เคล็ดลับ 100 ข้อ ดูแลรักษาบ้าน Part l









เคล็ดลับ 100 ข้อ ดูแลรักษาบ้าน


นำมาให้อ่าน 50 ข้อก่อนกลัวจะไม่ยอมอ่านจนจบ

1. โรงรถมีกลิ่นอับมาก จะขจัดกลิ่นออกได้โดยโรยหญ้าที่เพิ่งตัด มาใหม่ๆ ลงบนพื้นโรงรถ แล้วปล่อยทิ้งไว้สักระยะหนึ่ง ต้นหญ้าจะดูดเอากลิ่นอับในโรงรถออกไปจนหมด

2. ถ้าต้องการอบผ้า 2-3 ชิ้นให้แห้งเร็วขึ้น
ทำได้โดยหาผ้าขนหนูสะอาดๆ ใส่ลงไปในเครื่องด้วยเพราะผ้าขนหนูจะไปช่วยดูดซับความชื้นทำให้ผ้า แห้งเร็วขึ้นอีก

3. วิธีทำให้กรอบกระจกเงา หรือกรอบกระจกรูปภาพมองดูใหม่ เสมอ
ทำได้โดยการใช้ผ้าชุบน้ำมันสนแล้วทาบริเวณกรอบไม้รอจนแห้งสนิท กรอบจะมองดูใหม่ทันที

4. วิธีล้างคราบสกปรกที่แก้วเจียระไน
ทำง่ายๆคือหาเปลือกฝรั่ง ใส่ลงไปในแก้วเจียระไน แช่ทิ้งไว้สัก 2-3 ชั่วโมง แล้วล้าง
ด้วยน้ำสะอาด เพียงเท่านี้แก้วจะดูใสสะอาด

5. วิธีทำความสะอาดเครื่องเคลือบที่ทำด้วยทองเหลือง
มีวิธีการทำง่ายๆ คือนำเอาหัวหอมมาต้มในน้ำเดือด แล้วนำมาขัดลงบนเครื่องเคลือบ พียงเท่านี้เครื่องเคลือบจะมองดูใหม่สะอาดหมดจดทีเดียว

6. วิธีการขจัดคราบไขมันที่ติดรอบท่ออ่างล้างจาน
ซึ่งถ้าปล่อยไว้นานๆจะเป็นเหตุให้ท่ออุดตันได้ มีวิธีทำคือ นำเกลือแกงใส่ลงไปในท่อ 2-3 ช้อน จากนั้นนำเบกกิ้งโซดาหรือผงฟูต้มน้ำให้ เดือดแล้วเทลงไปไขมันที่อุดตันก็จะหลุดออกไปหมด

7 . วิธีขจัดพวกมดแมลงมาขึ้นถังขยะ
ทำได้ง่ายๆโดยหยดแอมโมเนีย ลงข้างๆ ถังขยะ สักเล็กน้อย กลิ่นแอมโมเนียจะทำให้มดแมลง ไม่กล้าเข้ามาใกล้ถังขยะอีก


8. การรักษาเครื่องมือทำสวนที่เป็นโลหะไม่ให้ผุกร่อนได้ง่าย
มีวิธีการรักษาโดยใช้วาสลินทาผิวของโลหะทุกครั้งเมื่อใช้เสร็จแล้ว และนำมาทำความสะอาดอีกครั้ง

9. การใช้เตาแก๊สแบบประหยัด
ทำได้โดยปรับเปลวไฟให้เป็นสีน้ำเงินเสมอ และไม่ควรเปิดไฟแก๊สให้สูงกว่าก้นหม้อด้วย จะทำให้หม้อร้อนช้า ควรปรับระดับให้พอดีกับก้นหม้อ

10. วิธีดับกลิ่นเหม็นในถังขยะ
ไม่ว่าจะเป็นหน้าบ้านหรือในบ้านให้หมดกลิ่นได้ ทำได้โดยใส่เปลือกมะนาว หรือเปลือกส้มเขียวหวาน ส้มโอก็ได้ ใส่ลงไปในถังขยะ กลิ่นส้มจะไปลดกลิ่นลงทำให้มีกลิ่นน้อยลง

11. การขัดรอยแมลงวันบนกระจก
มีเคล็บลัดคือ ใช้ผงกาแฟคั่วหนึ่งช้อน ผสมกับน้ำมันก๊าดหนึ่งลิตร และใช้เศษผ้าชุบเช็ดกระจกรอยแมลงวัน ก็จะหมดไป

12. หากต้องการทาสีห้องใหม่
แต่กลัวว่าห้องจะมีแต่กลิ่นเหม็น ของสี อยู่หลายวัน มีวิธีขจัดกลิ่นเหม็นของสีคือก่อนจะทาสี ให้ผสมน้ำวานิลลา 1 ช้อนชาต่อสี 1 แกลลอนคนให้เข้ากัน แล้วจึงนำไปทาห้องสีที่ทาใหม่จะไม่มีกลิ่นเหม็นเป็นเด็ดขาด

13. วิธีการป้องกันไม่ให้ถุงในเครื่องดูดฝุ่นโดนแมลงกัดเป็นรู
คือ นำการบูร หรือลูก เหม็นใส่เข้าไปในถุงดูดฝุ่นสัก 1 ก้อน นอกจากป้องกันแมลง แล้วยังป้องกันกลิ่นอับอีกด้วย

14. แก้ปัญหายุงไปไข่ทิ้งไว้ในแท็งก์น้ำ ทำให้มีลูกน้ำ ว่ายวนอยู่ในแท็ง
มีวิธีทำคือ นำอิฐแดงๆ ที่ใช้ในการ ก่อสร้างมาเผาไฟให้ร้อนๆแล้วเอาใส่ลงไปในแท็งก์น้ำทันที เพียงเท่านี้ยุงจะไม่กล้าเข้าไปไข่ทิ้งไว้อีกเลย



15. วิธีกำจัดต้นหญ้าที่ขึ้นไม่ถูกที่
ทำได้โดยใช้เกลือโรยตรงส่วนที่ ต้นหญ้าขึ้น เหตุเพราะเกลือจะไปทำให้ดินตรงที่ต้นหญ้าขึ้นอยู่เค็มจึงทำให้ต้นหญ้าตายในที่สุด

16. น้ำประปาที่มีกลิ่นคลอรีนแรงมาก
มีวิธีกำจัดกลิ่นให้หมดไปโดยฝานมะนาวบางๆลงไปในน้ำ มะนาวจะช่วยดูดกลิ่น คลอรีนให้หมดไป และทำให้น้ำดื่ม
ได้อีกด้วย

17. ขอบยางประตูตู้เย็นมีราขึ้น
จะมีวิธีลบราออกได้โดยใช้ผ้าชุบ น้ำส้มสายชูแล้วนำ ไปถูตรงขอบยางประตูตู้เย็นที่เป็นรา ราก็ออกไปได้โดยง่ายดาย

18.ขจัดปัญหาหมาแมวฉีและอุจจาระไม่เลือกที่ทำได้โดยการโรยพริกไทย ป่นลงไป บนที่มันเคยฉี่หรืออุจจาระไว้ เพียงเท่านี้หมา แมวก็จะดมกลิ่น หาที่ที่มันเคยฉี่และ อุจจาระไม่เจอ เหตุเพราะพริกไทยป่นจะไปดับกลิ่น หมด ทางที่ดีควรสอนให้มันฉี่และอุจจาระ ในห้องน้ำ หรือบนกระดาษที่เราควรจะวางไว้จนเคยชิน

19. การรักษาไม้กวาดดอกหญ้าที่ซื้อมาใหม่ให้ใช้ไปได้นานๆ
ทำได้โดยการจุ่มไม้กวาด ดอกหญ้าในน้ำเกลือร้อนๆ ขนของไม้กวาดจะเกาะตัวกันเวลาใช้จะทนทานไม่ขาดง่าย

20. ตะปูที่ตอกไว้ข้างฝาคอนกรีตสำหรับแขวนรูปหลวม
มีวิธีแก้ไขง่ายๆ คือ ใช้สำลีพันตะปูชุบกาวและตอก เข้าไปใหม่ กาวที่สำลีจะยึดติดกันแน่น

21.วิธีการขจัดกลิ่นเหม็นสาปที่ติดอยู่ในกระติกน้ำแข็ง
ทำได้โดย นำเบกกิ้งโซดามาผสม กับน้ำร้อน และนำมาล้างถูกระติกน้ำ ให้ทั่ว แล้วล้างน้ำอีกครั้งกลิ่นสาปก็จะหายไป


22. วิธีการเก็บสายยางที่ยาวไว้โดยไม่เปลืองเนื้อที่
ทำได้โดยม้วนสอดเข้าไป ในยางรถ ยนต์อันที่ไม่ใช้แล้ว เพียงเท่านี้ก็จะทำให้ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย

23. ขจัดปัญหากลิ่นส้วมเหม็นคละคลุ้งไปทั่วบ้าน
คือใช้นำมันก๊าดประมาณ 1 ขวดใหญ่ มาเทราดลงไปในคอห่านแล้วเทน้ำตามลงไปเพื่อขจัดกลิ่นน้ำมันก๊าดให้หมด

24. วิธีป้องกันหมาแมวตัวโปรดมากัดแทะเฟอร์นิเจอร์ในบ้านคือ ใช้น้ำมันยูคาลิปตัส หรือน้ำมันที่มีกลิ่นฉุนทาที่เฟอร์นิเจอร์ กลิ่นฉุนนั้นจะทำให้มันไม่กล้าเข้ามากัดแทะอีก

25. วิธีขจัดรอยเปื้อนด่างดำบนเครื่องใช้ที่เป็นหนัง
คือ หยดน้ำมันสลัดสัก 2-3 หยด ในน้ำสบู่ แล้วใช้แปรงจุ่มน้ำที่ผสมไว้มาถู จากนั้นจึงซักใน น้ำสบู่ธรรมดาอีกครั้ง แล้วล้างด้วยน้ำเย็น ต่อด้วยเช็ดให้แห้งผึ่งลมไว้

26. วิธีการดึงสติกเกอร์ที่ติดอยู่บนฝาห้องออกโดยไม่ทิ้งคราบกาวไว้ ที่ฝา
ทำได้โดยใช้น้ำมันพืชมาทาบนรูปสติกเกอร์ แล้วจึงค่อยๆ ดึงออกมา

27. การใช้เครื่องซักผ้าแบบประหยัดที่สุด
คือในการซักผ้าแต่ละครั้ง ควรจะซักผ้าในปริมาณที่มากที่สุด

28. การทำให้ตู้เสื้อผ้าของคุณหอมได้
โดยที่ไม่ต้องเปลืองเงินซื้อ มาใส่ เพียงแต่คุณใช้เศษสบู่ที่จะทิ้งแล้วไปวางไว้ในมุมใดมุม หนึ่งของตู้ กลิ่นสบู่นั้นก็จะหอมไปทั่วตู้เลย

29. วิธีทำความสะอาดภาชนะอลูมิเนียมให้ใสสะอาดเหมือนใหม่
คือ นำเอาเปลือกแอปเปิ้ล ต้ม 2-3 นาที แล้วใช้น้ำขัดถูภาชนะ อะลูมิเนียมก็จะดูเงาวามเหมือนใหม่

30. วิธีการใช้เตาอบให้ใหม่อยู่เสมอ
คือ หลังจากใช้เตาอบแล้ว ควรเช็ดทำความสะอาดทุกครั้ง และทำในขณะที่เตายัง อุ่นๆ อยู่ เพราะจะเช็ดได้ง่ายกว่าในขณะที่เย็นแล้ว

31.วิธีขจัดรอยคราบเหนียวบนผนังตู้เย็น
คือ ใช้น้ำมันพืชเทลงบน กระดาษเช็ดมือ แล้วถูจนสะอาด ทำสัก 2-3 ครั้ง น้ำมันพืชจะ ไม่ทำลายความเงาของตู้เย็นหรอก

32. วิธีขจัดกลิ่นเหม็นของท่อระบายน้ำล้างจาน ให้หอมสดชื่นคือ เทเบกกิ้งโซดา 1 ถ้วย ลงไปในท่อระบายน้ำทิ้งไว้ 5 น้ำส้มสายชูตามลงไปอีก 1ถ้วย จะขจัดกลิ่นเหม็นได้ดีจริงๆ

33. ในการใช้ยาขัดเฟอร์นิเจอร์
ไม่ควรใช้ประเภท เช่น น้ำมัน ขี้ผึ้ง บ่อยๆ เพราะอาจจะทำให้ผิวเฟอร์นิเจอร์เกิดความเสียหายได้ง่าย

34. ในการทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นผ้าฝ้าย
ให้ใช้แปรงทาสี ด้ามใหม่ปัดตามซอกมุมเฟอร์นิเจอร์ไปพร้อมกันกับการทำความ สะอาดเฟอร์นิเจอร์ทุกครั้ง

35. การทำความสะอาดในซอกเล็กซอกน้อยของโคมไฟ
ให้ใช้เครื่อง เป่าผม เป่าลมไปตาม ที่มีฝุ่นละอองจับแล้วเช็ดถูทำความสะอาดด้วยผ้าชุบน้ำอีกครั้ง โคมไฟก็จะดูใหม่เสมอ

36. วิธีลบคราบดวงๆ ที่ติดบนเฟอร์นิเจอร์
คือ ให้ใช้จุกไม้ก๊อกถู ถ้าไม่ออกให้ใช้นิ้วมือแตะยาสีฟันผสมขี้เถ้าบูหรี่ถูอีกครั้ง จากนั้นใช้ ผ้าชุบน้ำเช็ดรอยเปื้อนซ้ำอีกครั้ง

37. การทำความสะอาดพื้นกระเบื้องยาง
คือ ใช้แปรงสีฟัน ชุบยาสีฟัน แล้วนำไปขัดถูบริเวณรอยเปื้อนให้แรงๆ จะทำให้ รอยเปื้อนหลุดออกไปได้โดยง่าย


38. วิธีการตอกฝาผนังตะปูโดยไม่ให้งอ
คือ ให้ทาปลายตะปูด้วย น้ำส้มสายชูหรือน้ำมันพืช ก่อนที่จะนำมาตอกฝาผนัง จะตอกได้คล่องและไม่งอจริงๆ

39. วิธีการทาสีกำแพงให้ติดอยู่ได้ทนนาน
คือ ก่อนที่จะทาสีกำแพง ให้ล้างกำแพงให้สะอาด ด้วยน้ำมันสนเพื่อขจัดคราบสกปรกและสี ที่ทาจะติดทนนานไม่ร่อนออกง่าย

40. วิธีแก้ปัญหาเฟอร์นิเจอร์ไม้โป่งออกมา
คือ ให้วางผ้าชื้นๆ ลงบน รอยที่โป่ง ใช้เตารีดร้อนๆ ทับบนผ้า จะทำให้คืนสู่สภาพเดิม

41.วิธีขจัดรอยขีดข่วนบนเฟอร์นิเจอร์ไม้
คือ ให้ใช้ผ้าแตะยาขัด รองเท้าที่สีเดียวกับไม้ แล้วถูตรงรอย แล้วใช้ผ้าขัดต่ออีกครั้ง รอยขีดข่วนก็จะหายไป

42. วิธีการแก้ปัญหาเก้าอี้หวายหย่อน
คือ ถ้าอยากให้ตึงให้ล้างเก้าอี้ หวายด้วยน้ำสบู่ร้อนๆ แล้วล้างน้ำสบู่ออก นำออกตากแดดกลาง แจ้งให้แห้ง หวายที่หย่อนจะตึงเหมือนเดิม

43. วิธีการทำความสะอาดพื้นบ้านไม้ให้เงางามอยู่เสมอ
คือ ให้ผสม น้ำส้มสายชูครึ่งถ้วยต่อน้ำ 8 ลิตร จะช่วยขจัดเศษฝุ่นละออง และพื้นก็เป็นเงางามอีกด้วย

44. การรักษาเฟอร์นิเจอร์โลหะไม่ให้เป็นสนิมได้ง่าย
คือให้เคลือบ โลหะด้วยขี้ผึ้งขัดรถ เมื่จำเป็นต้องเอาเฟอร์นิเจอร์โลหะ ไว้ตากน้ำค้าง จะได้ไม่ขึ้นสนิมได้ง่าย

45. วิธีการติดรูปโปสเตอร์บนกำแพงโดยไร้ร่องรอยเมื่อดึงภาพออก
คือ ให้ใช้ยาสีฟันแทนกาวในณะที่ติดรูป เมื่อถึงเวลาดึงรูปออก ก็เพียง แค่ขัดยาสีฟันที่แห้งออกเท่านั้น ฝาผนังก็สะอาดแล้ว


46. ถ้าบังเอิญต้องจัดงานเลี้ยงที่มีฟลอร์เต้นรำแบบกะทันหัน
ทำได้ โดยโรยแป้งผงสำหรับ โรยตัวให้ทั่วก็จะแก้ขัดไปได้ด้วยดีทีเดียว

47.วิธีแก้ปัญหาหน้าต่างปิดและเปิดออกได้ยากคือ ให้เอาน้ำมัน เครื่องหยอดตรงราง อลูมิเนียมให้ทั่วเพียงเท่านี้ก็จะทำให้เปิด และปิดได้ง่ายขึ้นกว่าเก่า

48. วิธีป้องกันไม่ให้มดขึ้นตู้กับข้าว
คือใช้เศษผ้าหรือเชือกที่เป็นผ้าไปชุบน้ำมันเครื่อง แล้วบิดพอหมาด นำไปผูกไว้ที่ขาตู้กับข้าวทั้งสี่ขา มดก็จะไม่กล้าขึ้นแน่นอน

49. วิธีการไล่ยุงแบบง่ายๆ
คือหาการบูรมาห่อด้วยผ้าแล้วมัดไว้กับ หลอดไฟฟ้าที่อยู่ภายใน บ้าน ความร้อนของไฟฟ้าจะทำให้การบูรระเหยออกไปและกลิ่นของการบูรจะช่วยป้องกันยุง ไม่ให้มารบกวน

50. วิธีการไล่หนูแบบง่ายๆ และประหยัดเงินคือ นำไม้ยี่โถไป ตากแดดให้แห้ง แล้วนำไปบดเป็นผง เสร็จแล้วนำไปโรย ตามซอกที่หนูชออยู่ เพียงเท่านี้หนูก็พากันขนย้ายครอบครัวหนีออกไปจากบ้านของคุณไปเลย
Create Date : 14 พฤศจิกายน 2550
Last Update : 25 พฤษภาคม 2554 12:35:30 น.
Counter : 612 Pageviews.

33 comment
Luciano Pavarotti ลูซีอาโน่ ปาวาร็อตติ นักร้องโอเปร่า ผู้ยิ่งใหญ่







Luciano Pavarotti

ลูซีอาโน่ ปาวาร็อตติ นักร้องโอเปร่า เสียงเทนเนอ์ เสียงสูงสุดสำหรับนักร้องชาย
เสียชีวิตที่บ้านพักในเมืองโมดีนา ทางเหนือของอิตาลี เมื่อ 6 กันยายน 2550 ด้วยโรงมะเล็งในตับอ่อน
เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นดาราโอเปร่าที่ยิ่งใหญ่ ผู้บุกเบิกนำโอเปร่า มาสู่วัฒนธรรมป๊อบ ในนาม
“เดอะ ทรี เทเนอร์” ร่วมกับ โดมิงโก และ คาเรราส์ เปิดตัวกระหึ่มในพิธีเปิดฟุตบอลล์โลก 1990 กรุงโรม
อิตาลี
ลูซีอาโน่ ปาวาร็อตติ ได้ร่วมเสนอผลงานในแบบของโอเปร่าร่วมกับนักร้องเพลงป๊อบ เช่น สไปซื เกิร์ล วงร็อคโบโน่ โดยนำรายได้ให้องค์กรณ์การกุศล
ลองฟังเสียงเพลงของเขา ร่วม Barry White ดูสิ การพบกันของเขา
Create Date : 13 กันยายน 2550
Last Update : 25 พฤษภาคม 2554 12:47:14 น.
Counter : 1105 Pageviews.

43 comment
โอพระเจ้า ขอจับนมหน่อย










ขอจับนมหน่อย

ชายชราคนหนึ่งเดินเข้าไปหาสาวสวยในชุดบิกินี่ที่ชายหาด
"ขอจับนมหน่อยได้ไหม" ตาแก่ถาม

"ไปให้พ้นนะ ตาแก่บ้ากาม" หล่อนด่า
"ขอจับนมหน่อย เดี๋ยวให้เงินร้อยนึง" ตาแก่ว่าร้อยนึง?

"จะบ้าหรือไง ไปให้พ้น!!" หล่อนไล่อีก
"ขอจับนมหน่อยเหอะน่า ให้ห้าร้อยเลยเอ้า" ตาแก่ต่อรอง
"ไม่ได้ไปให้พ้น"

"งั้นพันนึง" ตาแก่เพิ่มวงเงิน
หญิงสาวเริ่มรู้สึกลังเล แต่แล้วก็ได้สติ บอกว่า
"ไม่ได้พูดไม่รู้เรื่องหรือไง"

"ให้ห้าพันเลยเอ้า ขอจับนมแค่นิดเดี๋ยวเท่านั้น" ตาแก่ทำตาละห้อยขอร้อง
หญิงสาวนึกในใจว่า เขาแก่มากแล้ว ดูท่าทางก็ไม่น่ามีพิษมีภัยอะไร
อีกอย่างเงินห้าพันนี่ก็ไม่ใช่น้อยๆเลยบอกไปว่า
"ก็ได้แต่ให้จับแค่แป้บเดียวนะ"
หล่อนปลดสายบิกินี่ท่อนบน แล้วตาแก่ก็สอดมือเข้าไปถูนวด
ลูบคลำเต้านมของหญิงสาว พลางรำพึงว่า
"โอ พระเจ้า ! โอ พระเจ้า! โอพระเจ้า!" ไม่ขาดปาก
ด้วยความสงสัย หญิงสาวเลยถามว่า
"ทำไมลุงต้องพูดว่า โอพระเจ้า ! โอพระเจ้า! โอ พระเจ้า! ด้วยล่ะลุง"

ตาแก่พึมพำตอบขณะที่มือยังลูบคลำบีบนวดเต้านมของหญิงสาว

"โอ พระเจ้า ! โอพระเจ้า! โอ พระเจ้า ชาตินี้ลูกจะไปหาเงินห้าพันได้จากที่ไหน"
Create Date : 07 กันยายน 2550
Last Update : 25 พฤษภาคม 2554 12:33:33 น.
Counter : 993 Pageviews.

29 comment
ไหว้พระจันทร์มีตำนาน







พูดถึงเทศกาลที่มีความสำคัญสำหรับคนจีนมากเป็นอันดับสองรองจากเทศกาลตรุษจีน คงหนีไม่พ้น เทศกาลแห่งความกลมเกลียวหรือที่รู้จักกันดีว่า “เทศกาลวันไหว้พระจันทร์” ซึ่งตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 8 ของทุกปีตามปฏิทินจันทรคติ ซึ่งปีนี้ก็เวียนมาบรรจบอีกคราใน วันที่ 25 กันยายน 2550 อีกไม่กี่วันนี้เอง

ฉางเอ๋อเหินสู่ดวงจันทร์

เทศกาลไหว้พระจันทร์มีตำนานและเรื่องเล่าที่เกี่ยวพันไม่น้อย แต่ที่โด่งดังเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายเห็นจะเป็นตำนาน “เทพธิดาฉางเอ๋อเหินสู่ดวงจันทร์”
ตำนานดังกล่าวปรากฏครั้งแรกในยุคต้นของสมัยจั้นกว๋อ ( ยุคสงคราม 475 – 221 ก่อนคริสต์ศักราช ) เป็นเรื่องราวของฉางเอ๋อ สาวงามผู้กินยาอายุวัฒนะของเจ้าแม่ซีหวังหมู่ แล้วกลายเป็นเทพธิดาอมตะแห่งดวงจันทร์ ตำนานเกี่ยวกับฉางเอ๋อผู้นี้ได้ถูกแต่งเติมรายละเอียดออกไปอีกในราชวงศ์ต่อมา

เล่ากันว่า เมื่อครั้งโบราณกาล โลกเรามีดวงอาทิตย์อยู่ถึงสิบดวง นำมาซึ่งภัยพิบัติแก่โลกมนุษย์ ทุกหย่อมหญ้าร้อนระอุเป็นแผ่นดินเพลิง ส่วนที่เป็นน้ำก็เหือดแห้ง ส่วนที่เป็นภูเขาก็ถล่มแผ่นดินแยก ต้นไม้ใบหญ้าแห้งกรอบ ผู้คนไม่มีที่หลบซ่อนอาศัย

ในครั้งนั้น ได้ปรากฏวีรบุรุษนามว่า “โฮ่วอี้” เป็นผู้ที่มีฝีมือในการยิงธนูได้แม่นยำอย่างอัศจรรย์ เขายิงธนูขึ้นสู่ฟ้าเพียงดอกเดียวก็ยิงถูกดวงอาทิตย์ถึงเก้าดวง ทำให้เหลืออยู่เพียงดวงเดียว ถือเป็นการขจัดทุกเข็ญให้กับบรรดาประชาราษฎร์ ผู้คนจึงพากันยกย่องให้เขาเป็นกษัตริย์

ทว่า เมื่อโฮ่วอี้ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ ก็ลุ่มหลงในสุราและนารี ฆ่าฟันผู้คนตามอำเภอใจ กลายเป็นทรราช ราษฎรล้วนแต่โกรธแค้นและชิงชังเขาเป็นที่สุด โฮ่วอี้รู้ตัวว่าคงจะอยู่เป็นสุขเช่นนี้ไปได้อีกไม่นาน จึงเดินทางไปที่ภูเขาคุนหลุน (คุนลุ้น) เพื่อขอยาอายุวัฒนะจากเจ้าแม่หวังหมู่มากิน แต่ฉางเอ๋อ ภรรยาของเขากลัวว่า ถ้าสามีของนางมีอายุยืนนาน ไม่มีวันตายเช่นนี้ อาจจะนำความเดือดร้อนมาสู่ราษฎรเป็นแน่ คิดได้ดังนี้ นางจึงตัดสินใจแอบขโมยยาอายุวัฒนะนั้นมากินเสียเอง เมื่อกินเข้าไปแล้วร่างของฉางเอ๋อก็เบาหวิว ลอยขึ้นไปสู่ดวงจันทร์ แต่นั้นมาบนดวงจันทร์ก็ปรากฏภาพเทพธิดา ที่เชื่อกันว่าเป็นฉางเอ๋อนี้เอง

ส่วนที่มาของพิธีเซ่นไหว้พระจันทร์นั้น ตามบันทึกโบราณ โจวหลี่ ระบุว่า จีนเริ่มเซ่นไหว้พระจันทร์เมื่อสมัยราชวงศ์ถัง ซึ่งที่มาของพิธีในเทศกาลนี้มีส่วนเกี่ยวเนื่องกับตำนานความฝันของกษัตริย์ถังหมิงหวง เสด็จประพาสพระราชวังบนดวงจันทร์ เรื่องเล่ามีอยู่ว่า ในกลางดึกของคืนเดือนเพ็ญ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 กษัตริย์ถังหมิงหวงบรรทมหลับไปแล้วทรงพระสุบินว่า พระองค์ลอยขึ้นไปเที่ยวชมพระราชวังบนดวงจันทร์ และได้พบเทพธิดาบนดวงจันทร์กำลังร่ายรำอยู่อย่างงดงาม ในฝันนั้น พระองค์ทรงเพลิดเพลินและเกษมสำราญเป็นอย่างยิ่ง กระทั่งเมื่อตื่นพระบรรทมและทรงโปรดให้ฝันนั้นเป็นความจริง จึงมีรับสั่งให้นางสนมแต่งตัวและร่ายรำเลียนแบบเทพธิดาในฝัน

ตั้งแต่นั้นมาทุกวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 8 พระองค์ก็รับสั่งให้จัดเครื่องเซ่นไหว้พระจันทร์ และทอดพระเนตรความงามของพระจันทร์ไปพร้อมกับการร่ายรำของนางสนม

ประเพณีปฏิบัติเช่นนี้ ภายหลังได้แพร่หลายไปทั่วประเทศ และเป็นเทศกาลที่มีความสำคัญเทียบเท่ากับ เทศกาลตรุษจีน และเทศกาลไหว้ขนมจ้ขนมบ๊ะจ่าง

คนจีนในประเทศต่างๆ ไหว้พระจันทร์กันในวันที่ 15 เดือน 8 (ปฏิทินจึน) ปีนี้ตรงกัน วันที่ 25 กันยายน 2550
Create Date : 01 กันยายน 2550
Last Update : 25 พฤษภาคม 2554 12:43:50 น.
Counter : 460 Pageviews.

20 comment
1  2  3  

ซ่อนรอยยิ้ม
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]