดรตคล้ายกลุ่มขนมปังเวลาเปิดกล่องรับประทานแล้วต้องมั่นใจว่าสามารถทานหมดภายใน 1-2 สัปดาห์เพราะเมื่อเปิดกล่องแล้วเชื้อจุลินทรีย์จะเข้าไปทำให้เกิดเชื้อราและมีรสชาติเปลี่ยน รวมทั้งมีกลิ่นหืน

ดังนั้นในมุมมองของนักโภชนาการไม่แนะนำให้รับประทาน“อาหารที่หมดอายุ” แล้ว แต่จะแนะนำให้แก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วย 3 วิธีคือ 1.ก่อนซื้ออาหารทุกครั้งต้องอ่านฉลาก “วันหมดอายุ” หรือฉลาก “ควรบริโภคก่อน” 2.วางแผนการซื้ออาหารในปริมาณที่เราสามารถบริโภคหมดก่อนวันที่ฉลากกำหนดเช่น ซื้อตุนไว้แค่ 1-2 สัปดาห์ และ 3.พยายามนำอาหารที่ซื้อเก็บไว้มาตรวจเช็คฉลากว่าใกล้หมดอายุหรือยังหากใกล้หมดแล้วควรรีบนำมาปรุงรับประทานก่อนที่จะหมดอายุถ้าเราปฏิบัติได้ตามนี้จะเป็นการ “ไม่เพิ่มขยะอาหาร” และ “ปลอดภัยต่อสุขภาพ” นั่นเองครับผม เป็นไงบ้างครับกับข้อมูลที่ทางเว็บ16Laoนำมาฝากในวันนี้หวังว่าจะช่วยให้หลายๆคนคลายความสงสัยกันได้บ้างนะครับ






 

Create Date : 13 มิถุนายน 2559
1 comments
Last Update : 13 มิถุนายน 2559 19:30:55 น.
Counter : 624 Pageviews.

 

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ตุ๊กจ้ะ Food Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog
ข้ามขอบฟ้า Music Blog ดู Blog
สมาชิกหมายเลข 3072231 Health Blog ดู Blog

เป็นเรื่องที่ทุกๆ คนควรจะรู้ ขอบคุณมากค่ะ

 

โดย: Maeboon 20 มิถุนายน 2559 20:09:40 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

space

สมาชิกหมายเลข 3072231
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]






space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 3072231's blog to your web]
space
space
space
space
space