ได้ยินคำร่ำลือถึงความดีงามของเรื่องนี้มานานแล้ว แต่ไม่มีโอกาสได้ดูซักที 
      จนคืนวานนี้ตอนแรกเปิดหนังผี พอปิดไฟ เตรียมดูเท่านั้นแหละ กลัวค่ะ ปิดหนังผี และมาสรุปที่เรื่องนี้แทน
      
      อยากเขียนถึงสั้น ๆ กับความประทับใจ
      
            
      เปิดเรื่องมาเป็นขาวดำ นึกว่าตั้งค่าอะไรในทีวีผิด
      ไม่ผิด เค้าตั้งใจหรอก ก็เก็บความสงสัยว่าทำไมต้องขาวดำ นี่มันหนังปี 1999 แล้วนะ
      แต่พอเล่าเรื่องไปถึงอดีตที่แสนหวานเท่านั้นแหละ ภาพสีนวลตา อบอุ่น สดใสเชียว 
      (คือแบบ เท่อะ ปัจจุบันที่เศร้าหมอง อึดอัด อึมครึมเป็นขาวดำ แล้วอดีตที่หอมหวานเป็นสีสัน เข้าใจละ ๆ)
      หลงรักวิว และมุมกล้องเรื่องนี้ ไม่รู้เค้าเรียกว่าอะไร กำกับศิลป์ป้ะ
      ไม่ว่าจะฤดูไหนก็สวยงามจับใจแบบธรรมชาติสุด ๆ ไร้การปรุงแต่ง
      เห็นแล้วอยากไปจีนเลยล่ะ (เป็นคนแบบนี้แหละ ดูหนังเรื่องไหนวิวดี ๆ ก็อยากไปที่นั่น)
      แอบคิดเลยว่าแลกกับความสะดวกสบายของชีวิตปัจจุบัน แล้วไปอยู่ที่ธรรมชาติแบบนั้น
      Wifi ไม่มี ทีวีไม่ดู ไฟฟ้าไม่เข้า ก็น่าจะคุ้มและมีความสุขตามอัตภาพนะ
      ไม่ต้องเก็บเงินเพื่อไปดูวิวที่ไปได้ปีละไม่กี่ครั้ง 
      แต่นี่ตื่นมาแล้วเจอเลยทุกวัน อากาศสดชื่นบริสุทธิ์ บรรยากาศก็สงบ
      ก็ได้แค่คิดแหละ ไปจริง ๆ น่าจะทนไม่ไหว 555
      
      สิ่งที่ชอบที่สุดคือตอนที่นางเอก Zhao Di  (Zhang Ziyi) แอบตามดูครูหนุ่มไฟแรงที่เธอแอบชอบ Luo Changyu (Zheng Hao)
      ทั้งภาพที่ถ่ายทอดออกมาที่เธอวิ่งลัดตรงนั้น เลาะตรงนี้ เพื่อที่จะได้มองเห็นเค้าชัด ๆ 
      รู้สึกมีชีิวิตชีวา รู้สึกถึงความรักใส ๆ  ที่เป็นแรงผลักดันให้ทุกอย่างเกิดขึ้น 
      ออกแนว ชั้นมารอเธอที่ถนนสายนี้ทุกวันเลยนะ
      
      ภาพก็สวยเหลือเกิน ตัดต่อการเคลื่อนไหวได้น่ามอง เพลิดเพลินไปกับการลุ้น ราวกับเรากำลังตามมองผู้ชายคนนึงด้วยตัวเอง (อั้ยยยย เขินนนนน)
      มุมกว้างก็ชวนเคลิ้ม ชวนฝัน ชวนให้สดใส และชวนเศร้าตามอารมณ์หนัง
      บวกกับการแสดงที่ใสซื่อของ Zhang Ziyi สมัยวัยละอ่อน และหน้าตาสะอาด ๆ ของเธอแล้ว มันเข้ากันดีจริง
      
            
      ทุกอย่างทำให้รู้สึกอิ่มใจอย่างบอกไม่ถูก ทั้ง ๆ ที่ตอนแรกออกจะตะขิดตะขวงใจว่าทำไมเค้ารักกันง่ายจังวะ 
      ยัย Di นี่เป็นเอามากนะ ปลื้มผู้ชายออกนอกหน้าเชียว เพียงแค่เห็นครั้งแรกก็รักหมดใจไปแล้วหรอคะ
      แต่การที่ทำนั่นทำนี่เพื่อที่จะเจอเค้า ทำเป็นมาตักน้ำให้พอดีเวลาที่เค้าจะเห็น ทำอาหารให้เค้า หรือตามดูคนเค้า มันน่ารัก 
      ชวนให้นึกถึงสมัย puppy love ที่แอบปลื้มรุ่นพี่ซะจริง (แต่มันเป็นความปลื้มของเด็ก ๆ ไม่ใช่ความรักยิ่งใหญ่เท่านี้แน่นอน)
      เพียงแค่ได้เจอ ไม่ต้องมีบทสวีท คำพูดหวานใด ๆ เลย พูดกันก็แค่ไม่กี่คำ แต่ดูไปแล้วก็อินตามได้นะ เป็นความเรียบง่ายที่ลงตัว
      ความรักสมัยก่อนมันไม่ได้ฉาบฉวย มันช้า มันใช้ความอดทน  อะไรที่แสดงถึงความจริงใจมันแสดงออกด้วยการกระทำทั้งหมดเลย 
      วัตถุใด ๆ ที่เป็นสัญลักษณ์แทนก็เรียบง่าย แต่ลึกซึ้ง (ชามแตก ที่ติดผม ผ้าแดง ๆ นั่น) 
      ทั้ง ๆ มันที่ไม่ได้มีราคาอะไร แต่มันมีเรื่องราว นี่สิของที่มีคุณค่าทางใจอย่างแท้จริง
      
      แอบตลกตอนที่นางวิ่งตามเอาของกินไปส่งตอนที่เค้าจะกลับบ้านนิดนึง 
      แบบสมควรไปคัดเลือดทีมชาตินะถ้าตามทัน
      คือมันไกล มันชัน มันลำบาก (นี่ไม่ใช่หรอที่เพิ่มความซึ้ง แต่เราแอบตลก 55) 
      แถมยังล้ม โถ่... น่าสงสาร ตามก็ไม่ทัน ที่ติดผมก็ดันมาหายอีก อ๊าววว... ชีวิต 
      แล้วตอนมารอนี่ก็รอจนหน้าแดงเป็นไข้ โถ..... ความรักนะความรัก ดราม่าเข้าไป
      หิมะปกคลุมขนาดนั้นท่าจะหนาวมาก แต่มันสวยจริง ๆ อะ สรรเสริญวิวเรื่องนี้หลายรอบหน่อย ชอบจริง ๆ
      
            
      นี่ยังไม่ได้พูดถึงประเพณีที่ต้องแบกศพแล้วมีลูกศิษย์จากทั่วสารทิศมาช่วยแบกช่วยหาม ช่วยงานโดยไม่หวังสินตอบแทนใด ๆ 
      ก็ปลื้มใจแทนเค้านะ เหมือนเป็นสิ่งย้ำเตือนถึงเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดบนถนนสายนี้ที่ทั้งสองเจอ ที่เธอมาแอบตามดู มารอ นั่นนี่
      สรุปได้ดี๊ดี คุณค่าของคน ๆ นึงที่ถึงจะตายไปแล้ว แต่สิ่งที่ทำไว้มันมีความหมาย มันไม่สูญเปล่า
      อะไรที่เราเคยทุ่มเทไป เราต้องได้กลับมาอย่างแน่นอน ไม่มากก็น้อย ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง 
      
            
              ส่วนตัวเห็นว่าส่วนที่ซึ้งที่สุดเห็นจะเป็นเรื่องที่นางเอกชอบแอบมาฟังเสียงชายหนุ่มที่แอบปลื้มสอนหนังสือ
        เธอตามมาฟังแบบนี้ถึง 40 ปี! นี่เป็นปมของตอนจบที่ประทับใจซะได้ 
        ทั้ง ๆ ที่ก็เดาไว้แล้วว่ามันต้องจบแบบนี้ ตั้งแต่เห็นคุย ๆ กันเรื่องโรงเรียนแล้ว 
        แต่พอดำเนินมาถึงฉากนี้จริง ๆ น้ำตาไหลเลย อิ่มเอม ประทับใจ
        หญิงแก่ที่วันนี้สูญเสียชายคนรักที่รักสุดหัวใจไปแล้ว
        แต่ความทรงจำยังอยู่ และสิ่งที่เสมือนแทนตัวเค้าก็ยังอยู่ แถมยังทำหน้าที่สานต่อได้ดีซะด้วย
             จบก็ดี ดนตรีประกอบก็ดี ซึ้งจัง กลมกล่อมค่ะเรื่องนี้
      
      
      ให้คะแนนที่ 8/10 
      เอ่อออ ตอนแรกบอกว่าอยากเขียนสั้น ๆ นี่ก็ไม่ค่อยสั้นแล้ว แสดงว่าเราประทับใจเรื่องนี้มากกว่าที่คิดนะเนี่ย
      ให้คะแนนใหม่แล้วกัน 9/10 ไปเลย