สิ่งใดเกิดขึ้นแล้ว สิ่งนั้นดีเสมอ
Group Blog
 
All Blogs
 

จะทำทุกอย่างเพื่อ"ใคร"

"I will make him love me"

วันก่อนนอนสะลึมสะลือดู"ซีเอสไอ"เบลอขนาดจำไม่ได้ว่าเป็นนิวยอร์ก
ไมอามี หรือซีเอสไอเฉยๆ

ถ้าจะให้เดาจากหน้าตาตัวละคร "นิวยอร์ก"โลด

เนื้อเรื่องไม่มีอะไรสะดุดใจเท่าไร สำหรับตอนนี้ แม้ฆาตรกรในตอนนี้จะเป็นสาวชาติใดไม่ปรากฎ แต่เธอบอกตอนหนึ่งว่า ตอนจากเมืองไทยมาที่นี่ชั้นไม่มีอะไรเลย

อย่างที่บอกว่า ไม่สะดุดใจ จนถึงฉากสุดท้าย....

กับตัวหนังสือไม่กี่ตัวบนกำแพง

ซีเอสไอตอนนี้ต่อมาจากตอนก่อนหน้านี้ ตัวละครในเรื่องบางตัวจากตอนก่อนมาเชื่อมโยงกับตอนนี้ ทั้งๆ ที่ปกติแล้วนอกจากตัวละครหลักของเรื่องที่อยู่โยงโดยตลอดแล้ว

ตัวละครอื่นๆ ในแต่ละตอน ก็แค่ผ่านมาแล้วผ่านไป

ยกเว้นผู้หญิงคนนี้ ตอนก่อนโน้นหญิงสาวหน้าตาดีคนนี้ดูเผินๆ น่าจะมาจากครอบครัวที่อบอุ่น

พ่อทำธุรกิจกับแม่ ทำธุรกิจขนย้ายบ้าน กิจการก็ดูไปด้วยดี ตัวพ่อดูเหมือน
แฟมิลี่แมน จากที่เห็นลูกเมียร่ำไห้เสียใจที่จู่ๆ ตำรวจก็แจ้งให้มายืนยันศพชายนิรนามว่า ใช้คนเดียวกับพ่อ และสามีหรือเปล่า

เมื่อหญิงสาวเห็นรอยแผลเป็นบนนิ้วของร่างที่แน่นิ่งบนเตียงก็จำได้

ตามสไตล์ของ"ซีเอสไอ"และหนังสืบสวนทั่วไป ถ้าไม่ใช่คู่อริก็หนีไม่พ้นคนในครอบครัว

ยิ่งดูอบอุ๊นอบอุ่นอย่างนี้ด้วยแล้ว เชื่อเถอะว่า โอกาสที่คนเขียนบทจะเขียนพล็อตให้หักหาญน้ำใจคนดูยิ่งกว่า 100%

ร่องรอยชวนสงสัยที่ตามให้สืบค้นต่อเป็นโปสการ์ดครึ่งใบในมือร่างไร้วิญญาณ

เมื่อผ่านกระบวนการทางวิทยาศาสตร์สุดล้ำลึกจึงพบว่า เป็นโปสการ์ดของเว็บไซต์แห่งหนึ่ง เป็นช่องทางของคนเหงาๆ สำหรับตามหาส่วนที่ขาดหายไป

การติดต่อกันในโลกไซเบอร์ของหญิงชายคู่หนึ่งเริ่มต้นขึ้นที่นี่

ผูกพันแน่นแฟ้นขึ้นภายในเวลาอันรวดเร็ว

หญิงสาวรู้สึกว่า ชายหนุ่มคือบางส่วนที่ขาดหายไป

ข้างชายหนุ่มเหมือนเจอคนที่"ใช่"

ที่สุดทั้งคู่ตัดสินใจแลกรูปเพื่อนัดเจอกัน

ตอนจบของเรื่องจะไม่ใช่"โศกนาฏกรรม"

ถ้าชายหนุ่มของหญิงสาวจะเป็นคนอื่น

ไม่ใช่ "พ่อ"

การโบยตีคนดูเป็นนิสัยประจำของคนเขียนบท"ซีเอสไอ"ดูบ่อยๆ จะชินไปเอง (อิอิ)

"หญิงสาว"ตกเป็นผู้ต้องสงสัยอันดับ 1 ทันที ด้วยว่า ผู้เป็นแม่มีหลักฐานยืนยันว่าในเวลาที่น่าจะเป็นช่วงที่มีการฆาตรกรรมเกิดขึ้น เธออยู่ในที่ไกลออกไปมาก

มีบันทึกวิดิโอไว้เป็นหลักฐาน (นาฬิกาในวิดิโอยืนยันเวลา)

หญิงสาวปฏิเสธ แม้จะจำนนด้วยหลักฐาน

แสดงดีจริงๆ ฉันนึกในใจเมื่อเห็น"แววตาเศร้าๆ กับสีหน้าไร้เดียงสาของหญิงสาวในเรื่อง"

แต่ท้ายสุดสุดท้าย เรื่องราวก็หักมุม แม้จะเหวี่ยงไปไม่ไกลตามสไตล์"ซีเอสไอ"ก็เถอะ

เทปวิดิโอของแม่ที่บันทึกเวลาไว้ แต่ถ้าสังเกตุอย่างละเอียดจะเห็นว่า "เงา"ในเทปไม่ตรงกับความเป็นจริง

ประมาณว่า ทิศนี้เวลานี้ ถ้าแสงอาทิตย์ส่งมาทางนี้ เงาที่ตกกระทบควรจะอยู่ด้านไหน อะไรประมาณนั้น

เมื่อเงากับเวลาไม่ตรงกัน ก็โป๊ะเช๊ะ จับฆาตรกรได้

"แม่ติดคุก พ่อตาย"คือชะตากรรมของหญิงสาว


ทั้งหมดที่ข้าง แค่อารัมภบท

ยืดเยื้อเนอะ....ภาษาพี่บางคนเรียกว่า "เวิ่นเว้อ"

ก็แค่อยากปูเรื่องให้รู้จักตัวละครมากขึ้นอ่ะนะ

หญิงสาวรู้สึกผูกพันกับพระเอกตั้งแต่ตอนนี้ เพราะพระเอกแสดงท่าที่เป็นห่วงเป็นใย จริงๆ ก็ไม่ได้พิเศษอะไร แต่คนที่กำลัง"ขาด"ย่อมรู้สึกมากกว่า
เป็นธรรมดา

ตอนถัดมาหญิงสาวกลับมาอีกครั้ง โดยเอาตัวเข้ามาเกี่ยวกับการสืบสวนสอบสวนคดีอื่นๆ ของพระเอก ทั้งที่ไม่น่าจะเกี่ยว

สืบไปสืบมาจึงรู้ว่า she ปลอมหลักฐานขึ้นมา เพราะอยากอยู่ใกล้ชิดพระเอก แค่นั้น แต่เมื่อพระเอกรู้ก็หัวเสีย และต่อว่าเธออย่างรุนแรง

หญิงสาวเสียอกเสียใจ ไม่คิดว่าจะทำให้ชายหนุ่มโกรธถึงขนาดนั้น

ตอนเกือบจบของตอนนี้ หลังคลี่คลายคดีได้แล้ว นึกว่าจะจบแล้วซะอีก

เสียงมือถือส่วนตัวของพระเอกก็ดังขึ้น

พระเอกผลุนผลันออกไปหาหญิงสาวเจ้าของเสียงจากปลายสาย

หญิงสาวนั่งทรุดตัวจมกองเลือดอยู่ในครัว (ใช้มีดกรีดข้อมือตัวเองทั้งสองข้าง)

"ไม่ต้องกลัวนะ ผมจะพาคุณไปโรงพยาบาล"

"ฉันขอโทษ"หญิงสาวพร่ำพูดพลางร้องไห้สะอึกสะอื้น

ฉากนั้นทำให้คิดว่าพระเอกหน้าเครียดแห่งซีเอสไอนิวยอร์กจะอินเลิฟก็คราว ถ้าไม่เหลือบไปเห็นตัวหนังสือบนกำแพง

"I will make him love me"


เวอร์มะถ้าจะบอกว่า ประโยคนี้ทำให้กลับมานั่งคิดนอนคิดอยู่นาน

พยายามนึกเท่าไรก็นึกไม่ออกว่า เคยมะที่คิดแบบนี้

...โรคจิตชะมัด...ฉันคิด

คิดกลับไปกลับมา หรือว่า ปกติกันหว่า

หรือส่วนลึกๆ ในใจคนเรามักคิดแบบนี้ด้วยกันทั้งนั้น ถ้าเรารู้สึกกับใครสักคนมากๆ เพียงแต่สิ่งที่ปรากฎ ไม่ใช่ตัวหนังสือบนกำแพง หรือในสมุดบันทึก

เป็นการกระทำ และคำพูดที่ไม่ได้ตรงๆ โต้งๆ แบบนี้ แต่เป้าหมายก็ไม่ได้แตกต่างกัน


ถึงอย่างนั้นก็เถอะยังไงก็ยังรู้สึกว่า น่ากลัวอยู่ดี

ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายกระทำ หรือถูกกระทำ

i will make hime love me
i will make her love me






ความรู้สึกเป็นแบบในไอคอนข้างบนเลยอ่ะ




 

Create Date : 13 กรกฎาคม 2552    
Last Update : 13 กรกฎาคม 2552 19:17:53 น.
Counter : 508 Pageviews.  

ความฝันกับการเดินทางครั้งสุดท้าย

ความฝันของชายหนุ่มคือการเป็นนักเล่นเชลโล่มืออาชีพ แต่หลังจากเดินทางตามฝันอยู่นานหลายปี เมื่อมองย้อนกลับไป กลับพบว่าการสร้างความสำเร็จจากความฝันนับวันยิ่งห่างไกล

ชีวิตความเป็นอยู่ แม้ไม่ถึงกับลำบาก แต่ก็ไม่สบาย ความมุ่งมั่นตั้งใจ ความหลงใหลในการเล่นเชลโล่ไม่เคยหายไปไหน แต่การเดินต่อบนเส้นทางเดิมมาถึงทางตัน

วงออร์เคสตร้าที่เขาเล่นประจำต้องปิดตัวลง ทั้งๆ ที่เพิ่งลงทุนซื้อเชลโล่ราคาแสนแพงได้ไม่นาน

ความฝันกับความจริงต่างกันลิบลับ

การตัดสินใจละทิ้งความฝันเพื่อเดินต่อในโลกของความเป็นจริงไม่ง่ายนัก ยิ่งถ้าเราใช้เวลาไปกับการเดินทางตามหาความฝันมาอย่างยาวนาน

ชายหนุ่มตัดใจขายเชลโล่ เพราะรู้ดีว่าฝีมืออย่างเขา เมื่อเทียบกับนักดนตรีคนอื่นๆ การหาวงใหม่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

ถ้าไม่มีวงประจำเล่น ก็ไม่มีเงินมาจ่ายค่าเชลโล่ ราคา 18 ล้านเยน

ชายหนุ่มหัดเล่นเชลโล่ตั้งแต่ยังเด็ก และคิดมาตลอดว่าจะเป็นนักเล่นเชลโล่มืออาชีพ

เมื่อชีวิตจริงต่างจากความฝัน และถึงจุดที่ต้องเลือกทาง
เขาตั้งคำถามกับตนเองว่า การเป็นนักเล่นเชลโล่มืออาชีพใช่ความฝัน
จริงๆ หรือเปล่า

ไม่มีคำตอบในคำถามนั้น
.............

แม่จากไป 2 ปีกว่าแล้ว ทิ้งบ้านเล็กๆ หลังหนึ่งที่เคยเปิดเป็นร้านกาแฟเล็กๆ ไว้ให้ นานแล้วที่เขาไม่ได้กลับบ้าน


ชายหนุ่มเลือกที่จะกลับไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่บ้าน แม้ยังไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อ

ชีวิตที่บ้านนอกสิ้นเปลืองน้อยกว่า ความกดดันทางการเงินย่อมน้อยกว่ามาก

วันหนึ่งระหว่างนั่งทานข้าวเช้า พร้อมกับอ่านหนังสือพิมพ์ไปด้วย เขาเจอกับประกาศรับสมัครงานของบริษัทแห่งหนึ่ง ที่ระบุว่า รับสมัครเจ้าหน้าที่จัดการเรื่องการเดินทาง และรายได้ดี

เมื่อเจอกับชายแก่เจ้าของบริษัทเขาก็ต้องแปลกใจ

เอกสารเกี่ยวกับประสบการณ์ในการทำงาน ประวัติทางการศึกษา ไม่ได้รับความสนใจจากเจ้าของบริษัท

ชายแก่พูดกับเขาแค่ว่า หวังว่าคงอยู่ด้วยกันนานๆ นะ พร้อมหยิบเงินส่งให้

ชายหนุ่มรับเงินมาอย่างงงๆ

"เราไม่ต้องคุยเรื่องเงินเดือนหรือรายละเอียดงานอื่นๆ เหรอครับ"

"ทำไม เงินน้อยไปหรือ"
"งั้นพรุ่งนี้ ก็มาเริ่มงานได้เลยนะ"

"ว่าแต่ผมต้องทำอะไรบ้าง งานที่ทำเป็นงานประเภทไหน"

"คุณไม่รู้หรือ ว่าเป็นงานอะไร"

"ในหนังสือพิมพ์เขียนแค่ว่าเพื่อนเดินทาง"

ชายแก่เจ้าของบริษัทหยิบประกาศหางานมาดู และว่า

"อ๋อเขาพิมพ์ตกไปคำหนึ่งน่ะ นี่หมายถึงการเดินทางไปสู่สุคติ"

งานใหม่ของชายหนุ่ม คือคนทำศพ

เขาอึ้งไปชั่วอึดใจ ตั้งแต่เกิดมา เขาไม่เคยเห็นศพคนตายมาก่อนเลย จึงไม่แน่ใจว่าจะทำได้ไหม

"ผมไม่เคยเห็นคนตายเลยนะ ตากับยายก็เสียตั้งแต่ผมยังเด็กมาก ตอนแม่ผมเสียเมื่อสองปีก่อน ผมก็อยู่ต่างประเทศ จึงกลับมาไม่ทันพิธีศพ ส่วนพ่อก็ทิ้งผมไปตั้งแต่ผมอายุแค่ 6 ขวบ"

"ไม่เป็นไร ช่วงแรกก็ช่วยงานไปก่อน"

เขากลับบ้านอย่างงงๆ เมื่อภรรยาถามว่า งานบริษัททัวร์เป็นอย่างไรบ้าง เขาไม่ได้ตอบ แค่บอกว่า ยังไม่รู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง

วันแรกของการทำงานหินสุดๆ เพราะต้องจัดการกับหญิงชราที่เสียชีวิตในอพาร์ตเมนต์ กว่าคนจะมาเจอก็ผ่านไปกว่า 2 อาทิตย์แล้ว

ระหว่างที่นั่งอยู่บนรถเมล์กลับบ้านถึงรู้ว่ามีกลิ่นบางอย่างติดตัวมาด้วย

เขาแวะอาบน้ำที่ห้องอาบน้ำร้อนระหว่างทาง ทำความสะอาดร่างกายทุกซอกทุกมุมเพื่อให้กลิ่นหายไปก่อนเข้าบ้าน

ภรรยาเตรียมอาหารไว้ชุดใหญ่ มีเนื้อไก่สดๆ สำหรับทำสุกียากี้ เมื่อเห็นเนื้อสดๆ ตรงหน้า เขาวิ่งไปอ้วก

คืนนั้นเขานอนไม่หลับ และต้องลุกขึ้นมาเล่นเชลโล่กลางดึก เรื่องราวในวัยเด็กเกี่ยวกับพ่อที่เขาจำหน้าไม่ได้ ย้อนกลับเข้ามาในความทรงจำ

วันรุ่งขึ้นและวันถัดมา ชายหนุ่มยังคงไปทำงานเหมือนเดิม งานที่แต่แรกไม่อยาก ไม่คิดว่าจะทำได้ แต่เริ่มยอมรับมากขึ้นเรื่อยๆ

การจัดการกับทำความสะอาดร่างกายของคนตายอย่างให้ความเคารพ แต่งตัวให้คนตายให้ดูดีเหมือนเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ เพื่อให้ครอบครัวคนตายเก็บความทรงจำ และกล่าวอำลาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนนำร่างกายบรรจุในโลง

งานที่ดูเหมือนน่ารังเกียจในสายตาคนทั่วไป แต่กับครอบครัวผู้ตายต่างออกไป

ครอบครัวแล้วครอบครัวเล่าต่างซาบซึ้งกับการทำหน้าที่ "เพื่อนเดินทางไปสู่สุคติ"ของเขา

ความภูมิใจในอาชีพใหม่ก่อตัวขึ้นทีละน้อย

จนเมื่อภรรยารู้ความจริง และต้องการให้เขาลาเพื่อไปหางานที่ดีกว่านี้ มีเกียรติมากกว่านี้ เธอยื่นคำขาดว่าจะกลับไปอยู่บ้านพ่อแม่จนกว่าเขาจะลาออก

ชายหนุ่มกลับไปที่บริษัท แต่ยังไม่ทันพูดอะไร เจ้าของบริษัทกำลังทานอาหารเย็น เมื่อเห็นเขาก็ชวนร่วมวงด้วย

ระหว่างทานอาหารก็เล่าว่าภรรยาเสียชีวิตเมื่อ 9 ปีก่อน ตอนนั้นยังไม่มีใครทำอาชีพนี้ เขาจึงลงมือแต่งหน้าแต่งตัวภรรยาด้วยตนเองเพื่อให้คนที่เขารักที่สุดสวยที่สุด

แทนของขวัญ และคำอำลาเป็นครั้งสุดท้าย

เขาเปิดบริษัทนับตั้งแต่นั้นมา

วันนั้นชายหนุ่มไม่ได้เอ่ยถึงการลาออกกับชายขรา

ผ่านไปวันแล้ววันเล่า เย็นวันหนึ่งเมื่อกลับถึงบ้านก็พบว่า ภรรยากลับมาบ้านแล้ว เพราะรู้ตัวว่า กำลังตั้งครรภ์

ไม่มีใครพูดอะไรกันระหว่างนั้น จนเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น

ชายหนุ่มต้องไปทำหน้าที่ของเขาอีกครั้ง หนนี้เพื่อคุณป้าเพื่อนบ้าน คนเดียวกับเจ้าของร้านอาบน้ำ


แรกทีเดียวลูกชายคุณป้าเพื่อนในวัยเด็กของเขาก็ไม่ชอบใจนัก ที่รู้ว่าเขาทำงานอะไร

แต่เมื่อได้เห็นการจัดการกับงานในหน้าที่อย่างมืออาชีพ

ทั้งภรรยาและเพื่อนบ้านไม่กังขาอีกต่อไป

มีแต่คำขอบคุณครั้งแล้วครั้งเล่ากับการทำหน้าที่เพื่อนเดินทางเพื่อส่งผู้จากไปสู่สุคติ

ในยามว่างชายหนุ่มยังคงเล่นเชลโล่อย่างมีความสุข

ความฝันกับความจริงมักแตกต่างกัน

การเดินทางตามความฝันอาจไม่ได้มาพร้อมชื่อเสียง เงินทองและความสำเร็จ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะอยู่กับความฝันอย่างมีความสุขไม่ได้

หมายเหตุ - ข้อเขียนเปิดเผยเนื้อหาของภาพยนตร์ญี่ปุ่น "Departures" เจ้าของรางวัลออสการ์หนังต่างประเทศยอดเยี่ยมปีล่าสุด
///////////////////























 

Create Date : 03 กรกฎาคม 2552    
Last Update : 3 กรกฎาคม 2552 10:35:15 น.
Counter : 1098 Pageviews.  

ไม่มีไม่ลืม

อากาศดีชะมัด ครึ้มๆ ไม่ถึงกับอึมครึม ไม่มีแดด แต่ก็ไม่มีฝน ชอบจริงๆ
หัวยังหนักๆ อยู่นิดหน่อย หลังจากผ่านค่ำคืนแห่งความบังเอิญ

บังเอิญอยากดริ๊งนิดๆ หน่อยๆ
บังเอิญมีคนโทร.มาตามไปแจม
บังเอิญตัดสินใจไป

ดื่มไปจิ๊บๆ เองนะ (หรือเปล่าหว่า) ทำไมเช้ามาหัวหนักๆ อีกแล้วล่ะ

คงเพราะห่างเหินจากดาวแดงมาหลายปี ที่เคยคุ้นๆ กันก็เหมือนกับต้องทำความรู้จักกันใหม่ซะงั้น

ในความสัมพันธ์กับใครบางคนก็เป็นแบบนี้หรือเปล่านะ

วันคืนที่เราใช้จ่ายไปด้วยกัน...

happy together ฟุ้งถึงหนังของพี่เลส...ลี่ จางอีกแล้วซิ

วันคืนที่เราใช้จ่ายไปด้วยกัน ซ้ำๆ ยาวนาน เมื่อเหลือแค่ "เคย" นึกย้อนกลับไปแทบจำอะไรไม่ได้

ในระหว่างทางของความสัมพันธ์ เราทำอะไรหล่นหายไปบ้างนะ

อยากลืม กลับจำ ...

"อดีตกับความทรงจำต่างกันยังไง"คำถามของพี่แหม่มวนเวียนกลับมาอีกครั้ง

"อดีตคือสิ่งที่ผ่านมาแล้ว ความทรงจำคือสิ่งที่ผ่านมาแล้วและเราเลือกที่จะจำ" ???

??? ความทรงจำที่เราไม่ได้เลือกจำ ก็มีนี่น่ะ หลายอย่างที่ไม่คิดว่าอยากจำ
ทำไม ไม่ลืมสักทีล่ะ

ใครสักคนเคยบอกว่า มีความสุขทุกครั้งที่หยิบรูปถ่ายเก่าๆ ที่เก็บไว้ในกล่องรองเท้าออกมาดู

รูปเพื่อน แฟน ครอบครัว ทั้งคนที่เรา รัก ไม่ชอบ เคยชอบ แอบรัก...หลง สารพัด

เรื่องราวในรูปถ่ายทั้งดีและไม่ดี หยิบขึ้นมาดูทีไรยิ้มได้ทุกที...

ความทรงจำดีๆ ของเราเหมือนกันไหมนะ

"ไม่มีหรอก ไม่ลืม มีแต่ลืมเร็ว ลืมช้า"ลุงในหนัง"ความจำสั้น แต่ความรักฉันยาว"บอกกับป้า เมื่อต้องจากกัน

ไม่มี...ไม่ลืม...














 

Create Date : 01 กรกฎาคม 2552    
Last Update : 1 กรกฎาคม 2552 10:39:54 น.
Counter : 453 Pageviews.  

คิดถึงทุกปี

วันนี้เปิดเอ็มแต่เช้า แต่ช้ากว่าวันอื่นๆ บรรยากาศครึ้มฝนทำให้อ่อยอิ่งอยู่บนเตียงนานกว่าปกติ นี่ถ้าไม่ติดเป็นเวรหน้า1ล่ะก็ คงนอนแช่ต่ออีกพักใหญ่

ชอบจังบรรยากาศแบบนี้ ดูเหงาๆ ซึมๆ บีบหัวใจให้รู้สึกวูบวาบอย่างเหงาๆ แต่เป็นสุขอ่ะนะ ไม่รู้ซิ ไม่รู้จะอธิบายยังไงดี

เดียวดายอย่างเป็นสุขมั้ง ไม่รู้ซิรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ

หัวใจแข็งแรงดีก็ดีอย่างนี้เอง สามารถที่จะรู้สึกรู้สาไปกับความสุข และความทุกข์ได้ โดยยังสบายดี และยิ้มได้

เหมือนเมื่อคืน ช่วงบ่ายเดินวิ่ง และยืนหลายชั่วโมง ยุ่งแต่ก็เป็นสุข และสนุก ที่ในที่สุดงานก็ลุล่วงไปอีกครั้ง

เพิ่งมารู้ตัวว่า เหนื่อยจังก็ดึกดื่นโน่นแล้ว

ฝนโครมครามมาตั้งแต่ช่วงบ่าย หยุดตอนเย็นย่ำ และตกหนักอีกครั้งตอนฟ้ามืดตืดตื๋อ

และไม่หยุดตกอีกเลยจนดึกดื่น ฝนพรำไปตลอดทางที่กลับบ้าน ดึกแล้ว เหนื่อยนะ แต่ยังรู้สึกอยากนั่งนิ่งๆ มองฝนมองฟ้ามืดๆ อีกสักพักเลยแวะ
ไปนั่งเล่นที่เดิม

ตัวเปียกเล็กน้อย แต่ใจไม่เปียก

นึกถึงเมื่อคืนยังรู้สึกยิ้มๆ อยู่เลย บอกไม่ถูก ความสุขที่ดื่มได้โดยไม่ได้ดื่ม...แหม พูดถึงดื่มนึกถึงคืนวันเสาร์ยังรู้สึกบอกไม่ถูก

ไม่รู้เพราะไม่คุ้นอีกแล้วกับเบียร์ หลังจากไม่ได้ดื่มมาหลายปี หรือว่าเหนื่อยจากการตะลุยเจเจตลอดช่วงบ่าย...ไม่แน่ใจ แต่ก่อนนอนคืนนั้นผะอืดผะอมชะมัด

ระหว่างขับรถกลับบ้านก็ง่วงชิปโป๋ง ตื่นมายังรู้สึกมึนๆ อยู่เกือบครึ่งวัน แต่ถ้าถามว่า เข็ดไหม

ไม่นะ...



"ถ้าชั้นตาย แกจะใส่บาตรให้ชั้นไหม"pepe ส่งคำถามแรกมาทักทายกันแต่เช้า หลังจากshe อ่านเรื่องที่เราเขียนก่อนหน้านี้

ไม่เคยมีใครถามแบบนี้มาก่อนเลย อึ้งไปเหมือนกันนะ

ไม่เคยมีใครถาม ไม่เคยถามใคร

แต่ถึงไม่ถาม ก็ยินดีทำให้ด้วยความเต็มใจ ถ้าวันนั้นของเพื่อนจะมาถึงเร็วกว่ากัน

"ไม่ต้องห่วงหรอกน่า"ฉันตอบ

"ได้ยินอย่างนั้นแล้วค่อยสบายใจหน่อย ขอบใจนะ"pepe คนเดิมตอบ

ไม่อยากได้ยินอะไรแบบนี้เลย ให้ตายเหอะ บอกไม่ถูก ไม่กลัวตายนะ
และไม่เคยตัดสินการตัดสินใจของใคร ไม่ว่าจะเลือกแบบไหน

ไม่ชอบเลยที่จะพูดเรื่องแบบนี้ แต่เช้า....

ชีวิตเป็นของเรา ชั้นเคยเชื่อ และยังเชื่อจนวันนี้ แต่รู้ และเข้าใจความหมายของคำว่า "ของเรา"มากกว่าเดิมเยอะ

คงเหมือนที่คาริล ยิบรานพูดว่า "เขามาจากเธอแต่ไม่ใช่ของเธอ"

...เธอ-ฉันเป็น"เรา" ....ชีวิตเป็นของเรา แต่ไม่ได้มาจาก"เรา"

ถ้ามันจะดำรงอยู่ และจบลงด้วยตัวเราเอง ไม่มีใครให้คิดถึง ไม่มีใครให้เจ็บปวด ก็ช่างเถอะ.. แต่ไม่มีหรอกนะ เชื่อเถอะ

แม้บางขณะเราจะรู้สึกโดดเดี่ยว อ้างวาง เหมือนไม่มีใคร แต่เชื่อเถอะว่า ไม่มีใครหรอกที่ไม่มีใครเลยจริง...

ลุงขายกาแฟเย็นหน้าออฟฟิศที่ยิ้มให้กันทุกวันก่อนเดินเข้าออฟฟิศ สิบกว่าปีที่ผ่านมา เราพูดกันนับคำได้

คุณพี่ยาม(หญิง) ที่เคาน์เตอร์แลกบัตร ก่อนกดลิฟต์ขึ้นตึกก็เหมือนกัน

อยู่มาวันหนึ่ง ถ้าลุง และคุณพี่ยามหายไปเฉยๆ เชื่อเถอะว่าชั้นจะคิดถึงเขาเสมอ

เหมือนกันนั่นล่ะ ถ้าสักวันชั้นจะไม่อยู่ เขาก็คงคิดถึงชั้นบ้างเหมือนกัน (นะ)

ไม่ต้องคิดถึงกันทุกวันหรอกนะ

เหมือนที่ชั้นคิดถึงแกไงน้อต คิดถึงกันปีละหลายหน แต่หลายปีที่ผ่านมา ถึงช่วงเวลานี้ทีไร เรื่องของแกจะวนเวียนกลับเข้ามาให้ชั้นคิดถึงแล้วคิดถึงอีกทุกที








 

Create Date : 30 มิถุนายน 2552    
Last Update : 30 มิถุนายน 2552 9:34:25 น.
Counter : 1124 Pageviews.  

รัก...เลิก...โกรธ...หลง

ไม่มีหรอก ไม่ลืม มีแต่ลืมเร็วลืมช้า
ฉันเพียงแต่ลืมเร็วไปหน่อย
...
ไม่เกี่ยวกับลืมง่ายลืมยากหรอก
เพียงแต่เธอน่ะยังหวังให้เขากลับมามากกว่า
...
เมื่อผมตัดสินใจขายเชลโล่ได้ ผมรู้สึกเหมือนโดนปลดปล่อย
บางทีการเป็นนักเล่นเชลโล่มืออาชีพอาจไม่ใช่ความฝันของผมจริงๆ ก็ได้
แม้ว่าผมหัดเล่นมันมาตั้งแต่ยังอยู่อนุบาล
....
ขอบคุณนะที่ไปด้วยกัน วันนี้เป็นวันที่ฉันมีความสุขมากเลย
หวังว่าเธอคงจะมีความสุขได้สักครึ่งหนึงของฉันนะ
.....
เธอไม่ได้รักฉันหรอก เธอแค่กำลังเสียดาย
.....


ประโยคทั้งหลายข้างบน แอบจำมาจากหนังที่ได้ดูในช่วงวีคเอ็นด์ที่ผ่านมา
ทั้งในโรงที่ตั้งใจไปดูอย่าง departure ใครยังไม่ได้ไปดูแนะนำๆ ที่สยามอยากรู้รอบฉายแวะดูเว็บ Apex ก่อนนะ

ที่เปิดแผ่นดู ไม่ใช่ซิ คนอื่นเปิดแต่เดินผ่านไปหยุดดูด้วยก็นะ "ความจำสั้นแต่รักฉันยาว"

อีกเรื่องไม่รู้ชื่อ เป็นการดูซ้ำแบบไม่จบทางยูบีซี เรื่องของหนุ่มตาบอด ที่ไม่เคยคิดว่าตัวเองตาบอดกับสาวตาสวย

เมื่อกี๊เพิ่งฟัง you ar not alone ของพี่เอ็มเจ รอบที่ร้อยในรอบ 3-4 วันมานี้
แต่ตั้งแต่รู้จักเพลงนี้มา ไม่เคยเศร้าเท่านี้มาก่อนเลย

ทำไมคนเราไม่บอกรักกันบ่อยๆ ทำไมไม่กอดกันแน่นๆ เมื่ออยากกอด
ไม่ชื่นชม ไม่ยิ้ม ไม่รักกัน ตอนที่ยังทำได้

จะต้องเป็นแบบนี้อีกกี่ครั้ง

ตะโกนดังแค่ไหน ร้องไห้จนไม่มีน้ำตา กับความหวังว่า เธอจะได้ยินได้รับรู้

"you are not alone"

Another day has gone
I'm still all alone
How could this be
You're not here with me
You never said goodbye
Someone tell me why
Did you have to go
And leave my world so cold

Everyday I sit and ask myself
How did love slip away
Something whispers in my ear and says
That you are not alone
For I am here with you
Though you're far away
I am here to stay

You are not alone
I am here with you
Though we're far apart
You're always in my heart
You are not alone

All alone
Why, oh

Just the other night
I thought I heard you cry
Asking me to come
And hold you in my arms
I can hear your prayers
Your burdens I will bear
But first I need your hand
So forever can begin

Everyday I sit and ask myself
How did love slip away
Then something whispers in my ear and says
That you are not alone
For I am here with you
Though you're far away
I am here to stay
For you are not alone
I am here with you
Though we're far apart
You're always in my heart
And you are not alone

Whisper three words and I'll come runnin'
And girl you know that I'll be there
I'll be there

You are not alone
I am here with you
Though you're far away
I am here to stay
You are not alone
I am here with you
Though we're far apart
You're always in my heart

You are not alone
For I am here with you
Though you're far away
I am here to stay

For you are not alone
For I am here with you
Though we're far apart
You're always in my heart

For you are not alone

....เอ็มเจ ฝากหน่อยนะ ฉันมีเพื่อนคนหนึ่ง เขาไปอยู่บนฟ้าก่อนเธอหลายปีแล้ว เขาเป็นแฟนเพลงตัวยงของเธอเลยล่ะ ถ้าเจอเขาช่วยทักทายเขาด้วยนะ และถ้าเป็นไปไปได้ช่วยบอกเขาหน่อยนะว่า

...ฉันคิดถึง...

ปล.ใส่บาตรให้แล้วนะเว้ยเพื่อนรัก ...หวังว่าแกคงชอบ...


...




 

Create Date : 29 มิถุนายน 2552    
Last Update : 29 มิถุนายน 2552 8:48:07 น.
Counter : 527 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  

cherydnk
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add cherydnk's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.