สิ่งใดเกิดขึ้นแล้ว สิ่งนั้นดีเสมอ
Group Blog
 
All Blogs
 
มากกว่าหนังสือหนึ่งเล่ม


สำหรับคนชอบอ่านจึงถือเป็นความโชคดีที่มีร้านหนังสืออยู่ใกล้ๆ (matichon book club)ให้เดินไปซื้อหรือยืนอ่านเฉยๆ

ทั้งพ็อตเก็ตบุ้ก และนิตยสารสารพัด ยังไม่นับศูนย์ข้อมูลประจำออฟฟิศที่มีทั้งข้อมูล และหนังสือเล่มดีๆ ให้ยืมอ่านได้ฟรีๆ

เกือบทุกวันที่พอมีเวลาฉันจึงไม่พลาดที่จะไปแวะลงไปหาเรื่องดีๆ อ่านที่ร้านหนังสือ ถือเป็นการพักสายตาจากจอคอมพิวเตอร์ พักหูพักปากจากการพูดคุย และฟังเพื่อหาข่าว

ตั้งแต่วีคที่ผ่านมา มีพ็อกเก็ตบุ๊กในเครือมติชนหลายสิบปกลดราคาถูกมากๆ พี่นักขายประจำร้านเชิญชวนว่า ถูกกว่าในงานสัปดาห์หนังสือ(อีกนะ)

งานสัปดาห์หนังสือปลายปีนี้ยังมาไม่ถึง แต่หลายเล่มที่นำมาขายลดราคาทั้งถูก และสภาพใหม่เอี่ยมอ่องจนอดไม่ได้ที่จะซื้อมาเก็บไว้ทีละหลายเล่ม

เล่มไหนอ่านแล้วชอบ บางเล่มยังไม่ได้อ่านแต่คิดเองว่าน่าจะดี ฉันมักซื้อตุนไว้หลายเล่ม เผื่อส่งไปให้เพื่อนๆ พี่ๆ ที่สนิทสนม และชอบอ่านเหมือนกัน

วีคที่แล้วจึงไม่เพียงหอบหนังสือกลับบ้านเป็นกะตัก 2-3 วันที่ผ่านมาจึงอ่านหนังสือจบไป2เล่ม

เล่มแรกเป็นวรรณกรรมเยาวชนของ Sharon Creech เรื่อง Bloomability (วัยแย้มแก้มใส) แปลโดยสมพร วรรธนะสาร

อีกเล่มเป็นบันทึกประสบการณ์ชีวิตของ Joan Didion นักเขียนหญิงชาวอเมริกันวัย71 ปี ที่สูญเสียสามี และลูกภายในเวลาไล่เลี่ยกัน เธอผ่านมันมาได้ และเรียกช่วงปีอันแสนเศร้านั้นว่า the year of magical thinking

การเรียนรู้ และครุ่นคิดถึงประสบการณ์ของคนอื่นผ่านการอ่านประหยัดทั้งเวลา และค่าใช้จ่าย

น่าแปลกที่การสร้างนิสัยรักการอ่านกลับเป็นเรื่องระดับชาติที่หลายฝ่ายพยายามผลักดันแต่ไปไม่ถึงไหน


หลายเดือนก่อนได้ดูหนังทางทรูวิชั่นส์ เป็นเรื่องเกี่ยวกับคนรักการอ่านกลุ่มหนึ่งที่รวมตัวกันอ่านและถกถึงเรื่องราวในหนังสือที่อ่านด้วยกัน

หนังเรื่องนี้ไม่เพียงเป็นแรงบันดาลใจให้ฉันขวนขวายหางานเขียนของเจน ออสตินมาอ่านบ้างยังทำให้ฉันและกลุ่มเพื่อนสนิทรื้อฟื้นกิจกรรมสมัยนักศึกษากลับมาอีกครั้ง

เราตกลงกันว่าจะอ่านหนังสือเรื่องเดียวกันเพื่อนำมาถกกันแลกเปลี่ยนความเห็นถึงสิ่งที่ได้จากเรื่องที่อ่าน

กว่าจะตกลงกันได้ว่าจะเลือกเล่มไหนต้องใช้เวลาไม่น้อย เพราะรสนิยมในการอ่านของเราแตกต่างกัน

เล่มแรกของเราจึงไม่ง่าย

กว่าจะสรุปว่า เป็นพันธุ์หมาบ้าของพี่ชาติ กอบจิตติ พ็อกเก็ตบุ๊กเล่มโปรดสมัยเด็กก็ล่วงเลยไปหลายวัน แต่จนแล้วจนรอดก็ยังทำไม่สำเร็จ เพราะฉันยังหา “พันธุ์หมาบ้า”ไม่เจอ

จำได้ว่ามีแน่ๆ อาจมากกว่าหนึ่งเล่ม ประสาคนชอบซื้อซ้ำ ถ้าจะซื้อใหม่เพื่อการณ์นี้ดูจะยังไม่สมเหตุสมผลนัก

ที่เป็นพันธุ์หมาบ้า เพราะนอกจากจำได้ติดใจว่า สนุกมากชนิดวางไม่ลง (ไม่แน่ใจนักว่าติดงอมแงมจากที่ลงเป็นตอนๆในลลนา หรือรวมเป็นพ็อกเก็ตบุ๊กแล้ว)

ยังคิดกันว่า นอกจากได้ถกเถียงแลกเปลี่ยนความเห็นกับเรื่องราวในหนังสือแล้ว

ความรู้สึกกับเรื่องเดิมๆ ในวัยที่เติบโตขึ้นน่าจะเปลี่ยนไปมาก

กิจกรรมวัยเรียนจึงเลื่อนออกไปจนกว่าพันธุ์หมาบ้าจะปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง

ในระหว่างนี้เราจึงตัดสินใจว่าจะแลกหนังสือที่มีอยู่ และชอบอ่านกันไปพลางๆ ก่อน

เล่มแรกที่เพื่อนส่งมาให้อ่านเป็น “ลอนดอนกับความลับในรอยจูบ”ของคุณอนุสรณ์ ติปยานนท์

ฉันส่ง “โจเซฟ พูลิตเซอร์”ไปแลก

โจเซฟ พูลิตเซอร์ เป็นประวัติชีวิตของนักหนังสือพิมพ์ชื่อก้อง ต้นตำรับรางวัล “พูลิตเวอร์”รางวัลอันทรงเกียรติของนักหนังสือพิมพ์

อ่านจบไปแล้วหลายปี มาเจอโดยบังเอิญระหว่างกำลังเลือกหนังสือที่ชั้นในบ้านทำให้หยิบมาเปิดดูอีกครั้ง

อ่านแล้วก็ติดลมจนอ่านซ้ำรวดเดียว เรื่องของพูลิตเซอร์ช่วยเติมแรงบันดาลใจในการทำงานได้มาก สำหรับคนที่เลือกแล้วว่างานหนังสือพิมพ์ คืออาชีพ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่วิกฤตเศรษฐกิจส่งผลกระทบไปทั่วถ้วนหน้า

"พูลิตเซอร์"เป็นชาวฮังกาเรียนที่ล่องเรือเป็นเรฟูจีมาอเมริกาเพื่อแสวงหาโอกาสที่ดีกว่า

เป็นเด็กเร่ร่อนรับจ้างทำงานสารพัดชนิดแลกเงินประทังชีวิตไปวันๆ มาอเมริกาใหม่ๆ เขาพูด อ่าน เขียนภาษาอังกฤษไม่ได้เลย แต่ฝึกฝนด้วยตนเองจากการพูดคุย และอ่านหนังสือในห้องสมุด

พูลิตเซอร์เริ่มต้นอาชีพนักหนังสือพิมพ์ด้วยความบังเอิญ แต่ได้รับโอกาสแล้วก็ไม่ปล่อยผ่านไป ไม่นานก็รู้ว่า คือสิ่งที่รักจึงทุ่มเททำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

จากนักข่าวเป็นหุ้นส่วน และเจ้าของหนังสือพิมพ์ฉบับแล้วฉบับเล่า

เป็นความสำเร็จจากการทำงานหนัก

ความเครียด และการทำงานหามรุ่งหามค่ำทำให้สุขภาพย่ำแย่ลง แต่เขาก็ยังไม่ยอมหยุดทำงานจนร่างกายทนทานไม่ไหวอีกแล้วจึงไม่มีทางเลือกอื่น

หยุดเป็นนักข่าว ยุติบทบาทบรรณาธิการ

พูลิตเซอร์ตาบอดสนิททั้งสองข้าง ระบบประสาทมีปัญหาจนทนฟังเสียงต่างๆ ไม่ได้เลยต้องไปใช้ชีวิตอยู่ในที่ๆ เงียบที่สุด แต่เขาก็ยังไม่หยุดทำงาน

ช่วงท้ายของชีวิต เขาใช้ชีวิตบนเรือล่องไปเรื่อยๆ พร้อมเลขาฯหลายคนที่คอยทำหน้าที่สรุปข่าว และติดต่อประสานงานกับออฟฟิศในเรื่องที่ต้องการการตัดสินใจจากเขา

เมื่อรู้ตัวว่าเหลือเวลาอีกไม่นาน เขาตัดสินใจทำพินัยกรรมโดยบริจาคเงินส่วนตัวก่อตั้งกองทุนพูลิตเซอร์เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านการศึกษากับนักศึกษาวิชาการหนังสือพิมพ์ในมหาวิทยาลัย

เป็นการหยิบยื่น “โอกาส”ให้ผู้อื่น เหมือนที่เขาเคยได้รับมาในอดีต

ในฐานะที่เคยเขียนหนังสือเป็นเล่มมาบ้าง สำหรับฉันการเขียนหนังสือสักเล่มไม่ใช่เรื่องง่าย หนัก เหนื่อย และใช้เวลา

มากกว่าค่าตอบแทนเป็นความภูมิใจ

ชีวิตของนักหนังสือพิมพ์ผู้ยิ่งใหญ่ในหนังสือ “โจเซฟ พูลิตเซอร์ บรรณาธิการบันลือโลก”และเรื่องราวหลากหลายในหนังสือเล่มอื่นๆ จึงเป็นมากกว่าหนังสือหนึ่งเล่ม










Create Date : 31 สิงหาคม 2552
Last Update : 31 สิงหาคม 2552 12:10:48 น. 4 comments
Counter : 741 Pageviews.

 
เป็นคนชอบอ่านหนังสือเหมือนกันค่ะ แต่จะเป็นประเภทนิยาย และก็การ์ตูน แบบว่าเนื้อหาสาระไม่ค่อยมีง่ะ หุหุ

จริงๆแล้วหนังสือแต่ละประเภทมันก็มีดีอยู่ในตัวของมันเอง เพียงแต่เราจะมองมันมุมไหนอ่ะเนอะ หุหุ


โดย: มังกรบินชอบอ่าน (มังกรบิน@mj_mj ) วันที่: 31 สิงหาคม 2552 เวลา:16:42:14 น.  

 
ยังอ่านหนังสือไม่มาก แต่ก็ริเขียนนิยาย ตอนนี้ก็กำลังทุ่มทุกความพยายามที่มีเพื่องานที่ตัวเองรัก และเพิ่งจะมีโอกาสได้ทำอย่างจริงจังค่ะ


โดย: อิมาอิซัง วันที่: 31 สิงหาคม 2552 เวลา:17:16:34 น.  

 
ดีจังน่ะค่ะ มีร้านหนังสืออยู่ใกล้บ้าน
ชอบหนังสือเหมือนกันค่ะ ^^ เห็นเป็นไม่ได้ ตาลุกวาว


โดย: Capu&Kawi วันที่: 31 สิงหาคม 2552 เวลา:20:01:57 น.  

 
... รักคนรักการอ่าน...


โดย: ^^ IP: 24.1.66.251 วันที่: 1 กันยายน 2552 เวลา:12:20:17 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

cherydnk
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add cherydnk's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.