สิ่งใดเกิดขึ้นแล้ว สิ่งนั้นดีเสมอ
Group Blog
 
All Blogs
 

กลัวอด ไม่กลัวตาย???

กลัวอดไม่กลัวตาย??? (จริงดิ)

อาทิตย์ก่อนโน้น พาม่ามี๊ไปช้อปปิ้งของใช้ประจำบ้านที่ตั้วฮั่วเส็ง ธนบุรี (ห้างคนไทยหนึ่งเดียวที่ยังคงเหลือรอดปลอดภัย)
ม่ามี๊ขนซื้อน้ำมันพืชมาเป็นลัง
"โหไมซื้อเยอะจัง"
"น้ำมันกำลังจะขึ้นเป็น 50 บาทนะ"
"ไม่ถึงหรอกมั้ง"(อันนี้คิดในใจ) แต่ก็ไม่ได้ว่าไร ทำหน้าที่ขนๆ ของ และจ่ายตังค์ต่อไป
คล้อยหลังไป 3-4 วันคร้าบ พี่น้อง...กรมการค้าภายใน ก.พาณิชย์ประกาศปรับราคาน้ำมันอีก 5.50 บาท
น้ำมันถั่วเหลืองที่เราซื้อมา 40 บาท ขาดตัว คล้อยหลังวันเดียวขึ้นเป็น 43 บาท และป่านฉะนี้จะขึ้นเป็นเท่าไร ไม่รู้
ไม่ใช่แต่น้ำมันพืช...นม (อันเป็นผลิตภัณฑ์หลักสำหรับผลิตอาหารหลักของครอบครัว อาทิ โยเกิร์ต ) และอื่นๆ อีกสารพันก็ขึ้นราคากันพรึ่บพรั่บ
คิดอีกที ของแพงส่งท้ายปีเก่า และจะแพงขึ้นอีกหลังปีใหม่ อาจช่วยให้เราตระหนักถึงค่าของเงินในกระเป๋ามากขึ้น
โบนัสปลายปีนี้ ประหยัดๆ ไว้หน่อยนะเฟ้ย (เตือนตัวเอง)
(555วันอาทิตย์เดินHabitat ซื้อกระจุ๊กกระจิ๊กหมดไปเท่าไรล่ะ)

รูปนี้ไม่เกี่ยวอะไร แค่ชอบ






คุณเคยสงสัย และนึกรำคาญน้องหมาในซอยบ้านคุณบ้างไหมค่ะว่าทำไมช่างไม่รู้สึกรู้สากับรถราที่วิ่งไปมาสักเท่าไร มักชอบมานอนเล่นกลางถนน และนอนอยู่อย่างนั้น แม้รถจะแล่นมาใกล้ตัวจนจวนเจียนจะทับอยู่รอมร่อ

ฉันเคยคิดเองว่าสัญญาณระแวดระวังภัยของเจ้าน้องหมาช่างไม่ดีเอาซะเลย

ทุกครั้งที่ขับรถเข้าซอยบ้านก็จะเห็นน้องหมาหลายตัวนอนเอกเขนกอย่างสบายอารมณ์ทำให้ต้องขับรถอย่างระมัดระวังเป็นพิเศษ

ก็กลัวทั้งเราเองจะไม่ทันเห็น และน้องหมาจะหลบไม่ทัน

เคยบ้างเหมือนกันที่ไม่ทันสังเกตุ จนเห็นน้องหมาเผ่นแผล่วกระโจนไปทางอื่นโน่นแล้วถึงรู้ว่าเกือบไป

มานึกๆ อีกที หรือจริงๆ อาการเชื่องช้าแช่มช้อยประหนึ่งเจ้าของซอยนี่ ไม่ใช่ไม่รู้ไม่เห็น แต่รู้และประเมินตัวเองได้ว่าจะหลบหลีกจากภัยที่กำลังจะมาถึงตัวได้อยู่แล้วอย่างไรต่างหาก

(รู้ไว้ด้วยนะคุณ-น้องหมารำพึง)
คำถามนี้ตอบเองไม่ได้ค่ะ


หยิบเรื่องน้องหมามาพูดนี้ไม่ได้มีวาระอะไรเป็นพิเศษ เพียงแต่รู้สึกว่ามีเรื่องเครียดๆ รอบตัวเยอะเกินไปแล้ว หันไปชมนกชมไม้คิดถึงเรื่องรอบตัวเบาๆ บ้างดีกว่า

เห็นราคาน้ำมัน ราคาก๊าซ กะปิ น้ำปลา ค่ารถเมล์ และอีกสารพันตบเท้าขึ้นราคากันพรึ่บพรั่บ

นาทีนี้ไม่ต้องให้กูรูจากสำนักเศรษฐกิจไหนมาบอกถึงสถานการณ์เศรษฐกิจในปีหน้า เราก็รู้กันอยู่ว่าจะ เจอกับอะไรบ้าง แม้จะน้อมเกล้านำทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้เป็นหลักยึดในการดำเนินชีวิต

และท่องคาถา“ขยัน สะอาด ประหยัด”เป็นคติประจำใจมาหลายปีแล้วก็ยังอดเป็นกังวลไม่ได้

ก็แค่ทุกวันนี้ หัวข้อสนทนาของคนแถวบ้าน หนีไม่พ้นเรื่องการฉกชิงวิ่งราว และย่องเบา เพราะเกิดขึ้นถี่เหลือเกิน

โจรผู้ร้ายยังพัฒนาฝีมือล้ำลึกขึ้นอีกต่างหาก ที่เคยได้ยินว่ามิเตอร์น้ำหน้าบ้านหายกลายเป็นจิ๊บๆ ไปเลย

เหตุการณ์ล่าสุดเกิดกับบ้านเยื้องๆ กัน เจ้าของบ้านตื่นขึ้นมาพบว่าโต๊ะสนามหน้าบ้านหายไปทั้งชุด!!!

ไม่ใช่โต๊ะธรรมดา แต่เป็นโต๊ะทำจาก"อัลลอย" ซึ่งหนักแสนหนัก

เหตุการณ์นี้ทำให้ทุกคนนึกถึงรั้วอัลลอยบนกำแพงของบ้านในซอยถัดไป บ้านหลังนั้นไม่มีคนอยู่ ปิดทิ้งไว้มาเป็นปีแล้ว

อยู่มาวันหนึ่ง ทุกคนสังเกตุเห็นว่ารั้วอัลลอยแผงเบ้อเร่อยาวเป็นสิบเมตรบนกำแพงบ้านหลังนั้นหายไป

รั้วบ้านนี้เลยเตี้ยนิดเดียว เพราะเหลือแต่รั้วปูน

คิดดูก็แล้วกัน


ความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินน่าเป็นห่วง ไม่แพ้ปัญหาปากท้อง

“อะไรต่อมิอะไรขึ้นราคาขนาดนี้ เศรษฐกิจก็ยังงี้ บริษัทพี่ทำยังไงบ้างค่ะ”ฉันถามเจ้าของกิจการแห่งหนึ่ง

“ผมก็บอกลูกน้องว่าเงินเดือนคงปรับขึ้นไม่ได้มากนัก ถ้าจะให้ปรับเงินเดือนขึ้นมากๆ เท่ากับค่าครองชีพ ที่ถีบตัวขึ้นขนาดนี้ บริษัทเราคงมีพนักงานเท่าดิมไม่ได้

ผมบอกพวกเขาว่าต้องขยันขึ้น และให้ช่วยกันประหยัด”


เจ้าของกิจการคนเดิมยังบอกอีกว่ารถของทีมเซลส์ที่มีอยู่ 20 กว่าคัน ก็เปลี่ยนมาใช้ก๊าซหมดแล้ว

ช่วงแรกเซลส์ก็มีบ่นให้เข้าหูบ้างว่ากลัวเรื่องความปลอดภัย แต่พอรู้ว่ารถส่วนตัวที่เจ้านายใช้เองก็เปลี่ยนมาใช้ก๊าซด้วย เสียงบ่นเลยเงียบหายไป

“เรื่องที่รถผมเปลี่ยนมาใช้ก๊าซด้วยก็เรื่องหนึ่ง แต่ผมว่าพนักงานเองเขาอยู่กับตลาด อ่านข่าว ดูทีวีก็ต้อง รู้ว่าเศรษฐกิจเป็นยังไง คนน่ะกลัวตายกันทั้งนั้น แต่นาทีนี้กลัวอดมากกว่า”
นั่นมุมหนึ่ง

ถามถึงนโยบายการบริหารธุรกิจในยุคข้าวยากหมากแพง กำลังซื้อหดหายกับ “ผู้บริหารใหญ่”ในธุรกิจที่ยังได้โตได้โตดี เพราะขายสินค้าจำเป็นในชีวิตคนรุ่นใหม่
ได้คำตอบว่า

“โฟกัส โฟกัส โฟกัส เราจะไม่ทำอะไรใหม่ แต่จะทำสิ่งที่ยังไม่ดี ซ่อมให้ดีขึ้น ทำสิ่งที่ดีอยู่แล้ว ย้ำให้ดียิ่งๆ ขึ้นไปอีก เพราะยิ่งคิดโปรเจ็คใหม่ ครีเอทอะไรใหม่
ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะเวิร์กไหม แค่คิดก็เสียเงินแล้ว ยังไม่รวมที่ต้องใช้เงินโปรโมตอีกตั้งเท่าไร”ผู้บริหารหนุ่มตอบ


นี่ก็อีกมุม

คุณล่ะคะคิดหรือยังว่าจะใช้ชีวิตอย่างไร


(ชั้น5ประชาชาติฉ.10-12ธ.ค.2550)




 

Create Date : 10 ธันวาคม 2550    
Last Update : 10 ธันวาคม 2550 11:38:55 น.
Counter : 1211 Pageviews.  

"ถ้า..." นกไร้ขาเพื่อนรัก



1.ฝัน

"ถ้าย้อนเวลาได้ แกอยากกลับไปแก้ไขอะไรบ้าง"?

..."ไม่รู้ซิ ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ก็โอเคนะ"

"แกกลัวว่าถ้าเราเปลี่ยนแปลงมัน ปัจจุบัน และอนาคตอาจแย่กว่านี้รึเปล่า?"

ฉันจำคำตอบของตัวเองวันนั้นไม่ได้ แต่จดจำสีหน้า แววตาของเจ้าของคำถาม และบรรยากาศการพูดคุยในค่ำคืนนั้น ริมทะเล เกาะเสม็ด ได้ชัดเจนมาก ทั้งๆ ที่ผ่าน
มานานมากแล้ว

เกือบ 10 ปีแล้วซินะ...เจ้าของคำถามก็ไม่อยู่ให้ถามทบทวนความทรงจำอีกแล้ว

ไม่เป็นไร คราวหน้าถ้าฉันฝันถึงแกอีก ฉันจะลองถามนะ เผื่อแกจะจำคำตอบของฉันได้
ฉันแค่อยากรู้ว่าเมื่อเวลาผ่านไป เหตุผลที่มาอธิบายคำตอบกับคำถามเดิมจะเหมือนหรือต่างกัน
....

2.Crash

ความฝันเมื่อคืนทำให้ฉันคิดถึงหนังเรื่องนี้
"Crash" ...ถ้าแกได้ดูก็คงชอบเหมือนกัน

ความเฉียบคมของบทหนัง และวิธีเล่าเรื่อง...สุดยอด!!! แต่ก็ตัดสินใจไม่ได้ว่าระหว่าง Brokeback mountain-หุบเขาเร้นรัก กับ Crash ใครเหมาะกับรางวัลหนังยอดเยี่ยมมากกว่า

ฉันรู้ว่าแกต้องชอบ Brokeback mountain มากกว่าแน่ แต่ออสการ์หนังยอดเยี่ยมปีนี้น่ะ เป็นของ Crash ไปแล้วเรียบร้อย

"Crash"ตีแผ่ความเป็นมนุษย์ได้อย่างตรงไปตรงมา เป็นมนุษย์ที่มีทั้งด้านมืด และด้านสว่าง ตีแผ่ความสัมพันธ์ของคนในสังคม และความจริงที่ว่า การกระทำ
ของคนๆ หนึ่งสามารถส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ไปยังอีกคน และอีกคนได้มากกว่าที่เราคิดมากนัด
ในอีกมุมหนึ่ง หลายเรื่องที่มีผลกระทบต่อชีวิตของเรากลับมาจากความบังเอิญโดยแท้
...คนเราเมื่อได้รู้จักกัน แม้หลายครั้งกับหลายคนจะเป็นแค่ความบังเอิญ แต่สายสัมพันธ์ที่ถักทอต่อจากนั้นอาจยืนยาวลึกซึ้งได้อย่างไม่น่าเชื่อ
ที่สำคัญสิ่งที่เกิดขึ้นตามมานับจากวันเริ่มต้น หากคิดให้ดีไม่ใช่ความบังเอิญ เพียงแต่เราอาจไม่เคยหาคำตอบว่า เพราะอะไรกันแน่...


3.ถ้า...(1)

มีคู่รักคู่หนึ่งนั่งรถเมล์ที่กำลังวิ่งตรงไปยังในเมืองที่อยู่ในหุบเขา มีเพียงพวกเขาเท่านั้นที่ได้ลงกลางทาง
หลังจากที่พวกเขาลงไปแล้ว รถเมล์ก็วิ่งต่อไป แต่เพียงไม่นานก็มีหินก้อนมหึมา ตกลงมาทับรถเมล์คันนั้นจนพังยับเยิน
ทุกคนที่อยู่ในรถในเวลานั้นเสียชีวิตทั้งหมด คู่รักคู่นั้นเมื่อเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็พูดขึ้นว่า
"ถ้าพวกเรายังอยู่ในรถคันนั้นก็ดีนะซิ"

คนส่วนใหญ่จะคิดว่า"โชคดีนะที่เราลงมาก่อน" แต่คู่รักคู่นั้นกลับพูดสิ่งที่ตรงข้ามกับคนอื่น

เพราะอะไร?
.......

ทั้งคู่คิดว่าถ้าพวกเขายังอยู่ รถเมล์คันนั้นจะไม่หยุดรถเพื่อให้พวกเขาลงกลางทางจึงจะขับเลยตำแหน่งที่หินถล่มลงมา!!!
"คุณล่ะตอบคำถามถูกไหม ถ้าถูกโดยไม่เคยอ่านเรื่องนี้มาก่อน แปลว่าฉันตาถึงมากที่ได้คุณมาเป็นเพื่อน
แต่ถ้าตอบผิด ก็ยินดีด้วยที่เราต่างคิดเหมือนผม...(ฮา)"

4.ถ้า...(2)

"ถ้าย้อนเวลาได้ แกอยากกลับไปแก้ไขอะไรบ้าง?-ฉันอยากมีโอกาสถามแกบ้างจัง
อยากให้แกได้ฟังเพลงนี้ด้วยกัน

"Live and Learn"

...เมื่อวันที่ชีวิต เดินเข้ามาถึงจุดเปลี่ยน จนบางครั้งคนเราไม่ทันได้ตระเตรียมหัวใจ

ความสุขความทุกข์ ไม่มีใครรู้ว่าจะมาเมื่อไหร่ จะยอมรับความจริงที่เจอได้แค่ไหน

เพราะชีวิตคือชีวิต เมื่อมีเข้ามาก็มีเลิกไป มีสุขสมมีผิดหวัง หัวเราะหรือหวั่นไหว เกิดขึ้นได้ทุกวัน

...อยู่ที่เรียนรู้ อยู่ที่ยอมรับมัน ตามความคิดสติเราให้ทัน อยู่กับสิ่งที่มีไม่ใช่สิ่งที่ฝัน และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด

สุขก็เตรียมไว้ว่าความทุกข์คงตามมาอีกไม่ไกล จะได้รับความจริงเมื่อต้องเจ็บปวดไหว

เพราะชีวิตคือชีวิต...

เมื่อมีเข้ามาก็มีเลิกไป มีสุขสมมีผิดหวัง หัวเราะหรือหวั่นไหว เกิดขึ้นได้ทุกวัน

...อยู่ที่เรียนรู้ อยู่ที่ยอมรับมัน ตามความคิดสติเราให้ทัน อยู่กับสิ่งที่มีไม่ใช่สิ่งที่ฝัน และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด...

....แกคงไม่ตัดสินใจเหมือนอย่างวันนั้น...เพื่อนรัก


5.นกไร้ขา

"บางทีฉันก็คิดว่าตัวเองเป็นเหมือนเลสลี่ จาง ในหนังเรื่อง Happy together"แกพูดกับฉันนานมาแล้ว

"ทำไม แกจะบอกว่าแกหล่อพอๆ กับเลสลี่ จาง งั้นซิ?"ฉันแกล้งถาม

"555 อันนั้นก็ด้วย แต่นกไร้ขาน่ะ มันจะหยุดบินก็ต่อเมื่อตายไปแล้ว"แกบอก

ในชีวิตจริง"เลสลี่ จาง-นกไร้ขา"หยุดบินครบ 3 ปีไปเมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา

แต่สำหรับแก-นกไร้ขาเพื่อนรัก อีกไม่กี่วันก็จะครบ 6 ปีแล้ว

และ
"ถึงแกไม่มาเข้าฝัน ฉันก็ไม่ลืมหรอกน่า..."

ฉันคิดถึงแกจริงๆ ว่ะ...น้อต...




 

Create Date : 03 กรกฎาคม 2550    
Last Update : 29 สิงหาคม 2550 21:24:46 น.
Counter : 512 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  

cherydnk
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add cherydnk's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.