• ยินดีต้อนรับ
• เสียงเพลงที่ฉันรัก
• เรื่องเล่าจากห้องเปียโน
• เรื่องเล่าจากห้องน้องหนู
• บันทึกชีวิตในต่างแดน
• DIY ประดิษฐ์ประดอย
• หม่ำๆ
• The Great Artists
• บันทึกท่องเที่ยว
• ดอกไม้จากหลังบ้าน
• เมี๊ยว...เมี๊ยว...เมี๊ยว
• เรื่อยเปื่อยกับหนังสือ
• ไร้สาระ...ไม่เข้าพวก
• Heifetz as I knew him (Book review)
• The Story of Glenn Gould
• บันทึกกล่องดำห้องคลาสสิก
• Microbiology kmutt รุ่น 17
• ห้องเก็บของ

เรื่องตกใจในวันนี้ ...เมื่อมีขโมยมาวิ่งไปมาแถวๆบ้าน สืบเนื่องมาจากซักครู่นี้ ระหว่างที่กำลังสบายใจ นั่งฟังเพลงอ่านหนังสืออยู่ในห้องรับแขกชั้นล่าง จู่ๆก็ได้ยินเสียงคนโวยวาย เลยออกไปดู เจอะยาม 4-5 คน ถามแล้วทราบความมาว่า เค้าเห็นจากในวงจรปิดของหมู่บ้านว่ามีคนกำลังวิ่งไปมาอยู่ในซอย ท่าทางไม่น่าไว้วางใจ (ซึ่งคิดว่าน่าจะเป็นขโมย ไม่อยากใช้คำนี้ให้เราตกใจ แต่ช้าไปแล้วหล่ะ) ตอนนี้ยามกำลังล้อมจับอยู่ เราตกใจมากเลย เพราะตอนนี้อยู่บ้านคนเดียว เลยรีบปิดบ้านและขึ้นไปขังตัวเองอยู่ในห้องนอน แล้วแอบดูยามทางหน้าต่างชั้น 2 หนังสือหนังหาไม่อ่านมันแระ ตอนนี้กระเจิงไปหมด ทำอะไรไม่ถูกเลยแบบว่ากลัว ผ่านไปซักพัก หลังจากยามปีนรั้วกลับมาจากที่ไปสำรวจบ้านฝั่งตรงข้ามบ้านเราแล้ว ก็ได้ยินหัวหน้ายามสั่งยกเลิกภารกิจ และแยกย้ายกันไป เฮ้อ.......คงไม่มีอะไรแล้วมั้ง แต่ยังไม่กล้าลงไปชั้นล่างอยู่ดี ระยะนี้ในหมู่บ้านมีเรื่องขโมยขึ้นบ้านกันบ่อยๆ แถมตำรวจก็ยังจับไม่ได้ซักคดี เมื่อเดือนที่แล้ว บ้านในถนนสายหลักของหมู่บ้าน ก็มีขโมยขึ้นบ้าน กวาด Rolex ไป 3 เรือน พร้อมกับเงินดอลล่าห์อีก หลายแสน เฮือก...... และล่าสุดเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา บ้านถัดจากบ้านเราไป 6 หลัง พึ่งโดนยกตู้ safe ไปทั้งใบ เพราะเจ้าของบ้านไปเมืองนอก พอกลับไปถึงไม่เจอะตู้เซฟ ก็รีบไปแจ้งความ ทั้ง 2 เหตุการณ์เมื่อเอาเทปวงจรปิดมาดู เค้าเล่ากันว่าปฏิบัติการณ์อุกอาจมากๆ ขนกันแบบสบายใจ มากันเป็นคันรถเลย ขโมยเดี๋ยวนี้เค้าใช้รถตู้ รถแจ๊สกันด้วย ที่สำคัญรถทั้ง 2 คัน มีตราสติกเกอร์ของหมู่บ้านด้วย เหอๆ และเมื่อซักครู่นี้ในขณะที่กำลังพิมพ์อยู่ ก็ได้ยินรถเข้ามาในซอย ซึ่งเป็นเรื่องน่าประหลาด เพราะซอยเราเป็นซอยตัน นานๆทีจะมีคนหลงเข้ามา เลยโผล่หน้าต่างลงไปดู อ๊า.....รถกระบะสีขาว ดูโทรมๆ ท่าทางไม่น่าไว้ใจกำลังจอดอยู่ข้างบ้านเรา (จิตตกมากมาย ) เค้ามาทำอะไรในซอยเราเนี่ย แถวนี้ไม่มีใครอยู่ ขโมยป่าวเนี่ย จะมารับเพื่อนที่วิ่งๆอยู่ตะกี้หรือเปล่า (จิตนาการณ์กว้างไกล) แต่ซักพัก รถคันนั้นก็ถอยออกไปช้าๆและไม่ได้รับผู้โดยสารจากรั้วบ้านไหนมาทั้งสิ้น พร้อมกับยามซึ่งปั่นจักรบานมาตรวจลาดแล้ว และบอกทางให้กลับรถ เฮ้อ.....ค่อยยังชั่วหน่อย ตอนนี้เริ่มหายตกใจแล้ว แต่ยังกลัวอยู่ เดินวนไปวนมาอยู่ในห้องนอนและชักคิดหวั่นๆ ว่าเราทำอย่างนี้ถูกหรือเปล่า เพราะ 1.ถ้าเราขังตัวเองอยู่ในห้องนอนชั้น 2 แล้วมีขโมยเข้ามาในบ้านเรา เกิดเค้าบุกเข้ามาถึงข้างบนห้องนอน แล้วเราจะหนีไปไหนต่อได้หล่ะ ตายแน่ๆ กลอนประตูห้องนอนเรามีแค่ 2 ชั้น ลูกบิดแบบง่ายๆ แล้วก็โซ่คล้องเหมือนโรงแรม ซึ่งเราซื้อมาติดเองต่างหาก ไม่ได้แข็งแรงอะไรเลย กระทืบทีเดียวก็คงพังแล้ว 2. ถ้าเราปิดประตูทุกบาน แล้วเฝ้าสังเกตุการณ์อยู่ชั้นล่าง เจอะขโมยปุ๊บ ก็รีบหนีออกไปนอกบ้าน แล้วใส่เกียร์หมา วิ่งเผ่นไปป้อมยามเลย (ระยะทาง 800 เมตร) พี่ขโมยอยากได้อะไรในบ้าน เชิญหยิบตามสบายเลยค่ะ เอาตัวเราปลอดภัยไว้ก่อน เมื่อ m เรื่องนี้ให้เพื่อนฟัง เพื่อนก็บอกว่า เจอะโจรอย่าหนี ให้สู้แล้วตะโกนดังๆ แต่ว่าเพื่อนเอ๋ย ซอยบ้านเราเค้าออกไปทำงานกันหมด มีแค่บ้านเรา กับบ้านที่ถัดไป 3 หลังเป็นแม่ลูกอ่อน เด็กพึ่งคลอดอุแวๆ เลยอ่ะ แล้วใครจะมาช่วยช๊านนนนน ที่สำคัญ อย่าว่าแต่วิ่งหนีเลย แค่เจอะหน้าโจร อาจจะตกใจเป็นลมไปซะก่อน เหอๆ หลังจากนั้นก็เริ่มคิดถึงว่า เราน่าจะมีอาวุธอะไรซักอย่างที่น่าจะป้องกันตัวได้ สิ่งแรกที่นึกถึงคือ “มีดอีโต้ในห้องครัว” แต่คิดๆแล้ว ไม่ไหวๆ มันสั้นไป จะไปสู้อะไรเค้าได้ มันต้องเป็นอะไรที่ยาวๆหน่อย “กะทะ” พึ่งซื้อมาใหม่เลยนะเนี่ย เทฟล่อน อย่างหนา ด้ามจับยาว และคงทนแข็งแรงมากๆ ถ้ามีโอกาศได้พาดแรงๆซักที รับรองสลบแน่ๆ ว่าแต่เราจะกล้าฟาดรืเปล่าเหอะ คิดไปคิดมา คิดไม่ตกแฮะ เฮ้อ.... ว่าแล้วก็ชักอยากติดเหล็กดัด เพราะที่บ้านจะมีเหล็กดัดก็แค่ตรงบานเกล็ดของห้องครัว และ หน้าต่างระบายอากาศของห้องน้ำชั้นล่างเท่านั้น ส่วนหน้าต่างรอบบ้านรวมถึงประตูซึ่งเป็นกระจกทั้งหมดรอบบ้าน ไม่ได้ติดเหล็กดัดเลยซักบาน ด้วยเหตุผลที่ว่า ติดเหล็กดัดแล้วกลัวบ้านจะไม่สวย แต่ที่ไหนได้ พอไม่มีแล้วต้องมาเก็กซิมกลัวขโมยแทน ไม่รู้จะบ่นอะไรต่อดี รู้แต่ว่าอยู่บ้านคนเดียวทีไรมีเรื่องทุกที ให้มันได้อย่างนี้สิ เฮ้อ.....บ่นๆๆๆ   Create Date : 11 กันยายน 2551     Last Update : 11 กันยายน 2551 14:29:30 น. Counter : 1472 Pageviews.   2 comment Share Tweet

เช้าวันฝนตกที่แสนอับเฉา แต่ไหนแต่ไร เราก็ไม่เคยชอบฝนตก เมื่อไหร่ที่เข้าหน้าฝนที่ไร นั่นคือช่วงเวลาที่จะหงุดหงิดและอารมณ์ไม่ดี รวมไปถึงสุขภาพไม่ดีด้วย เ มื่อไหร่ที่บ่นแบบนี้ จะต้องมีคนมาแย้งเสมอๆ ฝนตกแล้วเย็นสบายดีออก ......เย็นๆหน่ะมันก็ดี แต่ชื้นๆเราไม่ชอบ  ชาติก่อน เธอคงเกิดเป็นกระบองเพชรหล่ะมั่งเนี่ย ถึงไม่ชอบฝน.........อืม อาจจะเป็นเช่นนั้น ฝนตกแล้วกลางคืนนอนฟังเสียงฝนมันโรแมนติกดีออก......สำหรับเรามันคือเสียงที่หนวกหู รบกวนทำให้นอนไม่หลับ  เป็นโรคซึมเศร้าหรือเปล่าถึงไม่ชอบฝน ไปหาหมอไหม......ไม่ได้เป็นซะหน่อย แค่หงุดหงิดเพราะมันรู้สึกไม่ค่อยสบายต่างหาก  มีความหลังกับตอนฝนตกหรือเปล่า ทำให้ไม่ชอบฝน......ชักไปกันใหญ่แระ อย่ามาหลอกถามซะให้ยาก เพราะมันไม่มีจริงๆ ทั้งๆที่เ มื่วานตอนเช้า แดดกำลังดี  และลมกำลังเย็นสบาย แต่พอตกบ่ายไม่ทันไร ฝนก็ตกลงมา  และแน่นอน เปียกด้วย ฮือๆ เ มื่อคืนหลังจากที่นอนแต่หัววัน เพราะเหนื่อยและรู้สึกไม่ค่อยสบาย   ตื่นมาตี 4  โ หย....ฝนตก   แ อร์ในห้องก็เย็นเจี๊ยบ หนาว............ เลยกลับไปซุกผ้าห่มต่อ นอนดีกว่า เพี๊ยง ตื่นมาขอให้แดดออกจัดๆเถอะ ...สาธุ    ผ่านไป 2 ชม เวลา 6 นาฬิกา ตื่นมาอีกรอบ ฟ้ายังมืดอยู่เ ลย .....ที่สำคัญฝนยังตกอยู่ด้วย..... เ ช้านี้ช่างเหี่ยวเฉา น่าเศร้าอะไรเช่นนี้  ดังนั้น.......ปิดแอร์......นอนต่อดีกว่า   ผ่านไป 2 ชม เวลา 8 นาฬิกา ตื่นนอนครั้งสุดท้ายจริงๆ    เฮ้อ....  จะงอนแล้วนะ ...แต่บ่นไปก็เท่านั้น ฝนตกแบบนี้นอกจากอากาศชื้นๆ ที่ทำให้หายใจไม่สะดวก และหัวมึนๆที่น่าจะเกิดจากอาการเริ่มต้นของคนจะเป็นหวัด คงไม่หายแน่ๆถ้าวันนี้ไม่มีแดด ผ่านไ ปอีก 1 ชม ถึงขณะนี้ที่กำลังเขียนบล๊อกนี้อยู่ คนพิมพ์ก็ยังคงอยู่บนเตียง ซุกอยู่ใต้ผ้าห่ม ที่เริ่มจะชื้นๆเพราะอากาศ แง่งๆ เสียงเปียโนของ Arrau ในเพลง Nocturn ของ Chopin มันก็ขับกล่อมได้หดหู่จริงๆ อารมณ์วันนี้เ หี่ยวเฉามากมาย จมูก็หายใจไม่ออก วันนี้อยากจะมุดอยู่แต่ในห้องนอนทั้งวัน ไม่อยากทำอะไรเลยจริงๆ (แต่ท้องมันร้องแล้วอ่ะ บอกให้ไปกินข้าว) เฮ้อ..... ขอใ ห้วันนี้มีแต่เรื่องดีๆด้วยเถอะ ไม่ขออะไรมาก แก้วแหวานเงินทองคู่ครองของรัก อะไรเทือกนี้ไม่เอาทั้งนั้น ขอแค่แสงแดดจากท้องฟ้าซัก 2 ชม ให้เราได้หายใจหน่อยก็พอจะได้ไหมนะ....   Free TextEditor   Create Date : 11 กันยายน 2551     Last Update : 11 กันยายน 2551 9:47:13 น. Counter : 501 Pageviews.   2 comment Share Tweet

วันนี้....ชั๊นจะไปตัดผม(แน่รื) " เอาหล่ะ วันนี้ ชั๊น จะไปตัดผม " แต่หลังจากผ่านร้านตัดผม ........... วันนี้ไม่ได้เอาแบบผมมา วันหลังแล้วกัน (ข้ออ้างชัดๆ เพราะจริงๆเซฟรูปไว้ในมือถือ) " เอาหล่ะ วันนี้ ชั๊น จะไปตัดผม " แต่หลังจากผ่านร้านตัดผม ........... พรุ่งนี้ เราต้องเจอะใครมั่งหว่า คิดๆๆๆ...... ไม่ไหวๆ เจอะคนเยอะ อายๆๆ ขี้เกียจตอบคำถาม วันหลังค่อยตัดแระกัน " เอาหล่ะ วันนี้ ชั๊น จะไปตัดผม " แต่หลังจากผ่านร้านตัดผม ........... เมื่อวานเช้าพึ่งสระผมเองนินา ไว้วันหลังแระกัน วันนี้ผมยังหอมอยู่เลย เสียดาย ไม่เกี่ยวเล้ย......... ด้วยเหตุผลร้อยแปด วนเวียนไปเรื่อยๆ ก็แหม...ตอนนี้ผมยาวถึงเอวแล้วนะ กว่าจะเลี้ยงดูมันได้ขนาดนี้ ถ้าจำไม่ผิด ตั้งแต่ เรียนมหาลัย ปี 2 ที่บ้าไปตัดผมสั้นทรงไฟช๊อตแบบนิโคล หลังจากนั้นก็ไว้ยาวมาตลอดไม่เคยสั้นกว่ากลางหลังอีกเลย ก็เค้ารักของเค้านิ เมื่อเห็นเพื่อนทำผมมาใหม่ " โหย ผมสีนี้สวยอ่ะ......อยากทำมั้ง" แล้วเพื่อนมันก็ตอบกลับมาว่า " ก็นัดมาซะทีดิ จะได้พาไปทำ เห็นพูดงี้มาจะครบปีแล้ว") ไม่ก็ " เปลี่ยนทรงได้แล้วแก คนอื่นๆเค้าไปถึงไหนกันแล้ว แกยัง(แก่)เหมือนเดิมเลย " ง่า....ก็มันใจไม่กล้าพอนิหว่า ล่าสุด เมื่อเย็นนี้เอง..... " โหย หน้าม้า น่ารักจังเลยอ่ะ ลดอายุลงไปหลายปีเลย" อยากตัดมั้ง....... แล้วเพื่อนก็ตอบกลับมาว่า " ตัดเลยๆ เราตัดเองด้วย ค่อยๆเล็มไปทีละนิด รับประกัน ใจเต้นตึกๆ ลุ้นมักๆ " เวง.....ชั้นคงหัวใจวายตายซะก่อนจะได้หน้าม้า และและ ทรงผมที่คิดว่าจะตัด ณ ปัจจุบันนี้ ก็คือหน้าม้าตัดตรง แบบบ้านๆ แอบหวังนิดๆให้เหมือนเจ๊ อานัคซุนามูน แต่เพราะสวยไม่ได้ถึงเสี้ยวของเจ๊เค้า เลยไม่แน่ใจว่าจะไปรอดไหม..... (ตัดเสร็จ แล้วจะเอา suntan มาทาตัว แล้วไปอาบแดด ให้ผิวเหลืองซีดๆยังกะป่วยเป็นดีซ่านของเรา ให้กลายเป็นสองสีงามๆ แบบเจ๊เค้า อุวะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า) ^ ^ ^ ที่กล่าวมานั้น ฝันกลางวัน เข็ตแล้วกับ suntan ทาออกมา นอกจากมันไม่ tan แล้ว มันยังกระดำกระด่างอีกด้วย เฮ้อ.... แล้วก็นึกถึงเมื่อหลายปีก่อน ที่เคยตัดผมหน้าม้า 1 ครั้ง พร้อมกับรำลึกถึงคำพูดบางคำ "ผมหน้าม้า ดูๆไป หน้าเหมือนหมา" (กริ๊ดดดดดดดดดดด เกลียดมัน แต่อโหสิกรรมให้แระ ไปที่ชอบๆเถอะนะ) แต่ไม่รู้จะว่ายังไงดี อยากให้ตัวเองมีการเปลี่ยนแปลงเล็กๆน้อยๆ(รืเปล่า) เพื่อเปลี่ยนชีวิตที่จำเจ (ไม่เห็นเกี่ยวเลย) เผื่อจะมีอะไรใหม่ๆเช่นหนุ่มๆ เดินมาขอเบอร์ (ฝันไปเถอะ) และสุดท้ายนี้ " พรุ่งนี้ ชั้นจะไปตัดผม " เอิ้กๆ ปล. blog นี้อัพไว้เพื่อเตือนความจำตัวเองว่า วันนี้อยากตัดผมมากๆ แล้วจะรอดูซิว่าได้ตัดจริงๆเหมือนไหร่ เอิ้กๆ   Create Date : 16 สิงหาคม 2551     Last Update : 16 สิงหาคม 2551 22:44:34 น. Counter : 793 Pageviews.   2 comment Share Tweet

บ่น.... ตอนนี้กำลังขี้เกียจ เคยสังเกตกันไหมว่าตัวเองขี้เกียจกันตอนไหน . . . อยากจะบอกว่าตอนนี้กำลังขี้เกียจอยู่ค่ะ และมันจะต้องขี้เกียจเวลาที่งานเยอะๆ >>เช่นเวลาที่เปิด mail แล้วเจอะ email มาตามงาน ทั้งมีสาระและไร้สาระ >>เช่นเวลามี Blog ที่ควรจะต้องอัพ แต่ขี้เกียจ มัวแต่มาอัพblog ไร้สาระ >>เช่นเวลาที่พรุ่งนี้ต้องไปเรียน แต่ขี้เกียจทบทวน และมันจะต้องขี้เกียจเวลาอยู่บ้านคนเดียว >>ก็มันเหงานิ เลยขี้เกียจ (เกี่ยวไหมเนี่ย) และมันจะต้องขี้เกียจเวลาโสด!!! >>ก็มันต้องการกำลังใจ (ไม่เกี่ยวเลย ก็ให้กำลังใจตัวเองสิยะ) และมันจะต้องขี้เกียจเวลาโต๊ะทำงานรก >> ก็เพราะมันรกไง เลยขี้เกียจเก็บ พอไม่เก็บ ก็เลยไม่มีพื้นที่ทำงาน พอไม่มีพื้นที่ทำงาน ก็ไม่ทำมันซะเลย เอิ้กๆ นอกจากจะขี้เกียจทำอะไรที่มีสาระแล้ว แม้แต่ในเรื่องไร้สาระก็ขี้เกียจ >>ขี้เกียจโทรไปหาเพื่อน รู้ทั้งรู้ว่าพรุ่งนี้ต้องกินข้าวเย็นคนเดียว แต่ก็ยังขี้เกียจจะโทรไปหามัน >>CD เพลงโปรดที่พึ่งซื้อมาไม่นาน วันนี้เอาไปฟังในรถ ก็ขี้เกียจลงไปหยิบ >>เช่นเดียวกับหนังสือที่กำลังอ่านค้างอยู่ วันนี้อุตส่าห์ขยันพกออกไปด้วย แม้จะรู้ว่าไม่มีเวลาอ่านหรอก แต่ก็ขอซะหน่อย แล้วก็ลืมไว้ในรถ แล้วก็ขี้เกียจลงไปเอา >>ขี้เกียจนอน เพราะหมู่นี้หลับยากมาหลายคืน ไม่อยากจะนอนลืมตา เดี๊ยะรอง่วงจัดๆแล้วป๊อกไปเลยทีเดียวดีกว่า เฮ้อ.... เวลาอารมณ์ขี้เกียจเกิดขึ้นมักทำอะไร? >> อัพบล๊อกไร้สาระ เช่นblog นี้ >> นั่งอ่าน FW mail อันมากมาย ที่ได้รับมาจากเพื่อนๆ แต่แทบไม่เคยอ่าน >> หลังจากอ่าน FW mail จบก็นั่งอ่าน Junk mail ต่อ และทำให้รู้ว่า เดี๋ยวนี้มีธุรกิจแปลกๆเกิดขึ้นมากมาย โดยเฉพาะเมล์ขาย Viagra เนี่ย ไม่เข้าใจจริงๆจะส่งมาทำไมมากมาย ไม่มีคนซื้อหรือไงถึงโฆษณากันจัง >>กด check mail ไปเรื่อยๆเล่นๆ ทั้งๆที่รู้ว่ามันไม่มีใครส่งมาหรอกนอกจาก gamehouse >> นั่งอ่านกระทู้เก่าๆในห้องclassic ห้องประจำของเรา แล้วรู้สึกว่า กระทู้ของตัวเองช่างไร้สาระจริงๆ จะทำยังไงให้หายขี้เกียจดีนะ เกลียดตัวเองเวลานี้จัง เฮ้อ.....   Create Date : 02 สิงหาคม 2551     Last Update : 2 สิงหาคม 2551 22:31:50 น. Counter : 546 Pageviews.   1 comment Share Tweet

จากแยม...กลายเป็นวุ้น....และ...ขนมเข่ง(รืเปล่า) วันนี้ตื่นเช้ามาแบบเบลอๆ แหงสิ เป็นหวัดแล้วก็ยังไม่เจียม ออกไปร่อนๆได้ทุกวัน ลงมาถึงห้องครัว วันนี้มีโปรแกรมจะแปรรูปเจ้ามะเฟืองที่เก็บมาเป็นกระจาด จะเอามาแปรรูปเป็นแยมซะหน่อย เพราะมันเยอะเหลือเกินกินไม่หมด แล้วเรื่องวุ่นๆมันก็เริ่มแต่เช้า ผ้าขาวบางหมด!!! แง่งๆ แล้วนี่ช๊าน จะคั้นน้ำมันยังไงเนี่ย จริงๆแล้ว เรามีเครื่องคั้นน้ำผลไม้ ที่แยกกากได้ค่ะ แต่เสด็จแม่บอกว่า เคยเอามะเฟืองมาลองคั้นแล้วกากเยอะมาก ล้างยากมากๆ แม่เลยไม่ให้ใช้ ง่า...แล้วจะซื้อมาทำไมเนี่ย สรุปก็ 10 นิ้ว 2 มือ กะ ครกเนี่ยหล่ะ ตำๆ และบีบมันเข้าไป ทำแทบตาย ได้น้ำมะเฟืองออกมา 1 ชามแกง เฮ้อ.... เอามาชิมๆดูกรรมแระ มันไม่หวาน!!! ออกจืดๆซะด้วย แถมมีกลิ่นผักๆด้วย แต่ทำไมตอนกินสดๆมันอร่อยหว่า งง เออ ช่างมัน เดี๋ยวมาปรุงรสทีหลัง ผสมน้ำเชื่อมเติมน้ำตาลเอาแระกัน มาถึงตอนผสม อ้าวไม่มีผง pectin แถมเติมน้ำเยอะไปหน่อย ดูแล้วไม่เหนียวชัวร์ แงๆๆทำไงดี เหลือบไปเห็นผงวุ้น เออ ทำเป็นวุ้นแทนก็ได้ เลยปรุงรสใหม่ เติมน้ำส้มคั้นลงไปให้ออกเปรี้ยวๆนิดๆ ชิมจนอร่อย โอเชๆ รอดตายแระ จากนั้นก็เทผงวุ้นลงไป พรวด!!!! ครึ่งถุง อ๊ากกกกกกกกก สัดส่วนจริงๆของมันคือ 1 ถุงต่อน้ำ 6 ลิตร แต่ที่ข้าพเจ้าเทลงไป ครึ่งค่อนถุง น้ำไม่เกิน 2 ลิตร แถมปนเนื้อมะเฟืองด้วย เหอๆ ช่วยอะไรไม่ได้แล้ว จะเติมน้ำลงไปอีก สงสัยจะล้น เลยช่างมัน ลองดูๆ แช่เย็นๆ รสหวานๆ อร่อยหล่ะน่า...คงไม่แข็งขนาดปาหัวหมาแตกหรอก เอิ้กๆ รื้อแม่พิมพ์วุ้นออกมา เทใส่ก็ไม่พอ ต้องเอาพวกถ้วยน้ำจิ้มมาใส่ด้วย เพราะทำเยอะจัด (แหงสิ ผิดสูตรนิ) ทำเสร็จ อืมหน้าตาดูดี ขุ่นไปหน่อย แต่ว่าตัวเนื้อมะเฟืองมันสวยอ่ะ สีใสๆเป็นรูปดาวเลย น่ารักๆ แล้วก็เอาไปเข้าช่องแข็ง แล้วก็กินข้าวรอเวลาของหวาน พอเอาออกมาชิม รสมันก็อร่อยอยู่หรอก แต่.... โหย...แข็งโป๊ก ยังกะเคี้ยวยางลบ เหนียวๆหนืดๆ แง.....รอบที่ 1 พ่อเราสงสารเห็นทำแต่เช้า ไหนมาชิมซิ แกล้งชมอืมอร่อยดีนะ แต่หน้าตามันเหมือนขนมเข่งเลย แง.....รอบที่ 2 ส่วนแม่เราก็ได้แต่หัวเราะ หึหึ ชิมไป 1 แต่ไม่ว่าไร ส่งแต่สายตามา จะพูดไรก็พูดมาเต๊อะ อย่ามองแบบนี้ได้ไหม มันปวดใจ แง......รอบที่ 3 เดี่ยวพร่งนี้ทำใหม่ มะเฟืองยังเหลืออีกเยอะ พอให้ทำเจ๊งได้อีกหลายรอบ คราวนี้จะใช้ช้อนตักแระ เข็ตๆๆๆ   Create Date : 30 มิถุนายน 2551     Last Update : 30 มิถุนายน 2551 20:00:44 น. Counter : 627 Pageviews.   0 comment Share Tweet

• Wish You Were Here
• nuyuna
• Johann sebastian Bach
• ลุดวิก
• Genzo
• BlueWhiteRed
• มีแต่ลูกสาว
• DD MAN
• ErShiYi
• <เซ็นเซอร์>
• PaDoi
• yadegari
• Analayo
• สาวไกด์ใจซื่อ
• KOok_k
• <โหน่ง>
• addsiripun
• ศล
• พยัคฆ์ร้ายแห่งคลองบางหลวง
• lets_kick_off
• long journey
• davebartus
• Webmaster - Bloggang